บทที่ 515 มาร่วมมือกันดีๆ เถอะ!
“ข้าจะทำอะไร เดี๋ยวเจ้าก็ได้รู้” หวังเป่าเล่อกระแอมกระไอ ใบหน้าดูชั่วร้ายขึ้นทุกๆ ย่างก้าวที่เข้าไปหาเหลียงหลง
“เจ้า…อย่าเข้ามานะ!” เหลียงหลงตัวสั่นเทิ้ม เสียวสันหลังวาบ อยากจะถอยหนีไป ชายหนุ่มรู้สึกว่าหวังเป่าเล่อทำตัวเหมือนโรคจิต ขณะเดียวกันก็เสียใจที่ไปแหย่อีก ฝ่ายเข้า ตอนนี้หวังเป่าเล่อหยิบเชือกออกมาพร้อมรอยยิ้มน่าขนลุก ทำตัวไม่ต่างกับโรคจิตแม้แต่น้อย
แต่เหลียงหลงก็ช้าเกินไป ขณะที่เขากำลังจะหนี นัยน์ตาของหวังเป่าเล่อก็พลันฉายแสงเยือกเย็นพร้อมใช้มือขวาเหวี่ยงเชือก
“มัดเจ้านั่นไว้!”
ทันทีที่หวังเป่าเล่อพูดจบ เชือกก็พุ่งไปในอากาศพลางเรืองแสงสีแดง มันบิดงอไปมาราวกับงู ดูน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างยิ่ง แต่หากมองดูดีๆ แล้ว เชือกไม่ได้พุ่งเข้าหา เหลียงหลงทันทีที่หลุดจากมือหวังเป่าเล่อ มันดูจะลังเลใจ อยากลอยหนีขึ้นไปในอากาศเพื่อซ่อนตัว
เหลียงหลงไม่รู้ว่าเชือกเส้นนี้มีความพิเศษอย่างไร แต่หวังเป่าเล่อรู้ดีอยู่แก่ใจ ชายหนุ่มตีสีหน้าแข็งกร้าว กำลังจะด่าทอเจ้าเชือก ตอนนั้นเอง เหลียงหลงซึ่งตื่นกลัวเชือกที่ขยับเคลื่อนย้ายราวกับงู ก็กรีดร้องออกมา พร้อมหนีออกไปจากเกาะ อย่างรวดเร็ว
หากเหลียงหลงไม่พยายามหนีคงจะไม่เป็นไร…ทว่าทันทีที่เขาถอยหนี เชือกที่ลังเลใจอยู่ก็สั่นไหวไปมา หากเปรียบเป็นคน ก็คงพูดได้ว่ามันได้ลืมตาตื่นขึ้น เชือกเปลี่ยนทิศทาง พุ่งทะยานไปหยุดอยู่หน้าเหลียงหลงในทันใด ความรวดเร็วของมันทำเอาหวังเป่าเล่อตื่นตกใจ
“อย่าเข้ามา!” เหลียงหลงกรีดร้องลั่น หัวใจสั่นรัว พยายามดิ้นรนแต่ก็ไม่เป็นผล เชือกว่องไวมาก ในพริบตาเดียวก็เข้าพันรอบตัวหลายรอบ รัดชายหนุ่มเอาไว้แน่น…
ทันทีที่มันเข้ารัดเหลียงหลง พลังผนึกก็แผ่ออกมาตัดปราณวิญญาณและผนึก พลังปราณของเหลียงหลงไว้ ชายหนุ่มกลายเป็นคนธรรมดาในชั่วพริบตา ร่างของเขาร่วงลงพื้นดังตุบ
เหลียงหลงหายใจถี่รัว เขากลัวมากจนอยากจะกรีดร้องขอความช่วยเหลือ แต่ทันใดที่อ้าปาก ปลายเชือกด้านหนึ่งก็พุ่งเข้ามาอุดปากไว้…
“อื้อ…!” ชายหนุ่มเบิกตากว้าง หน้าผากชุ่มไปด้วยเหงื่อ ร่างกายที่ไร้ซึ่งพลัง ถูกเชือกอุดปาก ส่งเสียงออกมาไม่ได้แม้แต่น้อย เขาแทบไม่เคยตกอยู่ในสภาพที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เช่นนี้ เหลียงหลงมองหวังเป่าเล่อที่กำลังตรงเข้ามาพร้อมรอยยิ้มชั่วร้ายด้วยความหวาดกลัว เขาตัวสั่นเทา พยายามดิ้นรนถอยหลังหนีตามสัญชาตญาณ
