Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 831

№ 831 คนโมโหหึง

เนี่ยเถิงยืนตรงหน้าม้าพลางมองเฟิ่งจิ่วที่นั่งอยู่บนหลังม้า เมื่อสายตามองผ่านใบหน้าเด็กน้อยด้านหน้าอีกฝ่าย สีหน้าอารมณ์ก็สั่นไหวเล็กน้อย

“เกี่ยวอะไรกับเจ้าด้วย?” เฟิ่งจิ่วมองเขา เอ่ยเสียงเย็นว่า “หลบไป”

“เจ้าไปไหน? ข้าจะไปส่งเจ้า” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

“ขอบคุณ แต่ข้าไม่รบกวนเจ้าหรอก” สิ้นเสียงเธอก็ดึงเชือกม้า กระทุ้งท้องม้าเคลื่อนผ่านเขาไป

ขณะมองคนที่ขี่ม้าสบายๆ จากไปไกลทีละนิด เขายืนนิ่งไม่ขยับเขยื้อน มองอย่างเงียบเชียบเช่นนั้น จนกระทั่งร่างนั้นหายไปจากทัศนวิสัยถึงจะดึงสายตากลับมา

“นายท่าน พวกเราต้องจับนางกลับไปหรือไม่ขอรับ?” คนชุดดำที่ปรากฏตัวกะทันหันมายังข้างกายเขา เพิ่งเอ่ยคำไปกลับถูกเนี่ยเถิงกวาดตามอง

คนชุดดำคนนั้นตกใจ รีบร้อนก้มหน้าถอยหลัง ไม่กล้ามองตาเขาตรงๆ ตอนกำลังจะถอยห่าง หางตาก็เห็นเขาขี่กระบี่ตามหลังเฟิ่งจิ่วไปไกลๆ

ชายชุดดำเห็นเช่นนี้ก็อึ้งเล็กน้อย ได้แต่ตามไปเช่นกัน

บนยอดเขาหลักของสำนักศึกษา ร่างสีขาวก็มองร่างชุดแดงนั้นขี่ม้าขาวห่างออกไปเรื่อยๆ อยู่ไกลๆ…

ส่วนโอวหยางซิว เพราะสู้กันถึงขั้นยังไม่ทันแตะชายเสื้อของเฟิ่งจิ่วก็แพ้เสียแล้ว ซ้ำต้องยอมรับฝ่ายตรงข้ามเป็นอาจารย์ ทำให้เขาขุ่นข้องใจนัก และยิ่งปลุกเร้าความตั้งใจที่จะฝึกบำเพ็ญของเขา เดิมทีคิดจะกลับบ้าน แต่ความล้มเหลวจากการต่อสู้ครั้งนี้ทำให้ใจเขาจมอยู่กับการฝึกบำเพ็ญ สุดท้ายก็ไม่ได้กลับไปเช่นเดียวกัน

“พวกเจ้าว่าเขาจะทำอะไร? ตามพวกเรามาตลอดทางเลย” เหล่าไป๋ก้าวกีบม้าเดินพลางหันกลับไปมองเนี่ยเถิงที่ตามมาห่างๆ ด้านหลัง รู้สึกฉงนนัก

ความคิดมนุษย์เข้าใจยาก เนี่ยเถิงเป็นถึงรัชทายาทแคว้นเหินเวหา ครั้งนั้นยังคิดจะบังคับแต่งนายท่านของมันเป็นชายารอง! สถานการณ์นั้นเล่นเอาบันดาลโทสะ นึกไม่ถึงว่าตอนนี้ยังจะตามมาเกาะแกะนายท่านอีก ไม่รู้จริงๆ ว่าคิดทำอะไร

“เดินทางของเจ้าไป อย่าสนใจอย่างอื่น” เฟิ่งจิ่วกล่าว แล้วยื่นมือล้วงผลไม้จากในห้วงมิติมายื่นให้ยมราชน้อยข้างกาย “เจ้ากินสิ”

เด็กน้อยหลับตาเอนพิงอยู่ในอ้อมแขนเธอ เอ่ยโดยไม่แม้แต่จะมองว่า “ไม่กิน”

“เจ้าเด็กน้อยนี่ ปากช่างเลือกกินนัก” เฟิ่งจิ่วไม่สนใจ เขาไม่กินเธอก็กินเสียเอง แต่กลับเห็นว่าเด็กน้อยที่พิงในอ้อมแขนอยู่ไม่นิ่งเลย หากไม่หันหัวก็ขยับตัว ไม่เช่นนั้นก็ปรับท่านั่ง

“ทำไม? นั่งไม่สบายหรือ” เธอกินผลไม้พลางถามไถ่ มือหนึ่งโอบเอวไว้กันเขาตกลงจากม้า

“ทำไมเจ้าถึงหว่านเสน่ห์คนไปทั่ว?” จู่ๆ เขาก็ลืมตาถาม ใบหน้าเล็กงดงามยามนี้เต็มไปด้วยความกลัดกลุ้มที่ไม่อาจเก็บซ่อน

“หา?” เฟิ่งจิ่วอึ้งไปพักหนึ่ง “หว่านเสน่ห์คน? ข้าเปล่าเสียหน่อย!” ไหนเลยเธอจะมีเวลาว่างเช่นนั้น

“ไม่หรือ? เช่นนั้นทำไมเจ้าหมอนั่นถึงตามมา แล้วเจ้าหน้าอ่อนนั่นอีกคืออะไร? ข้าเห็นนะว่าสายตาที่เขามองเจ้าไม่ธรรมดาเลย” เขาเหมือนเป็นสามีที่โมโหหึง จุกจิกจู้จี้ไม่เลิกรา

หากเขาเป็นชายโตเต็มวัยนั้นยังดี แต่ดันมีรูปร่างเป็นเด็กน้อยเช่นนี้ ครั้นได้ยินคำพูดนี้และมองสีหน้าเขา ก็ชวนให้คนหัวเราะอย่างกลั้นไม่อยู่

“เจ้าว่างมายุ่งกันมากนักนะ! บอกข้าซิ เจ้าอายุแค่สามสี่ขวบจริงหรือ?” ความสงสัยเอ่อล้นในดวงตาของเธอ คิดว่าแม้เด็กน้อยอายุสามสี่ขวบจะฉลาด ก็ไม่น่าฉลาดเช่นนี้?

“คนพวกนั้นดูขวางหูขวางตานัก”

เขาขมวดคิ้วน่ามอง แล้วเม้มริมฝีปากเอ่ย เมื่อสีหน้าถมึงทึงขึ้นมา เฟิ่งจิ่วตาฝาดไป คล้ายเห็นว่าเด็กน้อยตรงหน้าคือเจ้าตำหนักยมราช

……………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version