Skip to content

เมษาที่รัก 8

Chapter 8 ทานข้าวกับบอส

“โอนเกือบหมดแล้ว เหลืออีกสองคนที่ยังไม่ขาย” โอเวนตอบทั้งๆ ที่สายตาไม่ได้ละจากหน้าจอเลยสักนิด “แอนนา ของบการเงินอาทิตย์ที่แล้วด้วย”

“ค่ะบอส” แอนนารับคำแล้วก็เปิดไฟล์งบการเงินส่งให้ จากนั้นเธอก็หันไปสั่งงานเมษาว่า “คุณคอยดูหุ้นตัวนี้ไว้ถ้าขึ้นถึง 50% เมื่อไหร่ก็รีบบอกฉันทันที แล้วก็ดูราคาทองด้วยนะถ้าขึ้นถึง 10% เมื่อไหร่ก็รีบบอกฉัน เข้าใจนะ?”

“ค่ะ” เมษาพยักหน้ารับ

มาร์คัสสั่งงานไป สายตาก็คอยมองเลขาใหม่ไปด้วย

“แอนนา กาแฟ” โอเวนสั่ง สายตาไม่ได้ละจากหน้าจอ

“ค่ะบอส” แอนนารับคำแล้วก็เอื้อมมือไปยกหูโทรศัพท์บนโต๊ะ พอเสียงปลายสายรับสายเธอก็สั่งว่า “ลาเต้ร้อนสองแก้ว คาปูชิโนร้อนหนึ่งแก้ว” แล้วเธอก็หันไปถามเมษาว่า “อ่อ…เมษาคุณจะดื่มอะไร?”

“คะ” เมษามองอย่างงงๆ

“คุณอยากได้เครื่องดื่มอะไร? กาแฟ น้ำผลไม้ หรือว่าโค้ก?” แอนนาถามอีกครั้ง

“เอ่อ…ช็อกโกแล็ตร้อนค่ะ ขอบคุณค่ะ” เมษาบอก

“ช็อกโกแล็ตร้อนหนึ่งแก้ว แล้วก็บูลเบอรี่ชีสเค้กสองชิ้น ขอบคุณค่ะ” แอนนาสั่งเสร็จแล้วก็วางสาย แล้วเธอก็หันไปทำงานต่อ

มาร์คัสสั่งงาน โอเวนก็สนองได้เป๊ะๆ ทันท่วงที ส่วนแอนนาก็ทำงานให้โอเวนโดยไม่มีข้อบกพร่อง เมษาได้แต่คอยทำตามที่แอนนาบอกอย่างมึนๆ งงๆ รู้สึกเหมือนตัวเองเงอะงะงุ่มง่ามเป็นส่วนเกินของทั้งสามคน

เสียงกริ่งดังขึ้น แอนนารีบลุกไปดูแล้วก็เปิดประตูให้รูมเซอร์วิสเข้ามา

พอประตูห้องเปิดออก หน้าจอโน๊ตบุ๊คทุกเครื่องก็เปลี่ยนเป็นภาพพักหน้าจอด้วยฝีมือโอเวนที่ป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล เมษามองหน้าจออย่างงงๆ “เอ๊ะ!”

มาร์คัสยกนิ้วแตะริมฝีปากตัวเอง “ชู่ว!” ส่งสัญญาณให้เลขาใหม่เงียบๆ

พอรูมเซอร์วิสออกไปแล้ว โอเวนก็เปลี่ยนหน้าจอทุกเครื่องให้เข้าโหมดทำงานดังเดิม

แอนนายกเครื่องดื่มเสิร์ฟให้กับทุกคนแล้วก็มานั่งทำงานต่อ

จนกระทั่งใกล้เที่ยงมาร์คัสก็ปิดโน๊ตบุ๊ค แล้วก็นั่งมองเลขาใหม่ซึ่งกำลังตั้งอกตั้งใจทำงาน

เมษาเหลือบมองแอนนาแล้วก็สบตากับเจ้านาย เธอรู้สึกอึดอัดที่ถูกเขามองอย่างบอกไม่ถูก เหมือนถูกมองด้วยสายตาเกลียดชัง บางครั้งก็เฉยๆ บางครั้งก็รู้สึกอบอุ่นชั่วแว๊บ ตลอดเวลาที่นั่งทำงานเธอหายใจไม่ค่อยทั่วท้องเลยสักนิด ถ้าไม่ใช่เพราะได้เงินเดือนเยอะ เธอคงไม่ยอมอดทนกับสายตาคู่นั้นแน่ๆ

โอเวนปิดโน๊ตบุ๊ค “โอเคบอส ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว”

มาร์คัสพยักหน้ารับรู้ “โอเค ขอบคุณมาก แล้วอาหารกลางวันจะกินอะไรกันดีล่ะ?”

