Skip to content

A World Worth Protecting 204

บทที่ 204 ข้าจะทุ่มพลังทั้งหมด

เมล็ดดูดกลืนตรงกลางอกหวังเป่าเล่อแสดงความกระหายอยากดูดกลืน       ปราณวิญญาณที่ไหลเข้ามาในร่างหวังเป่าเล่อ คอยเฝ้าสังเกตปราณวิญญาณที่กำลังส่งผ่านเข้ามา พอปราณวิญญาณเข้าสู่ร่างกาย เมล็ดดูดกลืนก็สูญเสียการควบคุม     เริ่มหมุนวนช้าราวกับกำลังหิวกระหาย

แต่มันก็ไม่กล้าหมุนเร็วจนเกินไป เพราะกลัวว่าปราณวิญญาณที่ไหลเข้ามาจะหนีออกไปด้วยความหวาดกลัว…

หากเมล็ดดูดกลืนแค่หมุนไปมาด้วยความหิวกระหายคงจะไม่เป็นอะไร แต่ขณะที่เมล็ดดูดกลืนหมุนไปมา มันก็ค่อยๆ ผสานเข้ากับร่างกายของหวังเป่าเล่อ            สสารปริศนาที่ไม่ปรากฏในสถานการณ์ปกติเริ่มไหลออกมาจากส่วนต่างๆ ของร่างกาย

ไม่นานสสารทั้งหลายก็ไหลมารวมกันกลายเป็นสายฟ้าสีดำเคลื่อนไปในร่างกายชายหนุ่มอย่างเชื่องช้า หากเจ้าก้อนนี้มีตา มันคงจะมองต้นไม้ยักษ์อย่างสนใจใคร่รู้

ขณะเดียวกัน ภายใต้เปลือกตาที่ปิดอยู่ของหวังเป่าเล่อผู้ไร้สติ แสงสีม่วงค่อยๆ ปรากฏขึ้นในลูกตาที่ไร้ชีวิตชีวา ปราณวิญญาณที่ไหลเข้าร่างหวังเป่าเล่อนั้นช่าง     หอมหวานเย้ายวนใจ จนมันอยากจะกระจายไปทั่วร่างแต่ก็หวาดหวั่นสายฟ้าสีดำและเมล็ดดูดกลืน จึงค่อยกระจายออกไปช้าๆ ราวกับว่ากำลังหยั่งเชิงอยู่

สายฟ้าสีดำและเมล็ดดูดกลืนไม่ได้สนใจอักขระสีม่วงที่กำลังกระจายไปทั่วร่าง           แต่มุ่งความสนใจทั้งหมดไปยังต้นไม้ยักษ์และปราณวิญญาณที่เพิ่มขึ้นแทน

หลังจากหยั่งเชิงอยู่สักพัก อักขระสีม่วงก็เริ่มกระจายตัวออกเป็นวงกว้าง        มันเลือกที่จะนิ่งสงบดังเช่นสายฟ้าสีดำและเมล็ดดูดกลืน ขณะเฝ้าสังเกต            ปราณวิญญาณและสติสัมปชัญญะของต้นไม้ยักษ์

สติสัมปชัญญะของต้นไม้ยักษ์ดูจะไม่รู้สึกถึงพลังทั้งสามที่อยู่ในกายหวังเป่าเล่อ ยังคงปล่อยปราณวิญญาณไปหล่อเลี้ยงหวังเป่าเล่อเพื่อเข้าแทรกซึมและ               ลบสติสัมปชัญญะของหวังเป่าเล่อต่อไป

หากหวังเป่าเล่อมีสติอยู่ เขาคงจะคลุ้มคลั่งไปกับพลังที่จู่ๆ ก็โผล่ขึ้นมาในร่าง…

เวลาผ่านไป พลังทั้งสามคอยเฝ้าสังเกตปราณวิญญาณ เมื่อสติสัมปชัญญะของต้นไม้ยักษ์และปราณวิญญาณเข้ามาในร่างกายของหวังเป่าเล่อโดยสมบูรณ์ เริ่มลบสติสัมปชัญญะของชายหนุ่มไปเกือบหมด ดูเหมือนกำลังจะเข้ายึดครองร่างได้สำเร็จ ทันใดนั้น อักขระสีม่วงก็บ้าคลั่งจนเกินควบคุม พุ่งโคจรไปทั่วทั้งร่างทันที!

ฉับพลันที่พุ่งไปก็ก่อให้เกิดทะเลสีม่วงพลังล้นเหลือ อักขระสีม่วงมุ่งไปหาสติสัมปชัญญะของต้นไม้ยักษ์ที่เพิ่งเข้ามาในร่างกายของหวังเป่าเล่อ อักขระสีม่วงดูจะมีพลังสามารถทำลายสติสัมปชัญญะของต้นไม้ยักษ์ได้ พลันทะเลสีม่วงก็ดูดกลืน   ปราณวิญญาณก่อนที่สติสัมปชัญญะของต้นไม้ยักษ์จะทันรู้ตัวด้วยซ้ำ!

