Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1111

ตอนที่ 1111

สังหารอย่างฉับพลัน!

“หุบปาก!” ไห่ตงชิงแผดร้องออกมา มีท่าทางเดือดดาลอย่างถึงที่สุด ในฐานะที่เป็นผู้ฝึกตนลำดับขั้น การที่มันกลายไปเป็นผู้ติดตามของเต้าเทียน คือสิ่งที่เจ็บปวดมากที่สุดสำหรับมัน น้อยคนนักที่จะกล้ายกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดต่อหน้ามัน เว้นแต่จะมีความอาฆาตแค้นระหว่างกัน แม้แต่ผู้ฝึกตนลำดับขั้นคนอื่นๆ ก็ยังไม่ยอมจะตอแยมันด้วยวิธีการเช่นนี้

มีแต่อวี่เหวินเจียนเท่านั้นที่กล้าจะทำเช่นนี้ คนทั้งสองต่างก็อยู่ในขุนเขาทะเลที่เจ็ด และมีข้อขัดแย้งกันอย่างมากมายเมื่อนานหลายปีมาแล้ว จนถึงจุดที่ไม่อาจจะทนอยู่ได้อีกต่อไปถ้าอีกคนยังมีชีวิตอยู่ คำพูดอันชั่วร้ายที่เพิ่งจะเปล่งออกมาจากปากของอวี่เหวินเจียนเมื่อครู่นี้ ทำให้ไห่ตงชิงต้องแค่นเสียงเย็นชา และจากนั้นก็ก้าวเดินตรงไป โบกสะบัดมือขึ้นในทันที ทำให้กระบี่ภาพลวงตาหนึ่งเล่มพุ่งออกไป

มันเป็นกระบี่สีเขียวที่กระจายแสงอันเจิดจ้าออกมา ในทันทีที่มันปรากฏขึ้นก็แยกตัวออกเป็นกระบี่หนึ่งแสนเล่ม ส่งเสียงดังกระหึ่มพุ่งฝ่าอากาศตรงไปยังอวี่เหวินเจียนที่อยู่บนยอดเขากั๋วยิ่น

“ทำไมบิดาต้องหุบปากด้วย? เจ้าเป็นแค่สุนัขรับใช้ของเต้าเทียน! ยังกลัวผู้คนพูดถึงเรื่องนี้? บิดาไม่หุบปาก บิดายังจะพูดอีกว่าเจ้าคือสุนัขรับใช้! มา มากัดข้าดู!” อวี่เหวินเจียนก่นด่าออกมา เชิดหน้าขึ้นไปในอากาศ ราวกับจะบอกว่าเจ้าสามารถทำอะไรข้าได้?

เสียงกระหึ่มดังเต็มอยู่ในอากาศขณะที่กระบี่หนึ่งแสนเล่มกรีดเฉือนตรงไปยังภูเขา กระแทกลงไปที่เกราะป้องกัน และทำให้มันบิดเบี้ยวไปมา ในเวลาเดียวกันนั้นสองผู้ฝึกตนที่ห่างออกไปด้านข้างก็หัวเราะอย่างเย็นชา โบกสะบัดมือทำให้สองกระแสลมปราณหมุนวนไปมา หนึ่งสีดำ หนึ่งสีขาว รวมตัวเข้าด้วยกันในกลางอากาศเพื่อก่อตัวเป็นหอกยักษ์ พุ่งแทงลงไปยังภูเขา

เกิดเป็นเสียงระเบิดดังก้องออกมา ขณะที่เกราะป้องกันบิดเบี้ยวไปมา แต่คำก่นด่าของอวี่เหวินเจียนก็ยังคงดังก้องอยู่ในอากาศอย่างต่อเนื่อง

“มาเลย มากัดบิดา ท่านย่าไห่ตงชิงมันเถอะ เจ้าสุนัขเจี้ยนเหริน! ถ้าเจ้ามีความสามารถก็เข้ามา ถ้าเจ้ากล้ากัดบิดา บิดาก็กล้าที่จะทะลวงเจ้า!”

