Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 32

№ 32 สหายเก่าจากทิศตะวันตก

ได้ยินคำพูดของเฟิ่งจิ่ว กวนสีหลิ่นนิ่งไปสักพัก เขาไม่พูดไม่จาอยู่นาน ทำแค่ก้มหัวลงน้อยๆ แล้วเดินไปอย่างเงียบเชียบ

ทั้งสองคนไม่ได้เดินตรงกันตลอดทาง เพราะเฟิ่งจิ่วต้องหายาในป่า ทางที่เดินอยู่จึงค่อนข้างเอียงไปด้านข้าง โดยเฉพาะหลังจากที่สลัดฝูงหมาป่าพวกนั้นได้ เธอยิ่งเดินไปยังจุดที่มีต้นไม้และวัชพืชมากมายซึ่งอยู่ไกลตาออกไปอีก

ตลอดทางเธอเอาแต่เก็บไปเรื่อย จึงเก็บยาทิพย์ที่มีประโยชน์มาได้ไม่น้อย แต่จากระดับของที่นี่กลับรู้ได้เลยว่ายาทิพย์พวกนี้เป็นแค่พวกที่เห็นกันบ่อยๆ ไม่ได้ล้ำค่าอะไร ถึงอย่างไรในแคว้นเล็กระดับเก้าแห่งนี้ หากอยากจะหาของล้ำค่าในบรรดาของชั้นดีย่อมเป็นไม่ได้เลย

ด้วยเหตุนี้เอง พวกเขาที่หายามาตลอดทางจึงมาถึงด้านล่างของยอดเขาลูกหนึ่ง

ดวงตาคมกริบของเฟิ่งจิ่วเห็นว่าใกล้ๆ ยอดเขามียาทิพย์พลิ้วไหวรับลมอยู่ สายตาจึงเป็นประกายอย่างอดไม่ได้ “เจ้ารออยู่ตรงนี้นะ ข้าจะไปเก็บยาทิพย์ต้นนั้นมา” หาอยู่ตั้งนาน เพิ่งจะพบยาทิพย์ที่มีสรรพคุณกำจัดรอยแผลเป็นเจอ จะไม่ให้เธอตื่นเต้นได้อย่างไร?

“น้องชาย เจ้า เจ้าคงไม่ได้จะไปแล้วไม่กลับมาอีกใช่ไหม?” กวนสีหลิ่นมองเขาอย่างกระวนกระวายใจเล็กน้อย

เฟิ่งจิ่วที่เดินไปไม่กี่ก้าวได้ยินคำพูดนี้ก็ชะงักฝีเท้า เธอเดินกลับมา แล้วหยิบเนื้อย่างจากถุงฟ้าดินยื่นให้เขา

“ข้าจะไปหายา เดี๋ยวสักพักก็กลับมา เนื้อย่างชิ้นนี้เจ้าถือไว้กินซะ อืม ถ้าจะให้ดีปีนขึ้นไปบนต้นไม้ซะ แบบนี้ต่อให้เจอสัตว์ร้ายก็ไม่ต้องกังวลแล้ว” เธอมองไปรอบๆ ก็เห็นว่าที่ไม่ไกลมีต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งสูงตระหง่าน จึงชี้นิ้วพลางถามว่า “ต้นนั้นเจ้าปีนขึ้นไปได้หรือไม่? ข้าเก็บยาเสร็จแล้วจะกลับมาหาเจ้าตรงนี้เอง”

พอได้ยินว่าขอทานน้อยไม่คิดจะทิ้งเขา กวนสีหลิ่นถึงจะผุดยิ้มออกมา “ได้สิ! ข้าจะขึ้นไปนั่งรอเจ้าบนต้นไม้ เจ้าอย่าลืมกลับมาหาข้านะ”

