บทที่ 1215 คำถามสามข้อ
“น่าสนใจ” หวังเป่าเล่อเผยรอยยิ้มมุมปาก ก่อนที่ร่างธรรมจะหายไป แล้วมาปรากฏตัวยังสะเก็ดดาวที่เขาพบอู๋น้อยในตอนนั้น
สะเก็ดดาว…ก็หายไปเช่นกัน
ราวกับไม่เคยปรากฏมาก่อน แม้หวังเป่าเล่อจะแผ่กระแสเต๋าออกไปก็หาไม่พบ แต่เขากลับรู้สึกถึงร่องรอยความผันผวนเล็กน้อยในช่วงหลายปีที่ผ่านมาตรงนี้
ร่องรอยนี้บางเบามาก ถึงขนาดที่ต่อให้เป็นจักรพรรดิสวรรค์มาก็คงไม่อาจสังเกตเห็นได้ มีเพียงหวังเป่าเล่อที่มีเต๋าแห่งแสง อีกทั้งเส้นทางที่เขาฝึกฝนยังเป็นกาลเวลานอกโลกที่สมบูรณ์กว่าโลกศิลาถึงจะสัมผัสถึงมันได้
“ทุกอย่างดูน่าสนใจขึ้นมาแล้วสิ” หวังเป่าเล่อพึมพำก่อนที่ร่างธรรมจะหายไป อีกครั้ง ในขณะเดียวกัน ร่างจริงของหวังเป่าเล่อที่นั่งอยู่ตรงหน้าปรมาจารย์แห่งไฟ ในระบบสุริยะก็เงยหน้ายิ้มให้อาจารย์ ก่อนจะหยิบกาน้ำชาขึ้นมารินใส่ถ้วย หลังจากยกขึ้นจิบแล้วก็หันไปมองอู๋น้อย
ในตอนที่เขาหันไปมองอู๋น้อยนั่นเอง อู๋น้อยก็เงยหน้ามองหวังเป่าเล่อ สองสายตาพลันประสานกัน อู๋น้อยรีบหลบหน้าตามสัญชาตญาณทันทีราวกับถูกไฟช็อต แต่ในพริบตาเขาก็ตอบสนองอีกครั้ง สีหน้าบิดเบี้ยวเสียยิ่งกว่าตอนร้องไห้ และพยายามเอาใจ เขามองหวังเป่าเล่ออย่างกระตือรือร้นและเอ่ยเสียงเบา
“ท่านพ่อ…”
ทันทีที่อู๋น้อยเอ่ยออกมา เจ้าเยี่ยเหมิงกับโจวเสี่ยวหยาก็เบิกตากว้างทันที นี่เป็นครั้งแรกที่อู๋น้อยเรียกหวังเป่าเล่อเช่นนี้ต่อหน้าพวกนาง ดังนั้นในดวงตาทั้งคู่จึง เต็มไปด้วยความเข้าใจผิด พวกนางมองอู๋น้อย ก่อนจะหันไปมองหวังเป่าเล่อ
หวังเป่าเล่อที่กำลังดื่มชาแม้จะระดับการฝึกตนสูงส่งจนน่าทึ่ง แต่ก็ยังอด กระแอมไอไม่ได้ ถึงอย่างไรเขาก็ผ่านเรื่องราวมามากมาย จึงวางถ้วยชาลงอย่างสงบแล้วเอ่ยเบาๆ
“เจ้าคือองค์ชายสายตรงของจักรวรรดิเสวียนเฉิน ข้าแซ่หวังมิอาจเอื้อมกับคำเรียกนี้”
เมื่อได้ยินดังนั้น เจ้าเยี่ยเหมิงกับโจวเสี่ยวหยาจึงมีสีหน้าผ่อนคลายลง แม้ในใจ จะรู้อยู่แล้วว่าไม่มีทางเป็นไปได้ แต่ในใจพวกนางก็ยังมีคลื่นระลอกใหญ่ไม่น้อย ขณะนี้เมื่อจิตใจสงบลง ความสงสัยใหม่ก็ผุดขึ้นจึงหันไปมองอู๋น้อย เห็นได้ชัดว่า สงสัยกับคำว่าจักรวรรดิเสวียนเฉินที่หวังเป่าเล่อกล่าว
ในพริบตาที่หวังเป่าเล่อเอ่ยถึงจักรวรรดิเสวียนเฉินและเจ้าเยี่ยเหมิงกับโจวเสี่ยวหยาหันไปมองอู๋น้อยนั่นเอง ดวงตาศิษย์พี่หญิงใหญ่ก็หดแคบ วัวเฒ่าเองก็มีแสงสว่างวาบผ่านดวงตาไป ปรมาจารย์แห่งไฟตรงหน้าหวังเป่าเล่อเองก็หรี่ตาลง
ส่วนเจ้าลาน้อยก็อาศัยจังหวะนี้สะบัดตัววิ่งหนีออกมาอย่างรวดเร็ว จ้องมองทุกคน อยู่ไกลๆ ด้วยความหวาดกลัวราวกับเพิ่งรอดชีวิต
