Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1061

ตอนที่ 1061

ข้าไม่อาจจะทำร้ายเจ้าได้?!

หลงเทียนไห่ยิ้มน้อยๆ ให้กับเมิ่งฮ่าว มันเตรียมการมาเป็นอย่างดี และได้ตรวจสอบดูข้อมูลส่วนตัวของเมิ่งฮ่าวด้วยเช่นกัน เพื่อที่จะบังคับให้เขาก้าวเท้าออกมาจากสำนัก และอยากจะรู้เป็นอย่างยิ่งว่าในตอนนี้เขาจะตัดสินใจอย่างไร

เมิ่งฮ่าวมีสีหน้าหมองคล้ำลง เขารู้ว่ากลุ่มผู้ฝึกตนอสูรมีพลังเพียงพอที่จะตามล่าเจ้าอ้วน, ฉู่อวี้เยียนและเฉินฝาน นอกจากนั้นกลุ่มผู้ฝึกตนอสูรก็ยังคิดว่าคนเหล่านี้ไม่ได้สำคัญอะไรมากนัก และสามารถที่จะค้นหาพวกมันได้ในช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น

อย่างไรก็ตามการใช้คนเหล่านี้มาข่มขู่เมิ่งฮ่าวเป็นสิ่งที่ไร้เดียงสาอยู่ไม่น้อย เห็นได้ชัดว่าวิธีที่ง่ายที่สุดที่จะแก้ไขสถานการณ์นี้ก็คือ การให้จิ่วผอและคนอื่นๆ มาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งไม่ใช่ว่าเมิ่งฮ่าวจะคิดว่าสหายของตนเองจะไม่สำคัญ

แต่เขารู้ดีว่าถ้าตนเองทุ่มออกไปจนสุดตัวเพื่อโจมตีไปยังหลงเทียนไห่ มันคงจะไม่ใช่เป็นเรื่องดีอย่างแน่นอน

ดังนั้นการกระทำที่ดีที่สุดก็คือต้องแจ้งไปยังจิ่วผอในทันที ซึ่งจะเป็นการแสดงให้เห็นถึงมุมมองของเขา และจะทำให้เรื่องราวสงบลงได้ เมื่อครุ่นคิดมาถึงจุดนี้ เขาก็หันหลังกลับเข้าไปในสำนัก

“หรือว่าผลการตรวจสอบของข้าจะผิดพลาด? คาดไม่ถึงว่าเจ้าจะมีจิตใจที่เย็นชา! ไม่สนใจแม้แต่หญิงงามและสหายเก่าที่กำลังถูกคุกคาม? ถ้าเช่นนั้น…เจ้าก็ลองดูภาพนี้ก่อน”

หลงเทียนไห่ส่ายหน้าและถอนหายใจออกมา จากนั้นก็โบกสะบัดมือ ทำให้ภาพปรากฏขึ้น ในทันทีที่เมิ่งฮ่าวมองเห็น เขาก็หยุดชะงักนิ่ง และดวงตาก็ลุกโชนขึ้นด้วยรังสีสังหาร

ภาพที่แสดงออกมานั้นเป็นบุคคลผู้หนึ่ง ซึ่งก็คือฉู่อวี้เยียนนั่นเอง ใบหน้านางซีดขาว เส้นผมยุ่งเหยิงเป็นกระเซิง และริมฝีปากเป็นสีม่วงคล้ำ เห็นได้ชัดว่านางถูกพิษ

นางนอนคว่ำอยู่ที่ด้านในของเปลือกหอยสีดำขนาดใหญ่ ปากของเปลือกหอยนั้นแหลมคมราวกระบี่ และค่อยๆ ลดต่ำลงไปเรื่อยๆ ดูเหมือนว่าอีกไม่นานนัก มันก็จะตัดศีรษะของฉู่อวี้เยียนให้ขาดออกไปโดยสิ้นเชิง!

ถึงแม้ว่านั่นจะเป็นแค่ภาพลวงตา แต่เมิ่งฮ่าวก็คุ้นเคยกับฉู่อวี้เยียนจนสามารถบอกได้ว่านี่ไม่ใช่ภาพลวงตาที่เกิดจากเวทมนตร์ใดๆ และไม่ใช่มีใครบางคนมาแปลงร่างให้ดูคล้ายกับนาง นี่คือฉู่อวี้เยียนจริงๆ!

