Skip to content

A World Worth Protecting 1057

บทที่ 1057 เหล่าเจ้านายในอดีตของข้า

ท้องฟ้า…ชิ้นส่วนของความว่างเปล่า สายฟ้าไม่ทราบจำนวนดูเหมือนจะส่องแสงอยู่ตลอดเวลา บางครั้งก็เชื่อมต่อกันเป็นตาข่ายขนาดใหญ่ ทำให้โลกทั้งใบสั่นสะเทือน

แผ่นดิน…ก็เช่นกัน!

ไร้ดิน ไร้ภูเขา ไร้พืชพันธุ์ มีแต่ความว่างเปล่าไม่มีที่สิ้นสุด!

ไม่ว่าด้านบน ด้านล่าง สภาพแวดล้อม จุดใดก็ตามที่สายตามองไปล้วนมีแต่สายฟ้าและความว่างเปล่าราวกับขุมนรกไปทุกหนแห่ง

แต่ข้า…ยังคงชอบเรียกที่แห่งนี้ว่าสุสาน และครั้งเดียวที่เจ้านายคนที่สามผู้โง่เขลาของข้าฉลาดก็คือเรื่องที่ทำให้ข้าได้รู้จักคำๆ นี้

ในมุมมองนี้ถึงแม้เขาจะโง่เขลา แต่ข้าก็ยังมอบพลังให้แก่เขา แต่เขาไม่อาจรู้ เหตุผลที่ข้าคิดว่าที่นี่คือสุสานเพราะข้าถูกฝังไว้ในที่แห่งนี้ หรือพูดให้ถูกคือ ข้า…ถือกำเนิดขึ้นที่นี่!

จำไม่ได้แล้วว่าเมื่อไรที่ข้ามีสติรับรู้ และไม่รู้ว่าเวลาใดที่ข้าสามารถรับรู้สิ่งรอบกายได้ ในสุสานที่ว่างเปล่านี้อาจยังมีชีวิตอื่นที่เหมือนกับข้า แต่ดูเหมือนว่ายามที่ข้าถือกำเนิดขึ้น พวกมันต่างสั่นกลัว

บางทีพวกมันอาจจะกลัวข้ากระมัง

แต่พวกมันไม่ควรกลัว เพราะอาหาร…ไม่จำเป็นต้องมีอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ จุดประสงค์ของการมีอยู่ของพวกมันอาจเป็นอาหารให้ข้าเวลาหิว

หิวก็ต้องกิน นี่คือสิ่งที่เจ้านายคนที่สี่ของข้าพูดบ่อยครั้ง และข้าก็คิดว่า มันสมเหตุสมผลทุกครั้งที่ข้าหวนนึกถึง

ถึงแม้พวกมันจะกินยาก ร่างกายแข็งมากทำให้ข้ากินลำบาก แต่สุดท้ายข้าก็หาวิธีที่ชอบได้ นั่นก็คือหลังจากบดขยี้พวกมันให้ละเอียดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย จากนั้นก็ค่อยๆ ลิ้มรส

วิธีการกินนี้ยังคงดำเนินต่อไปจนถึงเจ้านายคนที่แปด แต่เขาไม่ชอบและหยุดข้าอยู่หลายครั้ง ข้าก็เลยกินเขาเข้าไป

เวลาผันผ่าน…ดังนั้นความทรงจำมักถูกนำทางโดยกิ่งไม้ เช่นนั้นกลับไปพูด เรื่องอาหารที่ข้าโปรดปรานเถอะ

สิ่งที่ข้าชอบกินที่สุดคือวิญญาณของพวกมัน มันอร่อยมาก ข้าหมกมุ่นกับมันจนบางครั้งก็ลืมนอนและจมอยู่ในสภาวะกลืนกิน แม้จะไม่หิวแล้วก็ยังอดไม่ได้ที่จะเพลิดเพลินไปกับความสุขสมหลังจากกลืนกินวิญญาณเข้าไป

ในความทรงจำของข้านับตั้งแต่เกิด หลายปีที่ผ่านมานี้ในอาหารจะมีพวกกบฏปรากฏขึ้นบ้างเป็นบางครั้ง ดูเหมือนพวกมันจะไม่อยากถูกข้ากิน ทุกครั้งที่พบอาหารเช่นนี้ ข้าจะมีความสุขเป็นพิเศษ…จากที่เจ้านายคนที่เจ็ดของข้าบอก นั่นไม่ได้เรียกว่าความสุข แต่เป็นความกระหายเลือดและความโหดร้าย

เพราะข้าชอบข่มเหงพวกมันอย่างสุดจิตสุดใจ ปล่อยให้พวกมันดิ้นรนซ้ำแล้วซ้ำเล่า สิ้นหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกระทั่งส่งกลิ่นชวนให้หมกมุ่นไปทั้งตัวแล้วจึงกัดทีละคำให้พวกมันสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดที่ร่างกายถูกฉีกจนตายไปในที่สุด