เมิ่งฮ่าวที่ยังคงอยู่ตรงด้านข้าง มองไปด้วยสีหน้าที่แปลกๆ ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักว่าในช่วงของการต่อสู้ก่อนหน้านี้ อวี่เหวินเจียนได้พูดจากับเขาค่อนข้างจะสุภาพ คนทั้งสองไม่ได้ต่อสู้กันจนถึงตาย แต่ในตอนนี้เมิ่งฮ่าวมีความรู้สึกว่า คำก่นด่าที่หยาบคายของอวี่เหวินเจียนสามารถจะเทียบได้กับนกแก้วอย่างแท้จริง

ที่ด้านนอกเกราะป้องกัน ไห่ตงชิงมีท่าทางกราดเกรี้ยวมากขึ้นกว่าเดิม จ้องมองมายังอวี่เหวินเจียนอย่างเย็นชา โบกสะบัดมือทำให้จำนวนของกระบี่ภาพลวงตาที่หมุนวนอยู่รอบๆ ตัวมันเพิ่มขึ้นเป็นห้าแสนเล่ม กระจาดแสงอันเจิดจ้าออกมา ขณะที่พวกมันกระแทกลงไปยังเกราะป้องกัน

เกราะป้องกันอ่อนแอลง และเห็นได้ชัดว่าผู้ฝึกตนทั้งสามคนนี้ได้เตรียมตัวมาเป็นอย่างดี ด้วยการต่อสู้ที่อยู่ใกล้กับเขตวิหารกลาง

“เจี้ยนเหริน! ปลิ้นปล้อน! เจ้าคนไม่มีก้าน! บัณเฑาะก์! (อ่านว่าบันเดาะ แปลว่ากระเทย) ลองแสดงความสามารถที่เจ้าให้บริการกับเต้าเทียนออกมา! มา มา มา!”

“ไห่ตงชิง พวกเราต่างก็มาจากขุนเขาที่เจ็ดด้วยกัน เจ้าพอจะบอกความจริงกับข้าได้ ใช่หรือไม่? ระหว่างเจ้ากับเต้าเทียน ใครเป็นฝ่ายรุก ใครเป็นฝ่ายรับ? บิดาอยากรู้จริงๆ นะ!” ขณะที่อวี่เหวินเจียนก่นด่าออกมาอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย มันก็ใช้โอกาสนี้พูดกับเมิ่งฮ่าวด้วยเสียงที่แผ่วเบา

“เมื่อไหร่ที่เห็นเจี้ยนเหรินผู้นี้ ข้าอดไม่ได้ที่จะต้องก่นด่ามันพี่เมิ่ง ต้องขออภัยด้วยที่ทำให้ท่านต้องมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ถ้าท่านรู้แจ้งได้เร็วก็ให้รีบจากไปก่อนที่จะถูกสังหาร ไม่ต้องห่วงข้า ถ้าท่านยังติดอยู่ในที่แห่งนี้ตอนที่ข้าถูกสังหารไป ท่านคงต้องตายตามไปในไม่ช้า”

“แต่…พวกเราอาจจะมีโอกาสที่ดีกว่าถ้าร่วมมือกัน และพวกเราคงจะต้องตายไปถ้าแยกจากกัน!”

“ต่อให้ท่านจากไป ก็ไม่อาจจะนำตราประทับนี้ไปด้วย ถ้าไม่มีใครมาขัดขวางพวกมันไว้ ท่านก็ไม่มีทางจะหลบหนีจากไปได้”

“ข้ายังรู้ด้วยว่าท่านมีตราประทับของชนเผ่าที่เจ็ดอยู่ในมือ ถ้าท่านจากไปพร้อมกับตราประทับนั้น พวกมันคงต้องไล่ล่าท่านไปอย่างแน่นอน”

“ยังมีอะไรอีก?” เมิ่งฮ่าวกล่าวขึ้นด้วยเสียงที่เย็นชา

อวี่เหวินเจียนกระแอมไอออกมา หันหน้าไปก่นด่าไห่ตงชิงอีกครั้ง จากนั้นก็หันกลับมายิ้มแห้งๆ ให้กับเมิ่งฮ่าว

“แน่นอนว่ายังมีอีก แต่ไม่มีเวลาพอที่จะอธิบายให้ชัดเจนได้ พี่เมิ่ง ท่านรีบจากไป ทุกสิ่งทุกอย่างในที่แห่งนี้ข้าจะจัดการเอง!”

