№ 789 คืนชีพวังกำเนิดสวรรค์
“เช่นนั้นเจ้าหมายความว่าอะไร?” ไป๋เสี่ยวลูบๆ หัวที่โดนตบจนเจ็บพลางขมวดคิ้วเอ่ยถาม
เฟิ่งจิ่วได้ยินเช่นนี้ก็ทอดถอนใจ “ข้าสงสัยจริงๆ ว่าเจ้าออกมาจากตระกูลตั้งนานเพียงนี้ รอดมาถึงตอนนี้ได้อย่างไร?” เจอคนไร้สติปัญญาเช่นนี้ ได้แต่ต้องพูดไปตรงๆ
“หมายความว่า เจ้าต้องซื่อสัตย์ต่อข้า ไม่คิดทรยศ จะทำหรือเปล่า?”
เขาได้ยินคำพูดนี้ก็คิดๆ ว่า “อืม อันที่จริงก็ได้ ความหมายคือข้าแค่รับเจ้าเป็นนายใช่หรือไม่? สวามิภักดิ์ต่อเจ้า จากนั้นเจ้าจะปกป้องข้ารวมถึงตระกูล? กำลังเจ้าดูเหมือนจะแข็งแกร่งมาก คงสามารถปกป้องตระกูลข้าได้ ดังนั้นเรื่องนี้ข้าทำแน่นอน”
เฟิ่งจิ่วถลึงตา อยากเก็บคำพูดเมื่อครู่กลับมา เจ้าหนูนี่แกล้งโง่แน่ๆ แค่คำพูดประโยคเดียวยังขอร้องให้ปกป้องแม้แต่ตระกูลเขา
“เจ้ารีบฝึกคุมสัตว์อสูรดีๆ ค่อยว่ากันเถอะ! ไม่เช่นนั้นข้าจะขาดทุนเกินไป” สองคนกำลังเอ่ยก็ได้ยินเซี่ยงหวาบนเตียงมีการเคลื่อนไหว มองไปทางเขาเห็นมือขยับ ไม่นานนักถึงลืมตาขึ้น
“ตื่นแล้วหรือ?” เฟิ่งจิ่วยืนอยู่ข้างเตียง มองเซี่ยงหวาที่หลังจากพลิกตัวลุกขึ้นมานั่ง ใบหน้ามีความตื่นเต้นที่ยากจะปิดบัง “รู้สึกอย่างไรบ้าง?”
“พลังวิญญาณในร่างทั้งเต็มเปี่ยมและแข็งแรง นั่นปะ นั่นเป็นกลิ่นอายระดับหลอมแก่นพลังขั้นสูงสุด…” สีหน้าเขาประหลาดใจ มองไปยังเฟิ่งจิ่ว “จะ เจ้ารักษาแก่นพลังข้าได้จริงๆ ซ้ำยังทำให้วรยุทธ์ข้าพัฒนาถึงระดับหลอมแก่นพลังขั้นสูงสุด?”
“เจ้าๆๆ อะไร เริ่มตั้งแต่ตอนนี้ต้องเรียกว่านายท่านแล้ว” ไป๋เสี่ยวกล่าวอยู่ข้างๆ กัน
“เรียกข้าคุณชายจิ่วเป็นพอ” เฟิ่งจิ่วหรี่ตาลงยิ้มพลางเอ่ย
เซี่ยงหวาได้ยินเช่นนี้ก็คุกเข่าข้างเดียวทันที ประสานมือคารวะ “ข้าน้อยคารวะคุณชายจิ่ว ขอบคุณคุณชายที่กรุณาทำให้ข้ากลับมาอีกครั้ง!” รักษาแก่นพลังเป็นดั่งการสร้างบุญคุณใหญ่หลวง ชีวิตนี้ทำไมจะไม่รับเขาเป็นนายเล่า?
“ลุกขึ้นเถอะ!” เธอให้สัญญาณขยับมือเล็กน้อย หยิบกระบี่คมพยับออกมา ถามว่า “เซี่ยงหวา เจ้าจำมันได้หรือไม่”
เซี่ยงหวามองปลอกกระบี่เจ็ดดาราอันหรูหรานั้น หลังจากถอดปลอกกระบี่ออก ประกายสีดำเปล่งออกมา อักษรนั้นที่ปรากฏรางๆ บนตัวกระบี่คม ทำให้สายตาเขาหดลงอย่างอดไม่ได้
“กระบี่คมพยับ!”
“ถูกต้อง เป็นกระบี่คมพยับ รู้หรือยังว่าข้าตามหาเจ้าทำไม? นอกจากเจ้าจะคุ้นเคยกับวังกำเนิดสวรรค์ สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือเจ้าเป็นผู้พิทักษ์วังกำเนิดสวรรค์รุ่นแรก และเป็นคนติดตามข้างกายฉู่ป้าเทียน อาจารย์ข้าในปีนั้น”
“อาจารย์คุณชายคือท่านเจ้าวังหรือ?” เขาเบิกตาโตด้วยความตะลึง นึกไม่ถึงว่าหนุ่มน้อยตรงหน้าจะมีความสัมพันธ์เป็นศิษย์อาจารย์กับเจ้าวัง รีบร้อนถามทันทีว่า “เช่นนั้นท่านเจ้าวังเล่า? ตอนนี้เขา…”
“ไม่กี่สิบปีก่อนวังกำเนิดสวรรค์ล่มสลาย ส่วนเขาล่วงลับไปตั้งแต่หลายสิบปีก่อน เพียงเพราะมีวาสนาต่อกัน ข้าถึงคารวะเขาเป็นอาจารย์ และทำตามเจตนาเขาที่ฝากฝังไว้ ตามหากระบี่คมพยับ รวมถึงรวบรวมวังกำเนิดสวรรค์ขึ้นใหม่”
ยามนี้เธอไม่มีท่าทางยิ้มแย้มเกียจคร้าน มีเพียงความเย็นเยียบและจริงจัง “ดังนั้นข้าจึงต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า ข้าจะทำให้วังกำเนิดสวรรค์ที่ล่มสลายไปหลายสิบปีกลับมามีชื่อเสียงอีกครั้ง”
เขาได้ยินคำพูดนี้ ก็ตื่นเต้นเสียจนเบ้าตาแดงก่ำเล็กน้อย “ปีนั้นข้าติดตามข้างกายท่านเจ้าวัง เขาสนับสนุนข้าจนกลายเป็นผู้พิทักษ์ฝ่ายซ้าย ตอนนั้นข้าแค่ยี่สิบต้นๆ เป็นเพียงระดับยอดปรมาจารย์พลังวิญญาณ ไม่นึกว่าผ่านไปหลายปีเช่นนี้ จะได้เห็นกระบี่คมพยับอีก และยังได้ยินคำพูดว่าจะคืนชีพวังกำเนิดสวรรค์…”
“คุณชาย ข้าเซี่ยงหวาขอสาบานไว้ ณ ที่นี้ ชีวิตนี้จะติดตามคุณชาย ซื่อสัตย์ภักดี และจะช่วยคุณชายกอบกู้ชื่อเสียงวังกำเนิดสวรรค์แน่นอนขอรับ!”
……………………