“เจ้ารนหาที่ตาย?” เมิ่งฮ่าวถามขึ้น รังสีสังหารระเบิดออกมาอยู่ในดวงตา ยกมือขวาขึ้นและชี้ตรงไปยังภาพนั้น ไม่มีระลอกคลื่นของวิชาเวทให้มองเห็นได้ คล้ายกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำให้หลงเทียนไห่ต้องหรี่ดวงตาลงด้วยความสับสนและสงสัย

ดวงตาเมิ่งฮ่าวแวบขึ้น ขณะที่ดูเหมือนว่าเขากำลังศึกษาภาพนั้นอยู่ชั่วขณะ และจากนั้นโดยไม่ลังเลใดๆ อีก เขาโบกสะบัดมือทำให้แผ่นหยกลอยกลับเข้าไปยังสำนัก จากนั้นเขาก็กลายเป็นลำแสงพุ่งตรงไปยังหลงเทียนไห่!

ถึงแม้ว่าบุคคลที่อยู่ในเปลือกหอยสีดำนั้นจะไม่ใช่ฉู่อวี้เยียน แต่เป็นเจ้าอ้วน หรือแม้กระทั่งเฉินฝาน เมิ่งฮ่าวก็ยังจะทำเช่นเดียวกันนี้

ก่อนหน้านี้เขาเลือกที่จะกลับไปยังสำนัก เนื่องจากคิดว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะแก้ไขสถานการณ์นี้ จิ่วผอจะช่วยจัดการเรื่องราวทุกอย่างให้ นอกจากนั้นเขาก็คิดว่าสหายทั้งสามคงจะปลอดภัยอยู่ในสำนักของแต่ละคน กลุ่มผู้ฝึกตนอสูรอาจจะมีความคิดที่ชั่วร้าย แต่พวกมันคงไม่มีเวลาเพียงพอที่จะไปทำร้ายสหายของเขาได้อย่างง่ายดาย เหมือนกับที่พวกมันต้องการได้อย่างแท้จริง

แต่ตอนนี้…มันสายเกินไปแล้ว เขากลายเป็นคนที่ไม่มีเวลาเพียงพอไปเอง ดังนั้นในเวลาเดียวกับที่ส่งแผ่นหยกไปหาจิ่วผอ โทสะของเมิ่งฮ่าวก็ลุกโชนขึ้นมาอย่างรุนแรง เมื่อคิดว่าเขาไม่มีทางเลือกอื่นอีก…เขาก็จะเลือกสิ่งที่อยู่ตรงหน้าแทน!

เมิ่งฮ่าวโจมตีไปด้วยความต้องการสังหารที่เดือดพล่าน หลงเทียนไห่ยิ้มน้อยๆ ออกมา ขณะที่ร่างกายมันจู่ๆ ก็แวบขึ้นและเริ่มจางหายไป

“ดูเหมือนว่าข้าจะประเมินเจ้าสูงส่งจนเกินไป เห็นได้ชัดว่าเจ้าไม่รู้ว่านี่เป็นแค่ภาพลวงตาเท่านั้น! แต่ถึงแม้ว่าข้าจะไม่หายตัวไป เจ้าก็ยังไม่อาจจะทำร้ายข้าได้ ข้าคิดว่าคงไม่เป็นไรที่จะบอกเจ้าว่า

กลุ่มผู้ฝึกตนอสูรไม่มีความคิดที่จะทำอะไรกับหญิงงามและสหายเก่าของเจ้าตั้งแต่ตอนแรกแล้ว นั่นเป็นความคิดของข้าเอง และพวกข้าเก้าไห่เจี้ยเยาก็เป็นผู้ที่ลักพาตัวนางมาเอง” หลงเทียนไห่หัวเราะหึๆ และส่ายหน้าไปมา ดูเหมือนว่าจะรู้สึกพึงพอใจต่อวิธีการของตัวเองเป็นอย่างมาก

