Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 312

№ 312 พญามารอาบเลือด!

เพราะความโหดร้ายกระหายเลือดและจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ที่เย็นเยียบน่ากลัวบนร่างเขา ทำให้เหล่าคนชุดดำกลืนน้ำลายถอยออกโดยไม่รู้ตัว ความกลัวและขี้ขลาดผุดขึ้นในหัวใจจึงไม่กล้าแม้แต่จะออกหน้าสู้ตอบ

ชายสวมหน้ากากคนหัวหน้าเห็นเหล่าทหารอารักขาชุดดำถอยหลังไปด้วยใจหวาดกลัวก็โมโหเสียจนตะโกนลั่น “ใครถอยจะฆ่าอย่างไร้ปรานี!”

พอพูดออกมาเช่นนี้ ถึงแม้ในใจจะหวาดกลัวมากแต่ยามนี้พวกเขาจะไม่ออกหน้าสู้ตอบไม่ได้ เพียงเห็นพวกเขาจับกระบี่ยาวในมือแน่น ก่อนจะพุ่งเข้าไปพร้อมแผดเสียงเพื่อเพิ่มความกล้าให้ตัวเอง

“แกร๊ง! ฟิ้ว! ฟิ้วๆๆ!”

“ย๊าก!”

เสียงดาบกระบี่กระทบกันดังขึ้นกลางอาศตามด้วยเสียงกระแสลมอันดุเดือด เสียงร้องเล็กแหลมรุนแรงแต่ละเสียงวาดตัดขึ้นเหนือท้องฟ้า น่าตกใจเสียจนนกในแมกไม้สองข้างทางภูเขาต่างพากันตีปีกบินขึ้น…

ดาบใหญ่ที่ฟาดลง เลือดที่กระเซ็นออกไปฉาบพื้นดินแดงฉาน ศพบนพื้นยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะการต่อสู้กับเฟิ่งเซียว แต่ละร่างบ้างไร้ศรีษะ บ้างถูกตัดเป็นสองท่อนเสียดื้อๆ ท่าทีหวาดกลัวก่อนตายของเหล่าคนชุดดำยังคงอยู่บนใบหน้า สองตาเบิกกว้างอย่างตื่นตระหนกจนกระทั่งตายก็ไม่อาจหลับตาลงได้

เลือดเปื้อนเสื้อคลุมบนร่างเฟิ่งเซียวจนเป็นสีแดง มีทั้งเลือดเขาเองและเลือดของพวกคนชุดดำ เขาในตอนนี้พิสูจน์คำพูดที่กล่าวไว้ก่อนหน้าได้อย่างแน่นอน หนึ่งชายเฝ้าด่านหมื่นชายยากต้าน!

ชายชุดดำคนใดก็ตามที่เข้ามาแต่ละคนล้วนตายอยู่ภายใต้ดาบใหญ่ของเขา! กำลังต่อสู่ที่ทนทานเช่นนี้ทำให้ชายสวมหน้ากากแอบถอนใจอย่างอดไม่ได้ ‘เฟิ่งเซียวคนนี้ สมแล้วกับฉายาแม่ทัพผู้ปกปักษ์แคว้น!’

แม้เป็นเช่นนี้ ดวงตาเห็นเวลากำลังผ่านไปทีละนิดๆ หากปล่อยให้กองหนุนเขามาถึง ก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะฆ่าเขา!

นึกถึงตรงนี้ จิตสังหารก็ฉายผ่านในดวงตา เขายกคันศรลับบนแขนขึ้นเล็งไปยังร่างที่กำลังอยู่ในการต่อสู้

“ฟิ้ว!”

ลูกศรแรกยิงออกไปไม่โดน

“ฟิ้ว”

ดอกที่สองยิงออกไปเฉียดไหลเขาและยังคงพลาดจุดสำคัญ

ขณะกำลังเตรียมจะยิ่งลูกศรดอกที่สาม ชายชราสองคนนั้นที่พักไปครู่หนึ่งเพราะโดนเหล่าไป๋เตะลุกขึ้นมาด้วยความขุ่นเคือง สายตาจ้องมองม้าขาวตัวนั้นที่กำลังช่วยเฟิ่งเซียวต่อสู้ รอไม่ไหวที่จะเข้าไปเฉือดฆ่ามัน

แต่พวกเขาที่ผ่านภาพก่อนหน้านี้มากลับรู้ว่าเหล่าไป๋ตัวนี้ที่รูปร่างเป็นม้าทว่ามีเขามังกรคู่หนึ่งงอกอยู่คือสัตว์วิญญาณ หนำซ้ำยังเป็นสัตว์วิญญาณหายาก ด้วยเหตุนี้ทั้งสองจึงไม่อยากฆ่ามัน แต่คิดว่าหลังฆ่าเฟิ่งเซียวจะนำสัตว์วิญญาณตัวนี้มาฝึกให้เชื่อง!

“ถอยไปให้หมด! เฟิ่งเซียวคนนี้ให้พวกเราจัดการเอง!”

ชายชราสองคนพูดขึ้นพร้อมเพรียงกัน ยกมือส่งสัญญาณให้คนชุดดำที่เหลืออยู่ไม่กี่คนถอยไป ถึงอย่างไรเพราะความแตกต่างด้านกำลังต่อให้พวกเขาเข้าไปก็ต้องถูกฆ่าตายสถานเดียว ต้องรู้ไว้ด้วยว่าเฟิ่งเซียวไม่ใช่คนธรรมดา!

แทบทันทีหลังได้ยินคำพูดของชายชราทั้งสอง ชายชุดดำเจ็ดแปดคนที่เหลืออยู่ก็แอบๆ โล่งอกโดยฉับพลัน เห็นนายท่านพวกเขาไม่เอ่ยปากถึงจะแอบถอยออกมา

กำลังต่อสู้เฟิ่งเซียวน่ากลัวเกินไปจริงๆ!

ตอนพวกเขามามีสามสิบคนทว่าตอนนี้เหลือแค่พวกเขาไม่กี่คน หากยังสู้ต่อไปก็ต้องตายอยู่ที่นี่อย่างไม่ต้องสงสัย!

เฟิ่งเซียวที่ร่างกายเปื้อนเลือดหันตัวกลับมา แววตาเฉียบแหลมกวาดผ่านชายสวมหน้ากากคนนั้น จากนั้นค่อยจับจ้องบนร่างชายชราสองคนนั้น

ให้รับมือผู้แข็งแกร่งระดับบรรพชนนักรบขั้นสูงสุดถึงสองคน ว่ากันตามจริงเขาก็ไม่มั่นใจนัก

แต่เขายื้อได้! ขอแค่ยื้อไว้จนกองหนุนมาถึงก็ยังมีโอกาศรอด!

“เจ้าคิดจะยื้อไว้จนกองหนุนมาถึงรึ? เหอะๆ ข้าจะบอกเจ้าว่าไม่มีโอกาสหรอก!”

พอน้ำเสียงหยั่งเชิงนั้นกล่าวจบจิตสังหารก็ไหลพล่านขึ้นมาอีกครั้ง!

…………………………

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version