ขณะที่มันกล่าว รอยแตกร้าวขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นที่เกราะป้องกัน เกิดเป็นเสียงฉีกขาดได้ยินมา ขณะที่รอยแตกร้าวนั้นกระจายออกไป ทำให้เกราะป้องกันทั้งหมดสั่นเป็นระลอกคลื่น เห็นได้ชัดว่ามันไม่อาจจะยืนหยัดได้อีกนานมากนัก ความเกลียดชังที่ลึกลงไปถึงกระดูกของไห่ตงชิงที่มีต่ออวี่เหวินเจียน ทำให้ต้องโจมตีไปด้วยความรีบร้อนมากขึ้นกว่าเดิม

ผู้ฝึกตนบุรุษและสตรีทั้งสองมีพื้นฐานฝึกตนที่ลึกล้ำ ถึงแม้ว่าพวกมันจะไม่ได้อยู่ในลำดับขั้น และให้ความรู้สึกว่าพวกมันไม่อาจจะเทียบได้แต่ก็ใกล้เคียง การโจมตีไปของพวกมัน ทำให้หอกขนาดใหญ่ทั้งสองเล่มนั้นแทงเข้าไปในเกราะป้องกัน

ดวงตาพวกมันเปล่งแสงอันน่ากลัวออกมา พวกมันไม่ได้มายังที่แห่งนี้เพื่อยุ่งเกี่ยวกับเรื่องราวระหว่างอวี่เหวินเจียนและไห่ตงชิง พวกมันมายังที่แห่งนี้เพราะเมิ่งฮ่าว และด้วยความหวังว่าจะได้รับรางวัลอย่างน่าเหลือเชื่อถ้าพวกมันสังหารเขาไปได้

บุรุษและสตรีทั้งสองจ้องมองไปยังเขาด้วยรังสีสังหารที่เด่นชัด และยังมีแสงแห่งความโลภอีกด้วย เห็นได้ชัดว่าพวกมันต้องการจะฉวยโอกาสในตอนที่เขาไม่อาจจะโจมตีกลับมาได้…สังหารเขาไป

ในตอนนี้เองที่จู่ๆ เมิ่งฮ่าวก็ลุกขึ้นมายืน กำมือขวาเป็นหมัด ทำให้ตราประทับของชนเผ่าที่เจ็ดหลอมรวมเข้าไปในมือของเขา

ต่อมาเขาทำท่าร่ายเวท จากนั้นก็ชี้นิ้วตรงไปยังเกราะป้องกัน ทันใดนั้นภูเขาจำนวนมากปรากฏขึ้นที่ด้านนอก กระแทกลงไปยังไห่ตงชิงและอีกสองผู้ฝึกตน

“ได้รับความรู้แจ้งเรียบร้อยแล้ว?” อวี่เหวินเจียนถามขึ้นด้วยแววตาที่สาดประกายเจิดจ้า

เมิ่งฮ่าวแค่นเสียงเย็นชา ไม่สนใจอวี่เหวินเจียนโดยสิ้นเชิง พุ่งขึ้นไปในอากาศตรงไปยังเกราะป้องกัน ขณะที่เขาปรากฏตัวขึ้นที่ด้านนอก ก็โบกสะบัดมือเพื่อเรียกสุดยอดสะพานออกมา

ขณะที่สุดยอดสะพานตกลงมา สีหน้าของไห่ตงชิงก็เปลี่ยนไป มันรีบขยับมือร่ายเวท ทำให้กระบี่ปรากฏขึ้น กระจายกลิ่นอายที่เก่าแก่โบราณออกมา

เป็นกระบี่ที่ชำรุดเสียหาย เหลืออยู่แค่เศษชิ้นส่วนที่มีความยาวแค่หนึ่งชุ่นเท่านั้น แต่ก็ยังกระจายกลิ่นอายอันเย็นยะเยือก จนทำให้เกิดเป็นสายลมขนาดใหญ่พุ่งขึ้นมาขณะที่มันปรากฏขึ้น ในเวลาเดียวกันนั้น กลิ่นอายของผู้ยิ่งใหญ่ก็กระจายออกไป