หลังจากกลืนกินปราณวิญญาณไปได้หนึ่งในสิบส่วน ทะเลสีม่วงก็พยายามจะ  กลืนกินต่อ แต่สายฟ้าสีม่วงก็พุ่งปราดเข้ามาหาเสียก่อน ทำให้ทะเลสีม่วงต้องถอยออกไปในทันใด ไม่กล้าเข้าใกล้อีก

สายฟ้าสีดำนั้นรวดเร็วและจองหองยิ่งนัก มันพุ่งเข้าไปหาปราณวิญญาณและดูดกลืนอย่างรุนแรง กลืนกินไปได้ถึงห้าในสิบส่วน ก่อนจะจากไปหลังจากพอใจแล้ว

ทะเลสีม่วงและสายฟ้าสีดำดูดกลืนปราณวิญญาณอย่างรวดเร็ว สติสัมปชัญญะของต้นไม้ยักษ์ที่มึนงงจากอิทธิพลของทะเลสีม่วงไม่ทันรู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่า           ปราณวิญญาณของตนถูกดูดกลืนไปแล้ว

ขณะที่ปราณวิญญาณที่ถ่ายเทเข้าร่างกายหวังเป่าเล่อถูกดูดกลืนไปเป็นจำนวนมาก เมล็ดดูดกลืนในตัวหวังเป่าเล่อก็เริ่มขยับตัว มันเคลื่อนตัวไปข้างหน้าช้าๆ ก่อนเริ่มหมุนวนอย่างรุนแรง ทำให้เกิดแรงสูบมหาศาล ในชั่วพริบตา แรงสูบก็กระจายออกจากร่างกายของหวังเป่าเล่อ ดูดกลืนปราณวิญญาณที่เหลืออยู่ อีกทั้งยังแปลงร่าง    ชายหนุ่มให้กลายเป็นหลุมดำขนาดยักษ์ ดูดกลืนทุกสิ่งอย่าง ไม่ว่าจะเป็นของ       เหลวเหนียวหนืดที่อยู่ในรังไหมไปถึงต้นไม้ใหญ่อย่างบ้าคลั่ง!

ทันใดนั้นก็เกิดเสียงดังขึ้น รังไหมที่ห่อหุ้มหวังเป่าเล่ออยู่เหี่ยวแห้งลงทันตา ของเหลวเหนียวหนืดข้างในก็แห้งเหือดไปกลายเป็นสารอาหาร ก่อนจะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายของหวังเป่าเล่อ

การดูดซึมของเมล็ดดูดกลืนทำให้ร่างกายของหวังเป่าเล่อแข็งแกร่งขึ้น เลือดเนื้อของชายหนุ่มเกิดการเปลี่ยนแปลง กระดูกมีความแข็งแกร่งมากขึ้น พละกำลังก็เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน!

ในขณะเดียวกัน แรงดึงดูดที่เกิดขึ้นส่งผลไปถึงสมองของหวังเป่าเล่อดังว่ามี  หนามแหลมทิ่มแทงไปกลางหน้าผากส่งผลให้ร่างกายของชายหนุ่มสั่นไหวอย่างรุนแรง ทำให้เขาต้องลืมตาตื่น

หวังเป่าเล่อเบิกตาโพลง นิ่งตะลึงไปพักหนึ่ง ภาพเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ฉายวาบขึ้นในหัว เขาจำได้ว่าตัวเองโดนมือพฤกษายักษ์จับไว้ ขณะพยายามดิ้นรนอยู่นั้นก็หมดสติไปเสียก่อน

ที่นี่ที่ใดกัน…หัวใจของหวังเป่าเล่อเต้นแรง เขาสัมผัสได้ถึงปราณวิญญาณรอบกาย รวมถึงของเหลวเหนียวหนืดใต้เท้าที่ทำให้เขาฉงนใจ

ทันใดนั้น เขาก็สัมผัสได้ว่าเมล็ดดูดกลืนภายในกายเขากำลังปลดปล่อยแรง      สูบอย่างบ้าคลั่ง

เกิดอะไรขึ้น…ขณะที่เขากำลังสับสน กิ่งไม้ที่เจาะตรงหน้าผากเขาก็แห้งเหี่ยวและแหลกละเอียดไป

หวังเป่าเล่องุนงงหนักขึ้นไปอีกเมื่อเห็นเศษไม้ร่วงลงมาจากหัวของตน ขณะนั้น    ก็สัมผัสได้ว่ามีพลังงานไหลเวียนอยู่เต็มร่างกาย ระดับการฝึกตนก็เพิ่มขึ้นสูง เขาเงยหน้ามองสำรวจสิ่งรอบกาย

หรือว่าเจ้าต้นไม้ยักษ์พยายามแทรกซึมข้า แต่ดันโดนเมล็ดดูดกลืนจัดการแทน เมื่อคิดได้เช่นนั้น เขาก็เริ่มระมัดระวังตัว หลังจากรอจนของเหลวเหนียวหนืดและปราณวิญญาณหายไปหมด เขาก็ได้ยินเสียงแตกดังขึ้นรอบๆ เหมือนว่ามีอะไร      เหี่ยวแห้งลง แต่ก็ไม่ได้มีร่างใดปรากฏขึ้นตามมา…

