Skip to content

A Will Eternal 1303

บทที่ 1303 ดุเดือดโหดร้าย

นี่คือศึกสุดท้าย!

ศึกนี้หากนี่ฝานเป็นผู้ชนะ เขาก็จะต้องกลืนกินดินแดนเซียนนิรันดร์กาลเพื่อผสานรวมมันเข้าในร่าง ส่วนโลกนิรันดร์กาลก็จะถูกเขายึดครองแล้วผสานรวมต้นกำเนิดแห่งนิรันดร์กาล จากนั้นก็เลื่อนสู่ขอบเขตนิรันดร์กาล!

ส่วนเมี่ยเซิ่งผู้นั้นก็จะอาศัยร่างของนี่ฝานหวนกลับคืนมามีชีวิตใหม่ แล้วไปจากโลกนิรันดร์กาลที่แห้งเหี่ยววายชีวา ใช้ขอบเขตที่เหนือล้ำเกินกว่าผู้ใดบุกเข้าไปสังหารในโลกแห่งเต๋าเว่ยยาง!

ทั้งหมดนี้ป๋ายเสี่ยวฉุนรู้ดีอยู่แก่ใจ ต่อให้เขาไม่รู้ว่าโลกแห่งเต๋าเว่ยยางคืออะไร แต่มีจุดหนึ่งที่เขาเข้าใจดี…นั่นก็คือ โลกแห่งเต๋าเว่ยยางหวาดกลัวโลกแห่งนิรันดร์กาล

ที่พวกเขาหวาดกลัว ก็คือต้นกำเนิดแห่งนิรันดร์กาล!

แค่นี้ก็มากพอแล้ว!

เมื่อยืนกรานในความเชื่อมั่นของตัวเอง ดวงตาของป๋ายเสี่ยวฉุนก็ฉายแสงคมกริบ วินาทีที่เขามองไปยังนี่ฝาน นี่ฝานก็ขยับกายทันที เรือนกายที่ใหญ่โตมโหฬารของเขาพลันมาโผล่พรวดอยู่ตรงหน้าป๋ายเสี่ยวฉุน แล้วก็ยกมือขวาขึ้นกำหมัดต่อยโครมออกไป!

ไม่มีวิชาอภินิหาร ไม่มีเวทคาถา เมื่อมาถึงขอบเขตในระดับของพวกเขา นี่อาจจะมองดูเหมือนหมัดธรรมดาหมัดหนึ่ง แต่กลับมากพอจะทำลายทุกกฎเกณฑ์ ทำลายทุกเวทคาถา มองเมินทุกวิชาอภินิหาร ขณะเดียวกันหากผู้บงการทั่วไปมาเผชิญหน้ากับพวกเขา เมื่อเจอกับหมัดนี้ก็ต้องแหลกสลายไปทั้งกายและจิต!

ท่ามกลางเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ป๋ายเสี่ยวฉุนเองก็เงยหน้าขึ้นแล้วปล่อยหมัดออกไปเช่นกัน

ในหมัดนี้แฝงเร้นตบะของเขา แฝงเร้นพลังกล้ามเนื้อของเขา แฝงเร้นเต๋าและทุกสิ่งทุกอย่างของเขา พอปล่อยออกไป ห้วงจักรวาลก็ถูกชักนำ แปดทิศถูกบิดเบือนเหมือนการปะทะกันของลมพายุที่ส่งเสียงอื้ออึงสะเทือนฟ้าดิน!

ท่ามกลางเสียงตูมตามที่ดังเกริกก้อง ในเวลาสั้นๆ คนทั้งสองที่อยู่กลางอากาศก็พุ่งเข้าโรมรันกันโดยตรง ต่างฝ่ายต่างออกหมัดไปเกินหมื่นหมัดแล้ว!

ทุกหมัดที่ร่วงลง ทั้งป๋ายเสี่ยวฉุนและนี่ฝานต่างก็ต้องร้องอึกอักอยู่ในลำคอ และพอปล่อยไปได้หนึ่งพันหมัด มุมปากของคนทั้งสองต่างก็มีเลือดสดไหลซึมลงมา พอถึงหนึ่งหมื่นหมัด ต่างฝ่ายต่างก็กระอักเลือด!

