№ 212 กลับกลายเป็นศัตรู!
“ไม่นึกจริงๆ ว่าพวกเราจะได้พบหน้ากันอีกรวดเร็วเช่นนี้!”
ชายผู้นั้นกอดอกมองพวกเขา สายตาพินิจมองร่างเจ้าอ้วนกับเฉินเสวียไห่ไปมา เห็นสีหน้าทั้งสองคนหน้าซีดเผือดเล็กน้อย ความหวาดผวาในดวงตาไม่อาจปกปิดไว้ ก็ผุดรอยยิ้มที่มีเจตนาร้ายออกมาอย่างอดไม่ได้
“ดูท่าพวกเจ้าก็รู้ดีว่าหนีไม่พ้น ก็ใช่ เพราะพวกเจ้าสองคนเป็นแค่ผู้ฝึกตนระดับปรมาจารย์ขั้นสูงสุด จะเป็นคู่ต่อสู้ของพวกเราได้ที่ไหน!”
“ขอแค่พวกเจ้าปล่อยเราไป จะยกของในตัวทั้งหมดให้ก็ได้ และรับประกันว่าจะไม่พูดเรื่องที่นี่ออกไป” เฉินเสวียไห่กล่าวอย่างฝืนทำใจเย็น
“ฮ่าๆๆ!”
พวกนั้นแหงนหน้าหัวเราะลั่น สตรีในกลุ่มนั้นที่รูปร่างมีน้ำมีนวลเหลือบมองพวกเขาอย่างเหยียดหยาม บอกว่า “ฆ่าพวกเจ้าซะ ของในตัวก็จะเป็นของพวกข้า หนำซ้ำคนตายต่างหากถึงจะพูดไม่ได้”
“ใช่ ไม่ผิดๆ” ชายที่เป็นหัวหน้ายื่นมือโอบหญิงผู้นั้นไว้ในอ้อมแขน พลางมองทั้งสองที่สีหน้าดูไม่ได้ แววตาดุร้ายฉายประกายหม่นวาบผ่าน เอ่ยว่า “แต่ว่าข้ามีทางรอดหนึ่งให้พวกเจ้า”
น้ำเสียงเขาชะงักไป เมื่อเห็นสองคนนั้นมองมาด้วยแววตามีความหวัง เขาก็ยิ้มชั่วร้าย “ขอแค่พวกเจ้าฆ่าอีกฝ่ายตายเสีย เช่นนั้นคนที่ยังมีชีวิตอยู่ข้าจะปล่อยไป หนำซ้ำจะไม่ไล่ตามฆ่าอีก พวกเจ้าคิดเช่นไร?”
เมื่อเฟิ่งจิ่วข้างๆ ได้ยินคำพูดนี้ก็เลิกคิ้วเบาๆ สายตากวาดมองแววตาชั่วร้ายนั้นแวบหนึ่ง แล้วมองไปทางเจ้าอ้วนกับเฉินเสวียไห่ อยากรู้เหมือนกันว่าในสถานการณ์เช่นนี้ทั้งสองจะเลือกอย่างไร
“เจ้าอย่าคิดทำพวกเราแตกแยกกัน! พวกเราไม่ทำตามที่เจ้าหวังหรอก!” เจ้าอ้วนตะโกนลั่นอย่างขุ่นเคือง กำหมัดแน่นพลางดึงกลิ่นอายพลังวิญญาณในร่างขึ้นมา แม้รู้ดีว่าไม่อาจชนะก็จะสู้ยิบตา!
ทว่า เมื่อนึกว่าข้างๆ ด้านหลังยังมีเด็กหนุ่มที่เพิ่งรู้จักกันอีก ตอนนี้จึงหันข้างเล็กน้อย กดเสียงเอ่ยว่า “เสี่ยวจิ่ว เจ้ารีบหนีไปซะเถอะ!”
แต่คำพูดของบุรุษชั่วช้าผู้นั้นกลับทำให้จิตใจเฉินเสวียไห่หวั่นไหว อาจเพราะรู้ว่าต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย ดังนั้นมือเขาจึงจับข้างเอว ในใจกำลังขัดแย้ง เขามองไปทางคนแซ่หลี่ สบกับแววตาที่เหมือนจะยุยงเข้าพอดี จึงกัดฟันตะโกนลั่น
“เจ้าอ้วน ขอโทษด้วย!”
ขณะเปล่งเสียงก็ดึงมีดสั้นข้างเอวออกมาแล้วหมุนไปหาเจ้าอ้วนที่กำลังพูดกับเฟิ่งจิ่ว จากนั้นแทงไปยังแผ่นหลังบริเวณหัวใจอย่างอุกฉกรรจ์
“อ๊ะ!”
พอเสียงอุทานหลุดออกจากปาก เจ้าอ้วนก็ถูกเฟิ่งจิ่วดึงตัวไป ร่างถลาไปด้านหน้าอย่างเสียศูนย์ถ่วง ก่อนจะล้มลงบนพื้น
ภาพเช่นนี้ไม่เพียงเจ้าอ้วนจะตกใจ แม้แต่เฉินเสวียไห่ที่แทงมีดออกไปยังผงะ มองเฟิ่งจิ่วในชุดแดงตรงหน้าด้วยความตะลึง ขยับริมฝีปากเล็กน้อย กัดฟันตวัดมีดสั้นพุ่งไปด้านหน้าอีกครั้ง และแทงไปยังเจ้าอ้วนที่ล้มฟุบอยู่บนพื้น
เห็นเช่นนี้เฟิ่งจิ่วก็เลิกคิ้วขึ้น มุมปากยกขึ้นเบาๆ กล่าวอย่างเฉื่อยชาว่า “ฆ่าเจ้าอ้วนไป พวกมันก็ไม่ปล่อยเจ้าหรอก”
เวลานี้เจ้าอ้วนถึงได้สติ เห็นพรรคพวกจับมีดสั้นแทงมาหา สีหน้าเขาทั้งผิดหวังและเศร้าใจ “อาไห่! เจ้าทำแบบนี้ได้อย่างไร!” แม้จะทรุดนั่งอยู่บนพื้น แต่เขาที่กรุ่นโกรธยังยกเท้าขึ้นถีบ เท้าที่แฝงด้วยพลังวิญญาณถีบอีกฝ่ายถอยออกไปหลายก้าวตรงๆ
เมื่อสังหารเจ้าอ้วนพลาดสองครั้งติดต่อกัน เฉินเสวียไห่ถลึงมองเฟิ่งจิ่วด้วยความอับอายจนโมโห ตะโกนลั่นราวกับเสียสติ โผไปหาเฟิ่งจิ่วที่กอดอกเหมือนไม่เกี่ยวอะไรด้วย
“เป็นเพราะเจ้าทั้งนั้น! ข้าจะฆ่าเจ้า!”
………………………………….