ตอนที่ 1268
ประตูอาณาจักรโบราณตกลงมา
แทบจะในทันทีที่ปรมาจารย์สายโลหิตที่แปดยอมแพ้ ปรมาจารย์สายโลหิตที่เก้า ซึ่งเป็นชายชราที่เคยพบกับเมิ่งฮ่าวมาก่อน จู่ๆ ก็แผดร้องคำรามขึ้น ชูสองมือขึ้นไปในอากาศ จากนั้นก็ตบเข้าด้วยกันอย่างรุนแรง
“กระจกสังหาร!”
มันร้องตวาดขึ้น แทบจะทันใดนั้น ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวตรงด้านล่างเท้าของเมิ่งฮ่าว ก็เริ่มเกิดเป็นระลอกคลื่นขึ้นมา อย่างน่าตกใจยิ่ง…
พื้นที่ตรงด้านล่างเมิ่งฮ่าวกลายเป็นกระจกขนาดยักษ์ ซึ่งสะท้อนสิ่งของทั้งหมดที่อยู่ด้านบน รวมทั้งเมิ่งฮ่าวและคนอื่นๆ ที่กำลังต่อสู้กันอยู่
เมิ่งฮ่าวร้องอุทานออกมา เขาเคยต่อสู้กับผู้แข็งแกร่งอาณาจักรเต๋ามาหลายครั้ง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นเวทแก่นแท้ในรูปแบบของกระจก เมื่อมองลงไปยังกระจก ก็มีตัวเองอีกหนึ่งคนอยู่ที่นั่น
ตอนนี้ตัวเขาเองอีกคนนั้น กำลังก้มตัวลงด้วยเช่นกัน คนทั้งสองมองดูซึ่งกันและกันอยู่ชั่วขณะ ในที่สุดเมิ่งฮ่าวก็รู้สึกได้ถึงพลังที่เหมือนกับการยึดครองร่างกำลังพุ่งกระจายอยู่ภายในร่างของตนเอง
เวลาเดียวกันนั้นแสงสีโลหิตก็กำลังใกล้เข้ามา ภายในนั้นคือแก่นแท้แห่งการสังหาร มันกลายร่างเป็นใบมีดสีโลหิต กรีดเฉือนตรงมายังเมิ่งฮ่าว มือขวาเมิ่งฮ่าวแวบขึ้นเพื่อร่ายเวท ทำให้ภูเขาจำนวนมากตกลงมา ปิดกั้นใบมีดสีโลหิตไว้ อย่างไรก็ตามใบมีดสีโลหิตก็ทะลวงผ่านพวกมันออกมา และจากนั้นก็กรีดเฉือนไปบนร่างเมิ่งฮ่าว!
เมิ่งฮ่าวมองลงไปยังบาดแผลบนแขน และโลหิตที่ไหลซึมออกมา เห็นได้ชัดว่าแม้แต่พลังการฟื้นฟูตัวของตนเอง ก็ยังไม่อาจจะรักษาบาดแผลนี้ได้
“แก่นแท้สังหาร…” เมิ่งฮ่าวคิดด้วยสีหน้าไม่เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย โดยไม่ลังเลใดๆ เขารีบยกมือขึ้นและชี้นิ้วไปยังด้านหลังในทันที ฉับพลันนั้นสายฟ้าสีเขียวนับพันที่กำลังพุ่งตรงมาก็หยุดชะงักนิ่ง
แต่จากนั้น เสียงเก่าแก่โบราณก็ดังก้องขึ้น
“ระเบิด!”
ตูมมมมมมม!