แต่ก็ทำได้แค่หวัง ไม่ช้าหวังเป่าเล่อก็เข้ามาขยุ้มผมดึงอีกฝ่ายเข้าไปหา ชายหนุ่มโน้มตัวลงมามองเหลียงหลงที่กำลังสั่นกลัวพร้อมเหยียดยิ้มออกมา
“เหลียงหลง บอกบิดาของเจ้ามาว่าเจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าจะมาที่นี่ถึงมาคอยดักซุ่มได้” หวังเป่าเล่อตบหัวอีกฝ่ายพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่น
ทันทีที่พูดจบ เหลียงหลงก็เบิกตากว้าง ทำอะไรไม่ถูก เขาไม่เคยรู้ว่าหวังเป่าเล่อมีนิสัยชอบยกตนเป็นบิดาคนไปทั่ว ทว่าปฏิกิริยาของเหลียงหลงฉับไว ชายหนุ่มจ้องอีกฝ่ายตาแข็งเมื่อความรู้สึกถูกเหยียดหยามเข้ามาบดบังความกลัว
“ไม่พูดอย่างนั้นหรือ ดื้อเสียจริง” หวังเป่าเล่อส่ายหัว จากนั้นจึงตั้งผนึกฝ่ามือ ชี้ไปทางเชือก ทันใดนั้น เชือกก็ส่องแสง เลื้อยรัดไปทั่วร่างเหลียงหลง ชายหนุ่ม เบิกตากว้าง ไม่เชื่อสายตาตนเอง ก่อนจะพยายามดิ้นรนขัดขืน
ไม่เพียงเท่านั้น ปลายเชือกอีกด้านเลื้อยเข้าไปใต้ชุดคลุมมุ่งหน้าไปตรงกางเกง ทุกอย่างที่เกิดขึ้นทำให้เหลียงหลงเสียสติ เขาแหกปากร้องลั่นด้วยความกลัว
“อื้อ!”
“ยังไม่ยอมพูดอีกหรือ” หวังเป่าเล่อถอนหายใจ เตรียมตั้งผนึกฝ่ามืออีกครั้ง เหลียงหลงน้ำตาปริ่มใกล้เสียสติเต็มที ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากพูด แต่พูดไม่ได้เพราะเชือกอุดปากอยู่ต่างหาก
“ยอมพูดแล้วอย่างนั้นหรือ ข้าจะให้โอกาสเจ้าได้พูดแค่ครั้งเดียว เจ้าต้องบอกทุกสิ่งอย่างให้กระจ่างภายในสิบพยางค์!” ชายหนุ่มตบหน้าอีกฝ่ายก่อนจะเอาเชือกออกจากปาก ทันทีที่เชือกหลุดจากปาก เหลียงหลงก็พูดขึ้นโดยไม่ลังเล
“เซี่ยไห่หยางบอกมา จ่ายไปหนึ่งพันแต้ม”
สิบพยางค์ ไม่ขาดไม่เกิน เห็นได้ชัดว่าเหลียงหลงกลัวหวังเป่าเล่อจับจิต
เมื่อได้ยินที่อีกฝ่ายพูด หวังเป่าเล่อก็หรี่ตาลง หยุดคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะโบก มือขวาส่งเชือกเลื้อยกลับไปอุดปากเหลียงหลงอีกครั้ง แม้อีกฝ่ายจะดิ้นรนรีบหุบปากลงก็ไม่เป็นผล…
“ใจเย็น ข้าไม่ฆ่าเจ้าหรอก ที่นี่ช่างสวยงามราวสรวงสวรรค์ ข้าจะปล่อยให้เจ้าฝึกวิชาอยู่นี่แล้วกัน” ชายหนุ่มยิ้มบาง ก่อนจะลุกขึ้นเตะเข้าตรงหว่างขาของเหลียงหลง!
เหลียงหลงสั่นเทิ้ม ตัวขดเป็นกุ้ง ดวงตาห้อเลือด เขากรีดร้องอย่างเจ็บปวดราวกับว่าจะตายลงตรงนั้น
“จำไว้ อย่ามายั่วโมโหข้า” หวังเป่าเล่อยิ้มและพูดขึ้น ทว่าในสายตาของเหลียงหลง รอยยิ้มนั้นดูน่ากลัวราวกับเป็นรอยยิ้มของปีศาจ ชายหนุ่มเข้าใจดีแล้วว่าหวังเป่าเล่อเป็นพวกวิกลจริต!