นี่คือเวทผู้ยิ่งใหญ่ของไห่ตงชิง พร้อมกับเสียงแผดร้องคำราม มันผลักสองมือออกไปที่เบื้องหน้า

ทำให้กระบี่หักพุ่งตรงไปยังสุดยอดสะพานในทันทีที่เวทผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองปรากฏขึ้น เมิ่งฮ่าวยกมือขวาขึ้นมา ภายในเป็นกระถางสายฟ้า ดวงตาเขาสาดประกายขึ้น และประจุไฟฟ้าก็เต้นไปมาอยู่รอบๆ ตัว ทันใดนั้นเขาก็สลับสับเปลี่ยนตำแหน่งกับผู้ฝึกตนหญิงสาว

ในชั่วพริบตาก่อนที่จะมีใครทันได้มีปฏิกิริยาใดๆ เมิ่งฮ่าวก็ขยับมือซ้ายร่ายเวท จากนั้นก็โบกสะบัดมือตรงไปยังผู้ฝึกตนบุรุษ

แก่นแท้แห่งเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ปะทุออกไปอย่างรุนแรง ทำให้สีหน้าของบุรุษผู้นั้นสลดลง มันพยายามจะหลบหนีล่าถอย แต่ก่อนที่มันจะพุ่งไปได้ไกล เมิ่งฮ่าวก็กลายเป็นวิหคยักษ์สีทอง โจมตีไปพร้อมกับเปลวไฟ กรีดเฉือนลงไปที่หน้าอกของบุรุษผู้นั้นอย่างรุนแรง

เปลวไฟห่อหุ้มมันไว้ และเสียงแผดร้องอย่างน่าอนาถใจก็ได้ยินมา ในเวลาเดียวกันนั้นประกายแสงอันเจิดจ้าระยิบระยับก็ปกคลุมอยู่รอบๆ ตัวมัน และมันก็ขยับมือร่ายเวท ทำให้เกิดเป็นชุดเกราะปกคลุมร่างกายไว้ ถึงแม้ว่ามันจะมีเครื่องป้องกัน แต่เปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ก็ยังคงไหลซึมเข้าไป ก่อให้เกิดเป็นความเจ็บปวดอย่างรุนแรง มันกัดฟันแน่น บังคับให้จิตใจยังคงกระจ่างแจ่มใส จากนั้นก็เริ่มถอยไปทางด้านหลัง แต่เมิ่งฮ่าวจะปล่อยให้มันหลบหนีไปได้อย่างไรกัน? วิหคยักษ์สีทองแวบขึ้นขณะที่เขากลายร่างเป็นมนุษย์เหมือนเดิม จากนั้นก็กำมือขวาเป็นหมัดและต่อยหมัดกลายเป็นปีศาจออกไป

เกิดเป็นเสียงระเบิดดังก้องขึ้น เมื่อเขากระแทกเข้าไปที่หน้าอกของมัน ชุดเกราะป้องกันระเบิดออก และโลหิตก็พ่นกระจายออกไปทั่ว

สีหน้าที่ซีดขาวของมันเต็มไปด้วยความตกใจ รีบใช้ฟันกัดไข่มุกไปอย่างรวดเร็ว เมื่อหมัดที่สองของเมิ่งฮ่าวเข้ามาใกล้ ร่างกายมันก็กลายเป็นภาพลวงตา และหมัดของเขาก็กระแทกเข้าไปในอากาศ

บุรุษผู้นั้นพุ่งไปทางด้านหลังด้วยความกระวนกระวายใจ แผดร้องขึ้นว่า

“ช่วยข้าด้วย!”