สายฟ้านับพันเหล่านั้นระเบิดขึ้น ปกคลุมไปทั่วร่างเมิ่งฮ่าว เวลาเดียวกันนั้นใบมีดแสงสีแดงก็พุ่งออกมาจากภายในกระจกที่ด้านล่าง กรีดเฉือนตรงมายังเมิ่งฮ่าวพร้อมกับสายฟ้าสีเขียวที่แตกกระจายไปเหล่านั้น
เวลาเดียวกันนั้น สายฟ้าสีเขียวนับพันที่อยู่ในกระจกก็ระเบิดออกมาด้วยเช่นกัน เห็นได้ชัดว่ากระจกนี้เป็นเวทชนิดที่ทำให้เกิดความรุนแรงได้สองเท่า เมิ่งฮ่าวถูกปกคลุมด้วยแรงระเบิดเหล่านั้น
สามปรมาจารย์ที่ยังคงต่อสู้อยู่ กำลังจ้องมองไปยังเมิ่งฮ่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด รู้สึกสะท้านใจอย่างลึกล้ำกับพลังที่เขาแสดงออกมา
สามชายชราสบตากันไปมา และจากนั้นคนผู้หนึ่งก็กล่าวว่า “ถึงแม้ว่าไม่อาจจะสังหารมันไป แต่อย่างน้อยก็น่าจะทำให้มันได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัส…”
แต่จากนั้นสีหน้าพวกมันก็สลดลง เมื่อเสียงอันเย็นชาของเมิ่งฮ่าวดังก้องออกมาจากภายในสายฟ้าสีเขียว “ไม่ค่อยน่าสนใจเท่าใดนัก”
ร่างเมิ่งฮ่าวแวบผ่านความว่างเปล่าตรงมายังปรมาจารย์สายโลหิตที่เก้า สีหน้าของชายชราเปลี่ยนไป และกัดลงไปที่ปลายลิ้นเล็กน้อย พ่นโลหิตออกมาหนึ่งคำ
“กระจกที่สอง!” มันร้องตะโกนขึ้น กระจกขนาดใหญ่อีกหนึ่งบานปรากฏขึ้นในความว่างเปล่า พุ่งตรงไปยังเส้นทางของเมิ่งฮ่าว เมื่อเขาบินเข้าไปในกระจก ก็โผล่ออกมาจากกระจกบานแรก
ขณะที่เป็นเช่นนั้น อีกสองปรมาจารย์ก็ปลดปล่อยการโจมตีออกมาโดยพร้อมเพรียงกัน ใบมีดโลหิตกลายเป็นทะเลโลหิต และสายฟ้าสีเขียวก็กลายเป็นโซ่สายฟ้า พุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าว
“กระจกที่สาม!”
“กระจกที่สี่!” ขณะที่ปรมาจารย์สายโลหิตที่เก้าแผดร้องตระโกนขึ้น โลหิตก็ไหลซึมออกมาจากดวงตา หู จมูกและปาก กระจกทั้งสี่คือขีดจำกัดของมัน และขณะที่มันปลดปล่อยเวทนี้ออกไป การโจมตีก็พุ่งออกมาจากพวกมันมากขึ้น
การปรากฏขึ้นของกระจกเหล่านี้ ทำให้พลังเวทแห่งเต๋าต่างๆ ที่เล็งไปยังเมิ่งฮ่าวมีพลังเพิ่มมากขึ้นเป็นหลายเท่า ทะเลโลหิตอันไร้ขอบเขต และสายโซ่สีเขียวที่ดูเหมือนว่าจะไร้จุดสิ้นสุด ส่งเสียงดังกระหึ่มพุ่งฝ่าท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวตรงไปยังเมิ่งฮ่าว
ตรงคฤหาสน์บรรพชนตระกูลเมิ่งที่ด้านล่าง สมาชิกตระกูลทั้งหมดกำลังมองดูด้วยความตื่นเต้น สำหรับไว่ผอแววตาท่านเต็มไปด้วยความวิตกห่วงใย
ในตอนที่สมาชิกคนอื่นๆ ทั้งหมดของตระกูลเมิ่งกำลังตื่นเต้น เสียงกระหึ่มอย่างรุนแรงก็ดังก้องออกมาจากร่างเมิ่งฮ่าวที่อยู่ในท่ามกลางกระจก
“ไม่เลว เวทแห่งเต๋าเหล่านี้ค่อนข้างจะมีประโยชน์…” เมิ่งฮ่าวกล่าวขึ้น ด้วยน้ำเสียงที่กระตือรือร้นเป็นอย่างยิ่ง ทันใดนั้นเขาก็เริ่มกระจายพลังจากพื้นฐานฝึกตนออกไป
