Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 582

№ 582 มุ่งหน้าไปตลาดมืด

เมื่อเห็นพวกเขาต่างเฝ้าอยู่นอกเขตเรือน เฟิ่งจิ่วส่ายหน้ายิ้มๆ “ที่นี่คือจวนตระกูลเฟิ่ง ต่อให้พวกเจ้าไม่เฝ้าไว้ก็ไม่มีใครกล้ามาโจมตีหรอก” เสียงเธอชะงักไป มองพวกเขาหลายคนแวบหนึ่ง “เช่นนี้แล้วกัน! หลัวอวี่เจ้าไปทำกระบอกระเบิดมาหน่อย ของพวกนั้นสอนองครักษ์ไว้จะดีที่สุด ให้พวกเขาทำออกมาวางเผื่อไว้ในวัง”

ได้ยินเช่นนี้ หลัวอวี่ก็หัวเราะเจ้าเล่ห์ “นายท่าน ตอนที่ท่านไปข้าสอนพวกเขาไว้แล้ว ตอนนี้ในถุงฟ้าดินทุกคนต่างมีกันหมด หนำซ้ำภายในวังยังมีเช่นกัน ต่อให้แคว้นอื่นมาโจมตี พวกเราก็มีกำลังทหารและกำลังต่อสู้มากพอจะต่อกรกับพวกเขา”

“อืม”

เธอพยักหน้า บอกว่า “เช่นนั้นพวกเจ้าไปฝึกบำเพ็ญเถอะ! การพัฒนากำลังของตนเองนั้นสำคัญที่สุด ส่วนฟั่นหลิน เจ้ารู้เรื่องการแพทย์ไม่ใช่หรือ? เข้ามาช่วยข้าอีกแรงแล้วกัน!”

ฟั่นหลินได้ยินเช่นนี้ก็ยินดียิ่ง รีบขานรับว่า “ขอรับ” จากนั้นเร่งฝีเท้าเดินเข้าไป เมื่อเห็นยาทิพย์พวกนั้นในเรือนก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา

คนอื่นๆ ต่างจนปัญญา พวกเขาไม่รู้เรื่องของจำพวกยาเหล่านั้น แต่เรื่องฝึกบำเพ็ญพวกเขาทำได้ ดังนั้นจึงประสานมือบอกลา ไม่ได้เดินไปไกล แต่นั่งขัดสมาธิฝึกบำเพ็ญพลังเร้นลับอยู่นอกเขตเรือน

หลังพักผ่อนอีกสักพัก เฟิ่งจิ่วกำชับฟั่นหลินถึงของบางอย่างที่ต้องระวัง ก่อนจะปรุงยาของตัวเองต่อ…

สองวันต่อมา ยาอีกขวดหนึ่งถูกปรุงด้วยมือเธอ เธอถอนหายใจเบาๆ คิดว่าหลายวันนี้พยายามมากพอแล้วจริงๆ เวลาสั้นๆ แค่ห้าหกวันก็ปรุงยาออกมาได้ร้อยขวด โชคดีที่จำนวนงานเช่นนี้ไม่ได้เป็นกิจวัตร มิเช่นนั้นเธอต้องเหนื่อยตายแน่

“นายท่าน ครบหนึ่งร้อยขวดพอดีขอรับ” ฟั่นหลินมองยาร้อยขวดที่วางเรียงบนโต๊ะในห้อง จิตใจค่อยๆ สงบลง และกลายเป็นความเคยชินไปแล้ว

หลายวันนี้ติดตามข้างกายนายท่าน เห็นยาพวกนั้นที่ต่อให้ขโมยไปข้างนอกก็ยังขายไม่ได้ถูกปรุงจากมือนางทีละขวดๆ เขามีความรู้สึกปลาบปลื้มอย่างยิ่งกับความสำเร็จจากทุกขวด แต่เมื่อผ่านไปทีละน้อย เห็นยาของนายท่านที่แทบไม่มีข้อผิดพลาดด้านยา ซ้ำยังปรุงสำเร็จโดยไม่สิ้นเปลืองยาทิพย์เหล่านั้น ยามนี้เขาจึงสงบลงมาก คิดว่าควรเป็นเช่นนี้แล้ว

“นับให้เรียบร้อยค่อยเก็บ แล้วส่งยาร้อยขวดนี้เข้าไปในวังด้วยกันกับเหลิ่งซวง”

เธอโบกมือส่งสัญญาณให้เหลิ่งซวงกับฟั่นหลินสองคนเก็บยาและส่งเข้าพระราชวัง จากนั้นค่อยเรียกสาวใช้มาเตรียมน้ำร้อนอาบ ก่อนจะไปพักผ่อนที่เตียงสักพัก ขณะกึ่งหลับกึ่งตื่นก็เหมือนได้ยินเสียงฟ้าผ่าดังรางๆ

สองคนรับคำสั่งจากไป ส่วนพวกที่เหลืออยู่เฝ้าจวนตระกูลเฟิ่ง ผ่านไปประมาณสองชั่วยามพวกเขาก็กลับมา พร้อมทั้งนำข่าวดีกลับมาด้วย

เฟิ่งจิ่วที่ตื่นขึ้นมาหลังพักผ่อนไปประมาณสองชั่วยามกำลังนั่งกินขนมตรงลานบ้าน ก็เห็นสองคนนั้นเดินเข้ามา หลังจากคารว ะเหลิ่งซวงไปยืนข้างๆ ส่วนฟั่นหลินรายงานว่า

“นายท่าน ท่านผู้เฒ่าข้ามระดับบรรพชนนักรบ และก้าวเข้าสู่ระดับจักรพรรดินักรบแล้วขอรับ”

“ข้าก็คิดเช่นกัน ฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ เดาว่าท่านปู่คงบรรลุขั้นแล้ว” เธอวางชามกับตะเกียบลง เช็ดๆ ปากก่อนเอ่ย “เหลิ่งซวง ไปตลาดมืดเป็นเพื่อนข้าที”

“เจ้าค่ะ” เหลิ่งซวงขานรับ และมายังข้างกายนาง

“เจ้าเฝ้าเรือนไปเถอะ ควรทำอะไรก็ไปทำเสีย” เธอกล่าวกับฟั่นหลิน จากนั้นพาเหลิ่งซวงออกไปยังตลาดมืด

เฟิ่งจิ่วที่สวมกระโปรงขาวดูช่างงามผุดผ่องยิ่งนัก รูปโฉมที่เย้ายวนโดดเด่นยิ่งทำให้ไม่ว่าเธอออกมาเมื่อไรก็ล้วนดึงดูดสายตาตะลึงจากคนสัญจรบนท้องถนน

………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version