Skip to content

A World Worth Protecting 764

บทที่ 764 โอสถอมตะชั้นสูง

แม้ระยะห่างและความเสียหายที่ได้รับจะแตกต่างกัน ทำให้เรือบินรบชีวภาพไม่ได้ระเบิดทุกลำ แต่อย่างน้อยเรือบินรบของกองทหารมังกรหยดหมึกร้อยละสามสิบจากเกือบร้อยลำก็พังทลายและระเบิดในทันที!

แรงระเบิดพัดกระจายไปทั่ว ก่อเป็นพายุขึ้นในห้วงอวกาศ ทำให้เรือบินรบชีวภาพลำอื่นได้รับความเสียหายหนักขึ้นไปอีก และขณะเดียวกัน ผู้ฝึกตนของ        กองทหารมังกรหยดหมึกก็ได้รับบาดเจ็บรุนแรงเช่นกัน!

ส่วนหวังเป่าเล่อที่เป็นต้นตอของเรื่องทั้งหมด เมื่อก่อการจลาจลเสร็จก็เรียก     เจ้าลากลับมา เขาเก็บมันเข้าไปและปลดปล่อยอำนาจเคลื่อนย้ายที่ได้มาจากดวงเนตรหมื่นปีศาจ จากนั้นก็ใช้พลังที่เอ่อออกมารอบตัวเคลื่อนย้ายหายวับไปในทันที!

ระหว่างที่กำลังหายตัวไป ชายหนุ่มก็ได้ยินเสียงคำรามอย่างโกรธแค้นดังสนั่นสวรรค์จากด้านหลัง ท่ามกลางกองเรือบินรบที่กำลังระเบิดตัวเอง เขาเห็นภาพหุ่นเชิดกำลังทำลายตนเองในหัว

ผู้บัญชาการกองทหารมังกรหยดหมึกหลุดเป็นอิสระได้ในที่สุด!

ขณะที่ความคิดนั้นปรากฏในหัว วิสัยทัศน์เบื้องหน้าก็พลันพร่ามัว ก่อนจะแจ่มชัดอีกครั้งในพริบตาต่อมา ชายหนุ่มได้จากสนามรบออกมาไกลแล้ว เบื้องหน้าของเขาคือดารานิรันดร์ขนาดใหญ่ยักษ์ของอารยธรรมดวงเนตรสวรรค์!

เสียดายที่ขั้นแสร้งอมตะช่างแข็งแกร่งนัก จะยืดเวลาขังนางออกไปก็เป็นเรื่องยาก…ไม่อย่างนั้น ข้าจะทำให้นางต้องคร่ำครวญตอนที่นางหลุดออกมาได้! หวังเป่าเล่อ      พ่นลมทางจมูก เขารู้ว่าตนเองนั้นโหดเหี้ยม แต่แม้แต่อัตชีวประวัติของเจ้าพนักงานระดับสูงก็ช่วยให้ตนมีเมตตาขึ้นมาไม่ได้ ชายหนุ่มล้มเลิกความตั้งใจที่จะเปลี่ยนตัวเองไปตั้งแต่ยังเด็กแล้ว

ตอนนี้เขาคลายความโกรธแค้นในใจไปได้เล็กน้อย ชายหนุ่มพุ่งตัวมุ่งหน้าไปยังดินแดนใต้อาณัติของสำนักมหาทัณฑ์สวรรค์โดยไม่ลังเลใจ และแน่นอน รูปลักษณ์ของเขาก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง รอบนี้ไม่ใช่จั่วอี้เซียน…

หวังเป่าเล่อกลัวว่าถ้าแปลงกายเป็นจั่วอี้เซียนบ่อยเกินไปจนติดเป็นนิสัยคนอื่นจะจับได้ในที่สุด ดังนั้น หลังจากไตร่ตรองดู เขาก็ตัดสินใจแปลงกายเป็นบิดาของ          จั่วอี้เซียนแทน

