Skip to content

A World Worth Protecting 345

บทที่ 345 มีลาเป็นพวก

เจ้าลานั้นมีฝีเท้าไวอยู่เป็นทุนเดิม คราวนี้ยิ่งไวขึ้นอีกเพราะความตกใจและตื่นกลัว     กงเต๋าเองก็ไม่ใช่คนที่ไปยั่วโมโหได้ง่ายๆ สายตาของเขาฉายแววอาฆาตและ         โกรธเกรี้ยวเป็นอย่างยิ่ง เขาวิ่งไล่ตามเจ้าลาและดูเหมือนว่ากำลังใกล้เข้าไปทุกขณะ

เจ้าลาส่งเสียงกรีดร้องอย่างน่าเวทนา ความกลัวฉายวับอยู่ในแววตา ทุกสิ่งเกิดขึ้นเร็วเสียจนหวังเป่าเล่อตั้งตัวไม่ทัน ชายหนุ่มเห็นกงเต๋ากระโจนขึ้นไปในอากาศก่อนจะใช้ผนึกฝ่ามือสร้างทะเลเพลิงขึ้นมา รอบทะเลเพลิงนั้นเย็นยะเยือกจนเกิดเป็นน้ำแข็ง

มันไม่ใช่ไฟเย็น กระบวนเวทของกงเต๋าทำให้เขาใช้ทั้งธาตุน้ำแข็งและธาตุไฟได้พร้อมๆ กัน นอกจากจะไม่หักล้างกันเองแล้วยังส่งเสริมพลังซึ่งกันและกันด้วย

เกิดเสียงกัมปนาทดังสนั่นก่อนที่เปลวไฟและน้ำแข็งจะปกคลุมไปทั่วบริเวณ    หากมองจากที่ไกลจะดูเหมือนปักษาเพลิงและมังกรน้ำแข็งพันเกี่ยวกันทะยานขึ้นไปสู่สรวงสวรรค์ บรรดาศิษย์อาจารย์ในสำนักศึกษาต่างพากันตกตะลึงกับภาพนั้น

หวังเป่าเล่อรู้ในทันทีว่าเจ้าลาได้เจอคู่ปรับที่ทัดเทียมเข้าเสียแล้ว ชายหนุ่มรีบรุดออกจากห้องทำงาน กระโจนขึ้นฟ้าก่อนจะมาปรากฏตัวอยู่ข้างกายเจ้าลาในชั่วอึดใจ

หวังเป่าเล่อเตะเจ้าลากระเด็นออกไปพ้นทาง ก่อนจะหันกลับมา มือขวาใช้    ผนึกฝ่ามืออย่างรวดเร็ว สายฟ้าระเบิดกลางอากาศขัดขวางปักษาเพลิงและ         มังกรน้ำแข็งในทันที หวังเป่าเล่อยืนอยู่ตรงกลางทะเลแห่งสายฟ้าที่แผ่ออกไป         ทุกทิศทางและเปลี่ยนรัศมีสามสิบเมตรรอบตัวให้กลายเป็นบ่ออสนีบาต!

ภายในบ่อนั้น สายฟ้าพวยพุ่งออกมาจากพื้นดินและทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า    ชนเข้ากับปักษาเพลิง ก่อให้เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นที่สะท้อนไปทั่วบริเวณ หวังเป่าเล่อยังคงใช้ผนึกฝ่ามือต่อไปและเรียกใช้กระบวนเวทเพลิงปะทุออกมา ทะเลเพลิงปกคลุมพื้นสนามทันที กระบวนเวทของกงเต๋ารวมไฟและน้ำแข็งเข้าด้วยกัน

แต่ของหวังเป่าเล่อเป็นไฟกับสายฟ้า ธาตุทั้งสองมารวมตัวกันและก่อให้เกิดแรงระเบิดสะเทือนโลกที่พุ่งเข้าชนมังกรน้ำแข็งอย่างจัง

หวังเป่าเล่อและกงเต๋ายืนห่างออกไปจากจุดที่พลังของกระบวนเวททั้งสองชนกันประมาณหนึ่ง แรงกระแทกจากการระเบิดกระจายออกไปเป็นวงกว้าง ฝูงชนโดยรอบที่มองเห็นการต่อสู้ต่างพากันหายใจเร็วถี่ด้วยความตื่นตกใจ

หวังเป่าเล่อหันศีรษะไปด้านข้างอย่างฉับพลัน จิตสังหารกระจายออกมาจากร่าง เขาจ้องมองไปยังกงเต๋าซึ่งเคลื่อนที่ใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็วพร้อมจิตสังหารที่รุนแรงพอๆ กัน

