บทที่ 1448 อย่างไรจึงสำราญ?
“ชีวิตมนุษย์นี่นา…” ภายในตำหนัก ชายชุดดำที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หัวเราะพลางพึมพำ
“หวังอีอีนำอดีตและปัจจุบันของข้าไปแล้ว ส่วนหวังเป่าเล่อก็เอาปัจจุบันของข้าไป กระทั่งชื่อข้ายังมอบให้เขาแล้ว…น่าสนใจ น่าสนใจ”
“กลับกันแล้ว เรื่องพวกนี้ข้ายินยอมและเป็นข้าริเริ่มเอง…”
“ตั้งแต่เมื่อไรที่ข้ามีจิตใจที่เสียสละและยินยอมสังเวยเช่นนี้…ยังจำเมื่อสมัยเด็กได้ เพื่อน้ำตาลก้อนเดียว ข้าถึงกับตั้งชื่อพิเรนทร์ให้กับหัวหน้าชั้น…”
“สุดท้ายนี้…ยัย ตู้หมิน ยังกลายเป็นคู่เต๋าบำเพ็ญของหลินเทียนหาว ข้าว่านางชอบข้าชัดๆ”
“แล้วยังโจวเสี่ยวหยา เจ้าเยี่ยเหมิง ยังมีโลกแห่งศิลาแล้วยังจะหวังอีอี…ยังมี หลี่หว่านเอ๋อร์นั่นอีก น่าเสียดาย…น่าเสียดาย…”
“ในชีวิตนี้ของข้า ทำไมถึงจำได้ขึ้นมาถึงความทุกข์โศกเหล่านั้นเล่า” ชายชุดดำนั่งอยู่ตรงนั้นพลางยิ้มก่อนจะยกมือขวาขึ้นพลิก น้ำเย็นหล่อวิญญาณขวดหนึ่ง ปรากฏขึ้น เขาเหลือบมองครั้งหนึ่งแล้วส่ายหน้าพลางพลิกมืออีกครั้ง สุราข้าว ขวดหนึ่งปรากฏขึ้นมา จากนั้นเขาจึงยกมันชิดริมฝีปากก่อนจะกระดกลงไปคำโต
“ข้าถือกำเนิดในศักราชใหม่แห่งสหพันธรัฐภายหลังที่กระบี่สำริดมาถึง ในเวลาที่ข้าถือกำเนิด…อสูรดุร้ายในสหพันธรัฐนั้นดูเหมือนสงบนิ่ง แต่ในความจริงอันตราย ก่อเกิดขึ้นทั่วทิศแล้ว!”
“หลังข้าถือกำเนิด สหพันธรัฐเจริญรุ่งเรืองโดยตลอด ข้าสยบหมื่นตระกูล ตระกูลไม่รู้สิ้นล่มสลายเพราะข้า ระบบสุริยะแผ่ขยายไพศาล และโลกแห่งศิลาได้ แปรมาอยู่กลางฝ่ามือของข้า ข้าเคยเหยียบผ่านสะพานข้ามสวรรค์ มีมรรคาเต๋าของข้าอยู่ในดินแดนเซียน!