ต่อจากนี้ก็รวมของที่ชิงมาได้และดูว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามที่คาดหรือเปล่า… ดวงตาของหวังเป่าเล่อฉายแสงวาบ เขาทั้งสงสัยเกี่ยวกับข้าวของที่ชิงมาได้และเป็นห่วงว่าเจ้าลาจะแอบกินไปเล็กน้อยจึงรีบส่งข้อความเสียงไปเตือนเจ้าลา นอกจากนี้ ของที่ชิงมาได้ไม่ได้มาจากเจ้าลาเท่านั้น ยังมีกระเป๋าคลังเก็บที่ชิงมาจากผู้ฝึกตน       ขั้นเชื่อมวิญญาณเจ็ดคนที่โดนสังหารไปด้วย

หวังเป่าเล่อเตรียมแผนไว้แล้วหากทุกอย่างไม่ได้เป็นไปตามที่คาด การคิดเผื่อเยอะๆ ทำให้รู้สึกอุ่นใจมากขึ้น หลังจากจัดเรียงความคิดเสร็จ ชายหนุ่มก็เร่งความเร็วของตนเอง

ขณะเดียวกัน ณ จุดที่กองทหารมังกรหยดหมึกโดนโจมตี ผู้บัญชาการกองทหารมังกรหยดหมึกผู้ซึ่งหวังเป่าเล่อรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ทำให้นางคร่ำครวญก็ไม่ได้กรีดร้องโวยวายแต่อย่างใด แต่เลือดที่ไหลออกมาจากหัวใจของนางนั้นมีมากถึงขั้นก่อตัวเป็นมหาสมุทรโลหิตได้

การสูญเสียของพวกเขาหนักหนามาก ผู้ฝึกตนขั้นเชื่อมวิญญาณสิบสองคนถูกสังหารไปเจ็ด รวมกับก่อนหน้านี้อีกห้า หวังเป่าเล่อได้สังหารผู้ฝึกตนขั้นเชื่อมวิญญาณของกองทหารมังกรหยดหมึกไปทั้งหมดสิบสองคนจากเดิมที่มีสิบเจ็ดคน!

พวกเขาสูญเสียผู้ฝึกตนระดับสูงไปถึงร้อยละเจ็ดสิบ!

นอกจากนั้นแล้ว กองเรือบินรบที่พังเสียหายยิ่งทำให้ผู้บัญชาการกองทหาร      มังกรหยดหมึกสติแตกขึ้นไปใหญ่ หลังจากคิดคำนวณดูแล้ว เรือบินรบชีวภาพครึ่งหนึ่งระเบิดพังไป ส่วนที่เหลืออยู่ก็ได้รับความเสียหายหนักเบาแตกต่างกัน การจะซ่อมแซมต้องใช้ทรัพยากรมหาศาล ถ้าพวกเขาอยากจะสร้างเรือบินรบชีวภาพขึ้นมาใหม่ให้มีระดับเท่าเดิม ทรัพยากรที่จำเป็นต้องใช้นั้น…มากเกินกว่าที่กองทหารมังกรหยดหมึกมีเสียอีก!

การต่อสู้ครั้งนี้ถือเป็นการตัดกำลังกองทหารมังกรหยดหมึกไปได้อย่างจริงแท้ จินตนาการได้เลยว่าพวกเขาย่อมไม่สามารถรักษาอันดับของตนเองในสำนักเต๋าใหม่ครามทองคำไว้ได้แน่ แม้การตกมาอยู่ในสิบอันดับต้นจะยังถือว่าสูญเสียไม่มาก         ก็ตาม…

หลงหนานจื่อ!

