№ 100 ปั่นป่วนทั่วสารทิศ!
“อ๊าก!”
เสียงร้องเจ็บปวดคร่ำครวญดังลอยมา เห็นเพียงกระบี่ยาวในมือผู้อาวุโสสองบนหลังคาถูกเตะกระเด็นตัดผ่านกลางอากาศร่วงหล่นลงสู่กองเพลิงเบื้องล่าง
เพราะถูกเตะไปทีหนึ่ง ง่ามระหว่างนิ้วโป้งกับนิ้วชี้จึงเจ็บปวดด้านชา เหมือนว่ากระดูกข้อมือก็ถูกถีบหัก เจ็บเสียจนไม่อาจยกขึ้น ทำได้เพียงห้อยลู่ลงอย่างหมดเรี่ยวแรง สั่นเทาเล็กน้อย ก่อนจะมองเงาร่างสีแดงตรงหน้าด้วยใบหน้าขาวซีด
เงาร่างนั้นยิ่งดูแวววับจับตาอยู่ภายใต้เปลวไฟด้านล่างที่ช่วยเสริมให้โดดเด่น เส้นผมสีหมึกดำถูกสายลมกลางคืนพัดสยายขึ้น ราวกับมีมือคู่หนึ่งกำลังยกเส้นผมขึ้นพลิ้วไหวเบาๆ อยู่กลางค่ำคืน หน้ากากสีทองมีดอกลำโพงพราวเสน่ห์ผลิบานอยู่ ทำให้นางดูช่างลึกลับแปลกตา
บนร่างนางมีกลิ่นอายสังหารกระหายเลือดกระจายอยู่เข้มข้นนัก ถึงขั้นทำให้เขารู้สึกอกสั่นขวัญแขวน
เช่นเดียวกัน หากอีกฝ่ายเป็นคนอื่นทั่วไป พวกเขาเหล่าผู้อาวุโสคงไม่… แพ้พ่ายอยู่ในเงื้อมมือนาง แม้แต่ท่านผู้นำตระกูลต้องชดใช้ด้วยทั้งบ้านตระกูลสวี่ก็เพราะนาง…
เมื่อนึกถึงตรงนี้ ก็กัดฟันกรอด เขาดึงพลังเร้นลับในร่างปะทุขึ้นมาถึงจุดเลือดลมใต้สะดือ เพียงชั่วพริบตา ทั่วทั้งร่างก็คล้ายลูกหนังอัดลมที่โป่งพองขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แม้แต่ชุดคลุมบนร่างก็ปริแตกเพราะเหตุนี้ จึงเผยให้เห็นร่างกายที่ผองแห้งมาแต่ดั้งเดิม
ทว่าเรือนร่างที่ซูบผอมตอนนี้กลับพองขยายด้วยความรวดเร็ว การโป่งพองของกระแสลม ทำให้เส้นเอ็นทั้งหมดใต้ผิวหนังปูดขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน กลับดูเหมือนจะระเบิดเมื่อไหร่ก็ได้
“ข้าบอกแล้วไง ต่อให้ตาย ก็จะลากเจ้าตามไปด้วย!”
ผู้อาวุโสสองแผดเสียงตะโกนด้วยความบ้าคลั่ง เส้นผมสีเทาขาวลอยขึ้นยุ่งเหยิงท่ามกลางกระแสลมที่หมุนเวียนอยู่ทั่วร่าง สองแขนอ้ากางออก ก่อนจะพุ่งไปทางเฟิ่งจิ่วตรงหน้าอย่างบ้าระห่ำ ความเร็วนั้นไวกว่าตอนที่ประมือกันก่อนหน้านี้สองเท่า
ขณะที่ชายชราชุดเทาด้านล่างเห็นว่าผู้อาวุโสสองคิดจะระเบิดตัวเองตายไปพร้อมกับหญิงสาวผู้นั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไปยกใหญ่ ตะโกนอย่างลนลานว่า “เจ้าบ้าเอ๊ย! ข้าบอกแล้วไงว่าต้องการแบบมีชีวิต! แบบเป็นๆ น่ะ!”
พอก้าวเท้าไปบนพื้น เงาร่างสีเทาก็พลันยกขึ้น ความเร็วนั้นไวกว่าผู้อาวุโสสองที่ปล่อยพลังเร้นลับทั้งหมดเพื่อจะระเบิดตัวเองอยู่หลายเท่านัก
เฟิ่งจิ่วเริ่มตั้งท่าป้องกันตั้งแต่ที่ผู้อาวุโสสองเผยสีหน้าอันบ้าคลั่ง ด้วยเหตุนี้ เมื่อเห็นเขากะจะระเบิดพลังเร้นลับเพื่อตายไปพร้อมกับเธอ แววตาก็เผยความประหลาดใจ นึกไม่ถึงว่าจะทำถึงขั้นนี้เพียงเพื่อตระกูลสวี่
ทันใดนั้น เธอถอยหลังอย่างว่องไว แต่ละก้าวที่โยกย้ายเพื่อจะหลบหลีกโดยเร็วที่สุด
อันที่จริง การระเบิดตัวของระดับปรมาจารย์นักรบขั้นสูงสุดก็ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลย จึงไม่คิดประมาทเสียจนต้องชดใช้ด้วยชีวิตตัวเอง
แต่ว่า ในระหว่างที่ถอยหลัง เงาร่างสีเทากลับพุ่งมารวดเร็วปานภูตผี เธอถึงกับมองเงาร่างเขาได้ไม่ชัดเจนนัก ก่อนจะเห็นผู้อาวุโสสองที่กระโจนมาถูกเงาร่างชุดเทาถีบกระเด็นลอยไปบนท้องฟ้า
“อ๊าก! ข้าไม่ยอมแพ้หรอก…”
“ปัง! ครืน!”
เสียงขับข้องใจด้วยความไม่ยอมของผู้อาวุโสสองดังกึกก้องอยู่ท่ามกลางท้องฟ้ายามวิกาล
ยังไม่ทันสิ้นสุดน้ำเสียง ก็ได้ยินเสียงระเบิดดังปัง ร่างกายระเบิดออกกลางอากาศ ส่งเสียงครืนดังลั่น แสงไฟที่พุ่งทะยานไปบนฟากฟ้า รวมถึงเสียงที่ดังกระหึ่ม ทำลายซึ่งความสงบกลางดึก แทบจะทำให้ผู้คนทั่วทั้งเมืองอวิ๋นเยวี่ยล้วนแตกตื่นขึ้นมาในทันใด
ในยามที่ผู้ฝึกฝนวิชาจากแต่ละที่ในเมืองอวิ๋นเยวี่ยต่างพากันพุ่งมายังสถานที่แห่งนี้ บนหลังคานั้น
ชายชราชุดเทาเผชิญหน้ากับเฟิ่งจิ่ว เผยรอยยิ้มที่จริงใจ
แต่ดวงตาคู่นั้นกลับจ้องนางราวกับมองเหยื่อด้วยประกายตื่นเต้นแปลกตาที่โลดแล่นอยู่ ………………
จบเล่ม 1