โอเวนมองหน้าเจ้านาย

“เฮ้! นายติดค้างอาหารจีนฉันอยู่นะ อย่าลืมซิ” เขาบอกน้ำเสียงเฉยๆ

“โอเคๆ ฉันจำได้” มาร์คัสบอกน้ำเสียงเหมือนเด็กที่กำลังงอนเพื่อน

แอนนามองเฉยๆ เหมือนเป็นเรื่องปกติ

เมษามองอย่างอึ้งๆ รู้สึกได้ว่าระหว่างผู้ชายสองคนนี้ความสัมพันธ์คงเป็นมากกว่าแค่เจ้านายกับลูกน้องแน่ๆ

“ขอบคุณที่นายยังจำได้” โอเวนค้อมหัวให้แล้วก็ยักคิ้วใส่

“โอเค อาหารจีน” มาร์คัสบอก

แอนนารีบเปิดไอแพ็ดหาร้านอาหารจีนที่ดีที่สุดทันที จากนั้นเธอก็จัดแจงจองโต๊ะ แล้วก็หันไปพยักหน้าให้โอเวน

โอเวนมองลูกน้องแล้วก็โทรหาโรเจอร์ “บอสจะออกไปข้างนอก”

“โอเค” โรเจอร์รับคำแล้วก็วางสาย

โอเวนเดินนำหน้าออกไป แอนนารีบเดินตามไป

มาร์คัสเดินตามลูกน้องไป

เมษาเดินตามออกไปเป็นคนสุดท้าย

พอลิฟท์ถึงชั้นล่าง โอเวนก็เดินนำออกไปเหมือนเช่นเคย ตามด้วยแอนนา

มาร์คัสเดินตามลูกน้องไป เมษาเดินตามไปแล้วก็เดินเลี่ยงไปตรงทางออกลานจอดรถ

มาร์คัสรีบเดินตามไปคว้าแขน “จะไปไหน?”

เมษาตกใจ “อุ๊ย!” เธอมองอุ้งมือที่กำรอบข้อมือตัวเองอย่างอึดอัดใจ

“จะไปไหน?” มาร์คัสถามอีกครั้ง

“ฉันจะไปทานข้าวกลางวันค่ะ” เมษาตอบพยายามบิดข้อมือออกจากอุ้งมือนุ่ม

“ไปด้วยกัน” มาร์คัสบอกแล้วก็รั้งแขนให้เดินไปที่รถ

“เอ่อ…ไม่ดีกว่า ฉันไปเองสะดวกกว่าค่ะ” เมษาบอก ขืนตัวไว้

“ไปด้วยกัน แอนนาก็ไปได้” มาร์คัสบอกเสียงเรียบ

เมษาหันไปมองคนอื่น เห็นทุกคนมองมาด้วยสายตางงๆ สงสัย ก็ชะงักไป “เอ่อ…”

มาร์คัสรั้งแขนดึงให้เดินไปที่รถ “ทุกคนไปกันหมด เราทีมเดียวกันไม่ใช่เหรอ ถ้าคุณไม่ไปด้วยจะเป็นทีมเดียวกันได้ยังไง เราทำงานร่วมกันนะ”

เมษาก้าวตามแรงดึงอย่างอึดอัดใจ เธอพยายามใช้สายตาบอกให้เขาปล่อยมือ “เอ่อ…”

โอเวนเปิดประตูรถคอย

มาร์คัสรั้งแขนเมษาเดินไปที่รถ เขาผายมือเชิญให้เธอเข้าไปนั่งในรถ “เชิญ”

เมษาเข้าไปนั่งในรถอย่างอึดอัดใจ

“นายนั่งข้างหน้า” มาร์คัสสั่งโอเวน

โอเวนพยักหน้ารับ แล้วก็หันไปสั่งแอนนาว่า “คุณไปนั่งกับเมษานะ”