ข้าจะไม่ยอมอยู่ใต้นภาเดียวกับเจ้าแน่! หลังจากประเมินความเสียหายคร่าวๆ เสร็จ ความกราดเกรี้ยวก็ถาโถมสู่ดวงใจของผู้บัญชาการกองทหารมังกรหยดหมึก           นางกระอักเลือดกองใหญ่ ก่อนจะกรีดร้องใส่ท้องนภาด้วยดวงตาอันแดงก่ำ

จริงๆ แล้วการสูญเสียเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น อีกส่วนหนึ่งคือความเจ็บใจ        นางถูกขังทันทีที่มาถึงและทำได้แค่เฝ้ามองกองทัพของตนเองโดนเด็ดแขนขา หลังจากยอมจ่ายราคาแพงเพื่อให้หลุดออกมาได้ หวังเป่าเล่อก็เคลื่อนย้ายหายไปในทันที

แม้จะรู้ว่าเป็นการเคลื่อนย้ายด้วยพลังของดวงเนตรหมื่นปีศาจและรู้ว่าตอนนี้   ชายหนุ่มอยู่ที่ดารานิรันดร์ แต่ระยะทางระหว่างทั้งสองนั้นไกลกันเกินไป ถึงจะอยากไล่ตามไปเพียงใด ก็ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงกว่าจะตามไปได้ทัน

และด้วยความเร็วของหวังเป่าเล่อ นางก็มั่นใจว่าคงเป็นไปไม่ได้ที่จะตามไปทัน

เมื่อคิดได้ดังนั้น ผู้บัญชาการกองทหารมังกรหยดหมึกก็กระอักเลือดออกมา       อีกครั้ง สิ่งที่ทำให้นางต้องสิ้นหวังหนักขึ้นไปอีก…ปรากฏขึ้นในสามวันให้หลัง

วีดิโอและเรื่องราวการต่อสู้ครั้งนี้ได้กระจายไปทั่วทั้งอารยธรรมดวงเนตรสวรรค์!

และเพราะฝั่งหนึ่งเป็นกองทหารมังกรหยดหมึกอันมีชื่อเสียง ศึกครั้งนี้จึงได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม แต่การต่อสู้นั้นสั้นมาก คนอื่นๆ จึงมองภาพรวมได้ยาก ดังนั้นเมื่อวีดิโอการต่อสู้ที่ผ่านการตัดต่อได้บรรจุเข้าไปในช่องทางเฉพาะต่างๆ         มันก็กลายเป็นเรื่องเด่นดังภายในหมู่ผู้ฝึกตนในอารยธรรมดวงเนตรสวรรค์ทันที

แม้รายละเอียดมากมายจะถูกตัดทอนไปจากวีดิโอ แต่รายละเอียดส่วนใหญ่ก็ยังอยู่ครบ โดยเฉพาะฉากหวังเป่าเล่อสังหารผู้ฝึกตนขั้นเชื่อมวิญญาณ ฉากผู้บัญชาการกองทหารมังกรหยดหมึกถูกกักขัง และฉากเรือบินรบทำลายตัวเอง จึงเป็นเรื่องปกติที่ทั้งอารยธรรมดวงเนตรสวรรค์จะตื่นตกใจกับเหตุการณ์นี้

“หลงหนานจื่อมันบ้าไปแล้ว เขากล้าโจมตีกองทัพด้วยตัวคนเดียว!”

“ข้าว่ากองทหารมังกรหยดหมึกโง่มาก มีเรือบินรบเป็นร้อย ผู้ฝึกตนขั้น         เชื่อมวิญญาณอีกสิบแต่ก็ยังโดนถล่มราบคาบ ถ้ากองทหารมังกรหยดหมึกไม่ได้โง่ก็คงเป็นวีดิโอนี้ละที่โง่!”