แต่น่าเสียดาย ก่อนที่จะได้พบกับเจ้านายคนที่สิบสาม ข้าไม่เคยเจอใครที่ทน ได้นานกว่าสามวันเลย นั่นทำให้ข้าคิดถึงเจ้านายคนที่สิบสามมาก และเสียใจด้วย ที่ครั้งหนึ่งเคยบ้าคลั่งจนดูดกินนางจนแห้งเหี่ยว

แต่ไม่เป็นไร การที่ข้าสามารถดูดกินจนแห้งเหี่ยวได้ แสดงว่านางไม่ใช่เจ้านายที่ข้ารอคอย

จำไม่ได้ว่าเมื่อไร บางทีอาจจะเป็นช่วงที่ข้าถือกำเนิด ดูเหมือนจะมีเสียงหนึ่งบอกให้ข้ารอใครสักคน คนๆ นั้นเป็นใคร ข้าไม่อาจทราบ รู้แต่เพียงว่า…นั่นคงจะเป็นโชคชะตาของข้ากระมัง

แต่การรอคอยไม่ใช่นิสัยของข้าเลย ดังนั้นวันหนึ่งที่ข้าเกือบจะกินอาหารใน หลุมศพจนหมด ข้าก็คิดจะออกไปจากที่นี่ อยากตามหาอาหารใหม่ๆ ใน โลกภายนอก…พูดให้ถูกคือตามหาผู้ดิ้นรนต่อต้านคนใหม่ แต่ข้าไม่สามารถพูดออกมาตรงๆ ได้ หากในอนาคตมีคนถาม ข้าจะบอกเขาว่าเหตุผลที่ข้าไปจากสุสานเป็นเพราะข้าอยากออกไปตามหาเจ้านายของข้า

เจ้านายที่ข้าเองก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร

ดังนั้นข้าจึงแผ่ร่องรอยพลังงานดึงดูดดวงจิตภายนอกเข้ามานับไม่ถ้วนและทำให้พวกเขาสัมผัสถึงข้าได้ และแล้ววันหนึ่ง…ก็มีคนมาที่สุสาน

เขาเป็นชายชราที่แผ่ความรู้สึกเสื่อมโทรมผุพังออกมา ข้าไม่ชอบเขาเพราะข้าคิดว่าเขาเป็นคนบ้า มิเช่นนั้น…เหตุใดเมื่อเห็นข้าและจับข้า เขาถึงได้ตกใจและหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง หัวเราะจนน้ำตาไหล หัวเราะจนตัวสั่นราวกับตื่นเต้นถึงขีดสุด และยังตะโกนอะไรที่เข้าใจได้ยาก

“ในที่สุดข้าก็หาเจอแล้ว ความทรมานและความอยุติธรรมที่ข้าได้รับมาตลอดชีวิตของข้าถูหลิง ข้าจะตอบแทนให้พวกเจ้าเป็นร้อยเป็นพันเท่าแน่นอน ข้า…”

ข้ารำคาญมาก ก็เลย…กินเจ้าคนบ้านั่นเข้าไป

ดังนั้นเจ้านายคนแรกของข้าจึงไม่มีแล้ว

ข้ามักจะสงสัยว่าที่เจ้านายคนอื่นๆ ถูกข้ากินด้วยเหตุผลต่างๆ เป็นเพราะเมื่อข้ากินเจ้านายคนแรกลงไปถึงได้รู้ว่าวิญญาณของอีกฝ่ายอร่อยกว่าอาหารอื่นๆ มากหรือไม่

ไม่ว่าคำตอบจะเป็นอะไร ไม่นานข้าก็ดึงดูดมาได้อีกคนหนึ่ง เป็นเด็กสาวตัวหอม ข้าชอบนางมาก ข้าตั้งใจที่จะไปกับนาง แต่หลังจากที่นางเห็นข้า นางก็ทำสีหน้าตกใจและหันหลังวิ่ง…

ดังนั้นข้าที่ได้รับความอับอายจึงจับนางกินไปเช่นกัน

ตอนนี้เมื่อนึกขึ้นได้ ข้าในตอนนั้นวิตกกังวลเกินไปและไม่ควรกินพวกเขาเร็วขนาดนั้น เพราะหลังจากนั้นก็ไม่มีใครมาอีกเป็นเวลานานจนข้าหิวโหยนับปี

กระทั่งข้าเกือบจะหมดสติเพราะความหิวโหย ในที่สุดก็มีคนมา เขาเป็นชาย วัยกลางคน ร่างกายเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองและความเย็นชา อีกทั้งยังมีพลังงานแห่งความตายแผ่ออกมา หลังจากที่เขามาหาข้า เขาก็ทั้งตกตะลึง ปีติยินดี และดูเสียสติ ข้าจึงคิดว่าเขาเป็นคนบ้าเช่นกัน ตอนที่ข้าอยากจะกินเขาด้วยความหิวโหย เขาก็พูดคำหนึ่ง

“มิน่าล่ะ…ที่สถานที่แห่งนี้ถูกระบุว่าเป็นหนึ่งในสามสถานที่ต้องห้าม ในความว่างเปล่าที่เหมือนสุสานแห่งนี้… มีทหารต้องห้ามถือกำเนิดขึ้น!”