“กงเต๋า ก่อนที่เจ้าจะตีสัตว์เลี้ยง เจ้าควรดูเสียก่อนว่าเจ้าของเป็นใคร เจ้าคิดจะสังหารอสูรสงครามของข้าต่อหน้าข้าเชียวหรือ” หวังเป่าเล่อพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ชายหนุ่มรู้ดีว่ากงเต๋าเองก็อยู่ในขั้นรากฐานตั้งมั่นระดับกลาง และรู้ด้วยว่ากงเต๋าแตกต่างจากพันธุ์กล้าหนึ่งร้อยต้นคนอื่นๆ เขาถือกำเนิดขึ้นมาในท้องทะเลแห่งอสูรและรอดชีวิตในเขตรกร้างบนดาวอังคารมาด้วยตัวเองตอนที่ยังอยู่ในระดับลมหายใจเที่ยงแท้เท่านั้น ความรุนแรงฝังอยู่ในสายเลือดของเขา

กงเต๋ามีความสามารถอย่างมากในการไล่ล่าสังหารอสูรและเอาตัวรอดในดินแดนเถื่อน กงเต๋าผู้นี้เองที่เป็นผู้ค้นพบที่ตั้งของอาวุธเทพแห่งดาวอังคาร เห็นได้ชัดเจนว่าเขาเป็นบุคคลที่ยอดเยี่ยมเพียงใด

ประวัติครอบครัวของเขาก็น่าตื่นใจไม่แพ้กัน กงเต๋าเป็นบุตรบุญธรรมของต้วนมู่ฉี ผู้นำสหพันธรัฐคนปัจจุบัน แถมยังเป็นคนดังในกองทัพชาวอังคารอีกด้วย แม้แต่       จั่วอี้เซียนก็ยังเทียบเขาไม่ติด มีเพียงคนเช่นหลี่หว่านเอ๋อร์เท่านั้นที่อาจยืนเทียบชั้น  กงเต๋าได้

หวังเป่าเล่อรู้ดีทุกอย่าง แม้เขาจะไม่ชอบกงเต๋าเพียงใด แต่พวกเขาก็ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางรุนแรง มีเพียงเรื่องทะเลาะกันประปรายเมื่อคราวอยู่ในค่ายฝึกตนของ   พันธุ์กล้าเท่านั้น ซึ่งหวังเป่าเล่อก็มองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่กงเต๋าไม่ได้คิดเช่นนั้น เขามีท่าทีเป็นปรปักษ์กับหวังเป่าเล่อมานับแต่นั้น

ด้านหวังเป่าเล่อก็เป็นคนน่ารำคาญที่จะใช้ทุกโอกาสเพื่อจะยั่วโมโหคนที่คิดว่าเขาน่ารำคาญอยู่เป็นทุนเดิม…

เหตุการณ์ในอดีตทั้งหมดนี้นำมาสู่ความเป็นศัตรูกันของคนทั้งสอง แต่หากไม่มีเหตุการณ์ใดมากระตุ้นให้เกิดความขัดแย้งกันอีกคำรบก็คงต่างคนต่างอยู่ไปได้        โชคไม่ดีนักที่ลาของพวกเขาขณะนี้ก็ตกอยู่ในสถานการณ์คล้ายคลึงกัน…

ตอนนี้กงเต๋าโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ดวงตาของเขาเยียบเย็นไปด้วยโทสะ ชายหนุ่มวางลาขาวของเขาลงก่อนจะพุ่งทะยานเข้าใส่หวังเป่าเล่อ ทั้งคนทั้งสัตว์ตรงหน้า      ทำร้ายอสูรสงครามของเขา และกงเต๋าไม่อาจยอมปล่อยให้เรื่องจบไปเฉยๆ ได้       เขาเปิดฉากโจมตีด้วยกำปั้นระเบิดกำเนิดดวงดารา!

พายุหมุนระเบิดขึ้นต่อหน้าต่อตาหวังเป่าเล่อ กำปั้นของกงเต๋าพุ่งตรงเข้ามาหา หวังเป่าเล่อเลิกคิ้ว ก่อนจะยิ้มเยาะและใช้กำปั้นระเบิดกำเนิดดวงดาราแบบเดียวกัน!