อย่างน่าประหลาดใจยิ่ง ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้ใช้พื้นฐานฝึกตนต่อสู้กลับไปแม้แต่น้อย เขาพึ่งพาเพียงแต่ความแข็งแกร่งของกายเนื้อตนเองเท่านั้น แต่ตอนนี้เขาเรียกพลังของเซียนเต๋าทุกชั้นฟ้าออกมา จนเกิดเป็นพลังพุ่งสูงขึ้นไป ทำให้ทะเลโลหิตเหือดแห้งหายไป และโซ่สายฟ้าก็แตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ
เวลาเดียวกันนั้น การใช้พลังเซียนเต๋าทุกชั้นฟ้าของเมิ่งฮ่าว ก็ทำให้เขารู้สึกได้ว่าประตูอาณาจักรโบราณกำลังใกล้เข้ามา ถึงแม้ว่าไม่มีใครจะสามารถรับรู้ได้ก็ตามที แต่เมิ่งฮ่าวก็เข้าใจเป็นอย่างดีถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นี้
ประตูอาณาจักรโบราณกำลังใกล้เข้ามาอย่างกระชั้นชิด เขาไม่จำเป็นต้องเรียกมันมา มันสามารถจะตกลงมาด้วยตนเองได้ทุกเมื่อ!
เมิ่งฮ่าวมีสีหน้าเยือกเย็นขณะที่ก้าวเนิบนาบไปข้างหน้า ชี้นิ้วออกไป ทำให้พลังแห่งเซียนเต๋าทุกชั้นฟ้าปะทุขึ้น และผลเนี่ยผานทั้งสี่ก็เริ่มโคจรหมุนวนอยู่ภายในร่าง การชี้นิ้วออกไปนี้ดูเหมือนว่าสามารถจะทำให้อาณาจักรขุนเขาทะเลต้องแตกกระจายออกไป เมื่อนิ้วนั้นสัมผัสไปโดนกระจก เสียงแตกร้าวก็ดังก้องออกมา และรอยแตกร้าวก็กระจายออกไปทั่วทั้งพื้นผิว จากนั้นก็แตกกระจายออกไปอย่างง่ายดาย
เมื่อกระจกบานแรกแตกกระจายไป ปรมาจารย์สายโลหิตที่เก้าก็กระอักโลหิตออกมากองโต จากนั้นเมิ่งฮ่าวก็ชี้นิ้วไปอีกครั้ง ทำให้กระจกบานที่สองระเบิดออก
ต่อมาเขาก็ชี้นิ้วไปเป็นครั้งที่สามและครั้งที่สี่!
กระจกบานที่สามและสี่ต่างก็แตกกระจายออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยไปทั้งคู่ ปรมาจารย์สายโลหิตที่เก้ากระอักโลหิตออกมามากขึ้น และร่างกายก็แห้งเหี่ยวลงไป เมื่อเจอกันครั้งแรก คนผู้นี้มีท่าทางเย่อหยิ่งเป็นอย่างยิ่ง แต่ตอนนี้มันกำลังสั่นสะท้าน และหนังศีรษะก็ด้านชาขณะที่ร้องตะโกนขึ้นว่า “ยอมแพ้!”
แทบจะในทันทีที่คำพูดสองคำนี้หลุดออกมาจากปากมัน ความว่างเปล่าที่เบื้องหน้าก็แหลกสลายลงไป ห่างจากตำแหน่งที่มันยืนอยู่แค่ไม่กี่จ้างเท่านั้น บริเวณนั้นกระจายเป็นเจตจำนงแห่งการทำลายล้างอันแข็งแกร่งออกมา และปรมาจารย์สายโลหิตที่เก้าก็รู้ว่าถ้ามันยอมแพ้ช้าไปกว่านี้เพียงเล็กน้อย พลังทำลายล้างนั้นก็จะพุ่งมาถึงตัวมันในทันที
ยิ่งคิดก็ทำให้มันยิ่งหอบหายใจออกมา
“แค่มองมา นั่นเกิดขึ้นจากการมองมาของมันเท่านั้น…พื้นฐานฝึกตนของมันต้องเทียบเท่ากับจักรพรรดิเต๋าอย่างแน่นอน แต่ทำไมสัมผัสถึงแก่นแท้บนร่างมันได้ไม่มากนัก…?”