แอนนาพยักหน้ารับแล้วก็เดินไปเปิดประตูอีกด้านเข้าไปนั่งในรถ

มาร์คัสก้มตัวลงก้าวเข้าไปนั่งในรถ

เมษารีบเขยิบตัวไปนั่งชิดกับแอนนา

โอเวนปิดประตูรถให้แล้วก็เปิดประตูเข้าไปนั่งข้างหน้าคู่กับโรเจอร์

แอนนารีบบอกจุดหมายให้โรเจอร์รับรู้

จากนั้นรถเบนซ์คันใหญ่ก็ขับออกจากโรงแรมไป

เมื่อไปถึงร้านอาหารจีนสุดหรู ทั้งห้าคนก็เข้าไปนั่งในห้องส่วนตัว

โอเวนเลื่อนเก้าอี้ให้แอนนา ส่วนมาร์คัสก็เลื่อนเก้าอี้ให้เมษา “เชิญครับ”

“ขอบคุณค่ะ” เมษานั่งลงอย่างอึดอัดใจ แต่พอเห็นคนอื่นทำตัวตามสบายก็คลายความอึดอัดลง

โอเวนรับเมนูจากพนักงานไปเปิดดูแล้วก็สั่งว่า “เป็ดปักกิ่งหนึ่งตัว แล้วก็นี่ๆๆๆๆ แล้วก็อันนี้ ส่วนเครื่องดื่มขอเป็นชาอู่หลง”

“แล้วนายจะสั่งอะไรล่ะ?” เขาหันไปถามเจ้านาย

“นายสั่งให้ฉันด้วย” มาร์คัสบอกสั้นๆ แล้วก็หันไปบอกโรเจอร์ว่า “โรเจอร์สั่งเต็มที่เลยนะ”

โรเจอร์ทำมือโอเคแล้วก็หันไปสั่งอาหาร

“แอนนาสั่งเต็มที่เลยนะ นานๆ ทีผมถึงจะมีโอกาสถล่มกระเป๋าบอสของเราอย่างนี้ต้องจัดหนักๆ หน่อยล่ะ” โอเวนหันไปพูดกับแอนนา

แอนนาพยักหน้ารับยิ้มๆ

มาร์คัสหันไปมองคนข้างๆ “เมษาคุณอยากทานอะไรก็สั่งเลยนะไม่ต้องเกรงใจ”

“ค่ะ” เมษาพยักหน้ารับอย่างเกร็งๆ

พอสั่งอาหารและเครื่องดื่มเสร็จแล้วพนักงานเสิร์ฟก็ยกของว่างมาเสิร์ฟให้

เมษาจิบชาเขียวพลางมองทุกคนไปด้วย

สามหนุ่มเริ่มคุยกันตามประสาเพื่อนรัก

แอนนาจึงหันไปคุยกับเมษา “ถ้าคุณมีปัญหาอะไรบอกฉันได้เลยนะ”

“ขอบคุณค่ะ” เมษาพยักหน้าพร้อมกับยิ้มให้

แอนนายิ้มตอบ

“เอ่อ…ไม่มีออฟฟิตในประเทศไทยเหรอคะ?” เมษาถามในสิ่งที่สงสัยมาตั้งแต่เช้า

แอนนาส่ายหน้า “ไม่มี บอสยังไม่มีแผนจะเปิดออฟฟิตในประเทศไทยเลย”

เมษาทำหน้างง “อ้าว แล้วบอสมาทำอะไรที่กรุงเทพฯคะ? หรือว่ามามองหาทำเลเปิดออฟฟิตคะ?”

“ไม่ใช่หรอก บอสมาธุระส่วนตัวน่ะ” แอนนาบอก “ช่วงบอสอยู่กรุงเทพฯ เราก็ทำงานด้วยกันแบบนี้ไปก่อน แต่ถ้ากลับนิวยอร์คเมื่อไหร่ก็ห้องใครห้องมันน่ะ”

“เอ่อ…แล้วนี่ฉันต้องไปอเมริกาด้วยรึเปล่าคะ?”