มหาเทพก็คือข้า สิ่งมีชีวิตแรกที่ถือกำเนิดในมหาจักรวาลนี้ก็คือข้า คำว่า “เซียน” นี้เกรงว่าข้าจะเป็นคนมอบให้มหาจักรวาลนี้เอง…เมื่อคิดไปเช่นนี้ เหมือนข้าได้มอบอะไรมากเกินไปจริงๆ” ชายชุดดำพูดกับตนเองแล้วจากนั้นก็ดื่มต่ออึกใหญ่
“มารดามันเถอะ ข้ายังไม่ทันได้เป็นประธานสหพันธรัฐเลยนะ!” ชายชุดดำ พลันชะงัก จากนั้นเขาใช้ฝ่ามือโยนขวดอันว่างเปล่าไปไว้บนชั้นวาง
“รู้สึกยอมไม่ได้อยู่บ้าง” เมื่อเขาคิดถึงเรื่องนี้ มือขวาพลันพลิกอีกครั้ง คราวนี้ ในมือมีสมุดเล่มหนึ่ง
สมุดนี้นามว่า อัตชีวประวัติเจ้าพนักงานระดับสูง
ชายชุดดำมองมัน จากนั้นก็ใช้มือซ้ายลูบชื่อนั้นเบาๆ…คำว่าเจ้าพนักงานระดับสูงหายไป แต่สิ่งที่แทนที่กลับเป็นคำว่า “เป่าเล่อ” สองคำ
หลังจากนั้นก็รู้สึกว่ายังไม่เหมาะสม ดังนั้นจึงเปิดไปหน้าสุดท้าย เขาโบกมือครั้งหนึ่ง พลันเขียนข้อความหนึ่งบรรทัด
ในปีศักราชที่ 3800 ผู้นำของสหพันธรัฐที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ราชันแห่งระบบสุริยะ เจ้าแห่งโลกในศิลา ผู้ปกครองของมหาจักรวาล ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ ถือกำเนิด
เมื่อเขียนถึงตรงนี้ ชายชุดดำก็ยิ้มอย่างเบิกบานใจ แต่ตรงมุมหางตาของเขากลับปรากฏหยาดน้ำวาววาม…กระทั่งครึ่งครู่ให้หลัง เขาก็หัวเราะเสียงดัง พลิกร่างกลับ ลุกขึ้น
“ระยะเวลาตื่นไม่มากแล้ว ยังมีอีกสองเรื่องต้องไปทำให้เสร็จ” ชายชุดดำโบกมือ จากนั้นก็หยิบอัตชีวประวัติเป่าเล่อโยนไปในความว่างเปล่า ก่อเกิดคลื่นสะเทือนในมหาจักรวาล หลังจากนั้นดวงตาของเขาก็หม่นแสง
เขาเข้าใจดีถึงวิธีการทำลายจิตแห่งปรารถนา ก็คือให้ตนไปช่วงชิงชีวิตอีกฝ่ายเสีย เมื่อตนเองสำเร็จแล้ว จิตแห่งปรารถนาก็จะสิ้นสูญไป ส่วนร่างที่เกิดแต่ปรารถนานี้ ความปรารถนาในกายก็จะวุ่นวายไร้ระเบียบ ดังนั้นในเวลาที่ช่วงชิงสำเร็จก็หมายถึงตนเองละทิ้งทุกสิ่ง และกลายเป็นเพียงภาชนะของความปรารถนาเท่านั้น
หากว่าเขาคิดอยากประคองสติไว้ต่อ ก็มิใช่จะไม่ได้ เพียงแต่ค่าตอบแทน… เขาต้องสูบกลืนชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วนตลอดไป และอาศัยพลังชีวิตอันเข้มข้นนี้มาประคองลมหายใจรวยรินต่อได้ ก็เหมือนมหาเทพนั่นแหละ
ทว่าหากเป็นเช่นนี้ สำหรับทั้งมหาจักรวาลแล้วนั้น นับเป็นคราวเคราะห์ครั้งหนึ่ง เขาไม่คิดทำเช่นนี้และไม่อยากกลายเป็นเช่นนี้ อีกทั้งไม่อยากให้ผู้อื่นพบเห็นตน แบบนี้ด้วย
“ในเมื่อมาเงียบๆ ก็ควรไปเงียบๆ…” ชายชุดดำถอนหายใจยาว ในดวงตาของเขานั้นประกายสีดำแล่นผ่านแทบจะครอบคลุมเก้าส่วนในดวงตาทั้งสองของเขา เขาค่อยๆ ลุกขึ้นยืนครู่หนึ่ง หลังจากนั้นยกเท้าขึ้น…ก้าวเท้าหนึ่งไปด้านหน้า!
สิ่งที่ปรากฏขึ้นถัดมา ก็คือเงาร่างของเขาอยู่ท่ามกลางหมู่ดาราในจักรวาล ต้นกำเนิดแล้ว เกือบจะในพริบตาที่เขาปรากฏตัว ทั้งมหาจักรวาลก็ส่งเสียงร้องดังลั่น ราวกับว่ามีกระแสจิตมาถึง และราวกับยอดศัตรูปรากฏร่าง!