และเมื่ออยู่ภายใต้การต่อสู้ด้วยเสียงที่ดังสนั่นหวั่นไหวนี้ เรือนกายของพวกเขาก็เริ่มหดเล็กลง นั่นเป็นเพราะว่าทุกครั้งที่หมัดปะทะกันในศึกตัดสินระหว่างคนทั้งสองนี้ได้สร้างอาการบาดเจ็บที่มหาศาลให้แก่พวกเขา ต่อให้คนทั้งสองต่างก็เป็นผู้บงการที่แข็งแกร่งที่สุด แต่ก็ยังไม่อาจต้านรับได้ไหว!

ค่าตอบแทน ก็คือร่างแห่งเต๋าของพวกเขา!

หากว่ากันในบางระดับแล้ว ร่างแห่งเต๋าของพวกเขาก็เป็นเหมือนชีวิตที่แต่ละคนมีเพิ่มขึ้นมา ทุกครั้งที่ทั้งสองฝ่ายจู่โจมกัน ก็คือการตายครั้งหนึ่งสำหรับพวกเขา เพียงแต่ว่าที่ตายไปก็คือร่างแห่งเต๋าของพวกเขาเท่านั้น จากจุดนี้สามารถมองออกได้ว่า เมื่อมาถึงขอบเขตของป๋ายเสี่ยวฉุนและนี่ฝานแล้ว ในบางระดับสามารถพูดได้ว่า พวกเขาไม่มีทางตาย!

เพราะชีวิตของพวกเขามีมากถึงหนึ่งล้านแปดหมื่นชีวิต มีเพียงร่างแห่งเต๋าทั้งหนึ่งล้านแปดหมื่นชีวิตนี้ตายไปพร้อมกันเท่านั้นถึงจะเผาผลาญพลังชีวิตของร่างจริงพวกเขาได้!

บัดนี้ป๋ายเสี่ยวฉุนและนี่ฝานต่างก็เปลี่ยนสภาพการประลองเวทที่คาถาห้าแสงหกสีตัดสลับวูบวาบอยู่ในห้วงของกาลเวลาและมิติ มาเป็นการต่อสู้ตัดสินแพ้ชนะที่ปะทะกันโดยตรงที่สุด ใช้วิธีการดั้งเดิมที่สุด และโหดเหี้ยมทารุณที่สุด!

เสียงครืนครั่นจากการปะทะดังก้องกังวานไม่หยุด เลือดสดของคนทั้งสองทะลักทลายออกมาไม่ขาดสาย และร่างของพวกเขาก็หดเล็กลงเรื่อยๆ พร้อมๆ กับที่ร่างแห่งเต๋าของพวกเขาแตกสลายไปทีละร่าง!

การดับสลายเช่นนี้ไม่ได้ดำเนินไปอย่างพร้อมเพรียงกัน แต่ทุกครั้งมักจะเป็นว่าเมื่อนี่ฝานปล่อยหมัดออกไป ตัวเขาไม่เป็นอะไร แต่ชีวิตของร่างแห่งเต๋าป๋ายเสี่ยวฉุนกลับแหลกสลายไปหนึ่ง หรือไม่เมื่อป๋ายเสี่ยวฉุนลงมือ ร่างแห่งเต๋าของนี่ฝานก็จะตายดับ

สลับสับเปลี่ยนกันไปเช่นนี้ ภายใต้เสียงกึกก้องที่ดังอย่างต่อเนื่อง ในขอบเขตของห้วงจักรวาลที่เป็นสนามรบนี้ การลงมือของคนทั้งสองมีซากปรักหักพังของโลกแห่งเซียนเป็นจุดเริ่มต้น แล้วก็ทะยานไปตามซากปรักหักพังแห่งต่างๆ ด้วยเสียงอึกทึกโครมครามไปตลอดทาง

น่าเสียดายก็แต่ สิ่งมีชีวิตที่อยู่ในห้วงจักรวาลแห่งนี้หลงเหลือแค่เพียงดินแดนเซียนนิรันดร์กาลแห่งเดียวเท่านั้น ซ้ำขอบเขตของห้วงจักรวาลยังกว้างใหญ่มากเกินไป ดังนั้นการลงมือของพวกเขาทั้งสองคนจึงไม่มีใครมองเห็น ทว่าระดับของความโหดเหี้ยมทารุณนี้กลับยิ่งดุเดือดมากขึ้นตามการโจมตีที่ปะทุต่อเนื่องของพวกเขา

หากเจ้าไม่ตาย ก็ข้าที่ม้วย!!