“ไปทำภารกิจของเจ้าให้เสร็จสิ้น ฉู่อวี้เยียนอยู่ที่เกาะไห่ซาน ไม่ต้องกังวลไป มันไม่ใช่กลอุบายใดๆ ข้าให้คำรับรองได้ว่านางอยู่ที่นั่นจริงๆ แต่ถ้าเจ้าไปไม่รวดเร็วเพียงพอ ถ้าเจ้าขืนชักช้าแม้แต่เพียงเล็กน้อย นางก็จะตายไป เจ้ามีเวลาเพียงแค่หนึ่งชั่วยาม…”

ขณะที่ร่างมันจางหายไป หลงเทียนไห่ก็หัวเราะด้วยความเบิกบานใจ เมื่อได้เห็นเมิ่งฮ่าวเป็นเช่นนี้ และความเบิกบานใจนั้นก็มาจากการที่มันมีความเชื่อมั่นต่อแผนการของตนเอง

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่มันจะจางหายไปโดยสิ้นเชิง เมิ่งฮ่าวก็แค่นเสียงอย่างเย็นชาออกมา

“เจ้าคิดว่าข้าไม่อาจจะทำร้ายเจ้าได้?” เขากล่าวขึ้น ยกมือชี้ตรงไปยังหลงเทียนไห่

นิ้วของเมิ่งฮ่าวปลดปล่อยกลิ่นอายผู้ผนึกอสูรออกมาเป็นระลอกคลื่น เวทผนึกพุ่งกระจายออกไป กลายเป็นเวทผนึกอสูรรุ่นที่เจ็ด!

เวทผนึกกรรม!

ในทันทีที่เวทนั้นถูกปลดปล่อยออกไป พลังแห่งกรรมอันน่ากลัวอย่างไร้ขอบเขตก็ระเบิดออกไป ตอนนี้เมื่อเมิ่งฮ่าวดูดซับโลหิตของ

จิ่วเฟิงจื้อจุนเข้าไปได้สำเร็จ วิชาเวทผนึกอสูรของเขาก็มีความแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้นเป็นหลายเท่าตัว ตอนนี้เขากลายเป็นผู้ผนึกอสูรรุ่นที่เก้าอย่างแท้จริง เป็นผู้สืบทอดแห่งพันธมิตรอย่างแท้จริง ซึ่งได้รับการยืนยันจากปรมาจารย์จิ่วเฟิงด้วยตนเอง!

ดังนั้นเมื่อเขาปลดปล่อยเวทผนึกอสูรออกมา ก็เต็มไปด้วยความแข็งแกร่งอย่างน่าตกใจยิ่ง!

ไม่สำคัญว่าที่เขากำลังเผชิญหน้าอยู่นี้จะเป็นเพียงแค่ภาพลวงตาของหลงเทียนไห่ แต่มันก็ยังคงมีกรรมอยู่ ซึ่งแน่นอนว่ากรรมนั้น…ได้เชื่อมต่ออยู่กับร่างจริงของมัน

ภาพลวงตาของหลงเทียนไห่สั่นสะท้านขึ้นมาในทันที และใบหน้าก็เต็มไปด้วยความตกใจ ขณะที่จู่ๆ ก็รู้สึกได้ถึงอันตรายอันเข้มข้น ไม่เพียงแต่มันเท่านั้นที่รับรู้ได้ถึงวิกฤตของร่างภาพลวงตานี้ แต่ร่างจริงที่หลบซ่อนอยู่ภายในถ้ำแห่งเซียน ซึ่งอยู่ในอาณาจักรแห่งท้องทะเลที่เก้าก็ยังรู้สึกได้ถึงอันตรายนี้ด้วยเช่นเดียวกัน

“เกิดอะไรขึ้น!?!?” หลงเทียนไห่ที่อยู่ในถ้ำแห่งเซียน และไม่ได้ไปยังเกาะไห่ซานด้วยตนเอง มันเป็นบุคคลที่ร้ายกาจและระมัดระวังตัวเป็นอย่างยิ่ง แผนการทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ตัวมันเองอยู่ตรงด้านในของสำนักตลอดเวลา หลังจากที่แผนการดำเนินไปด้วยความราบรื่น มันก็จะโผล่ออกไปเพื่อจัดการให้จบสิ้น

แต่ตอนนี้ สีหน้ามันสลดลงและจิตใจก็เต้นรัว ฉับพลันนั้นโดยไม่ลังเลใดๆ มันรีบตัดการเชื่อมต่อกับร่างจำแลงภาพลวงตาของตนเองในทันที

แต่…สายเกินไปแล้ว!