“ปลอมมาก หรือหลงหนานจื่อจะเป็นบุตรของผู้กล้าแกร่งบางคน กองทหารมังกรหยดหมึกจึงร่วมมือด้วยเพื่อสร้างชื่อเสียงให้เขา”

ความเห็นมากมายผุดขึ้นในทุกดาวเคราะห์และทุกสำนักของอารยธรรม          ดวงเนตรสวรรค์ ทุกคนต่างถกเถียงเรื่องนี้กันยกใหญ่ บางส่วนก็ชื่นชมหวังเป่าเล่อ บ้างก็ยังไม่ปักใจเชื่อ และมีอีกส่วนที่คิดว่าวีดิโอเป็นของปลอม

เมื่อผู้บัญชาการกองทหารมังกรหยดหมึกได้ทราบถึงความเห็นส่วนใหญ่จาก     บางช่องทางก็เดือดขึ้นมาอีกครั้ง นางพยายามอย่างหนักและโกรธจัดจริงๆ แต่ผู้คนกลับคิดว่าเรื่องทั้งหมดเป็นของปลอมและนางตั้งใจออมมือให้หวังเป่าเล่อ             นางเกือบจะคุมตัวเองไม่ได้แล้วตอบโต้ความเห็นพวกนั้นกลับไป…

โชคดีที่หญิงสาวยังพอมีสติอยู่บ้าง ความเจ็บแค้นของนางจึงพุ่งทะลุจุดเดือดเพียงไม่กี่วัน

แต่ไม่ว่าทุกคนจะมีความเห็นอย่างไร การก่อจลาจลครั้งใหญ่ของหวังเป่าเล่อก็ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก ศึกครั้งนี้…ทำให้ชื่อของเขาเป็นที่รู้จักไปทั่ว         อารยธรรมดวงเนตรสวรรค์ ชายหนุ่มกลายเป็นคนดังจากศึกหนเดียว!

ประกอบกับสำนักเต๋าใหม่ครามทองคำตั้งค่าหัวให้หวังเป่าเล่อ ทำให้ชื่อของ     ชายหนุ่มโดดเด่นยิ่งขึ้นไปอีก ทุกคนต่างรู้จักชื่อของเขากันทั้งสิ้น!

กองทหารมังกรหยดหมึกได้ออกประกาศจับชายหนุ่มไปก่อนหน้านี้ แต่มันก็เทียบไม่ได้กับการตั้งค่าหัวจากทางสำนักใหญ่ นอกจากนี้ แม้รางวัลที่ได้จากการนำจับ     หวังเป่าเล่อจะไม่ได้สูงมาก แต่ก็เป็นที่ดึงดูดใจใครหลายคน

“นายท่าน ใครก็ตามที่ปลิดชีพท่านได้จะได้รับสิทธิ์จัดตั้งกองทหารประสำนัก    เต๋าใหม่ครามทองคำ…” หวังเป่าเล่อหรี่ตาลงเมื่อได้ยินเสียงสั่นเครือของเต๋อคุนจื่อแจ้งข่าว

เขาทราบชัดเจนเกี่ยวกับความสำคัญของกองทหารในอารยธรรมดวงเนตรสวรรค์ ยิ่งไปกว่านั้น หวังเป่าเล่อยังสังเกตเห็นว่าระดับของกองทหารนั้นมีความเชื่อมโยงกับการรับมรดกจากดวงเนตรแห่งดารานิรันดร์

ชายหนุ่มไม่รู้เหตุผลและไม่แน่ใจเรื่องนี้เท่าไหร่นัก แต่มันก็เป็นเรื่องที่สามารถสำรวจตรวจสอบดูได้ และเพราะเหตุนี้ เขาจึงเข้าใจเรื่องเกี่ยวกับกองทหารมากขึ้น

หวังเป่าเล่อรู้ว่าแม้กองทหารของสำนักใหญ่และกองทหารของสำนักย่อยจะใช้   ชื่อเรียกเหมือนกัน แต่ระดับชั้นนั้นแตกต่างกันอย่างมาก ไม่มีทางที่จะเทียบกันได้ อำนาจและผลประโยชน์ที่มีก็ต่างกันมหาศาล

ถ้าให้เปรียบเทียบระหว่างทั้งสองฝ่าย ก็เปรียบได้ว่ากองทหารสำนักใหญ่นั้นเป็นผู้กินเนื้อ ส่วนกองทหารสำนักย่อยได้กินเพียงน้ำต้มกระดูกที่เหลือจากสำนักใหญ่โดยไม่มีชิ้นเนื้อติดมาเลย!