เสียงตูมตามดังเกินเสียงอสนีบาตกลายมาเป็นเพียงเสียงเดียวที่ดังอยู่ในห้วงจักรวาลแห่งนี้ ป๋ายเสี่ยวฉุนกระอักเลือดไม่ขาดสาย หน้าอกของเขายุบยวบลงไป ทั่วร่างของเขาเหมือนจะแหลกพังภินท์ วิชาอภินิหารของบทมิวางวายที่สามารถฟื้นฟูทุกอาการบาดเจ็บ วันนี้กลับเสียประสิทธิผล นั่นเป็นเพราะพลังงานและพลังแห่งการดับทำลายที่มาจากนี่ฝานไม่สามารถลบเลือนทิ้งไปในระยะเวลาสั้นๆ ได้เลย!

ขณะเดียวกันการฟื้นตัวของนี่ฝานเองก็ถูกขัดจังหวะ พลังงานของป๋ายเสี่ยวฉุนแฝงเร้นไว้ด้วยปณิธานแห่งแสงสว่าง สำหรับนี่ฝานแล้วจึงเหมือนการเผชิญหน้ากับศัตรูทางธรรมชาติ แน่นอนว่าย่อมเป็นการยากที่เขาจะโคจรต้นกำเนิดของการฟื้นตัวได้

แล้วก็เป็นเช่นนี้ ศึกที่ส่งเสียงดังสะเทือนเลือนลั่นยังคงดำเนินต่อไป พวกเขาสองคนเพิ่มจำนวนจากหนึ่งหมื่นหมัดมาเป็นหนึ่งแสนหมัด จนกระทั่งถึงสองแสนหมัด สามแสนหมัด…พุ่งผ่านที่ใด ห้วงจักรวาลก็พังทลาย ทอดสายตามองไป ห้วงจักรวาลในเวลาเต็มไปด้วยหลุมบ่อนับพันนับหมื่น ซ้ำยังมีซากปรักหักพังหลายแห่งที่ถูกลูกหลงจึงพังถล่มกลายมาเป็นฝุ่นผงอยู่ภายใต้ความบ้าคลั่งของคนทั้งสอง

“ป๋ายเสี่ยวฉุน ข้านับถือเจ้า แต่เจ้า…ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า!” นี่ฝานร้องคำราม กระอักเลือดสดๆ ออกมาอีกครั้ง ป๋ายเสี่ยวฉุนฝืนเงยหน้าขึ้นหัวเราะดังลั่น ตอนนี้เขาไม่เหลือความหวาดกลัวต่อความตายอีกแล้ว ครั้นแล้วจึงลงมืออีกครั้ง

ห้าแสนหมัด หกแสนหมัด เจ็ดแสนหมัด…

ตอนนี้ร่างของคนทั้งสองหดเล็กลงมาแล้วเกินครึ่ง แต่การต่อสู้ของพวกเขายังคงดุเดือด นี่เป็นการเผาผลาญร่างแห่งเต๋าของทั้งสองฝ่ายอย่างแท้จริง ไม่มีใครหลบเลี่ยง ไม่มีใครคิดเผ่นหนี นี่ฝานไม่หนีก็เพราะใจที่อยากสังหารป๋ายเสี่ยวฉุนของเขาเดือดพล่านเกินจะหาคำมาบรรยาย มีเพียงสังหารป๋ายเสี่ยวฉุนผู้เป็นบุคคลสุดท้ายที่สามารถต่อกรกับเขาคนนี้ไปเท่านั้น เขาถึงจะสมหวังดั่งที่ตัวเองปรารถนามาเนิ่นนาน!