กำปั้นของทั้งคู่ปะทะกันก่อให้เกิดเสียงกัมปนาทดังสะท้อนไปทั่ว กงเต๋าถึงกับกระตุกเมื่อเขาถอยหลังไปสองสามก้าว เขารู้สึกถึงแรงสะท้อนกลับที่กระจายจากกำปั้นไปทั่วตัว ชายหนุ่มตกตะลึงไปชั่วขณะ

เจ้านี่เก่งขึ้นอีกหรือนี่! ลมหายใจของกงเต๋าเริ่มปั่นป่วน เขารู้ดีว่าหวังเป่าเล่อ   ผ่านสิ่งใดมาบ้างบนดวงจันทร์ แต่กระนั้นเขาก็คิดว่าพลังของตนสูสีกับหวังเป่าเล่อ   ในตอนนั้น ขณะนี้นัยน์ตาของชายหนุ่มแดงก่ำ เขาส่งเสียงขู่คำรามราวกับว่ากลายร่างเป็นอสูรและพุ่งทะยานเข้าหาหวังเป่าเล่ออีกคำรบ ชายหนุ่มยกมือขวาขึ้นในอากาศและแปรเปลี่ยนมันให้กลายเป็นกรงเล็บสีดำสนิท!

กรงเล็บดูน่าสะพรึงกลัว ยากที่จะบอกได้ว่าทำมาจากวัสดุใด จิตสังหารจากตัว  กงเต๋ารุนแรงขึ้นอีกเมื่อกรงเล็บปรากฏขึ้น พลังวิญญาณของชายหนุ่มพุ่งทะยานขึ้นไปสู่สรวงสวรรค์ ฉับพลันก็มีเสือดำปรากฏออกมาด้านหลังเขา!

พลังของอาวุธเวทแผ่ออกมาจากกรงเล็บสีดำนั่น กรงเล็บนั้นเป็น…อาวุธเวทนั่นเอง!

หวังเป่าเล่อไม่ได้แปลกใจแต่อย่างใดที่กงเต๋ามีอาวุธเวทในครอบครอง แม้ว่าอาวุธเวทจะทั้งแพงและหายาก แต่สำหรับผู้คนเช่นกงเต๋าและหลี่หว่านเอ๋อร์แล้วการจะได้มาสักชิ้นก็ไม่ใช่เรื่องยากเท่าใดนัก

พลังระเบิดขึ้นมาจากตัวกงเต๋าหลังจากที่เขาเผยอาวุธเวทออกมา ดูเหมือนว่าขณะนี้ชายหนุ่มได้รวมตัวกับเสือดำที่อยู่เบื้องหลังแล้ว ทั้งคู่พุ่งเข้าใส่หวังเป่าเล่ออย่างรวดเร็ว กงเต๋าส่งกรงเล็บตรงเข้ามาหวังขย้ำคอหวังเป่าเล่อให้ขาดสะบั้น!

เจ้าคิดว่าตัวเองมีอาวุธเวทอยู่คนเดียวหรืออย่างไร หวังเป่าเล่อยิ้มเยาะ         กระบี่อาวุธเวทของเขาปรากฏขึ้นในทันที ชายหนุ่มคำรามเสียงต่ำก่อนจะพุ่งเข้าไปปะทะกับกงเต๋าโดยตรง

เสียงระเบิดยังคงสะท้อนไปมาในอากาศ แรงสะท้อนกลับจากการต่อสู้ของพวกเขากระจายออกไปจนพื้นสะเทือน ทุกคนในสำนักศึกษาต่างตื่นกลัวจนลนลาน และ     พากันกลั้นหายใจเมื่อกงเต๋ากับหวังเป่าเล่อยังคงแลกหมัดกันอีกหลายสิบกระบวนท่า

กงเต๋าเป็นนักรบผู้ทรงพลัง เขามีอาวุธเวทและพลังในตอนต้นของเขาก็รุนแรงไม่ใช่น้อย ทว่าความอดทนของร่างกายและความแข็งแรงเทียบไม่ได้กับหวังเป่าเล่อ    ผู้ซึ่งแกร่งขึ้นเพราะแก่นรากฐานวิญญาณดอกบัวเขียว หลังจากซัดกันไปหลายสิบกระบวนท่า หวังเป่าเล่อยังคงไม่เหน็ดเหนื่อยในขณะที่กงเต๋าเริ่มแรงตก หวังเป่าเล่อยังเหวี่ยงกระบี่เข้าใส่และรุกไล่ไม่หยุดยั้ง ลมหายใจของกงเต๋าเริ่มปั่นป่วนหนักขึ้นเพราะถูกโจมตีอย่างต่อเนื่อง เขาแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตนเอง กงเต๋าไม่อยากจะยอมแพ้ แต่ก็ทำได้เพียงถอยร่นไปเพราะถูกกดดันอย่างหนัก

บัดซบ ไอ้บ้าหวังเป่าเล่อมันทำอย่างไรถึงได้ร่างกายแข็งแกร่งถึงปานนี้กัน กงเต๋าคร่ำครวญอยู่ในใจ ชายหนุ่มได้แต่มองหวังเป่าเล่อปลดปล่อยพลังอาวุธเวทออกมาอย่างเต็มที่ครั้งแล้วครั้งเล่าจนเกิดรู้สึกขวัญหนีดีฝ่อขึ้นมา แม้ว่าผู้ฝึกตนขั้นรากฐาน  ตั้งมั่นจะสามารถปลดปล่อยพลังของอาวุธออกมาได้อย่างเต็มที่ แต่ตามปกติจะโจมตีได้เพียงสิบกว่าครั้งเท่านั้น