อู๋น้อยที่กำลังถูกทุกคนจ้องมองอยู่ตัวสั่นสะท้าน สีหน้าคร่ำครวญ
“ท่านพ่อ ท่านไม่ต้องการข้าแล้วหรือ อู๋น้อยทำอะไรผิดหรือ ท่านบอกอู๋น้อยสิ อู๋น้อยจะปรับปรุงตัว ท่านอย่าทิ้งข้านะ”
“อู๋น้อย ตอบคำถามข้าสามข้อ” หวังเป่าเล่อเอ่ยช้าๆ ละสายตาจากอู๋น้อยไปยังเจ้าเยี่ยเหมิงและโจวเสี่ยวหยา เขาเริ่มมั่นใจในข้อสันนิษฐานของตนมากขึ้น
เพราะ…ตามที่อาจารย์ได้พูดไว้ หากไม่มีระดับการฝึกตนเพียงพอ ต่อให้ เจ้าเยี่ยเหมิงกับโจวเสี่ยวหยาได้ยินชื่อจักรวรรดิเสวียนเฉินก็ไม่มีทางจำได้ ทว่าตอนนี้ ดูจากสีหน้าพวกนางแล้ว พวกนางจำได้อย่างแน่นอน
เรื่องนี้ปรมาจารย์แห่งไฟก็มองเห็นเช่นกัน ดังนั้นหลังจากสองศิษย์อาจารย์สบตากันและอู๋น้อยก็พยักหน้าอย่างกล้าๆ กลัวๆ หวังเป่าเล่อจึงเอ่ยออกมา
“อู๋น้อย ไม่ต้องแสดงท่าทีหวาดกลัวเช่นนี้แล้ว ไม่ว่าเจ้าจะตอบหรือไม่ตอบ ข้าก็จะไม่ทำอะไรเจ้า ถึงอย่างไรตลอดเวลาที่ผ่านมา เจ้าลาน้อยก็เปลี่ยนแปลง ได้อย่างทุกวันนี้เพราะเจ้า”
“โดยเฉพาะความทรงจำในอารยธรรมดวงเนตรสวรรค์ของข้า ตอนที่อารยธรรมครามทองคำปรากฏตัวและจับเจ้าลาน้อย เจ้าและเยี่ยเหมิงไปเพื่อข่มขู่ข้า เจ้าคงคิดจะเปิดเผยตัวตนและลงมือ แต่เมื่อเห็นว่าข้าจัดการได้ เจ้าจึงไม่เปิดเผย”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น อู๋น้อยก็เลิกตัวสั่นและยืนอยู่ตรงนั้นอย่างสงบนิ่ง ไม่เอ่ยอะไร
“ดังนั้นเจ้าลองคิดดูก่อนก็ได้ว่าจะตอบคำถามข้าหรือไม่” หวังเป่าเล่อเอ่ยเสียงเบา เขาไม่ได้โกหกอู๋น้อย คำถามสามข้อที่เขาจะถามต่อจากนี้ ถึงแม้อีกฝ่ายไม่ตอบ เขาก็จะไม่ทำอะไร และยังจะช่วยเหลือเท่าที่จะทำได้เพื่อให้ทุกคนจากกันด้วยดี
“ข้อแรก อู๋น้อย เจ้าเป็นใครกันแน่”
“ข้อสอง เหตุใดเจ้าถึงเลือกข้า”
“ข้อสาม จุดประสงค์ของเจ้าคืออะไร”
คำถามสามข้อจากหวังเป่าเล่อดูเหมือนจะธรรมดาทั่วไป แต่ทุกคำถาม… มีความหมายลึกซึ้ง คำถามแรกถามถึงตัวตน ถามถึงต้นกำเนิด อย่างเช่นตัวตน ที่แท้จริงหรือภูมิหลังทั้งหมด จะตอบอย่างไรล้วนขึ้นอยู่กับเจตนา
คำถามที่สองเป็นการบอกอู๋น้อยว่าเขารู้เรื่องทุกอย่างแล้ว
คำถามที่สามคือการถามถึงจุดจบ และเช่นเดิมว่าทุกคำตอบขึ้นอยู่กับเจตนาและวิธีอธิบาย
อู๋น้อยเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะเงยหน้ามองหวังเป่าเล่อ สายตาของเขาดูซับซ้อนและขมขื่น จากนั้นไม่นานก็ถอนหายใจก่อนจะประสานมือคำนับหวังเป่าเล่อ
