№ 420 ค่อยๆ อบรมสั่งสอน?
“ยอดฝีมือวิชาแพทย์?” เนี่ยเถิงมองชายวัยกลางคนข้างๆ แล้วขมวดคิ้ว “เรื่องที่ให้เจ้าไปตรวจสอบยังไม่กระจ่างอีกรึ? ทำไมตระกูลเฟิ่งถึงมีคนเช่นนั้นคอยปกป้อง?”
กล่าวจบกลับเหมือนนึกอะไรออก แววตาลึกล้ำเฉียบคมมีประกายฉายผ่าน
“นายท่าน คนผู้นี้มีความเป็นไปได้สูงยิ่งว่าจะเป็นภูตหมอ เพียงแต่ภูตหมอเป็นเทพมังกรที่เห็นหัวไม่เห็นหางมาโดยตลอด พวกเราคิดจะตามหาเบาะแสเขาก็ยากยิ่งนัก หนำซ้ำเขายังมีความสัมพันธ์อันดีกับตลาดมืด พวกเราเองก็ทำอะไรเขาไม่ได้ขอรับ”
ชายวัยกลางคนแอบถอนใจ รายงานไปด้วยความเคารพ เรื่องที่ภูตหมอปรากฏตัวในแคว้นเหินเวหาก่อนหน้านี้อึกทึกครึกโครมยิ่ง ยาน้ำของเขาล้ำค่าหาใดเปรียบ แม้แต่ในแคว้นเหินเวหายังมีนักปรุงยาน้อยคนนักที่จะเทียบกับเขาได้ ไม่เช่นนั้น แม้แต่กลุ่มอำนาจตลาดมืดที่กระจายอยู่ตามแต่ละแคว้นเรืองอำนาจคงไม่ปฏิบัติต่อเขาเฉกเช่นแขกผู้มีเกียรติ
“นึกไม่ถึงว่าตระกูลเฟิ่งเล็กๆ จะได้ผูกสัมพันธ์กับคนอย่างภูตหมอ” เขายกริมฝีปากยิ้ม นึกถึงสาวน้อยที่มีท่าทางเย้ายวนใจ แววตายิ่งเคร่งขรึม “น่าเสียดาย ถึงเป็นภูตหมอก็ไม่อาจมาแย่งผู้หญิงกับข้าได้!”
ได้ยินคำพูดนี้ ชายวัยกลางคนก้มหน้าลงเล็กน้อย ยืนอยู่ข้างๆ ด้วยความนบนอบ
ส่วนหมอคนนั้นก็มองหน้าเนี่ยเถิงที่พอกยาทาไว้อย่างแปลกๆ อยากจะพูดนักว่า ฝ่าบาท…หน้าท่านยังไม่ดีขึ้นเลยด้วยซ้ำ! ไม่ทันไรก็กังวลถึงคุณหนูใหญ่ตระกูลเฟิ่งคนนั้นเสียแล้ว หรือที่โดนซ้อมมายังไม่พอจริงๆ?
“ฝ่าบาท ผู้ครองแคว้นแสงสุริยันมาขอพบอยู่ด้านนอกพ่ะย่ะค่ะ” คนผู้หนึ่งเข้ามารายงาน แอบชำเลืองมองเนี่ยเถิงที่บนใบหน้าพอกยาทาไว้ จากนั้นก้มหน้าลงอย่างรวดเร็ว
แน่นอนว่าเนี่ยเถิงจับสายตาคนคนนั้นได้ แววตาคมกริบจึงกวาดมองเขา “ให้เขาเข้ามา”
“ขอรับ!” เขาขานรับแล้วถอยไปอย่างว่องไว
ไม่นานนัก มู่หรงป๋อก็เดินเข้ามา เมื่อเห็นเนี่ยเถิงบนตั่งตัวนุ่มจึงรีบประสานมือคารวะ พลางบอกด้วยความโกรธเคือง “องค์รัชทายาท คนตระกูลเฟิ่งทำเกินไปแล้วจริงๆ พวกเขาช่างบังอาจโดยแท้! ถึงได้กล้าก่อเรื่องเช่นนี้ขึ้น เดิมกระหม่อมคิดจะจับคนกลับมาสั่งสอน แต่ไม่นึกว่าคนใต้อาณัติจะไร้ความสามารถ แค่คนไม่กี่คนยังจับกลับมาไม่ได้ กระหม่อม…”
ยังกล่าวไม่จบ ก็โดนขัดจังหวะเสียก่อน
“ท่านเข้ามาเพื่อบอกเรื่องนี้?” เนี่ยเถิงชายตามองเขา น้ำเสียงมีกลิ่นอายอันตรายบางส่วน
ได้ยินแล้วมู่หรงอี้เซวียนกระแอมไอ จัดการอารมณ์แล้วบอกว่า “อันที่จริงกระหม่อมอยากเข้ามาแจ้งองค์รัชทายาท ในเมื่อคนจวนตระกูลเฟิ่งไม่รู้จักดีชั่ว ฝ่าบาทก็ไม่จำเป็นต้องมีเมตตาด้วย ยามนี้กระหม่อมไม่รู้จะทำอย่างไรกับพวกเขา แต่ด้วยกำลังของแคว้นเหินเวหา จะจัดการแค่จวนตระกูลเฟิ่งก็ง่ายดายราวบี้มดตัวหนึ่งตาย ในเมื่อฝ่าบาทถูกใจคุณหนูใหญ่เฟิ่งคนนั้น ทำไมไม่จับนางกลับไปแล้วค่อยๆ อบรมสั่งสอนโดยตรงเล่า?”
“นี่ท่านกำลังสอนข้าว่าต้องทำยังไงรึ?” น้ำเสียงเขาหนักอึ้ง เผยความเย็นชาส่วนหนึ่ง ร่างกายมีกลิ่นอายหนาวเหน็บชวนขนลุกกระจายอยู่ ทำให้มู่หรงป๋อตกใจเล็กน้อย
มู่หรงป๋อฝืนพูดว่า “ไม่กล้า แต่กระหม่อมคิดว่าฝ่าบาทไม่จำเป็นต้องเปลืองแรงเกินตัวเพื่อสตรีผู้เดียว”
ชายวัยกลางคนคนข้างๆ แอบพยักหน้า ถูกต้องแล้ว เขาก็คิดว่าไม่จำเป็นต้องเสียแรงไปมากมายเพียงนี้เพื่อผู้หญิงคนหนึ่ง แค่ผู้หญิงคนเดียวเท่านั้น หากนายท่านต้องการก็จับนางมา รอให้ได้นางมาแล้ว นายท่านอาจจะสนใจนางน้อยลงก็เป็นได้
นึกถึงข้อนี้ เขาแอบคิดในใจว่า ตนควรคิดหาวิธีนำตัวคุณหนูใหญ่เฟิ่งคนนั้นมาส่งถึงเตียงนายท่านไม่ใช่หรือ?
……………………………