ข้าก็ได้รู้จักคำว่าสุสานในตอนนั้นเอง แล้วก็ชอบมันด้วย บางทีอาจเป็นเพราะสิ่งนี้หรืออาจเป็นเพราะข้ากลัวที่จะต้องรอต่อไปจนต้องอดอาหารตายจึงยอมปล่อยให้เจ้านายคนที่สามผู้โง่เขลาคนนี้ดึงข้าออกจากขุมนรกอย่างไม่เต็มใจ!!

ใช่ ข้า…เป็นทหารต้องห้ามที่ถือกำเนิดในขุมนรกว่างเปล่า สามสถานที่ต้องห้ามของจักรวาลนี้

รูปร่างหน้าตาของข้าคือดาบสีดำที่ดูเหมือนเขี้ยวมังกร!

และหลังจากที่ข้าถูกพาออกจากขุมนรก ชีวิตของข้า…ก็เริ่มพลิกผัน เพราะเจ้านายของข้าคนนี้กระหายเลือด ดังนั้นหลังจากช่วยเขาเข่นฆ่าและกลืนกินไปนับครั้งไม่ถ้วน ข้ารู้สึกว่าเขาไร้พลังเล็กน้อย ดังนั้นเพื่อที่จะช่วยเหลือเขาให้ดีขึ้น ข้าจึงได้ขอร้องเขา

“ใช้ข้าฆ่าสิ่งมีชีวิตสิบล้านตัวทุกวัน!”

วันรุ่งขึ้นเจ้านายคนที่สามผู้โง่เขลาของข้าไม่สามารถทำตามที่ข้าร้องขอได้สำเร็จ เขาจึงถูกข้ากิน

จากนั้นไม่นานเจ้านายคนที่สี่ก็ปรากฏตัวขึ้น จุดที่ทำให้ข้ายอมรับเขาคือเขาชอบกินและกินทุกอย่าง ข้าคิดว่าเราจะเข้ากันได้อย่างมีความสุขมาก แต่กระทั่งวันหนึ่ง ตอนที่ข้ากำลังงีบหลับ เขาก็เกิดความคิดที่จะกินข้า อีกทั้งยังลงมือทำด้วย หลังจากที่ถูกข้ากินกลับตามสัญชาตญาณ ข้าก็เสียใจมากที่เสียเขาไป

แต่ไม่เป็นไร สิ่งที่ข้าขาดแคลนน้อยที่สุดคือเจ้านาย ขณะที่ข้ารอคอย เจ้านาย คนที่ห้า หก เจ็ด จนกระทั่งคนที่ 7546…ก็ปรากฏขึ้นทีละคนในระยะเวลาหมื่นปี

พวกเขามีทั้งชายและหญิง คนแก่และเด็ก หลากหลายชนเผ่า แต่ในที่สุดพวกเขาก็ถูกข้ากินเหมือนกันหมด เหตุนี้เองข้าจึงมีอีกชื่อหนึ่ง

ทหารอาฆาตไร้ที่มา!

ดูเหมือนจะเป็นเพราะเจ้านายของข้าทุกคนถูกข้ากลืนกิน ดูเหมือนเป็นเพราะ ข้าได้คร่าชีวิตไปมากเกินควร ร่างกายข้ามีชีวิตนับไม่ถ้วนและความโกรธแค้น ไร้ที่สิ้นสุดจากทุกเผ่าพันธุ์…ดังนั้นชื่อใหม่ของข้าจึงได้รับการยอมรับจากสิ่งมีชีวิตทั้งหมดอย่างรวดเร็ว

แต่ข้าไม่ชอบชื่อนี้เพราะข้าคิดเสมอว่าข้าเป็นเพียงดาบที่ต้องการตามหาเจ้าแห่งชีวิต ที่แท้จริงเท่านั้น หากอีกฝ่ายไม่มาหาข้า ก็มีแต่ข้าต้องออกไปตามหา ในกระบวนการตามหา อดีตเจ้านายที่เคยหลอกหลวงและชักจูงข้าพวกนั้นถูกข้ากินไปก็เป็นเพียง การแสดงความเคารพต่อเจ้านายที่แท้จริงของข้าเท่านั้น

ข้าบริสุทธิ์มาก

สี่คำนี้เป็นคำที่ข้าพูดเมื่อได้พบเจ้านายคนใหม่ในอีกไม่กี่ปีต่อมาหลังจากอีกฝ่ายเอ่ยถาม

เจ้านายคนใหม่ของข้าเป็นเด็กสาวหน้าตาสะสวย สวมชุดในวัง ตอนที่นางเดินเข้ามา กลิ่นของนางทั้งหอมทั้งหวานเป็นที่สุด

ข้าแอบคิดเอาเองว่านางคงจะอร่อยมาก

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version