№ 490 แม่ของเฟิ่งจิ่ว
“ท่านพ่อ ลูกมาแล้วเจ้าค่ะ”
ด้านนอกมีเสียงเฟิ่งจิ่วดังมา เฟิ่งเซียวหน้าโต๊ะหนังสือได้ยินก็รีบยกแขนเสื้อขึ้นเช็ดๆ หางตา จัดการอารมณ์เสร็จถึงจะเงยหน้ามองไป และเห็นลูกสาวเขาเข้ามาแล้ว
“ท่านพ่อ? ท่านเป็นอะไรเจ้าคะ” เฟิ่งจิ่วที่มายังเบื้องหน้าเขาเห็นรอบดวงตาเขาแดงเล็กน้อย จึงอดไม่ได้ที่จะตะลึงไปบ้าง เห็นในมือเขาถือปิ่นหยกขาวประดับอัญมณีสีม่วง แววตาจึงสั่นไหว
“ไม่เป็นอะไรหรอก” เขาส่ายหน้า ไม่อยากพูดอะไรมาก
“ไม่เป็นอะไร? เช่นนั้นนี่อะไรเจ้าคะ?” เธอยื่นมือแย่งปิ่นหยกขาวประดับอัญมณีสีม่วงอันนั้นมาจากมือเขา ถามอย่างยิ้มแย้มพลางมองพ่อที่สีหน้าคร่ำเครียด
“เสี่ยวจิ่ว ระวังหน่อย อย่าทำตกแตกล่ะ” เขารีบร้อนลุกยืนขึ้น กลัวว่านางจะทำปิ่นอันนั้นตกแตกโดยไม่ระวัง
เฟิ่งจิ่วเห็นท่าทางเขาเคร่งเครียด ก็ยิ้มเจ้าเล่ห์ “ท่านพ่อ นี่เป็นของท่านแม่หรือ? ท่านแอบคิดถึงท่านแม่อยู่ที่นี่ใช่หรือไม่?” สิ้นเสียง เธอคล้ายจะพบว่าตนไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับแม่เลย แม้แต่ภายในจวน ตลอดมายังไม่เคยมีใครพูดถึงเรื่องนี้เช่นกัน
“เฮ้อ!” เฟิ่งเซียวถอนหายใจแล้วนั่งลง
เห็นเช่นนี้เฟิ่งจิ่วจึงหุบยิ้มลง ยกเก้าอี้มานั่งลงข้างกายเขา ก่อนจะยื่นปิ่นหยกขาวประดับอัญมณีสีม่วงในมือคืนให้ “ท่านพ่อ เล่าเรื่องท่านแม่ให้ลูกฟังหน่อยสิเจ้าคะ! นางยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า? ลูกอายุสิบหกแล้ว ก่อนหน้านี้ยังไม่เคยได้ยินพวกท่านเอ่ยถึงท่านแม่เลย ท่านเล่าเรื่องนางให้ฟังหน่อยเถอะ!”
ทำให้พ่อเธอไม่แต่งงานอีกเลยตั้งหลายปีเพียงนี้ และข้างกายยังไม่มีผู้หญิงสักคน เขาต้องรักนางมากแน่ แต่ไม่รู้ว่าแม่เป็นผู้หญิงแบบไหน? ถึงทำให้ชายแกร่งผู้ซื่อสัตย์เถรตรงแอบซ่อนตัวอยู่ที่นี่ ถือของเก่าที่เห็นแล้วนึกถึงนางพลางรู้สึกหดหู่ใจ
เฟิ่งเซียวรับปิ่นหยกขาวประดับอัญมณีสีม่วงนั้นมา บอกว่า “ปิ่นหยกขาวผลึกม่วงอันนี้เป็นของแม่เจ้าจริงๆ นอกจากนางจะทิ้งเจ้าไว้ให้พ่อ ก็มีเพียงปิ่นปักผมชิ้นนี้เอง”
“ในเมื่อท่านพ่อรักท่านแม่มาก ทำไมหลายปีมานี้ไม่เคยได้ยินท่านเอ่ยถึงนางเลย? ท่านแม่ล่ะ? นางยังมีชีวิตอยู่หรือไม่เจ้าคะ?” เธอถามอีกครั้ง
เฟิ่งเซียวมองปิ่นปักผมในมือ เอ่ยอย่างแผ่วเบาว่า “ไม่ใช่ว่าพ่อไม่อยากเอ่ยถึง แต่ก่อนหน้านี้พ่อลืมนางไป ไม่รู้ว่านางเป็นใคร อยู่ไหน และเป็นคนที่ใดด้วย รู้เพียงว่าในใจพ่อมีผู้หญิงคนเดียว ผู้หญิงที่พยายามนึกถึงมาตลอดแต่กลับจำนางไม่ได้”
“หา? เป็นไปได้ยังไงเจ้าคะ?” เธอตกใจเล็กน้อย จำไม่ได้? จะเป็นไปได้ยังไง?
“อืม จำไม่ได้ หลังฟื้นจากตอนที่ถูกมู่หรงป๋อลอบโจมตีครั้งนั้นถึงจะจำทุกอย่างเกี่ยวกับแม่เจ้าได้ แม่เจ้าเป็นหญิงงามอ่อนโยนที่จิตใจดีมีเมตตา นางเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่งามที่สุดเท่าที่พ่อเคยเห็น แต่นึกไม่ถึงว่าต้องหลายปีเพียงนี้ถึงจะจำนางได้ พ่อสมควรตายจริงๆ…”
เห็นพ่อมีสีหน้าโทษตนเอง รู้สึกผิด และเจ็บปวดใจ แววตาเธอหม่นลงเล็กน้อย ถามไปว่า “มีใครทำอะไรท่านพ่อหรือ?” ทำไปทำไมกัน? หรือว่าฐานะท่านแม่ไม่ธรรมดา?
“แม่เจ้าอยู่ด้วยกันกับพ่อ โดยที่ตระกูลกับพ่อของนางไม่อนุญาต ทุกคนต่างคัดค้าน เพราะนางโดดเด่นและงดงามเช่นนั้น แต่พ่อเป็นเพียงนักรบคนหนึ่ง พ่อไม่คู่ควรกับนางเลย ทว่านางไม่สนใจอะไรทั้งนั้น นางละทิ้งทุกสิ่งเพียงเพื่ออยู่ด้วยกันกับพ่อ แม้ว่าพ่อไม่อาจจัดงานแต่งที่ดีพอให้นางได้ก็ตาม”
เฟิ่งเซียวพูดพึมพำ สายตาหยุดลงบนปิ่นหยกขาวประดับอัญมณีสีม่วงในมือ ห้วงความคิดหวนนึกถึงภาพต่างๆ ในปีนั้น…
………………..