Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 238

№ 238 ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน

เห็นห้องสุขาที่ว่างเปล่า สีหน้าหลิงโม่หานก็ทะมึนขึ้นมา แววตาลึกล้ำหรี่ลง มีกลิ่นอายอันตรายอยู่บางส่วน

“ดี! ดีมาก! นึกไม่ถึงว่าครั้งนี้จะหนีไปภายใต้สายตาของข้า ช่างกล้าไม่น้อยเลย!”

น้ำเสียงนั้น มีความขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่บ้าง

คิดๆ แล้วก็ใช่ เขาปรากฏตัวด้วยตัวตนหลิงโม่หาน ใครจะรู้ว่านี่ยังไม่ถึงครึ่งวัน ไม่นึกเลยว่านางจะมองออกถึงสิ่งผิดปกติ โดนเชิดเงินไปคิดว่าไม่เท่าไหร่ ปัญหาคือ สาวน้อยคนนั้นหนีไปอย่างคาดไม่ถึงอีกแล้ว!

เขาลูบๆ เคราตรงคางทั้งใบหน้าหม่นหมอง นางจำเขาได้ยังไงกันแน่? แล้วจำได้ตั้งแต่เมื่อไร่?

หรือว่า ในขณะที่เขาวางแผนปรากฏตัวด้วยตัวตนหลิงโม่หาน นางก็วางแผนซ้อนแผนไว้แล้ว?

ส่วนอีกด้านหนึ่ง เฟิ่งจิ่วที่กลับถึงโรงเตี๊ยมนอนลงบนเตียงทันที ตบๆ หน้าอกถอนหายใจเบาๆ แม้จะกลับมาโรงเตี๊ยมและปิดตัวอยู่ในห้องปีก หัวใจยังคงเต้นแรงตึกตัก

จะตื่นเต้นเกินไปแล้ว!

ไม่นึกเลยว่าท่านอาจะเป็นเจ้าตำหนักยมราช! และยิ่งนึกไม่ถึงว่าเธอจะส่งตัวเองไปติดกับ! โชคดีที่รู้ทันซ้ำยังเผ่นหนีมาได้ ไม่งั้นรับประกันว่าเธอต้องตกอยู่ในเงื้อมมือเขาแน่!

ก็ว่าสิ! รูปร่างทั้งสองคนจะคล้ายกันเช่นนั้นได้อย่างไร? แม้แต่คิ้วกับดวงตายังเหมือนกันไม่มีผิดเพี้ยน หนำซ้ำก่อนหน้านี้เจ้าตำหนักยมราชมาปรากฏตัวในเมืองลิ่วเต้า ท่านอาคนนี้ก็โผล่มาที่นี่ด้วย

หอโอสถของเจ้าตำหนักยมราชกำลังศึกษายาแก้พิษเหมันต์พันปี ในตัวท่านอาก็มีพิษเหมันต์พันปี ช่างบังเอิญเสียเหลือเกิน หากเธอไม่โต้ตอบเดาว่าคงได้กลายเป็นคนโง่จริงๆ

“ไม่ได้การล่ะ คงอยู่เมืองลิ่วเต้านี้ต่อไปไม่ได้แล้ว ตอนนี้ของก็ซื้อมาเกือบครบ ไปหาเหลิ่งซวงที่ตลาดมืดก่อนดีกว่าค่อยว่ากัน”

เธอพลิกตัวผุดลุกขึ้นจากเตียง เดินมารินน้ำดื่มข้างโต๊ะ ถึงจะลงตึกมาจ่ายค่าห้องกับเจ้าของร้าน จากนั้นค่อยมายังคอกม้าด้านหลังตามการนำทางของเจ้าของร้าน ใครจะรู้…

“นี่ม้าข้ารึ?”

เฟิ่งจิ่วมองม้าสีขาวที่เจ้าของร้านจูงออกมา เลิกคิ้วเบาๆ มุมปากยกขึ้นเล็กน้อยเผยให้เห็นรอยยิ้ม ทว่ารอยยิ้มกลับมาไม่ถึงนัยน์ตา

เจ้าของร้านตกใจ ถามว่า “หรือนี่ไม่ใช่ม้าของคุณชาย? ข้าได้ยินเสี่ยวเอ้อร์บอกว่าม้าคุณชายสีขาว ที่นี่ก็มีแค่ม้าสีขาวตัวนี้ตัวเดียวนะขอรับ!”

“แล้วเสี่ยวเอ้อร์ล่ะ?”

“เขาลาออกไปเมื่อเช้านี้…” พูดถึงตรงนี้ เจ้าของร้านก็เปลี่ยนสีหน้า “หรือว่าเขาสับเปลี่ยนขโมยม้าของคุณชาย?”

“ม้ารึ? เหอะ!”

เฟิ่งจิ่วยิ้มเยือกเย็น “ม้าของข้าเป็นสัตว์วิญญาณ ไม่ใช่ม้าธรรมดา”

พอตระหนักถึงความร้ายแรงของปัญหา เจ้าของร้านก็รีบร้อนบอกว่า “ขออภัยจริงๆ ขอรับ คุณชายเข้ามาพักที่นี่ไม่ควรเกิดเรื่องเช่นนี้ เป็นความผิดพลาดในการจัดการของพวกเรา คุณชายรออีกสักครู่ ข้าจะรีบให้คนไปตามหาที่บ้านเสี่ยวเอ้อร์คนนั้นเดี๋ยวนี้ เขาเพิ่งลาออกไปเมื่อเช้า ตอนนี้คงยังอยู่ที่บ้าน”

เห็นว่าเจ้าของร้านไม่รู้เรื่องรู้ราว สีหน้าเธอถึงจะใจเย็นลง บอกว่า “ให้คนพาข้าไปเถอะ!”

เจ้าของร้านเร่งรีบขานรับ กำชับคนให้คอยดูแลโรงเตี๊ยม ส่วนเขาก็พาเฟิ่งจิ่วไปที่บ้านเสี่ยวเอ้อร์คนนั้นด้วยตัวเอง แต่ว่า บนถนนใหญ่พวกเขาเห็นเสี่ยวเอ้อร์ที่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มกำลังเดินเลี้ยวเข้าไปในตรอก

“เป็นเขา! เขาอยู่ตรงนั้น!” เจ้าของร้านชี้ เพิ่งพูดจบ ก็เห็นเงาร่างสีแดงข้างกายแวบไปทางด้านหน้า เห็นเช่นนี้ เขาจึงรีบร้อนตามไป

ส่วนอีกด้านหนึ่ง เมื่อฮุยหลางกับอิ่งอีเห็นนายท่านพวกเขากลับมาด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก รู้สึกแปลกใจอย่างอดไม่ได้

สองคนมองหน้ากันแวบหนึ่ง ฮุยหลางชะงักไปสักพัก เอ่ยถามอย่างระแวดระวัง “นายท่าน ภูตหมอล่ะขอรับ? ทำไมไม่พาเขากลับมาด้วย?”

………………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version