ขณะที่ปรมาจารย์สายโลหิตที่เก้ายอมแพ้ เมิ่งฮ่าวก็หมุนตัว ฟาดฝ่ามือตรงไปยังปรมาจารย์ที่ใช้แก่นแท้แห่งโลหิตและการสังหาร ทันใดนั้นท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวก็เริ่มแตกกระจายออกไป ขณะที่รอยแตกร้าวเปิดออก และอสูรโลหิตก็โผล่ออกมา มันแหงนหน้าขึ้นและแผดร้องคำรามออกมา ทำให้คนทั้งหมดรู้สึกราวกับว่าไม่อาจจะควบคุมโลหิตภายในร่างได้ จากนั้นอสูรโลหิตก็พุ่งตรงไปยังปรมาจารย์อาณาจักรเต๋า กระจายเป็นความโหดเหี้ยม บ้าคลั่ง และกระหายเลือดออกไป
สีหน้าของปรมาจารย์แก่นแท้สังหารสลดลง แต่แทนที่จะล่าถอยออกไป จู่ๆ มันก็พุ่งตรงไปต่อสู้กับอสูรโลหิต เมิ่งฮ่าวแค่นเสียงเย็นชา ไปปรากฏกายขึ้นที่เบื้องหน้าอสูรโลหิตในทันที พร้อมกับต่อยหมัดออกไป
นี่คือหมัดทำลายล้างชีวิต!
ขณะที่หมัดนั้นพุ่งออกไป สีหน้าของปรมาจารย์อาณาจักรเต๋าก็สลดลง มันต้องการจะล่าถอยออกไป แต่ก็ไม่ทันแล้ว ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวสั่นสะท้าน และโลหิตก็พ่นกระจายออกมาจากปากมัน จากนั้นมันก็ถอยไปทางด้านหลัง สีหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจและหวาดกลัว แต่ก็ยังไม่ยอมแพ้
ขณะที่ล่าถอยไปนั้น สองมือก็ขยับร่ายเวทอย่างรวดเร็ว ทำให้โลงศพเก้าโลงลอยออกมาจากถุงสมบัติ กระจายเป็นบรรยากาศที่เย็นชาและน่ากลัว เวลาเดียวกันนั้นดอกไม้ที่ใช้ประดับหลุมฝังศพก็ปรากฏขึ้นอยู่ในมือ เต็มไปด้วยบุปผาสีโลหิต!
“ใช้ของวิเศษและหุ่นเชิด หือ?” เมิ่งฮ่าวถามขึ้น มองไปยังปรมาจารย์ผู้นั้น
“ไม่เคยมีกฎว่าห้ามใช้ของวิเศษ” ปรมาจารย์กล่าวตอบ ดวงตาสาดประกายขึ้นด้วยความเย็นชา
ในตอนนี้เองที่ผู้แข็งแกร่งมากที่สุดในห้าปรมาจารย์ ซึ่งมีสี่แก่นแท้ อ้าปากขึ้นและพ่นตรีศูลสีเขียวออกมา ทันใดนั้นท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวก็สั่นสะท้าน และสายฟ้าสีเขียวนับไม่ถ้วนก็เริ่มมารวมตัวกันบนร่างมัน ในที่สุดมันก็เปล่งประกายเป็นแสงสีเขียวอันเจิดจ้า เมื่อรวมเข้ากับสายฟ้าสีเขียว ก็ทำให้ดูคล้ายกับเป็นสายฟ้าสีเขียวอย่างแท้จริง มันกวัดแกว่งตรีศูลไปมา และกำลังจะพุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าว
แต่จู่ๆ หอกยาวก็ปรากฏขึ้นในมือเมิ่งฮ่าวอย่างฉับพลัน หอกนั้นดูคล้ายมังกร และกระจายกลิ่นอายอันน่ากลัวออกมา ทำให้ความว่างเปล่าสั่นสะเทือนหรือแม้แต่จะแตกกระจายไปอีกด้วย เห็นได้ชัดว่านี่คือของวิเศษอันล้ำค่า!
