Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 470

№ 470 ปรารถนาในความงาม

เฟิ่งจิ่วที่ทั้งร่างโดนอุ้มลอยเตะสองขา พลางหัวเราะคิกคัก “ข้าไม่ได้แกล้งท่าน…”

“แกล้งสิ!”

เฟิ่งจิ่วที่โดนอุ้มเดินไปยังห้องด้านในขยี้ดวงตาพร่ามัว เมื่อเห็นรูปโฉมหล่อเหลาและเต็มไปด้วยเสน่ห์เยี่ยงบุรุษตรงหน้า เธอพยักหน้า พูดอย่างเป็นปกติว่า “อืม แกล้งสิ”

ทว่าเวลาต่อมา ท่าทางปกตินั้นก็เปลี่ยนไป เธอยิ้มได้ราวกับเด็กน้อยซุกซน สองมือลูบไล้สะเปะสะปะบนร่างชายหนุ่ม “ท่านอา แกล้งคนใช้แค่ลมปากไม่ได้ ต้องใช้มือเท้าด้วย มาๆๆ ข้าขอลูบคลำกล้ามเนื้อบนร่างท่านหน่อย ตั้งแต่ครั้งแรกที่พบท่านข้าก็อยากลูบไล้กล้ามเนื้อท่านแล้ว แหะๆๆ…”

ได้ยินเช่นนี้ แววตาเจ้าตำหนักยมราชยิ่งล้ำลึก มุมปากกลับยกขึ้นมาอย่างกลั้นไม่อยู่ เขามองสาวน้อยในอ้อมแขนที่เมามายจนแยกทิศแยกทางไม่ออกพลางบอกว่า “อ้อ? ที่แท้เจ้าคิดลามกกับข้าตั้งแต่ในป่าเก้าหมอบแล้ว”

“แหะๆ ข้าแค่คิด…” เธอยิ้มหยีตาที่มึนเมา คลอเคลียในอ้อมแขนเขาประหนึ่งแมวน้อย

รอยยิ้มบนหน้าเจ้าตำหนักยมราชผุดขึ้นมาอีกครั้งอย่างไม่อาจห้าม เพียงสองสามก้าวก็มาถึงห้องด้านใน ทว่าเวลานี้เอง กลับเห็นสาวน้อยที่ซุกอยู่ในอ้อมอกตบๆ ตรงแขนเขา

“ปล่อยข้าลง”

“เอิ๊ก! รีบๆ ปล่อยข้าลงสิ…” เธอเรออีกครั้ง สีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก

“ไม่ปล่อย” เตียงใหญ่อยู่ใกล้แค่ตรงหน้า มอมเหล้านางไม่ใช่ง่ายๆ โอกาสเช่นนี้จะพลาดได้อย่างไร?

ได้ยินเช่นนี้เฟิ่งจิ่วก็ขมวดคิ้ว สองมือเลิกสาบเสื้อตรงหน้าอกเขาออก ซุกหน้าเล็กๆ ไปด้านในแล้วอาเจียนทันที…

เจ้าตำหนักที่เดิมทีพูดอย่างไรก็ไม่ปล่อย และในดวงตามีเพียงเตียงใหญ่หลังนั้น ยามนี้ร่างกายแข็งทื่อ นัยน์ตาเต็มไปด้วยความตกตะลึงอย่างยากจะเชื่อ

เขาก้มหน้ามองสาวน้อยในอ้อมกอด เห็นเพียงว่านางอาเจียนเสร็จสักพักก็เอามุมเสื้อเขามาเช็ดปาก ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างใสซื่อ คล้ายกำลังบอกว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับข้า ท่านไม่ยอมปล่อยข้าลงเอง…

“เอ่อ ข้ากลั้นไม่อยู่จริงๆ” เธอกะพริบดวงตา ใบหน้าไร้เดียงสา เพราะดื่มเหล้าไปจึงรู้สึกว่าหนังตาหนักขึ้นเรื่อยๆ หลังจากอาเจียนออกมาตอนนี้ร่างกายสบายขึ้นไม่น้อย ด้วยเหตุนี้จึงฉีกยิ้ม หลับไปอย่างช้าๆ

“เฟิ่งจิ่ว!”

เจ้าตำหนักยมราชร้องลั่นอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน เสียงนี้ดังชัดเจนอย่างยิ่งในยามค่ำคืน แทบทำให้คนทั้งจวนตระกูลเฟิ่งแตกตื่น…

เวลาเที่ยงวันต่อมา เฟิ่งจิ่วเพิ่งตื่นนอน เมื่อคืนดื่มเหล้ามากเกินไป วันนี้ตื่นมาหัวจึงหนักอึ้งไปหมด ตรงขมับยังปวดอยู่บ้าง

เธอที่นอนอยู่บนเตียงค่อยๆ ฟื้นคืนสติ ทันใดนั้นก็นึกถึงเรื่องเมื่อคืนขึ้นมา จึงกะพริบตาอย่างอดไม่ได้ “เมื่อคืนเราทำอะไรลงไป?”

ภายในห้วงความคิดมีภาพบางส่วนปรากฏขึ้นวูบวาบ บางคำพูดที่เธอเคยเอ่ย เรื่องที่เคยทำ ค่อยๆ เด่นชัดและปรากฏในความคิดตามจิตใต้สำนึก สีหน้าก็แปรเปลี่ยนเป็นแปลกใจตามกันไป

นึกถึงเรื่องพวกนั้นที่เธอทำไปเมื่อคืน แล้วคิดว่ายังต้องพบหน้าเจ้าตำหนักยมราชอีก ชั่วเวลานั้นเธอคิดแค่ว่าควรจะไปหลบที่เวิ้งสวนท้อสักสองสามวันดีหรือไม่?

………………..

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version