เหมือนกับว่าเจ้าต้นไม้ยักษ์จะไม่รู้สึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย หวังเป่าเล่อแปลกใจ ดวงตาฉายแสงเป็นประกาย

หรือว่าจะเกิดสิ่งผิดปกติขึ้นกับเจ้าต้นไม้ใหญ่ หวังเป่าเล่อตะกุยผนังรังไหมรอบๆ ด้วยความสงสัยจนมันแตกออก เขาไม่ได้รีบหนีออกไป แต่กลับเรียกยุงจากฝักกระบี่ในกายให้บินออกไปสำรวจก่อน

พอได้เห็นสภาพรอบๆ ร่างของหวังเป่าเล่อก็สั่นเทิ้ม เขาเห็นโพรงต้นไม้ยักษ์ข้างนอกผ่านสายตาของยุง ภายในโพรงมีรังไหมอัดแน่นเรียงราย และเขาก็เป็นหนึ่งใน    รังไหมนั่น!

เจ้าต้นไม้ใหญ่พยายามแทรกซึมข้าจริงๆ ด้วย! หวังเป่าเล่อรู้สึกหวาดกลัว        เขาตะกุยผนังรังไหมออก หลังจากออกมาจากรังไหมได้ ชายหนุ่มก็มองไปรอบๆ      แม้จะเห็นบริเวณโดยรอบมาก่อนผ่านสายตาของยุง เขาก็ยังคงตัวแข็งทื่อตื่นตะลึงกับภาพที่ได้เห็น

จั่วอี้ฟานกับเจ้าเยี่ยเหมิงต้องอยู่ที่นี่ด้วยแน่! หวังเป่าเล่อหายใจถี่รัว รีบค้นหาทั้งคู่อย่างเร็วไว ไม่นานเขาก็เจอรังไหมที่เจ้าเยี่ยเหมิงอยู่ ใบหน้าของนางฉายแสงสีเขียว เห็นวงปีต้นไม้รางๆ ชายหนุ่มกังวลใจกับภาพที่เห็น เขาไม่มีเวลาไปตามหาจั่วอี้ฟาน หวังเป่าเล่อร้องคำรามขึ้น ปล่อยพลังปราณทุ่มพลังลงมาที่มือทั้งสองข้าง พยายามฉีกรังไหมออก!

แต่ปราณวิญญาณในรังไหมของเจ้าเยี่ยเหมิงนั้นเข้มข้นมาก ทำให้รังไหมหนาแข็งเป็นพิเศษ หากยังมีปราณวิญญาณโคจรอยู่อย่างนี้ คงเป็นเรื่องยากที่จะเปิดรังไหมออกได้ เห็นดังนั้น หวังเป่าเล่อก็กัดฟันแน่น

ช่างปะไร! ข้าจะทุ่มพลังทั้งหมดสูบมันออกมา ข้าไม่กลัวเจ้าหรอกเพราะข้ามีเมล็ดดูดกลืน! คิดดังนั้น หวังเป่าเล่อก็กอดรังไหมแน่น เมล็ดดูดกลืนภายในกายทำงานทันที!

แรงดึงดูดมหาศาลพวยพุ่งออกมาจากร่างกายของหวังเป่าเล่อในบัดดล เมื่อเห็นเมล็ดดูดกลืนทำงานได้เป็นอย่างดี หวังเป่าเล่อก็รู้สึกปั่นป่วนจากปราณวิญญาณจำนวนมากที่ไหลเข้าสู่ร่างกาย ระดับการฝึกตนของเขาพุ่งขึ้นอย่างมาก

ความรู้สึกปั่นป่วนและความกังวลใจผสมปนเปจนทำให้หวังเป่าเล่อตื่นตัวจากความตื่นเต้นที่ไม่สามารถบรรยายได้ เขาคิดอยากเพิ่มพลังสูบ ทว่าทันใดนั้น…

ทะเลสีม่วงที่หลบซ่อนอยู่ในดวงตาก็ควบคุมตัวเองไม่ได้อีกต่อไป มันปรากฏตัวขึ้น พวยพุ่งไปดูดกลืนปราณวิญญาณเสียเอง…

นั่นมันอะไรกัน การปรากฏตัวของทะเลสีม่วงทำให้หวังเป่าเล่อตื่นตกใจ เขาสัมผัส    ได้ว่ามีอะไรแปลกๆ เกิดขึ้น แต่ยังไม่ทันจะได้ตรวจสอบให้แน่ชัด สายฟ้าสีดำในกายก็ปรากฏขึ้น เหมือนกับไม่อยากจะพลาดโอกาสนี้เช่นกัน… แล้วนั่นมันอะไรอีก         หวังเป่าเล่อตกใจจนตัวโยน เขาตะลึงงัน ในหัวสับสนไปหมด ในใจหวังเป่าเล่อเต็มไปด้วยความสับสนว่าสิ่งที่อยู่ภายในกายเขาคืออะไรกัน…

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version