Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 76

№ 76 ความโกรธเกรี้ยวของตระกูลสวี่!

กวนสีหลิ่นฟังแล้วนิ่งงันไปด้วยความประหลาดใจน้อยๆ ทำไมถึงพาสองคนนี้กลับมานะ?

“ขึ้นรถเถอะ!” เฟิ่งจิ่วส่งสัญญาณ ให้สาวน้อยแบกน้องชายขึ้นรถมาก่อน

“เจ้าค่ะ” นางขานรับ ถึงจะเดินไปที่รถม้า

กวนสีหลิ่นลางนางไปอีกด้าน เอ่ยถามเสียงเบาว่า “เสี่ยวจิ่ว เจ้าคิดจะพาสองคนนี้ไปด้วยกันรึ? หนุ่มน้อยนั่นดูเหมือนร่างกายไม่ค่อยสู้ดีเอาเสียเลย! แบบนี้จะเดินทางได้รึ? จะเกิดเรื่องอะไรระหว่างทางหรือไม่?”

“วางใจเถอะ ไม่เกิดเรื่องหรอก พวกเราไปกันเถอะ!” ขณะที่พูด เธอไม่เห็นคนขับรถม้า จึงถามว่า “ท่านพี่ ท่านคงไม่ได้คิดจะขับม้าเองใช่หรือไม่?”

“อืม ข้าขับม้าให้ก็พอแล้ว วางใจเถอะ แค่แขนข้างเดียวข้าก็ขับได้” เขาฉีกยิ้มกว้าง เป็นสัญญาณให้นางรีบขึ้นรถ

ได้ยินเขาพูดเสียขนาดนี้ เธอก็ไม่พูดอะไรอีก ถึงจะโดดขึ้นรถม้า แล้วเข้าไปด้านใน

หลังจากพวกเขาขึ้นรถม้า กวนสีหลิ่นก็ขึ้นไปนั่งบ้าง หนึ่งแขนควบรถม้าเคลื่อนออกไปนอกประตูหมู่บ้าน มุ่งหน้ากลับบ้านที่เมืองอวิ๋นเยวี่ย…

ทางอีกด้านหนึ่ง ที่เมืองอวิ๋นเยวี่ย บ้านตระกูลสวี่

“ปัง!”

ชายวัยกลางคนผู้นำสูงสุดใช้มือหนึ่งตบลงบนหน้าโต๊ะอย่างแรง พลันลุกยืนขึ้นด้วยความเหลือเชื่อ มองคาดโทษองครักษ์ที่คุกเข่าอยู่ด้านล่าง น้ำเสียงทั้งตกใจและเยือกเย็น

“อะไร? เจ้าว่าอะไรนะ? พูดให้ข้าฟังอีกรอบซิ!”

ท่าทางเช่นผู้เหนือกว่า รวมถึงกลิ่นอายผู้แกร่งกล้าทำให้องครักษ์ที่คุกเข่าอยู่มีสีหน้าซีดเซียว เหงื่อไหลออกโซก ขณะที่ใจประหวั่นพรั่นพรึง กลับจะไม่ปริปากพูดก็ไม่ได้

“เรียน เรียนท่าน ท่านเจ้าบ้าน ถิงจั่งของหมู่บ้านป่าหินส่งคนมาบอก บอกว่าพบศพ ศพท่านปรมาจารย์นักรบทั้งสาม สงสัย สงสัยว่าจะเป็นคนของตระกูล ตระกูลสวี่เราขอรับ”

“ปัง!”

ทั้งร่างเขาทรุดกลับไปนั่งลงอย่างสิ้นเสียสติ เอ่ยด้วยความไม่อยากเชื่อว่า “เป็นไปได้ยังไง? เป็นไปได้ยังไงกัน? ด้วยกำลังของผู้อาวุโสใหญ่กับผู้อาวุโสสี่ สถานที่เช่นหมู่บ้านป่าหินจะมีคนฆ่าพวกเขาได้เช่นไรเล่า?”

องครักษ์ที่หมอบคุกเข่าอยู่ไม่กล้าเอ่ยปาก แต่ร่างก็สั่นเทิ้มอยู่ตลอด

“เป็นใคร? ใครฆ่าพวกเขา?” เขาจ้องมององครักษ์เบื้องล่างด้วยแววตากระหายเลือด “องครักษ์สองนายที่มาด้วยกันเล่า? พวกเขายังไม่กลับมารึ?”

องครักษ์ที่คุกเข่ากล่าวเสียงสั่น “ไม่ ไม่ทราบว่าใครฆ่าขอรับ องครักษ์สองนายที่ติดตามกลัวโดนท่านเจ้าบ้านลงโทษ จึงหนีไปแล้วขอรับ”

ผู้อาวุโสใหญ่กับผู้อาวุโสสี่ รวมถึงคุณชายรองล้วนถูกฆ่า หากพวกเขาสองคนกลับมา ความพิโรธของท่านเจ้าบ้านหาใช่ที่น่าสบายใจนัก จึงสบโอกาสที่อยู่ด้านนอกหนีไปเป็นธรรมดา

“ดี! ดีมาก!”

มือเขากำหมัดแน่น น้ำเสียงทุ้มเข้มทั้งเย็นเยียบและกระหายเลือด “ไปสืบมาให้ข้า! สืบมาให้ดีๆ ล่ะ!”

ตระกูลสวี่เดิมเป็นวงศ์ตระกูลระดับกลางของเมืองอวิ๋นเยวี่ย ถึงแม้พละกำลังอำนาจจะด้อยกว่าแปดตระกูลใหญ่ที่ทรงอำนาจ แต่ทางด้านนี้ก็มีชื่อเสียงอยู่บ้าง ตอนนี้ในเวลาสั้นๆ ไม่ถึงหนึ่งเดือน ทั้งลูกชาย น้องชาย แม้กระทั่งผู้อาวุโสใหญ่กับผู้อาวุโสสี่ต่างก็ถูกฆ่า!

หากไม่สืบหาคนร้าย เขาจะกล้ำกลืนฝืนทนต่อไปได้อย่างไร!

ที่ลานบ้านสักแห่งในเมืองอวิ๋นเยวี่ย

เหลิ่งซวงในชุดสีดำรูปโฉมโดดเด่นเห็นร่างสวมเสื้อซับในสีขาวกำลังร่ายกระบวนหมัดพลิ้วไหวอยู่ในลานบ้าน แววตาก็สับสนเล็กน้อย

วันนั้นน้องชายนางฟื้นขึ้นมา ในคืนวันเดียวกัน นางจึงนอนเปลือยกายอยู่บนเตียงเขาตามสัญญา เวลานี้นางยังจำได้ว่าตอนที่เขาเปิดผ้าห่มมาเห็นเรือนร่างเปลือยเปล่า ท่าทางนั้นทั้งตกตะลึงและกระอักกระอ่วน

ครานั้นเองนางถึงได้รู้ว่าแท้จริงเขาเป็นผู้หญิง

ในเมื่อไม่ต้องการค่ำคืนอันอบอุ่น และไม่ได้ถูกใจในความงาม ไยนางถึงยอมช่วยกันเล่า?

แต่ไม่ว่าเพราะเหตุใด เริ่มตั้งแต่ที่มอบชีวิตให้ นางก็เป็นเช่นเจ้านาย เรื่องนี้ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้

“เหลิ่งซวง ท่านพี่ข้ากลับมาหรือยัง?”

…………………………………….

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version