ไข่มุกนั้นคือของวิเศษที่ใช้ช่วยชีวิต เป็นสิ่งที่มันไม่เคยนำออกมาใช้เป็นเวลานานมากแล้ว และปกติแล้วก็จะแอบซุกซ่อนไว้ในปาก แต่การต่อสู้กับเมิ่งฮ่าวเพียงชั่วครู่ ก็บังคับให้มันต้องปลดปล่อยพลังนี้ออกมา

ทุกสิ่งทุกอย่างที่กำลังเกิดขึ้นนี้ต้องใช้เวลาในการอธิบาย แต่ในความเป็นจริงนับตั้งแต่ตอนที่เมิ่งฮ่าวปลดปล่อยสุดยอดสะพาน จนถึงตอนที่เขาโจมตีไปยังบุรุษผู้นี้ ใช้เวลาเพียงแค่จุดประกายหินเหล็กไฟเท่านั้น รวดเร็วจนคนอื่นๆ ไม่มีเวลาที่จะทันได้มีปฏิกิริยาใดๆ

ไห่ตงชิงปลดปล่อยเวทผู้ยิ่งใหญ่ของมันออกมาช้ากว่าเล็กน้อย ทำให้ยากที่จะไปช่วยเหลือบุรุษผู้นั้นได้ สำหรับหญิงสาว ตอนนี้นางอยู่ค่อนข้างจะห่างออกไปไกล นางกำลังจะใช้การเคลื่อนย้ายทางไกลย่อยออกไป แต่ก็เห็นได้ชัดว่าเมิ่งฮ่าวคาดคิดไว้แล้วว่าจะต้องเกิดขึ้นเช่นนี้ เขาใช้มือขวาขยับร่ายเวท และจากนั้นก็ชี้นิ้วตรงไปยังหญิงสาว

เวทผนึกอสูรรุ่นแปดกลายเป็นระลอกคลื่นที่มองไม่เห็น ทำให้เกิดเป็นแรงสั่นสะเทือนวิ่งไปผ่านทั่วร่างของหญิงสาว ตอนนี้นางไม่อาจจะเคลื่อนย้ายทางไกล หรือทำสิ่งใดๆ เพื่อมาขัดขวางได้

รังสีสังหารแวบขึ้นมาในดวงตาเมิ่งฮ่าว โดยไม่พูดอะไรออกมา เขาพุ่งตรงไปยังบุรุษผู้นั้นราวกับเป็นสายฟ้า ด้วยการโบกสะบัดมือของเขา ชีพจรเซียนหนึ่งร้อยยี่สิบสามจุดระเบิดเป็นพลังออกไป และสวรรค์สามสิบสามชั้นก็ตกลงมา กลายเป็นอุ้งเท้าของสัตว์อสูร กรีดเฉือนตรงไปยังผู้ฝึกตนที่หลบหนีจากไปนั้น

เกิดเป็นเสียงระเบิดดังก้องขึ้น และบุรุษผู้นั้นก็ส่งเสียงแผดร้องอย่างโหยหวนออกมา หน้าอกของมันระเบิดออกกลายเป็นกลุ่มหมอกของโลหิตและชิ้นเนื้อ

สีหน้าเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกอย่างถึงที่สุด ราวกับว่ามันรับรู้ได้ถึงความตายที่ใกล้เข้ามา มันจะคาดคิดได้อย่างไรว่าต้องมาพังทลายลงไปราวกับเป็นกิ่งไม้ผุ ภายใต้การโจมตีของศัตรู โดยที่ไม่มีโอกาสแม้แต่จะต่อสู้กลับไป?

มันต้องคิดย้อนกลับไปยังการต่อสู้ระหว่างเมิ่งฮ่าวและหลินชงขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ และตอนนี้ก็รู้แล้วว่าหลินชงรู้สึกอย่างไร แต่มันก็ไม่อาจจะทำอะไรได้ นอกจากต้องตกอยู่ในอันตรายต่อไป

ไห่ตงชิงเต็มไปด้วยโทสะ ร่างกายมันแวบขึ้นขณะที่ขยับมือร่ายเวท ทำให้ปราณกระบี่หนึ่งล้านกระแสระเบิดออกไป พุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าวเพื่อปิดกั้นเส้นทางที่เขาจะไปยังผู้ฝึกตนบุรุษนั้น

ใบหน้าของหญิงสาวเต็มไปด้วยสีหน้าอันดุร้าย และนางก็มีท่าทางกระวนกระวายใจขึ้นอย่างน่าเหลือเชื่อ นางและบุรุษผู้นั้นเป็นคู่รักกัน ดังนั้นในตอนนี้หัวใจนางกำลังถูกฉีกกระชากออกเป็นชิ้นๆ