ในส่วนของโครงสร้างก็แตกต่างเช่นกัน สำนักย่อยทุกสำนักสามารถตั้งกองทหารได้ไม่ว่าจะขนาดใหญ่หรือเล็ก ขอแค่มีทรัพยากรเพียงพอและต้องไปลงทะเบียนกับสำนักใหญ่ แต่กองทหารของสำนักใหญ่นั้นไม่ได้ตั้งขึ้นเช่นนี้ พวกเขาจะต้องมีสิทธิ์ในการตั้งกองทหารก่อน และสิทธิ์นั้น…ไม่ได้มาจากทรัพยากรหรือความแข็งแกร่ง        แต่เป็นความดีความชอบที่สร้างให้กับสำนัก!

พอได้ทราบว่าสำนักเต๋าใหม่ครามทองคำใช้เงื่อนไขนี้เป็นรางวัลนำจับ            หวังเป่าเล่อก็เป็นกังวลขึ้นมา หลังจากส่งเต๋อคุนจื่อกลับ เขาก็นั่งอยู่ในจุดซ่อนตัวและครุ่นคิด

จะไปกลัวอะไร ข้าเป็นแค่ร่างอวตาร! เมื่อคิดได้เช่นนั้น ชายหนุ่มก็รู้สึกโล่งใจ จากนั้นก็หยิบกล่องสีม่วงออกมาจากกระเป๋าคลังเก็บ

มีรอยกัดอยู่บนกล่อง…

หวังเป่าเล่อทั้งโกรธทั้งโล่งใจเมื่อเห็นรอยกัด หลังจากจัดข้าวของที่ได้มาไปสองสามวัน เขาก็พบว่าเจ้าลาแอบกินไปเล็กน้อย แต่มันก็ไม่ได้แตะต้องของส่วนใหญ่       จึงไม่ได้ลงโทษอะไรอีกฝ่าย มีแค่กล่องใบนี้เท่านั้นที่มันเอาไปซ่อนไว้ ตอนที่ชายหนุ่มพบกล่อง เจ้าลาก็ได้ทำลายผนึกส่วนใหญ่ไปแล้ว พอพบว่าโดนเจอเข้าแล้ว มันก็รีบเขมือบอย่างกังวลใจ หมายจะกลืนกินทั้งกล่องและของข้างในลงท้อง

เจ้าลาร้องไห้คร่ำครวญเมื่อหวังเป่าเล่อหยุดมัน เขาเปิดดูในกล่องและพบโอสถที่เปล่งแสงสีม่วง!

เขาเห็นนกกระเรียนโผบิน ทวยเทพเริงระบำ และหอคอยศักดิ์สิทธิ์มากมายอยู่ในแสงสีม่วง มองแค่แวบเดียวก็รู้ว่าโอสถนี้ไม่ใช่ของธรรมดาทั่วไป หวังเป่าเล่อ        จำแลงกายเป็นบิดาของจั่วอี้เซียนและออกไปตรวจสอบดู คำตอบที่ได้มาทำให้      ดวงวิญญาณถึงกับสั่นคลอน ชายหนุ่มเปิดดูโอสถในกล่องสีม่วงอีกครั้ง จากนั้นก็      สูดหายใจลึกและพึมพำกับตนเอง

“โอสถอมตะชั้นสูง!” หวังเป่าเล่อจ้องโอสถไม่วางตา เริ่มหายใจถี่รัว น้ำลายเกือบไหลออกมาจากมุมปาก

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version