ป๋ายเสี่ยวฉุนไม่ได้หนี หาใช่เพราะเลือดเร่าร้อนบดบังดวงตาจนคิดอยากต่อสู้กับนี่ฝานจนกว่าจะตายกันไปข้าง และช่วงแรกๆ เขาก็คิดอย่างนี้จริง แต่สู้กันไปสู้กันมา เขากลับค้นพบว่าผลลัพธ์สุดท้ายของการทำเช่นนี้มีแต่จะส่งผลร้ายต่อตน เขาจึงกำลังคิดจะหลบเลี่ยงหรืออาจถ่วงเวลาต่อไป ทว่าจู่ๆ เขาก็ค้นพบว่าเมื่อร่างแห่งเต๋าของตนตายไป เมื่อตนต่อสู้กับนี่ฝาน ความรู้สึกที่ตนรับสัมผัสได้ถึงต้นกำเนิดแห่งนิรันดร์กาลที่อยู่ในห้วงจักรวาลแห่งนี้ก็เหมือนจะยิ่งแจ่มชัดมากขึ้นเรื่อยๆ

“แท้จริงแล้วนิรันดร์กาลคืออะไรกันแน่…” ลมหายใจของป๋ายเสี่ยวฉุนเริ่มยุ่งเหยิง ไม่มีเวลาให้ขบคิดอย่างลึกซึ้งนัก เขาเลือกที่จะทำตามลางสังหรณ์ของตัวเอง เขาที่ดวงตาฉายความบ้าคลั่งจึงลงมืออีกครั้ง

เวลาผันผ่าน นับตั้งแต่เริ่มสงครามมาจนถึงตอนนี้ ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว อาจจะสิบปี อาจจะยี่สิบปี หรืออาจจะนานยิ่งกว่านั้น

ศึกตัดสินแพ้ชนะของพวกเขาเปลี่ยนจากเจ็ดแสนหมัดมาถึงเก้าแสนหมัด จนกระทั่งถึงหนึ่งล้านหมัด สุดท้าย…ก็เกินหนึ่งล้านแปดหมื่นหมัดและมากยิ่งไปกว่านั้น!!

ฟ้าดินส่งเสียงดังสะเทือนเลือนลั่น ร่างของคนทั้งสองจากแต่เดิมที่ใหญ่โตมโหฬารเกินบรรยาย เมื่อร่างแห่งเต๋าแต่ละร่างตายไปก็ค่อยๆ หดเล็กลง สุดท้ายเมื่อต่างฝ่ายต่างเหลือร่างแห่งเต๋าอยู่อีกไม่มาก สนามรบของพวกเขาก็ย้ายจากห้วงจักรวาลมายังตำแหน่งที่ตั้งของดินแดนเซียนนิรันดร์กาลแล้ว!

ห่างออกไปไม่ไกล ดินแดนเซียนนิรันดร์กาลแผ่แสงอ่อนจางที่อ่อนโยน แม้จะไม่ได้ส่องแสงเจิดจ้า แต่แสงที่แผ่ออกมาจากชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วนซึ่งอยู่ในนั้นกลับเด่นชัดมากเป็นพิเศษในห้วงจักรวาลมืดดำแห่งนี้!

ขณะเดียวกันเมื่อป๋ายเสี่ยวฉุนและนี่ฝานมาถึง ทุกชีวิตบนดินแดนเซียนนิรันดร์กาลต่างก็สัมผัสได้ และในความเป็นจริงแล้ว สำหรับทุกคนบนดินแดนเซียนนิรันดร์กาล ศึกครั้งนี้ได้ล่วงเลยผ่านไปนานถึงหกสิบปีเต็ม!

นั่นคือเวลาที่ยาวนานถึงหกสิบปี หกสิบปีมานี้พวกเขาไม่เคยลืมป๋ายเสี่ยวฉุน ไม่เคยลืมเงาร่างของนี่ฝาน พวกเขารู้ดีว่าวิกฤตความเป็นความตายยังไม่สิ้นสุดลง เพราะยามที่พวกเขามองไปยังห้วงจักรวาล มีหรือที่จะมองไม่เห็นว่ามีสิ่งชีวิตที่เป็นดั่งดวงดาวสองดวงพุ่งปะทะชนกันอย่างต่อเนื่องตลอดเวลาหกสิบปีมานี้!!