นางยังได้เผาไหม้พลังชีวิตของตนเอง เพื่อทำให้หลุดออกมาจากเวทรุ่นแปด โลหิตพ่นกระจายออกมาจากปาก ขณะที่นางพุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าว

“ยั้งมือด้วย!” นางกรีดร้องเป็นเสียงแหลมเล็กออกมา

บุรุษผู้นั้นเพิ่งจะได้หายใจหลังจากที่การโจมตีมาอย่างต่อเนื่องของเมิ่งฮ่าวสิ้นสุดลง มันกัดฟันแน่นและถอยไปทางด้านหลังอีกครั้ง ตราบเท่าที่มันสามารถจะอดทนจนกว่าคู่รักของมันจะมาถึง มันก็จะปลอดภัย ขอเวลาเพียงแค่ไม่กี่อึดใจก็พอแล้ว

อย่างไรก็ตามในตอนนี้เองที่จู่ๆ เมิ่งฮ่าวก็ระเบิดพลังออกมา เขาเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าว พลังพุ่งขึ้นไปอย่างรวดเร็ว อากาศรอบๆ ตัวบิดเบี้ยวไปมา ทำให้จิตใจของไห่ตงชิงและผู้ฝึกตนหญิงสาวต้องหมุนคว้าง

อาการบาดเจ็บอย่างสาหัสเกิดขึ้นมาบนร่างของผู้ฝึกตนบุรุษในทันที มันส่งเสียงแผดร้องอย่างน่ากลัวออกมา ขณะที่เมิ่งฮ่าวเข้าไปใกล้และต่อยหมัดลงไปบนหน้าอกมันอีกครั้ง

ร่างกายของบุรุษผู้นั้นระเบิดออกกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย แต่ยังไม่ตายไป วิญญาณเซียนที่ครบถ้วนสมบูรณ์ของมันพุ่งออกมา และพยายามจะหลบหนีจากไปอย่างรวดเร็ว แต่เมิ่งฮ่าวก็แค่นเสียงเย็นชาขึ้น

เสียงนั้นประกอบไปด้วยพลังจากคัมภีร์เต๋าศักดิ์สิทธิ์ และสัมผัสศักดิ์สิทธิ์อันเข้มข้นก็กระแทกออกไป ทำให้วิญญาณเซียนของมันสั่นสะท้าน ในเวลาเดียวกันนั้น มือขวาของเมิ่งฮ่าวก็ทำท่าคว้าจับออกไป และหอกที่มีส่วนปลายเป็นกระดูกก็ปรากฏขึ้น

จากนั้นเขาก็ขว้างตรงไปยังวิญญาณเซียน ไม่แม้แต่จะรอดูผลลัพธ์ เมิ่งฮ่าวหมุนตัว และต่อยหมัดตรงไปยังผู้ฝึกตนหญิงสาวที่กรีดร้องอยู่นั้น

เสียงระเบิดดังก้องออกมาขณะที่หมัดนั้นกระแทกเข้าไป โลหิตพ่นกระจายออกมาจากปากของหญิงสาว และนางก็ลอยละลิ่วปลิวไปทางด้านหลัง เกิดเป็นผลกระทบกลายเป็นระลอกคลื่นกระจายออกไป และกระแทกเข้าไปยังลำแสงแห่งปราณกระบี่ที่พุ่งเข้ามาของไห่ตงชิง ทำให้พวกมันหยุดชะงักนิ่งอยู่ในกลางอากาศ

ในตอนนี้เองที่หอกซึ่งมีส่วนปลายเป็นกระดูก ได้แทงเข้าไปที่หน้าผากของวิญญาณเซียน มันสั่นสะท้านและสีหน้าก็เต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ ขณะที่วิญญาณนั้นแตกกระจายกลายเป็นชิ้นๆ ถูกทำลายไปโดยสิ้นเชิง!

“ไม่!!” หญิงสาวกรีดร้องออกมา ร่างกายสั่นสะท้าน ดวงตาเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อและบ้าคลั่ง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version