Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 897

№ 897 ข้าไม่ยอมรับ

ร่างสีขาวนั้นเดินมาจากบริเวณไม่ไกล ฝีเท้าทั้งเบาและมั่นคง ท่วงท่างามสง่า แขนเสื้อพลิ้วไหวราวกับเทพบุตรลงมาจุติ เพียงปรากฏตัวนักเรียนหญิงรอบๆ ไม่น้อยต่างพากันเผยหัวใจสีแดงในดวงตา แล้วใช้สายตาที่ทั้งหลงใหล เหนียมอาย และยังมีความตื่นเต้นมองยังเขา

ทว่าชายหนุ่มที่เป็นเช่นเทพจุติเหมือนจะไม่ได้มองทุกคนรอบข้าง สายตาเขามองผ่านบนใบหน้าเฟิ่งจิ่วน้อยๆ เก็บความตกตะลึงนั้นเข้าสู่สายตา มุมปากคล้ายมีรอยยิ้มปรากฏ

เขาก้าวนวยนาดมาตรงหน้ารองเจ้าสำนัก หลังจากคุยกับเขาสองสามประโยค รองเจ้าสำนักก็มองทุกคน บอกว่า “ในเมื่อคนครบแล้ว เช่นนั้นพวกเราออกเดินทางเถอะ!”

“ขอรับ” ทุกคนขานรับ กำลังจะเดินออกประตูใหญ่สำนักศึกษาไปพร้อมกับเขา เวลานี้เองเสียงหนึ่งก็ลอยมา

“เดี๋ยวก่อนขอรับ!”

ทุกคนตกใจ หันกลับไปมองเพียงเห็นว่าเป็นนักเรียนสำนักพลังวิญญาณคนหนึ่ง บางคนยังจำเขาได้ นั่นคือหนึ่งในสิบผู้แข็งแกร่งอันดับต้นๆ ของสำนักศึกษาเมื่อก่อน แต่นอกจากเซียวอี้หานจะแย่งรายชื่อสามอันดับแรกได้ คนหนึ่งด้านล่างสุดยังโดนดึงลงมาเพราะเฟิ่งจิ่วถูกเลือกมาเป็นการภายใน

แตกต่างจากเซียวอี้หานที่ผ่านการประลองชิงรายชื่อมาได้ เฟิ่งจิ่วยังไม่เคยสู้กับสิบอันดับแรกก็ถูกเจ้าสำนักคัดเลือกเป็นการภายใน ด้วยเหตุนี้นอกจากคนอื่นๆ ที่รู้ว่าแท้จริงนางมีกำลังเช่นนั้น คนส่วนใหญ่จึงไม่เข้าใจและไม่พอใจอย่างมากที่เฟิ่งจิ่วถูกคัดตัวมาเข้าร่วมงานแข่งสำนักศึกษาครั้งนี้เป็นการภายใน

“เป็นศิษย์พี่เกิ่ง ครั้งนี้เพราะเฟิ่งจิ่วเป็นคนที่คัดเลือดมาเป็นการภายใน ศิษย์พี่เกิ่งที่จัดอยู่อันดับที่สิบจึงถูกดึงลงมา”

“ศิษย์พี่เกิ่งพละกำลังเดิมทีไม่ใช่แค่อันดับสิบ แต่ปีก่อนภายหลังคนอันดับท้ายๆ ขึ้นมา ปีนี้การทดสอบหลังเปิดเรียนอันดับเขาก็ลดลง กลายเป็นอันดับสิบรั้งท้าย ดังนั้นจึงไม่ได้เข้าร่วมงานแข่งสำนักศึกษาครั้งนี้ แต่ข้าคิดว่ากำลังเขาอย่างไรก็แกร่งกว่าเฟิ่งจิ่ว”

“ถูกต้อง ข้าก็คิดเช่นนี้ แต่เป็นไปได้ว่าเส้นสายเฟิ่งจิ่วจะหนากว่าศิษย์พี่เกิ่ง มิเช่นนั้นคงไม่ดึงศิษย์พี่เกิ่งลงไปโดยไม่แม้แต่จะประลอง”

“บอกว่าเฟิ่งจิ่วมาจากแคว้นระดับเก้า แต่ปีก่อนเกิดเรื่องอาจารย์ทั้งสำนักศึกษายังต้องเคลื่อนทัพไปช่วยเขา ข้าคิดว่าภูมืหลังเขาต้องไม่ธรรมดา”

“ไม่ต้องพูดถึงเรื่องนั้นหรอก พวกเจ้าดูสิ ท่าทางศิษย์พี่เกิ่งเช่นนี้คงอยากจะประลองกับเฟิ่งจิ่วตรงนี้ไม่ใช่หรือ? ล้วนตัดสินกันเป็นการภายในแล้ว รองเจ้าสำนักมีหรือจะให้เขามาโวยวาย?”

ได้ยินคำพูดนี้สายตาทุกคนต่างหยุดลงบนร่างศิษย์พี่แซ่เกิ่ง แล้วมองๆ เฟิ่งจิ่ว เดาว่าสองคนนี้คงไม่สู้กันกระมัง?

“มีเรื่องอะไร?” รองเจ้าสำนักมองนักเรียนแซ่เกิ่งพลางเอ่ยถาม

“ท่านรองเจ้าสำนัก ข้าไม่ยอมขอรับ” น้ำเสียงเขาเคร่งเครียด สื่อความหมายชัดเจน สายตาข้ามผ่านทุกคนไปหยุดลงบนร่างเฟิ่งจิ่ว “ทำไมเขาถึงเป็นตัวแทนสำนักศึกษาไปร่วมงานแข่งได้? ข้าไม่ยอม เขาเป็นแค่นักเรียนใหม่ที่เพิ่งเข้ามาปีก่อน หรือว่ากำลังเขาแกร่งกว่าข้าได้? ข้าไม่ยอม ข้าจะประลองกับเขาขอรับ!”

รองเจ้าสำนักได้ยินคำพูดนี้ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย “นี่เป็นกฎสำนักศึกษา ตัดสินผ่านการหารือแล้ว สับเปลี่ยนเจ้าลงมาย่อมมีเหตุผลของพวกเรา กลับไปเถอะ! อย่าประวิงเวลาเดินทางพวกเราเลย”

น้ำเสียงเขามีความไม่พอใจรางๆ กำลังเฟิ่งจิ่วเป็นเช่นไรพวกเขารู้ดีนัก แทบพูดได้ว่าหนึ่งในสิบคนนี้คนที่เขากับเจ้าสำนักให้ความสำคัญที่สุดก็คือเฟิ่งจิ่ว พูดอย่างไรครั้งนี้จะมีโอกาสเข้าสามอันดับแรกได้ นั่นเพราะเป็นเฟิ่งจิ่วอย่างไม่ต้องสงสัย

มีเพียงนางเป็นคนคนนั้นที่มีโอกาสที่สุด ด้วยเหตุนี้จึงคัดเลือกนางมาเข้าร่วมการแข่งครั้งนี้เป็นการภายใน เรื่องนี้เขากับเจ้าสำนักรวมถึงอาจารย์หลายท่านปรึกษากันหลายครั้งแล้ว แน่นอนว่าไม่มีอะไรไม่เหมาะสม

………………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version