เสี่ยวเป่าเติบใหญ่แล้ว ต้าเป่าและเสี่ยวเสี่ยวก็มองดูเหมือนวัยกลางคน ไม่ว่าจะเป็นซ่งจวินหว่าน โจวจื่อโม่หรือแม้แต่โหวเสี่ยวเม่ย แม้ว่าหน้าตาของพวกนางจะยังคงเดิม แต่ก็มองออกว่าผ่านกาลเวลามาเนิ่นนาน

ต้าเทียนซือก็ดี ราชาผียักษ์ก็ช่าง รวมไปถึงคนนับไม่ถ้วนบนดินแดนเซียนนิรันดร์กาล เวลาหกสิบปีมานี้ พวกเขาต่างก็ภาวนาขอพรอยู่ในใจไม่เคยหยุดพัก

จนกระทั่งบัดนี้ที่สมรภูมิรบของป๋ายเสี่ยวฉุนกับนี่ฝานขยับเข้ามาใกล้ดินแดนเซียนนิรันดร์กาล พวกเขาทุกคนก็ล้วนมองเห็น…ป๋ายเสี่ยวฉุน!

“จงใจดึงสมรภูมิรบมาที่นี่ ป๋ายเสี่ยวฉุน เจ้าคงอยากมาตายอยู่ที่นี่สินะ ถ้าอย่างนั้นข้าก็จะทำให้เจ้าสมปรารถนา!” กลางห้วงจักรวาล นี่ฝานเช็ดคราบเลือดตรงมุมปากทิ้ง ตอนนี้เขายังเหลือร่างแห่งเต๋าอีกสิบร่าง ส่วนป๋ายเสี่ยวฉุนเหลือแค่สามร่างเท่านั้น!

ร่างของพวกเขาเองก็กลายมามีสภาพเป็นคนธรรมดาทั่วไป และท่ามกลางการลงมือที่ส่งริ้วคลื่นสะเทือนเลือนลั่นในครั้งนี้ ป๋ายเสี่ยวฉุนกระอักเลือด นี่ฝานเองก็กระอักเลือดเช่นกัน ร่างของคนทั้งสองต่างก็ถอยร่นออกไปภายใต้เสียงดังกัมปนาทอึงคะนึง

“เจ้ายังเหลืออีกสองร่าง!!” ทว่าจู่ๆ นี่ฝานกลับหมุนตัวกลับมากะทันหัน ดวงตาของเขาฉายแววบ้าคลั่งและไอสังหาร ราวกับว่าความดุร้ายตลอดทั้งหกสิบปีล้วนระเบิดออกมาจนหมด ในนาทีที่พุ่งเข้าชนป๋ายเสี่ยวฉุนดั่งดาวตกดวงหนึ่ง เขาก็ปล่อยหมัดรัวออกมาติดต่อกันถึง…ห้าหมัด!!

ห้าหมัดนี้ระเบิดพลังพร้อมกัน ห้วงจักรวาลสั่นสะเทือน ฟ้าดินส่งเสียงเกริกก้องอึงอล ป๋ายเสี่ยวฉุนกระอักเลือดทะลักทลายอย่างสาหัส ร่างแห่งเต๋าสองร่างที่เหลืออยู่แหลกสลายไปโดยตรง และชั่วขณะที่ร่างจริงของเขาร้องคำรามแล้วตอบโต้หมัดทั้งห้ากลับไป ร่างแห่งเต๋าสิบร่างของนี่ฝานก็พังทลายลงไปสองร่าง

เพียงแต่ว่าหมัดที่ห้าของคนทั้งสอง…ก่อกลายมาเป็นพลังของการดับทำลายซึ่งทำให้ร่างจริงของป๋ายเสี่ยวฉุนถูกสั่นคลอน กระดูกทั่วร่างเขาส่งเสียงแตกดังลั่น จากนั้นก็ตามมาด้วยเลือดสดที่พุ่งออกมาเป็นสาย และร่างก็ม้วนตลบปลิวลิ่ว…ไปทางดินแดนเซียนนิรันดร์กาล!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version