Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 771

№ 771 เคยรุ่งเรืองดั่งดวงอาทิตย์กลางฟ้า

เมื่อมาถึงตลาดมืด หัวหน้าตลาดมืดกับผู้อาวุโสกงสองคนคอยอยู่ที่นั่นแล้ว คนที่อยู่ด้วยกันกับพวกเขายังมีผู้อาวุโสหลี่ท่านนั้น เห็นเขาแล้วเฟิ่งจิ่วอยากหัวเราะอย่างกลั้นไม่ไหว

แม้รู้ว่าสำหรับผู้ฝึกบำเพ็ญ ยาของเธอเป็นของล้ำค่าที่ต้องแย่งชิง แต่ไม่นึกว่าผู้อาวุโสหลี่คนนี้ใช้ชีวิตมาตั้งหลายปีแล้ว ยังจะตามติดกวนใจเช่นนี้อีก

เธอมียาแต่คงไม่ให้ตามใจชอบ เขาต้องการของของเธอ นั่นคงเป็นไปไม่ได้

“คุณชายเฟิ่ง ของที่ท่านต้องการเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว ทั้งหมดเก็บไว้ภายในนี้” หัวหน้าตลาดมืดพูดพลางยื่นแหวนมิติวงหนึ่งให้

เฟิ่งจิ่วเลิกคิ้วขึ้น “เป็นของวิเศษมิตินี่”

“เหอะๆ แค่ของเล็กน้อยไม่สะดุดตา ถือว่าให้คุณชายเฟิ่งไว้ใช้เล่นๆ” เทียบกับที่นางช่วยให้พวกเขาบรรลุขั้นแล้ว แหวนมิติวงนี้ไม่คู่ควรจะเอ่ยถึงเลยจริงๆ

เฟิ่งจิ่วฟังแล้วก็พยักหน้า “ได้ เช่นนั้นข้าจะเก็บไว้ คิดเงินเถอะ!”

หัวหน้าตลาดมืดจึงพาเธอไปคิดเงินด้านหลัง เพราะด้วยของที่เธอต้องการ ยาทิพย์พวกนั้นพูดเลยได้ว่าราคาที่ให้ต่ำกว่าภายนอกมากนัก

น้ำใจเล็กน้อยเช่นนี้ เขาที่ให้ได้ก็ยินดีมอบให้โดยดี

“คุณชายเฟิ่ง ข้าสั่งคนเตรียมโต๊ะอาหารไว้ อยากจะเชิญคุณชายกินอาหารสักมื้อ”

“ไม่ได้หรอก ตอนนี้เย็นแล้ว ข้าต้องรีบกลับไปก่อนฟ้ามืด เอาไว้ครั้งหน้าเถอะ! ครั้งหน้าถึงพวกท่านไม่เชิญ ก็ต้องทำให้พวกท่านเชิญมา” เธอยิ้มให้ หลังจากเก็บของไปก็บอกลา

หัวหน้าตลาดมืดกับผู้อาวุโสกงเห็นเช่นนี้ก็ไม่รั้งไว้นานนัก เพียงพยักหน้ารับ แล้วไปส่งอีกฝ่ายออกประตูใหญ่ของตลาดมืด ผู้อาวุโสหลี่อยากจะเอ่ยปากหลายครั้ง แต่ล้วนไม่กล้าปริปากเพราะมีหัวหน้าตลาดมืดกับผู้อาวุโสกงอยู่ขวางไว้ สุดท้ายจึงได้แต่มองเฟิ่งจิ่วจากไปตาปริบๆ

เฟิ่งจิ่วที่กลับมาสำนักศึกษาหมกมุ่นอยู่กับการกลั่นยาเซียนอีกครั้ง เมื่อเจอบางเรื่องที่ไม่เข้าใจก็ไปเชิญนักเล่นแร่แปรธาตุสองท่านมาสอน ประกอบกับผลลัพธ์ที่ศึกษาด้วยตนเอง พัฒนาการด้านยาเซียนจึงพูดได้ว่าก้าวหน้ารวดเร็วยิ่ง

ผ่านไปอีกหนึ่งเดือน ในที่สุดห้องปรุงยาก็เงียบลง เฟิ่งจิ่วที่แช่น้ำเสร็จเดินออกจากอาศรม รู้สึกแต่ว่าร่างกายจิตใจสดชื่น หลังจากผ่านการศึกษาค้นคว้ามาสองสามเดือน เธอคลำทางด้านยาเซียนได้เกินกว่าครึ่งแล้ว ยาอายุวัฒนะที่ปรุงกลั่นช่วงนี้มีมากนัก ทว่ายังไม่เคยลองหรือนำออกไปขาย ตอนนี้ก็เป็นเวลาพักผ่อน

ทว่าเมื่อเธอนั่งขนนกบินคิดจะไปคุยเล่นกับเยี่ยจิงและพี่ชายเสียหน่อย กลับพบรองเจ้าสำนักเข้าระหว่างทาง

“เฟิ่งจิ่ว? พอดีเลย ข้ากำลังจะไปหาเจ้า!”

“มีธุระหรือท่านรองเจ้าสำนัก?” เธอที่นั่งบนขนนกบินประหลาดใจเล็กน้อย แปลกใจกับสีหน้าหนักใจของเขา

“อืม เจ้าตามข้ามาสิ” เขาพูดจบก็มุ่งไปยังยอดเขาหลัก ด้านหลังมีเฟิ่งจิ่วตามไปด้วยกันติดๆ

ครั้นมาถึงยอดเขาหลัก เธอเห็นท่านเจ้าสำนักอยู่ด้วยจึงคารวะ “คารวะท่านเจ้าสำนัก”

“นั่งสิ” เจ้าสำนักให้สัญญาณ เพราะไม่มีคนอื่นอยู่ มีเพียงพวกเขาสามคน จึงเอ่ยปากทันทีว่า “ข้าตามเจ้ามาเพราะมีเรื่องต้องบอกเจ้า”

เธอนั่งลงตรงโต๊ะ กล่าวว่า “ท่านเจ้าสำนักโปรดเล่ามา”

“ในเมื่อเจ้าถือครองกระบี่คมพยับ แน่นอนว่าต้องเคยได้ยินชื่อวังกำเนิดสวรรค์ คิดๆ แล้วเจ้าวังกำเนิดสวรรค์ฉู่ป้าเทียนคงมีส่วนเกี่ยวข้องกับเจ้าอยู่บ้างกระมัง?”

ได้ยินแล้วแววตาเธอวูบไหวเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้า “ขอรับ เขาเป็นอาจารย์ของข้า”

แม้ไม่เคยสอนอะไรเธอ แต่ก็ทิ้งของดีๆ ให้ไว้ไม่น้อย สิ่งของภายในห้วงมิติ บ้างเป็นสิ่งที่อาจารย์สั่งสมมาตลอดชีวิต บ้างก็เป็นของที่อยู่ในห้วงมิติมาแต่เดิม

“เขาเคยเป็นผู้แข็งแกร่งสายกระบี่ที่ท่องไปทั่วหลายแคว้น ปีนั้นวังกำเนิดสวรรค์รุ่งเรืองดั่งดวงอาทิตย์กลางฟ้าภายใต้การชี้นำจากเขา เสียแต่ว่าก็แค่ปีนั้น”

……………………

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version