กระทั่งย่างก้าวของเขาก็ปรากฏรอยแตกร้าว ราวกับว่ามหาจักรวาลนี้ไม่อาจทนรับได้
ยิ่งไปกว่านั้นมีกระแสจิตอันแข็งกล้าแต่ละสายวิ่งมารวมตัวกันจากแต่ละทิศ รวมกันอยู่ที่นี่
“เจ้าคือหมาป่าตาขาวงั้นรึ?” ชายชุดดำกวาดตามองกระแสจิตของมหาจักรวาลที่มายังที่แห่งนี้ เอ่ยอย่างไม่พอใจ
พริบตาถัดมา กระแสจิตของมหาจักรวาลในสถานที่นี้พลันลบความเป็นศัตรู คล้ายกับว่ามีเสียงถอนหายใจบางเบาสะท้อนก้องไปในจักรวาล
ชายชุดดำจึงค่อยพอใจ หลังจากก้มหน้ามองจักรวาลต้นกำเนิดใต้ฝ่าเท้าแล้วเขา ก็ส่ายหน้า
“เรื่องแรกก็คือลบที่นี่ทิ้งไป จักรวาลต้นกำเนิด…ไม่จำเป็นต้องมีอยู่แล้ว” ระหว่างที่เอ่ย ชายชุดดำไม่ได้ยกมือสักนิด เพียงแค่ว่าในดวงตาของเขานั้นทำให้จักรวาล ต้นกำเนิดที่เหมือนวังวนพังทลายลงทันที มิติด้านในจำนวนนับไม่ถ้วนนั้นสิ้นสลาย ทว่าในส่วนของสิ่งมีชีวิตในจักรวาลนั้น ชายชุดดำไม่ได้ไปทำลาย เขาแค่เคลื่อนย้ายพวกเขาออกไป
ในส่วนของผู้แข็งแกร่งนับแต่บรรพกาลมาเหล่านั้น หลังจากกลับมหาจักรวาลแล้วจะพบว่าเกิดอะไรขึ้นหรือไม่ ชายชุดดำไม่สนใจ โดยเฉพาะในตอนนี้…ไม่เหมือนแต่ก่อนแล้ว มองไปทั้งมหาจักรวาล ตอนนี้มีผู้ที่สามารถจัดการผู้เยี่ยมยุทธ์จาก บรรพกาลเหล่านี้ได้แล้ว
ในชั่วพริบตาหนึ่ง จักรวาลต้นกำเนิด…ก็หายวับ
สถานที่ที่มันเคยมีอยู่นั้น ได้กลายเป็นรูโหว่ขนาดยักษ์ จากนั้นทุกสิ่งก็สมาน เข้ากันอย่างรวดเร็ว กลายเป็นพื้นที่ว่างเปล่าไร้สรรพสิ่งใดๆ อยู่ เกรงว่าในอีก พันปีต่อมา ที่นี่ก็อาจจะมีดาวเคราะห์ถือกำเนิดและมีอารยธรรมก็ได้
“ต่อไปนี้ ก็เป็นเรื่องที่สองแล้ว…” ชายชุดดำพึมพำ เขาแหงนหน้า เส้นสายสีดำในดวงตานั้น บัดนี้คลุมพื้นที่ถึง 99 ส่วน เหลือเพียงส่วนเล็กๆ เท่านั้น เขามองไป รอบทิศ หลังจากนั้นก็จ้องประสานกลับไปทางกระแสจิตอันแข็งกล้าที่มารวมตัวกัน จ้องกลับไปทีละสาย
ในพริบตาถัดมา เสียงจากลำคอที่เหมือนได้รับบาดเจ็บก็ดังมาจากทั่วทิศทีละเสียง ราวกับว่าการถลึงตามองของเขาก่อผลกระทบกับคนพวกนี้ทุกคน
“นี่ถือเป็นการคืนให้พวกเจ้าที่มาแก้แค้นข้าในปีนั้น ข้าไม่เจ้าคิดเจ้าแค้นเหมือนกับพวกเจ้า ตัดเหตุผลต้นกรรมแล้ว พวกเจ้าอยู่ดี ข้าก็อยู่ดี!”
กล่าวพวกนี้จบแล้ว ชายชุดดำก็แหงนหน้า ก่อนจะเอ่ยปากเสียงดัง
“ผู้อาวุโสหวัง!”
“ข้าอยากใช้พลังของตัวข้าเอง เนรเทศตัวเองออกไปตลอดกาล เหลือเพียงขั้นตอนเดียว ข้าหวังว่า…จะได้รับความช่วยเหลือจากผู้อาวุโส เกรงว่าน่าจะพอแล้ว”
“ผู้อาวุโส โปรดร่วมมือกับข้า…เนรเทศข้า…ออกไปเถอะ!”