“ไม่รู้ซิ เรื่องนี้คุณต้องถามบอสเอาเองนะ แล้วแต่บอสจะตัดสินใจ” แอนนาบอกพลางบุ้ยปาก

เมษามองตามอย่างเกร็งๆ แล้วก็หันไปคุยกับแอนนาต่อ

“คุณแต่งงานรึยัง?” แอนนาถามชวนคุยตามประสาผู้หญิง

“ยังค่ะ” เมษาส่ายหน้า

พนักงานเดินเข้ามาเสิร์ฟอาหาร ทำให้การพูดคุยหยุดชะงัก เมื่อพนักงานเสิร์ฟอาหารเสร็จแล้วก็เดินออกไป

“เชิญทานครับ เชิญ” มาร์คัสบอกแล้วก็คีบอาหารเข้าปาก

คนอื่นๆ จึงเริ่มทาน

โอเวนห่อเป็ดปักกิ่งแล้วก็หมุนจานไปให้แอนนา “แอนนาผมห่อให้คุณแล้ว”

“ขอบคุณค่ะ” แอนนาหยิบจานลงจากโต๊ะหมุน

มาร์คัสห่อเป็ดปักกิ่งแล้วก็ยื่นให้เมษา “ลองทานนี่ซิ”

“ขอบคุณค่ะ” เมษาคีบเป็ดเข้าปาก

“เฮ้! ไม่มีใครห่อให้ฉันมั่งเลย” โรเจอร์พูดลอยๆ

มาร์คัสกับโอเวนหันไปสบตากันแล้วก็ลุกขึ้นยื่นเป็ดไปใส่จานโรเจอร์พร้อมกัน “เอ้า! ของนาย”

“ขอบคุณ” โรเจอร์ยักคิ้วให้ยิ้มขำๆ คีบเป็ดเข้าปากอย่างอารมณ์ดี

มาร์คัสคอยตักอาหารให้เมษาจนคนกินต้องรีบยกมือห้าม “พอแล้วค่ะ ขอบคุณค่ะ”

หลังจากทานอาหารกลางวันเสร็จแล้วทุกคนก็กลับโรงแรม

พอถึงโรงแรมมาร์คัสก็สั่งว่า “แอนนาคุณพาเมษาไปสอนงานที่ห้องคุณนะ”

“ค่ะบอส” แอนนาพยักหน้า จากนั้นเธอก็พาเมษาไปสอนงานที่ห้องพักตัวเอง

มาร์คัสเดินเข้าห้องไป เขานั่งลงที่โซฟา

โอเวนเดินไปเปิดตู้เย็นแล้วก็หยิบขวดน้ำโยนให้ “รับนะ”

มาร์คัสรับขวดน้ำหมับ แล้วก็เปิดขวดยกขึ้นจิบ

โอเวนเดินไปนั่งตรงข้าม “นายคิดจะทำยังไงต่อไปล่ะ?”

“ไม่รู้ซิ ดูไปก่อน” มาร์คัสตอบ “แล้วเรื่องคดีความของเธอคืบหน้าไปถึงไหนแล้วล่ะ?”

โอเวนส่ายหน้า “ยังเงียบอยู่ คงต้องรอให้ขโมยเอาของออกมาขายนั้นแหละถึงจะตามตัวได้ มันเอาออกมาขายเมื่อไหร่เราก็จับตัวมันได้เมื่อนั้นแหละ”

“อืม” มาร์คัสพยักหน้าแล้วก็ยกขวดน้ำขึ้นจิบ

“อ่อ…เรื่องออฟฟิตที่โซลฉันจัดการเรียบร้อยแล้วนะ” โอเวนรายงาน

“ขอบคุณมาก ไม่มีอะไรแล้วนายก็ไปพักเถอะ” มาร์คัสบอกน้ำเสียงอ่อนโยน

“อืม ฉันไปล่ะ นายก็พักด้วยล่ะ” โอเวนโบกมือแล้วก็ลุกขึ้นเดินออกไป

มาร์คัสมองตามจนประตูปิดลง แล้วเขาก็เอนหัวพิงพนักโซฟา ภาพหญิงสาวผุดขึ้นมานับตั้งแต่ที่ได้เห็น ใจหนึ่งก็เกลียด อีกใจก็…