พลังของเวทผนึกทำให้เส้นใยกรรมไปปรากฏขึ้นบนศีรษะภาพลวงตาของหลงเทียนไห่ เส้นใยเหล่านั้นได้เชื่อมต่อร่างภาพลวงตาเข้ากับร่างจริงของมัน ยืดยาวกลับเข้าไปในประตูหลักของอาณาจักรแห่งท้องทะเลที่เก้า และในที่สุดก็นำไปสู่ถ้ำแห่งเซียนของมัน

ดวงตาเมิ่งฮ่าวแวบประกายขึ้นด้วยรังสีสังหาร ด้วยระดับพื้นฐานฝึกตนของเขาในตอนนี้ เขาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าหลงเทียนไห่ที่มาอยู่ในที่แห่งนี้เป็นแค่ร่างภาพลวงตาเท่านั้น? แต่มันก็ไม่สำคัญแม้แต่น้อย ถึงแม้ว่าเขาไม่มีทางจะสังหารมันได้จากที่แห่งนี้ แต่เขาจะต้องสอนบทเรียนอันลึกล้ำซึ่งยากที่จะลืมเลือนไปได้ให้กับมันอย่างแน่นอน

“ข้าจะแสดงให้เจ้าดูว่าความเจ็บปวดหมายความว่าอย่างไร!”

เมิ่งฮ่าวกล่าวขึ้น ขยับนิ้วเพื่อร่ายเวท และเส้นใยกรรมก็บิดเบี้ยวไปมา ภาพลวงตาของหลงเทียนไห่มีปฏิกิริยาโต้ตอบ เริ่มเลือนลางลงไปมากขึ้น แต่กลับมองเห็นเส้นใยกรรมได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น!

ในชั่วพริบตาเส้นใยกรรมเหล่านั้นก็กลายเป็นอุโมงค์สายหนึ่ง เป็นอุโมงค์ที่มุ่งตรงไปยังร่างที่แท้จริงของมัน!

อย่างน่าตกใจยิ่ง เวทกรรมของเมิ่งฮ่าวมีความก้าวหน้าขึ้นจนถึงจุดสูงสุด

ในตอนนี้…เขาสามารถใช้เส้นใยกรรมเพื่อเชื่อมต่อกับภาพลวงตาและตัวตนที่แท้จริงได้! ในช่วงเวลาสั้นๆ นั้น เขาทำให้ภาพลวงตาและตัวตนที่แท้จริงไขว้สลับกัน!

ทำร้ายภาพลวงตา, ทำลายร่างที่แท้จริง!

ระหว่างภาพลวงตาและร่างจริง…มีกรรมเชื่อมต่อกันอยู่!

เมิ่งฮ่าวเคลื่อนที่ไปด้วยความรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ และทันใดนั้นก็ไปปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้าร่างภาพลวงตาของหลงเทียนไห่ เกิดเป็นเสียงปะทุดังก้องขึ้น ขณะที่เขายื่นมือฟาดลงไปบนหน้าอกภาพลวงตาของหลงเทียนไห่ เมื่อเขากระแทกลงไป ร่างภาพลวงตาก็เริ่มสั่นสะท้าน

มือของเมิ่งฮ่าวเคลื่อนไหวไปอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นภาพอันเลือนราง ขณะที่เขาฟาดลงไปยังหลงเทียนไห่ติดต่อกันเก้าครั้ง

ในเวลาเดียวกับที่เมิ่งฮ่าวไปปรากฏกายขึ้นที่เบื้องหน้าของร่างภาพลวงตา ย้อนกลับไปในถ้ำแห่งเซียนที่อยู่ภายในสำนัก สีหน้าหลงเทียนไห่สลดลง ยกมือขวาขึ้นมาพยายามจะตัดการเชื่อมต่อ แต่ขณะที่มันทำเช่นนั้น…

ที่ด้านนอกประตูหลักของอาณาจักรแห่งท้องทะเลที่เก้า ฝ่ามือของเมิ่งฮ่าวก็ตบฟาดลงไปบนร่างมันเก้าครั้ง!