“ได้สิ” เธอตบบ่าเขา แล้วจึงหันหลังเดินไปที่ยอดเขา

กำแพงภูผาค่อนข้างสูงชัน เธอปีนขึ้นไปมือเปล่าก็ลำบากอยู่หน่อยๆ บางทีถ้าก้าวเท้าไม่ดีนัก หินดินก็จะร่วงลงไป ด้วยเหตุนี้ทุกก้าวของเธอจึงต้องระวังอย่างมาก

ประมาณหนึ่งชั่วยามจากนั้น ขณะที่เธอค่อยๆ เข้าใกล้ยาทิพย์ กลับพบว่าด้านข้างยาทิพย์มีโพรงเล็กๆ อยู่ ในโพรงนั้นมีงูพิษสีเขียวขนาดหนาเท่าหนึ่งนิ้วมือกำลังนอนพลางแลบลิ้นขู่ จ้องมองเธอด้วยดวงตาดุร้ายกระหายเลือด

เธอมองอยู่สักพัก นอกจากโพรงเล็กๆ นั่นแล้ว ด้านข้างยังมีอีกหนึ่งโพรงเล็ก เห็นได้ชัดว่าเชื่อมถึงกัน

หากอยากจะเก็บยาทิพย์ต้นนั้นก็ต้องจัดการงูตัวนี้เสียก่อน เมื่อหมายมั่นปั้นมือแล้ว หลังจากเธอกวาดสายตามองไปรอบๆ จึงค่อยขุดหินก้อนใหญ่ขนาดเท่ากำปั้นก้อนหนึ่งบนกำแพงหินดินมา จากนั้นปีนขึ้นไปใกล้อีกนิด ขณะที่งูตัวนั้นขยับออกมาสังเกตุการณ์ด้านนอกเพียงเล็กน้อย เธอก็ใช้ก้อนหินในมือปิดโพรงนั้นไว้

ในช่วงเวลานั้นเอง งูตัวนั้นเลื้อยออกมาส่งเสียงขู่ฟ่อจากโพรงเล็กอีกโพรงอย่างรวดเร็ว พร้อมอ้าปากเผยเขี้ยวพิษพุ่งมากัดที่ข้อมือของเธอ

จะพูดว่าเร็วก็เร็ว เฟิ่งจิ่วดึงกริชออกมาฟันทันใด หัวงูที่โผล่ออกมาถูกคมมีดฟันจนขาด ร่างงูร่วงตามลงไป ตอนนี้ เธอถึงจะขุดยาทิพย์ออกมาใส่ลงในถุงฟ้าดินอย่างระมัดระวัง

“ฮู่! เหนื่อยชะมัด!”

เก็บยาแล้วเธอก็ปีนไปถึงด้านบน อยากจะลองดูสภาพแวดล้อมรอบๆ จากที่สูง แต่กลับเห็นยาทิพย์ที่มีกลิ่นอายพลังวิญญาณแผ่กระจายอยู่รางๆ ตรงริมขอบเข้าโดยบังเอิญ จึงขุดมันใส่ลงถุงฟ้าดินอย่างดีอกดีใจ

“โชคดีไม่เบาเลย ไม่นึกว่าจะหายาทิพย์เจอตั้งสองต้นจากตรงนี้ด้วย” เธอพูดยิ้มๆ ขณะยืนมองลงไปจากยอดเขา เธอเห็นว่าทางฝั่งตะวันตกมีกองกำลังหนึ่งกำลังเดินหน้าเข้าไปในป่าลึก

ชายหนุ่มรูปงามคนที่เป็นหัวหน้าสวมชุดสีขาว เขาคือคู่หมั้นของเจ้าของร่างคนก่อน หรือมู่หรงอี้เซวียนท่านอ๋องสามแห่งแคว้นแสงสุริยัน และสาวน้อยคนนั้นที่ตามอยู่ข้างกายเขา นางสวมชุดกระโปรงสีฟ้าน้ำทะเลสดใส มาพร้อมใบหน้าที่เฟิ่งจิ่วคุ้นเคยเกินจะเปรียบ…

…………………………………….

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version