Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 114

№ 114 คนไม่เข้าตา!

สุดท้าย ก็เป็นผู้นำตระกูลกวนที่ดึงสติกลับมาได้ก่อน เขาลุกขึ้นยืนหัวเราะร่าพลางเดินไปหากวนสีหลิ่น เอ่ยอย่างประหลาดใจและตื่นเต้น “สีหลิ่น เจ้ากลับมาแล้ว! หลายวันนี้ทุกคนในบ้านล้วนเป็นห่วงเจ้านัก นี่เจ้าไปไหนมารึ? ไฉนแม้แต่ข่าวคราวก็ไม่ส่งกลับมาเล่า?”

สีหลิ่น? กวนสีหลิ่นรึ?

ฝูงชนต่างมองหน้ากันไปมา ไหนบอกว่าเขาตามคนของตระกูลไปที่ป่าเก้าหมอบ เพราะไม่ฟังคำสั่งหัวหน้ากอง กลับฟึดฟัดจากไป สุดท้ายก็ตายอยู่ใต้เงื้อมมือสัตว์ร้าย ไม่เหลือแม้แต่เถ้ากระดูกไม่ใช่หรือ? ไฉนยังมีชีวิตกลับมาได้ทั้งเป็นๆ อีกเล่า?

พวกเขาล้วนได้ยินว่า ภรรยาคนปัจจุบันของกวนสีหร่วนเดิมทีเป็นคู่หมั้นคู่หมายของกวนสีหลิ่น ครานี้เขากลับมาแล้ว คู่หมั้นกลับกลายเป็นผู้หญิงของพี่ชาย

แม้ใบหน้าจะไม่แสดงท่าทีอะไร แต่ในใจผู้คนยังคงคิดอยากชมละครปาหี่นี้อยู่ จึงไม่พูดไม่จา เพียงใช้สายตาจับจ้องไปบนร่างคนพวกนั้น

กวนสีหลิ่นมองเขาโดยไม่พูดอะไร สีหน้ามืดลงน้อยๆ พูดได้เลยว่าแม้แต่รอยยิ้มก็ยังไม่มี

เห็นใบหน้าเขาไร้อารมณ์ ท่าทีบนใบหน้าผู้นำตระกูลกวนก็ถูกเก็บไป เอ่ยถามเสียงเข้มเล็กน้อย “เป็นอะไรไป? ลุงถามเจ้าอยู่ ไฉนจึงไม่ตอบเล่า?”

สายตากวนสีหลิ่นมองตรงไปยังร่างพี่ชายบนเวทีที่พยายามเก็บกดความหวาดหวั่นและรู้สึกผิด น้ำเสียงมีความเย็นเยียบ “ข้ากลับมาเข้าร่วมการประลอง” ระหว่างที่พูด ก็สาวก้าวเดินไปด้านหน้า

ผู้นำตระกูลกวนสะดุ้งเล็กน้อย มองเขาหน้านิ่วคิ้วขมวด เดิมคิดจะห้ามปราม แต่กลับพูดไม่ออก ในสายตาเขา กวนสีหลิ่นหาใช่คู่ต่อสู้ของลูกชายไม่ ขึ้นไปก็แค่หาเรื่องใส่ตัว

กวนสีหร่วนบนเวทีมองเขาเดินมาทีละก้าวๆ ความรู้สึกตื่นตกใจกลับสงบลงมาอย่างช้าๆ

ตั้งแต่กวนสีหลิ่นปรากฎตัวมาจนถึงตอนนี้ ก็ไม่พูดว่าตอนนั้นกวนสีหร่วนเป็นคนลงมือแทงเขาจากด้านหลัง คงเพราะไม่คิดจะพูดที่นี่ สุดท้ายแล้ว นี่ถือเป็นเรื่องน่าอัปยศนัก ยังไงก็ต้องคำนึงถึงชื่อเสียงของตระกูลกวนก่อน

นึกถึงตรงนี้ ท่าทางเขาผ่อนคลายลง ใจที่ตึงเครียดอยู่ก็หย่อนลงมา ใบหน้าผุดรอยยิ้มออก “สีหลิ่น เจ้าไม่เป็นไรกลับมาก็ดีแล้ว”

กวนสีหลิ่นเดินขึ้นเวที แล้วมองเขาด้วยสีหน้าขรึมเล็กน้อย “นึกว่าเจ้าไม่อยากให้ข้ากลับมาเสียอีก”

ฟังคำพูดนี้ รอยยิ้มที่ใบหน้ากวนสีหร่วนบนเวทีก็แข็งทื่อ กล่าวทั้งหน้าเหยเกว่า “ได้ยังไงเล่า? สีหลิ่น เจ้ากำลังตัดพ้อที่ข้าแต่งงานกับซินหย่าใช่หรือไม่? จริงๆ แล้ว ที่ข้าแต่งกับซินหย่าเป็นการตัดสินใจของผู้ใหญ่สองฝ่าย ตอนนั้นพวกเราต่างคิดว่าเจ้าตายที่ป่าเก้าหมอบ ดังนั้นถึงได้…”

ผู้คนด้านล่างฟังคำพูดนี้ ก็แอบๆ พยักหน้า อืม กวนสีหลิ่นดูสีหน้าไม่สู้ดีเท่าไหร่ คงเพราะโกรธที่คู่หมั้นกลายเป็นผู้หญิงของพี่ชายกระมัง! ไม่เช่นนั้น ก็คงไม่ทำหน้าเสียอารมณ์ใส่ท่านผู้นำตระกูลหรอก

หลังจากเคอซินหย่าข้างๆ สมาชิกครอบครัวหญิงได้ยินคำพูดบนเวที ใบหน้าก็เผยท่าทีโทษตัวเอง จึงเอ่ยน้ำเสียงอ่อนโยน “สีหลิ่น ข้าถอนหมั้นเพราะผู้ใหญ่สองฝ่ายจัดการ ค่อยแต่งงานกับสีหร่วน ข้าหวังว่าเจ้าอย่าได้มีข้อกังขากับคนในครอบครัวเพราะข้าเลย จะโทษ ก็โทษได้แค่ที่เราสองคนไร้วาสนาต่อกัน”

ทว่า หลังจากได้ยินคำพูดต่อมาของกวนสีหลิ่น ทั่วใบหน้าที่เคยเต็มไปด้วยสีเลือดฝาด ก็ซีดเผือดและอับอาย

กวนสีหลิ่นชำเลืองมองนางแวบหนึ่ง สองมือกอดอก กล่าวน้ำเสียงดูถูก “เจ้าอาจหลงตัวเองเกินไปเสียหน่อย แค่ผู้หญิงโลเลกลับกลอกและหยิ่งทระนงคนนึง ข้ากวนสีหลิ่นแสนจะรังเกียจจริงๆ”

“กวนสีหลิ่น เจ้าปลิ้นปล้อนเกินไปแล้ว!” นายท่านเคอตบโต๊ะลุกยืนขึ้นมา ฟังลูกสาวตัวเองถูกดูแคลนต่อหน้าฝูงชนเช่นนี้ ใบหน้าจึงโกรธเกรี้ยวเป็นที่สุด

กวนสีหลิ่นยิ้มเยือกเย็น เหลือบมองนายท่านเคอแวบหนึ่ง “หรือท่านจะบอกว่าไม่ใช่เรื่องจริง? นางหาได้โลเลกลับกลอกและหยิ่งทระนงหรอกรึ?”……………………………

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version