“เฮ้อ…” เขาหลับตาลงอย่างหนักใจ

ภายในห้องพักของแอนนา เจ้าของห้องก็พยายามสอนงานให้เลขาใหม่อย่างสุดฝีมือ

เมษาก็พยายามเรียนรู้งานจากรุ่นพี่เต็มที่เช่นกัน

สองสาวทำงานไปคุยกันไปอย่างถูกคอตามประสาผู้หญิงด้วยกัน

เมษารู้สึกสนิทใจกับแอนนามากขึ้น

จนกระทั่งถึงตอนเย็น ได้เวลาเลิกงานแอนนาก็ปล่อยให้เมษากลับบ้านได้

เมษาออกจากโรงแรมแล้วก็นั่งรถไฟฟ้าไปต่อรถตู้กลับบ้าน โดยไม่รู้เลยว่ามีคนคอยตามอยู่ห่างๆ

พอเธอเข้าบ้านแล้ว นักสืบก็ไลน์ไปรายงานโอเวน

โอเวนอ่านข้อความแล้วก็วางโทรศัพท์ลงอย่างโล่งใจ

เมื่อถึงบ้านเมษาก็เห็นแม่ทำกับข้าวไว้รอแล้ว

“แองจี้ไปล้างมือไปจะได้มาทานข้าวกัน”

“ค่ะแม่” เมษาเดินไปล้างมือในครัวแล้วก็ไปนั่งที่โต๊ะตักข้าวให้แม่แล้วก็ตัวเอง

“ไปทำงานวันแรกเป็นไงมั่งลูก?” มาริสาชวนคุย

“โหย…งานยุ่งมากเลยค่ะแม่ บอสแองจี้เขารวยมากเลยนะคะมีบริษัทตั้งหลายแห่ง มิน่าล่ะเขาถึงได้รับสมัครเลขาเพิ่ม”

“แล้วออฟฟิตอยู่ตรงไหนล่ะลูก? เผื่อวันไหนแม่ผ่านไปจะได้ชวนหนูไปกินข้าวกลางวันด้วยกัน” มาริสาถามแล้วก็ตั้งใจรอฟัง

“ไม่มีออฟฟิตหรอกค่ะแม่ บริษัทนี้เขายังไม่เปิดออฟฟิตในเมืองไทยเลยค่ะ”

“อ้าว…แล้วทำงานกันยังไงล่ะลูก?”

“ก็นั่งทำงานกันในห้องพักที่โรงแรมนั่นแหละค่ะ แองจี้ก็เพิ่งเคยเห็นนี่แหละค่ะว่าห้องสวีทของโรงแรมหรูหราแบบนี้นี่เอง แต่ก็ดีนะคะแม่ แองจี้ไปทำงานสะดวกดี นั่งรถตู้ไปต่อรถไฟฟ้าแล้วก็เดินเข้าโรงแรมเลย ทีแรกฟ้าก็กลัวว่าพวกนั้นจะเป็นพวกมิจฉาชีพมาหลอกแองจี้ถึงขนาดเมื่อเช้าตามไปพบคุณแอนนาถึงที่โรงแรมเลย แต่พอโทรถามฝ่ายบุคคลของบริษัทฯแล้วแองจี้กะฟ้างี้หน้าแตกเลยค่ะแม่” เมษาเล่าไปก็ตักข้าวทานไปด้วย

“แอนนานี่เป็นเจ้านายหนูเหรอ?”

เมษาส่ายหน้า “ค่ะแม่ คุณแอนนาเป็นรองเลขาค่ะ ส่วนแองจี้ก็เป็นรองเลขารองจากคุณแอนนาอีกที ส่วนเลขาอันดับหนึ่งคือคุณโอเวนค่ะ”

“เหรอ”

“คุณแอนนากับคุณโอเวนดูจะใจดีมาก แต่บอสซิคะดูดุๆ ยังไงไม่รู้ นี่ถ้าไม่ใช่เพราะเงินเดือนตั้งห้าหมื่นแองจี้คงลาออกตั้งแต่วันแรกแน่ค่ะแม่”

“ถ้าหนูไม่ชอบก็หางานใหม่ซิลูก ไปทำงานที่โรงแรมของฟ้าดีไหม? แม่ได้ยินฟ้าบอกว่ามีตำแหน่งว่างอยู่นี่น่า”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version