มีเสียงถอนหายใจเบาๆ ดังลอดอากาศว่างเปล่ามา เงาร่างบิดาของหวังอีอี พลันปรากฏ เขาเดินออกมา ยืนอยู่ตรงนั้นจ้องมองชายชุดดำ
ชายชุดดำเองก็มองบิดาของหวังอีอีก่อนจะฉีกยิ้ม
“ที่แท้ ผู้อาวุโสก็อยู่บนจุดสูงสุดของแดนพิภพแล้วจริงๆ ขาดอีกเพียงนิดเดียว… ก็สามารถย่างเข้าสู่แดนสวรรค์ได้ แต่กลับไม่อาจชะล้างเหตุผลต้นกรรม เมื่อท่าน แปดเปื้อนธุลีไปแล้ว ย่อมไร้ซึ่งสวรรค์”
“มิได้เป็นเช่นนี้ เรื่องสวรรค์นั้นไร้อุปสรรคและความหวัง แต่วิญญาณของมหาเทพมิได้มาจากแดนพิภพ แตกต่างจากท่าน เมื่อเมื่อแปดเปื้อน…ในระบบ ดาราแห่งพิภพจะมีด่านเคราะห์สวรรค์กำเนิด นี่คือสัญญาระหว่างแดนพิภพ และสวรรค์ ท่านควรจะทราบ”
ชายชุดดำนิ่งเงียบ ครึ่งครู่จึงยิ้ม
“ขอให้ผู้อาวุโสโปรดส่งเสริมด้วย!” ระหว่างที่กล่าว เขาก็หันไปคำนับให้แก่ บิดาของหวังอีอีลึกซึ้งครั้งหนึ่ง
บิดาของหวังอีอีนิ่งเงียบไปเนิ่นนาน ก่อนจะหันมองชายชุดดำ แล้วโค้งกลับไปเช่นกัน และในเวลาเดียวกัน รอบด้านของเขาก็พลันปรากฏเงาร่างมายาหลายสาย เงาร่างเหล่านี้แต่ละท่านล้วนตัวตนสั่นสะเทือนฟ้าดิน ลมปราณเขย่าฟ้า ชายชุดดำ เมื่อมองไป ก็คุ้นเคยกับเหตุผลต้นกรรมเหล่านี้ยิ่ง
ส่วนพวกเขาหลังจากปรากฏตัวก็พากันมองอีกฝ่าย ก่อนจะ…โค้งคำนับลึกซึ้ง ให้ครั้งหนึ่ง
เพื่อแสดงความขอบคุณ!
และในพริบตาถัดมา บิดาของหวังอีอีก็ยกมือขวาขึ้นทันที โบกมันหนึ่งครั้ง ขณะเดียวกันกับที่ชายชุดดำเองก็ยิ้มอยู่ เขายกมือขึ้น แล้วตบลงบนศีรษะของตนอย่างแรง
ชั่วพริบตานั้น ร่างกายของเขาพลันแหลกกลายเป็นความว่างเปล่า ภายใต้แรงระดับขีดจำกัดระดับพิภพสองสายนี้…ก็ถูกเนรเทศ…ไปไกลลิบ!
ระยะห่างนั้นยิ่งไกลจากมหาจักรวาลนี้ มากขึ้นเรื่อยๆ ห่างไปไกลแสนไกล…
ท่ามกลางการเนรเทศอันไม่รู้สิ้นนี้ นัยน์ตาทั้งสองของชายชุดดำก็ได้กลายเป็น สีดำโดยสมบูรณ์…
“ข้าเป็นเซียนมิได้…แต่เจ้าเป็นได้” นี่คือประโยคสุดท้ายของเขา หลังจากเสียงนี้หายลับไปแล้ว ชายชุดดำก็สิ้นสติไปจนหมด ท่ามกลางทะเลดาราอันยิ่งใหญ่ เขาได้กลายเป็นหมอกควันแห่งความปรารถนา ลอยละล่องไปตลอดกาล
และทุกคนที่เห็นฉากนี้อยู่ต่างก็พากันก้มหน้าเงียบงัน แล้วโค้งคำนับอีกครั้ง
ท่ามกลางจักรวาลอันไกลโพ้น ณ ดาวเคราะห์ที่แสนธรรมดาดวงหนึ่ง ร่างแยกของหวังเป่าเล่อก่อนหน้ายังคงยืนอยู่ตรงนั้น น้ำตาไหลอาบออกจากดวงตาของเขา ร่างกายสั่นเทิ้ม เขาคุกเข่าก่อนจะโขกศีรษะลงไป