“สมกับที่เป็นท่านพ่อ อู๋น้อยขอชื่นชมท่าน คำถามสามข้อนี้ดูธรรมดา แต่ใน ความเป็นจริงคำตอบของข้าจะแสดงถึงจิตใจของข้า สิ่งที่ท่านพ่อต้องการไม่ใช่คำตอบ แต่เป็นทัศนคติของข้า”
หวังเป่าเล่อมองอู๋น้อยก่อนจะพยักหน้ายิ้มๆ
อู๋น้อยยิ้มอย่างขมขื่น ก่อนจะเดินตรงมายังข้างกายหวังเป่าเล่อ หลังจาก ประสานมือคำนับเขากับปรมาจารย์แห่งไฟแล้วก็นั่งลงกับพื้นและถอนหายใจ
“ท่านพ่อ ข้ามีนามว่าจี้อู่จื่อจริงๆ และมาจากจักรวรรดิเสวียนเฉินอย่างแน่นอน เพียงแต่ไม่ใช่ในกาลเวลานี้ พูดให้ชัดเจนคือข้ามาจากอดีต ตอนที่จักรวรรดิเสวียนเฉินถูกทำลาย ข้าก็ถูกส่งตัวออกมาแล้ว”
“ส่วนเหตุผลที่เลือกท่านพ่อ แท้จริงตอนที่ได้ยินคำถามนี้ข้าก็เข้าใจแล้ว ท่านรู้ ทุกอย่างมากเลยทีเดียว จริงๆ แล้วหลังจากข้าตื่นขึ้นมาก็ตามหาอยู่นาน จนวันหนึ่งข้าสัมผัสได้ถึงพลังปราณของท่านพ่อ มันราวกับข้ามีความรู้สึกบางอย่างจึงได้ ปรากฏตัวขึ้น เพราะข้ารู้สึกสนิทสนมกับท่านมาก ราวกับว่าท่านคือคนที่ข้าเฝ้ารอ ข้าก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงรู้สึกแบบนี้”
“ส่วนจุดประสงค์ของข้า ท่านพ่อเคยถามคำถามนี้กับข้าไปแล้ว ข้าไม่ได้โกหกท่านและไม่มีเจตนาร้าย ข้าแค่อยากกลับบ้านและหวังว่าท่านพ่อจะช่วยให้ข้า กลับบ้านได้”
“จักรวรรดิเสวียนเฉินล่มสลายไปแล้ว” ปรมาจารย์แห่งไฟเอ่ยแทรก ดวงตาที่มองอู๋น้อยเป็นประกายวาววับ
“ปรมาจารย์แห่งไฟ…” อู๋น้อยรีบกำมือแล้วกล่าวเสียงเบา
“ท่านปรมาจารย์ ข้าไม่รู้ว่าควรจะอธิบายอย่างไร แต่ข้าจะบอกความจริงบางอย่าง อย่างแรกสถานที่ซึ่งเป็นบ้านเกิดของข้ามีชื่อว่าจักรพิภพเต๋าไม่รู้สิ้น แต่ในประวัติศาสตร์จักรพิภพเต๋าไม่รู้สิ้นบ้านเกิดข้าไม่มีสำนักแห่งความมืด…”
“ส่วนจักรวรรดิเสวียนเฉินนั้นถูกตระกูลไม่รู้สิ้นทำลายเพราะตั้งตัวเป็นอิสระจริง คนที่ลงมือ…ในจักรพิภพเต๋าไม่รู้สิ้นบ้านเกิดข้าเรียกเขาว่า…มหาเทพ”
“ขณะเดียวกัน…แม้จักรวรรดิเสวียนเฉินจะล่มสลาย แต่พ่อข้า…ซึ่งก็คือ จักรพรรดิแห่งเสวียนเฉินไม่ได้ดับสิ้นไปด้วย ข้ารู้สึกได้ว่าเขากำลังรอข้ากลับไป…”
“ตอนที่ข้าตื่นขึ้นมาก็คิดว่าที่นี่คือบ้านเกิดของข้า แต่ไม่นานข้าก็ค่อยๆ ค้นพบว่าที่นี่…ไม่ใช่ ข้าเองก็ไม่รู้ว่ามาปรากฏตัวที่นี่ได้อย่างไร…” อู๋น้อยเอ่ยตอบเสียงต่ำ
คำพูดของเขาทำให้ปรมาจารย์แห่งไฟลุกขึ้นด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ ด้านหวังเป่าเล่อก็ดวงตาหดแตบ หลังจากมองลึกเข้าไปในดวงตาอู๋น้อย ในหัวก็นึกถึงคำพูดของ บิดาของแม่นางน้อยที่เคยเอ่ยไว้หลังจากปรากฏตัวในอดีตชาติของเขา
“ที่นี่ไม่ใช่จักรพิภพเต๋าไม่รู้สิ้นที่แท้จริง…”