Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 259

№ 259 เจ้าตำหนักยมราชดักฆ่า!

ส่วนเฟิ่งจิ่วที่เห็นลำแสงนั้นพุ่งขึ้นท้องฟ้า รวมถึงคำพูดมั่นอกมั่นใจของผู้นำตระกูลหลิ่ว ก็แปลกใจนิดหน่อย

หากเป็นสัตว์ในพันธสัญญาของเขา ทำไมถึงไม่ปรากฏตัวทันที? แต่ต้องรอให้โผล่มา? หรือว่าอสูรครอบเมฆาตนนั้นที่ตะโกนเมื่อครู่จะไม่ใช่สัตว์พันธสัญญาของเขา?

หากไม่ใช่สัตว์พันธสัญญา แล้วทำไมถึงฟังเสียงเรียกเขาเล่า?

ณ มุมมืด ฮุยหลางบอกเจ้าตำหนักยมราชว่า “นายท่าน อสูรครอบเมฆาของตระกูลหลิ่วนี้เป็นสัตว์วิญญาณระดับอสูรศักดิ์สิทธิ์ เป็นสัตว์พันธสัญญาที่บรรพบุรุษตระกูลหลิ่วทิ้งไว้ หากมาปะทะกับภูตหมอ เกรงว่าจะร้ายมากกว่าดีนะขอรับ”

ได้ยินคำพูดนี้ แววตาลึกล้ำของเจ้าตำหนักก็สั่นไหวเล็กน้อย มองเงาร่างสีแดงนั้นแวบหนึ่ง ออกคำสั่งเสียงเบา “พวกเจ้าคอยดูอยู่ตรงนี้”

สิ้นสุดน้ำเสียง ก็จากไปทันที ความเร็วที่ว่องไวปานสายฟ้า พอฮุยหลางกับอิ่งอีหันหน้ากลับไป ก็ไม่เห็นร่องรอยเขาแล้ว

“เจ้าว่านายท่านจะไปทำอะไรรึ?” ฮุยหลางเอ่ยถามอย่างอึ้งๆ

อิ่งอีคิดไปคิดมา บอกว่า “เดาว่าคงไปดักฆ่าอสูรครอบเมฆากลางทาง”

ฟังคำพูดนี้ มุมปากฮุยหลางกระตุก หันหน้ากลับมาอย่างพูดอะไรไม่ออก มองเงาร่างสีแดงตรงหน้าหอเมฆาทรงเกียรติ ถอนใจเอ่ยเสียงเบา “นายท่านนี่ทำทุกอย่างเพื่อภูตหมอเลยจริงๆ!”

ด้วยกำลังของนายท่านเขา ไม่ต้องพูดถึงการดักฆ่าอสูรศักดิ์สิทธิ์ตัวหนึ่ง ต่อให้สังหารสัตว์เทวะสักตัวก็ยังเป็นปัญหาที่ต้องจัดการอย่างเด็ดขาด แต่ที่พวกเขาคาดไม่ถึงคือแค่สังหารอสูรศักดิ์สิทธิ์ นายท่านถึงกับลงมือด้วยตัวเอง แล้วให้พวกเขาสองคนคอยชมเรื่องสนุกอยู่ตรงนี้อย่างว่างๆ

เฮ้อ! ใครให้นายท่านเห็นภูตหมอความสำคัญเช่นนี้เล่า? เดาว่าคงกลัวพวกเขาทำพลาด ดังนั้นจึงลงมือเสียเอง! ได้แต่พูดว่า ที่อสูรครอบเมฆาตัวนั้นพบนายท่าน เป็นเพียงเรื่องโชคร้าย

ใครให้มันดันบังเอิญมาเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์พิทักษ์คนบ้านตระกูลหลิ่วเล่า? พูดถึงอสูรศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่เท่าไหร่ นึกไม่ถึงว่าผู้นำตระกูลที่รนหาที่ตายยังกล้าใช่อสูรศักดิ์สิทธิ์มาสังหารภูตหมอ ช่างเป็นการละเมิดข้อห้ามสำคัญของนายท่านพวกเขาจริงๆ

ตามเวลาผ่านไป ทุกคนพลันรู้สึกไม่ค่อยถูกต้องสักเท่าไหร่ แม้แต่เฟิ่งจิ่วที่เดิมทีอยากเห็นว่าอสูรครอบเมฆาตัวนั้นจะหน้าตาเป็นเช่นไร ตอนนี้ก็เลิกคิ้วขึ้นมาอย่างอดไม่ได้

เวลาต่อมา เงาร่างสีแดงก็แวบผ่านเข้าไปบีบคอผู้นำตระกูลหลิ่วในขณะที่เขากำลังมองไปรอบๆ ด้วยความวิตกกังวล

“หือ!”

ผู้นำตระกูลพลันตื่นตกใจ ลำคอรัดแน่น เมื่อรู้ว่าอำนาจการตัดสินเป็นตายของตนตกอยู่ในมือหนุ่มน้อยชุดแดง สีหน้าก็ขาวซีด

“อสูรครอบเมฆาของเจ้าเล่า? ข้ารอมาสักพักแล้วนะ”

หลังเธอเหลือบมองตรงจุดที่เกิดเสียงขึ้น ก็เอ่ยถามน้ำเสียงนาบเนิบที่มีความเยือกเย็น มองผู้นำตระกูลหลิ่วด้วยดวงตาสดใสที่หรี่ลงและแอบแฝงไปด้วยจิตสังหาร ขอเพียงเจ้าเมืองผู้นั้นไม่ลงมือ ลำพังแค่พวกคนตระกูลหลิ่ว ก็เกินพอแล้วล่ะ

ส่วนอสูรครอบเมฆาอะไรนั่น เหอะ! คนที่ครอบครองสัตว์เทวะในตำนานอย่างเธอ จะกลัวอสูรศักดิ์สิทธิ์แค่นี้รึ?

“ลูกอกตัญญู! เจ้าลูกไม่รักดี! นี่เจ้าคิดจะทำให้ตระกูลหลิ่วข้าตกอยู่ในอันตรายรึ? จะทำลายตระกูลหลิ่วข้าทั้งโคตรเหง้าเลยใช่หรือไม่?”

น้ำเสียงโกรธเกรี้ยวลอยมาจากที่ไม่ไกลนัก ทุกคนมองไปตามสายตา ก็เห็นท่านผู้เฒ่าตระกูลหลิ่วกับผู้อาวุโสอีกสองสามท่านรีบแจ้นมา บนหน้าท่านผู้เฒ่าหลิ่วที่เป็นผู้นำเต็มไปด้วยความโมโหโกรธา หากไม่มีสองทหารอารักขาคอยพยุง เดาว่าคงเดินมาถึงตรงนี้ไม่ไหว

“ท่าน ท่านพ่อ…”

ท่านผู้นำตระกูลหลิ่วผงะไป ไม่คิดว่าท่านพ่อจะมาที่นี่ หนำซ้ำ แม้แต่พวกผู้เฒ่าในตระกูลยังมากันหมด…

………………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version