“ทำลายล้างเก้าชั้นฟ้า!” ใบหน้าเมิ่งฮ่าวไร้ความรู้สึก ขณะที่เปล่งนามของวิชานี้ออกมา!

เกิดเป็นเสียงระเบิดขึ้น ขณะที่ร่างภาพลวงตาแตกกระจายไป เสียงแผดร้องอย่างน่าอนาถใจดังก้องออกมา เป็นเสียงแผดร้องที่เต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อและประหลาดใจไปโดยสิ้นเชิง ในเวลาเดียวกันนั้น ย้อนกลับไปในถ้ำแห่งเซียน หลงเทียนไห่นั่งขัดสมาธิอยู่ที่นั่น โลหิตพ่นกระจายออกมาจากปาก หน้าอกมันฉีกขาดออกพังทลายลงไปติดต่อกันเก้าครั้ง จนกระทั่งทั่วทั้งร่างของมันระเบิดขึ้น

โลหิตและชิ้นเนื้อกระจัดกระจายออกไปทั่ว ขณะที่พลังของการโจมตีนั้นฉีกกระชากให้ร่างกายมันแตกกระจายกลายเป็นชิ้นๆ มีเพียงสิ่งเดียวที่ยังหลงเหลืออยู่ก็คือศีรษะของมัน ซึ่งได้ลอยขึ้นไปพร้อมกับเสียงแผดร้อง หลงเทียนไห่ไม่ได้ตกตายไป มันเป็นผู้ฝึกตนอสูร ด้วยพลังพิเศษที่มีมาแต่กำเนิด และพื้นฐานฝึกตนที่อยู่ในอาณาจักรโบราณ ช่วยให้มันมีความสามารถที่จะถือกำเนิดขึ้นมาใหม่ ดังนั้นร่างกายของมันจึงได้ก่อตัวขึ้นมาใหม่แทบจะในทันที แน่นอนว่าร่างใหม่นี้อ่อนแอกว่าร่างเดิมมากนัก

“เมิ่งฮ่าว เจ้าต้องตาย!!!” มันแผดร้องด้วยโทสะออกมา

นับจากช่วงที่มันถือกำเนิดขึ้นมาจนกระทั่งถึงตอนนี้ มันไม่เคยพบเจอกับความเจ็บปวดเช่นนี้มาก่อน อย่างไรก็ตาม ในช่วงการมีโทสะของมัน เสียงอันเย็นชาก็กระซิบเข้าไปในหูของมัน

ที่ด้านนอกประตูหลักของอาณาจักรแห่งท้องทะเลที่เก้า ร่างภาพลวงตาของหลงเทียนไห่แตกกระจายไป ในเวลาเดียวกันนั้นร่างใหม่ของมันก็กำลังก่อตัวขึ้นมาอยู่ในถ้ำแห่งเซียน และเส้นใยกรรมที่เชื่อมต่อกันของทั้งสองร่างก็เริ่มจางหายไป

อย่างไรก็ตาม โทสะอันน่ากลัวของเมิ่งฮ่าวที่มีต่อหลงเทียนไห่ยังไม่ได้จางหายไป จากการโจมตีไปแค่ทำลายล้างเก้าชั้นฟ้า เขาก้าวเท้าตรงไปและคว้าจับไปที่เส้นใยกรรมที่กำลังจางหายไป ทำให้เขาสามารถจะเอื้อมมือไปคว้าจับวิญญาณของหลงเทียนไห่ไว้ได้

“เวทผนึกอสูร รุ่นที่ห้า!” เขากล่าวขึ้นด้วยเสียงที่เย็นชา รอยแตกได้ปรากฏขึ้นในมือขวา เปิดออกจากขนาดหนึ่งชุ่น (1 นิ้ว) จนยาวเกือบหนึ่งจ้าง (3 เมตร) อย่างรวดเร็ว จากนั้นรอยแตกและเส้นใยกรรมก็หายสาบสูญไปทั้งคู่

เมื่อรอยแตกปรากฏขึ้นใหม่อีกครั้ง ก็ไปอยู่ที่เบื้องหน้าของหลงเทียนไห่ในถ้ำแห่งเซียนของมัน รอยแตกนั้นคล้ายกับเป็นปากที่อ้ากว้างขึ้นอย่างน่ากลัว จนทำให้หลงเทียนไห่ต้องส่งเสียงแผดร้องออกมาด้วยความไม่อยากจะเชื่อขึ้นในทันที แม้ในขณะที่มันถอยไปทางด้านหลัง