ชายหนุ่มเลิกสนใจเหลียงหลง ไม่ได้ปล้นสิ่งของในกระเป๋าคลังเก็บหรือขโมยแต้มการรบแต่อย่างใด เขารู้ดีว่าแค่ไม่ไปฆ่าใครเข้า ก็จะอยู่บนกระบี่สำริดเขียวโบราณได้อย่างสงบสุข การจะฆ่าใครสักคนนั้นง่ายมาก แต่ปัญหาที่ตามมาทีหลังนั้นแสนจะยุ่งยากวุ่นวาย
ยังไม่ถึงเวลา… คิดดังนั้น สายตาของชายหนุ่มก็ฉายแววเย็นยะเยือกขณะก้าวเหยียบพื้นทะยานขึ้นฟ้า เชือกยังคงรัดเหลียงหลงอยู่แน่น เพราะการลงโทษของเขายังไม่จบลงแค่นั้น
หวังเป่าเล่อมีจิตประสานกับเชือก แค่คิดก็สามารถเรียกมันกลับมาได้ จึงไม่กลัวว่าจะเสียเชือกไป นอกจากนี้ยังพบว่าเชือกนี้เหมาะกับการใช้งานระยะไกลอีกด้วย
พอเห็นหวังเป่าเล่อจากไป เหลียงหลงก็หมดสติไปด้วยความเจ็บปวด กระนั้นตัว ก็ยังสั่นเทิ้มแม้จะไร้สติ
สำหรับหวังเป่าเล่อแล้ว การปรากฏตัวของเหลียงหลงเป็นแค่เรื่องไม่คาดคิดเล็กน้อยจึงไม่ได้สนใจอะไรมาก เขาเปิดดูแต้มการรบของตัวเองขณะทะยานไปยังเกาะเนตรละอองฝุ่น จากนั้นก็ส่งข้อความเสียงไปหาเซี่ยไห่หยางผ่านแผ่นหยกสื่อสาร
“น้องไห่หยางมีธุรกิจกว้างขวางเสียจริง”
เซี่ยไห่หยางเขินอายเล็กน้อย พยายามจะอธิบายเรื่องราวให้เข้าใจ
“พี่เป่าเล่อ เซี่ยไห่หยางผู้นี้เป็นนักธุรกิจ เรื่องนี้…”
“ไม่ต้องพูดแล้ว น้องไห่หยาง จำไว้แค่ว่า…เรื่องไม่อันตรายเช่นนี้จะสร้างรายได้ให้ข้าได้มาก จงส่งมาให้เพิ่มอีก! ตอนนี้ข้าจนมาก!” น้ำเสียงของหวังเป่าเล่อเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
เซี่ยไห่หยางตกตะลึงไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหัวเราะขึ้นเสียงดัง เขาจบบทสนทนาด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“เป่าเล่อ ยินดีที่ได้ร่วมงานกับเจ้า!”
“เช่นกัน!” หวังเป่าเล่อยิ้มก่อนจะตัดสายไป รอยยิ้มค่อยๆ เลือนหายไปขณะเงยหน้ามองไปทางเกาะเนตรละอองฝุ่น เขาเปลี่ยนทิศทางและทะยานตรงไปที่เป้าหมาย
หลายวันต่อมา หวังเป่าเล่อก็มาถึงเกาะเนตรละอองฝุ่น เขาเป็นผู้ฝึกตนขั้นกำเนิดแก่นในและมีแต้มการรบเพียงพอจึงสามารถเคลื่อนย้ายตัวเองมาได้ ครึ่งเดือนผ่านไป หลังจากผ่านจุดเคลื่อนย้ายมาห้าจุด ในที่สุดชายหนุ่มก็ข้ามทะเลเพลิงมาถึงตัวกระบี่!
ทะเลเพลิงตรงหน้าดูสงบนิ่ง แต่อุณหภูมิกลับสูงกว่าบริเวณด้ามจับหลายเท่า พื้นที่โล่งกว้างปกคลุมไปด้วยอุณหภูมิสูง ด้านหน้าปรากฏชั้นป้องกันที่สร้างขึ้นจากเปลวไฟ!
ด้านหลังชั้นป้องกันมีเพียงความสงบเงียบ ภายในนั้นสวรรค์และพื้นพิภพได้มาบรรจบกัน ทะเลเพลิงปั่นป่วน ลาวาไหลหลาก ภูผาและสิ่งปลูกสร้างพังทลายย่อยยับ ทั่วพื้นที่เต็มไปด้วยความโกลาหล!
หากก้าวผ่านชั้นป้องกันไปจะถือว่าได้เข้าไปในตัวกระบี่ หรืออีกนัยหนึ่งคือ ได้เข้าไปในดวงอาทิตย์!
หวังเป่าเล่อนิ่งเงียบอยู่หน้าชั้นป้องกันครู่หนึ่ง จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นพร้อมแววตามุ่งมั่นก่อนจะก้าวผ่านชั้นป้องกันเข้าไป!