พวกเขายังไม่ได้บรรลุขั้นกำเนิดแก่นในจึงจะสามารถใช้พลังของอาวุธเวทได้ครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย แรงสะท้อนกลับที่มาจากการใช้อาวุธเวทนั้นแรงไม่ใช่เล่น ส่งผลให้ร่างกายต้องรับภาระหนัก กงเต๋ามั่นใจในความทนทานของร่างกายตนเป็นอย่างยิ่ง แต่กระนั้นตัวเขาก็ยังใช้อาวุธเวทโจมตีได้เพียงสิบกว่าครั้งเท่านั้น ทว่าหวังเป่าเล่อฟันใส่เขาร่วมร้อยครั้งแล้วแต่ความเร็วไม่ตกลงเลยแม้แต่น้อย กลับกันการโจมตีของเขากลับรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

อย่างไรเสียกงเต๋าก็ยังมีท่าไม้ตายเก็บซ่อนอยู่ ชายหนุ่มถอยหลังกรูดและสงบลมหายใจลงในบัดดล มีความลังเลใจปรากฏอยู่ในแววตาเมื่อเขากำลังชั่งใจว่าจะใช้      ท่าไม้ตายออกไปดีหรือไม่ และตอนนั้นเองที่เขารู้สึกว่ามีบางสิ่งไม่ชอบมาพากล     ชายหนุ่มหันศีรษะกลับไปอย่างรวดเร็วและจ้องมองไปรอบๆ ลาขาวของเขาหายไปเสียแล้ว…

หวังเป่าเล่อก็รู้สึกว่ามีบางสิ่งแปลกไปเช่นกัน ชายหนุ่มยังคงกวัดแกว่งกระบี่ขณะที่ใช้ดวงตามองกวาดไปรอบบริเวณ ไม่นานสายตาของพวกเขาทั้งคู่ก็เห็น        เจ้าลาดำ…มันอยู่ห่างออกไปตรงบริเวณประตูสำนักศึกษา คาบคอลาขาวไว้ในปากพร้อมทั้งวิ่งหนีไปอย่างเปี่ยมสุข…

ขณะที่เจ้าของกำลังสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตาย เจ้าลาดำแอบย่องมาข้างหลังและเตะลาขาวสลบไปอีกคำรบ ก่อนจะลากตัวไป…

กงเต๋าเห็นเช่นนั้นก็โกรธจนแทบสิ้นสติ เขาแหกปากร้องตะโกนพลางเมินหวังเป่าเล่ออย่างสิ้นเชิง ก่อนจะหันหลังพุ่งตัวไปหาเจ้าลาดำในบัดดล หวังเป่าเล่อมีสีหน้า    แปลกประหลาด ความรู้สึกมากมายปะปนกับโทสะฉายอยู่บนใบหน้าของเขา

ข้าคอยตามแก้ปัญหาให้เจ้าขณะที่เจ้าหนีไปเสวยสุข…เจ้านี่มันช่าง…ไอ้ลาระยำ!

หวังเป่าเล่อเดือดปุดด้วยความโมโห ชายหนุ่มถอนหายใจพลางจ้องมองกงเต๋าวิ่งไล่ลาทั้งสองไปและตั้งใจจะปล่อยพวกเขาไป แต่ในที่สุดชายหนุ่มก็กระทืบเท้าและพุ่งตัวตามไปด้วย เจ้าลาดำเหมือนเพิ่งจะรู้สึกว่าสถานการณ์นั้นรุนแรงเพียงใด มันตัดสินใจปล่อยลาขาวอย่างเสียมิได้ก่อนจะมุดเข้าไปในทางน้ำใต้ดินและหลบหนีไปได้สำเร็จ

กงเต๋าไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะต่อสู้กับหวังเป่าเล่ออีกต่อไปแล้ว ชายหนุ่มจ้องมอง  อีกฝ่ายเขม็งราวกับกำลังข่มใจระงับความเคียดแค้น เขาดันเอาก้อนโทสะที่แผดเผาอยู่ในอกลงไปก่อนจะพาลาขาวจากไปอย่างเงียบเชียบ

เกิดบ้าอะไรขึ้นกันเนี่ย หวังเป่าเล่อเองก็โกรธไม่ใช่น้อย เขาจ้องไปยังทิศที่เจ้าลาจากไปก่อนจะยิ้มมุมปาก และเดินทางกลับไปยังที่พักเพื่อรอเจ้าลากลับมา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version