ปากนั้นก็ขบกัดลงไป สลับสับเปลี่ยนจากด้านในเป็นด้านนอก ร่างกายของหลงเทียนไห่ครึ่งหนึ่งถูกกลืนกินเข้าไปโดยรอยแตกนั้น และเสียงขบเคี้ยวก็ได้ยินออกมา ขณะที่โลหิตพ่นกระจายออกไปในทั่วทุกทิศทาง

ตอนนี้มันมีร่างกายเหลืออยู่เพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น แผดร้องเป็นเสียงโหยหวนออกมา ความสามารถในการเกิดใหม่ของมันทำงานขึ้นอีกครั้ง ทำให้การฟื้นฟูกลับคืนมาใหม่อย่างแปลกๆ ได้เกิดขึ้นอีกครั้ง

อย่างไรก็ตามการฟื้นฟูตัวเองสองครั้งติดต่อกันเช่นนั้น ทำให้ปราณและโลหิตของมันต้องอ่อนแอลงไปมากกว่าครึ่งอย่างเห็นได้ชัด

ถึงแม้ว่ามันจะฟื้นฟูกลับคืนมา แต่ใบหน้าก็ซีดขาว และกำลังสั่นสะท้านขึ้นด้วยความประหลาดใจ มันไม่รู้ว่าเมิ่งฮ่าวสามารถทำลายร่างจริงด้วยการทำร้ายร่างภาพลวงตาของมันได้อย่างไร แต่ในความเป็นจริงแล้ว ถ้ามันมีปฏิกิริยาเชื่องช้ากว่านี้เพียงแค่เล็กน้อยเมื่อครู่นี้…มันก็คงจะถูกสังหารไปอย่างแน่นอน!

ตอนนี้เป็นครั้งแรกที่หลงเทียนไห่รู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง วิชาแปลกๆ ของเมิ่งฮ่าว ทำให้เกิดเป็นความหวาดกลัวขึ้นมาในจิตใจมัน อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

“มันมีความแข็งแกร่งเช่นนั้นได้อย่างไร? มันแข็งแกร่งกว่าการตรวจสอบของข้ามากนัก! บัดซบ! ตั้งแต่ข้าเห็นมันเป็นครั้งสุดท้ายก็ผ่านไปเพียงแค่หนึ่งเดือนเท่านั้น! ทำไมความแข็งแกร่งของมันถึงได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นนี้!? หรือว่ามันซุกซ่อนพลังที่แท้จริงไว้ตลอดเวลาที่ผ่านมา!?!?

ต้องไม่ใช่เช่นนั้นเป็นแน่ ต้องเป็นเพราะว่ามันเพิ่งจะเก่งขึ้นอย่างแน่นอน!!” หลงเทียนไห่กำลังสั่นสะท้าน เมิ่งฮ่าวทำให้มันต้องหวาดกลัวโดยสิ้นเชิง

ที่ด้านนอกของสำนัก ดวงตาเมิ่งฮ่าวแวบประกายขึ้นด้วยรังสีสังหารอันเข้มข้น ด้วยเส้นใยกรรมของหลงเทียนไห่ ทำให้เขารับรู้ได้ถึงตำแหน่งของมัน และรู้ว่ามันยังคงอยู่ในสำนัก จากเรื่องนี้ทำให้เขารู้ว่าหลงเทียนไห่มีความระมัดระวังตัวมากเพียงใด ก่อนหน้านี้เขาได้ใช้เวทผนึกกรรมไปบนภาพของฉู่อวี้เยียนด้วยเช่นกัน ทำให้สามารถรับรู้ได้ถึงตำแหน่งที่แท้จริงของนาง!

“หลงเทียนไห่ เมื่อข้ากลับมา ไม่ว่าจะมีใครมาปกป้องเจ้าก็ตาม ข้าจะต้องสังหารเจ้าไปให้จงได้!” ด้วยเช่นนั้น ร่างเมิ่งฮ่าวก็แวบขึ้นคล้ายกับเป็นสายฟ้า ขณะที่มุ่งหน้าตรงไปยังฉู่อวี้เยียน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version