ที่น่าตกใจมากไปกว่านั้นก็คือว่า ในทันทีที่หอกยาวปรากฏขึ้น บุปผาตกแต่งหลุมฝังศพที่อยู่ในมือของปรมาจารย์แก่นแท้สังหารเริ่มสั่นไหวไปมา จากนั้นกลีบดอกของบุปผาสีโลหิตก็เริ่มแห้งเหี่ยวและร่วงโรยลงไป!
สำหรับโลงศพทั้งเก้า พวกมันกระจายเป็นเสียงหึ่งๆ ที่แปลกประหลาดออกมา จนดูเหมือนว่าจะเป็นภาษาบางอย่าง ในทันทีที่ปรมาจารย์ได้ยินเสียงเหล่านั้น สีหน้ามันก็สลดลง
แต่เหตุการณ์ยังไม่จบลงเพียงเท่านี้ ตรีศูลที่ปรมาจารย์เกือบสี่แก่นแท้ถืออยู่ในมือ ดูเหมือนว่าจะหวาดกลัวขึ้นมา ราวกับว่าศัตรูอันแข็งแกร่งอย่างน่าเหลือเชื่อจู่ๆ ก็ปรากฏกายขึ้น สีหน้าของปรมาจารย์สลดลง และจิตใจก็เริ่มเต้นรัว
หอกที่สามารถทำให้ของวิเศษอื่นๆ ตกใจกลัว คืออาวุธที่ตันหลางช่วยปลดผนึกให้ ถ้ามันคืออาวุธที่ตันหลางคิดว่าเป็นของวิเศษอันล้ำค่า ก็เห็นได้ชัดว่ามันต้องไม่อ่อนแออย่างแน่นอน
“เมื่อพวกเจ้าใช้ของวิเศษ ข้าก็ต้องใช้บ้าง ข้าพบกับคนใจดีที่ช่วยปลดผนึกหอกนี้ให้กับข้า ยังไม่มีโอกาสที่จะใช้มันเลย ดังนั้นจึงไม่มั่นใจว่าจะสามารถควบคุมมันได้อย่างสมบูรณ์หรือไม่ พวกเจ้ามั่นใจว่าจะต่อสู้ต่อไป?” เมิ่งฮ่าวกล่าวเสียงราบเรียบ
ตอนนี้เขามีความเชื่อมั่นว่าพลังการต่อสู้ของตนเอง เพียงพอที่จะต่อสู้กับจักรพรรดิเต๋าสี่แก่นแท้ได้แล้ว อย่างไรก็ตาม การที่เขาจะต่อสู้กับห้าแก่นแท้ได้หรือไม่ ก็เป็นเรื่องยากที่จะบอกได้
ในทันทีที่คำพูดหลุดออกมาจากปาก ใบหน้าของสองปรมาจารย์ที่เหลือก็เปลี่ยนเป็นน่าเกลียดขึ้น พวกมันไม่เชื่อแม้แต่น้อยในสิ่งที่เมิ่งฮ่าวบอกว่ามีคนใจดีมาช่วยปลดผนึกหอกนี้ให้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหอกนั้นมีพลังที่ทำให้ของวิเศษของพวกมันต้องแห้งเหี่ยวลงไป และสั่นสะท้านขณะที่เผชิญหน้ากับมัน ใครจะไปเชื่อว่าจะมีคนอาสามาช่วยกลั่นสกัดของวิเศษเช่นนี้ให้กับคนอื่น? ยิ่งพวกมันคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็ยิ่งรู้สึกว่าคำพูดเกี่ยวกับคนจิตใจดีของเมิ่งฮ่าวเป็นเรื่องไร้สาระโดยสิ้นเชิง
นอกจากนี้ ถ้าคนใจดีเช่นนั้นมีอยู่จริง ทำไมพวกมันถึงไม่เคยพบเจอแม้แต่ครั้งเดียว…?
สำหรับพวกมันแล้ว เมิ่งฮ่าวกำลังใช้คำพูดเหล่านั้นในฐานะที่เป็นข้ออ้าง เป็นข้ออ้างเพื่อให้สามารถ…สังหารพวกมันไปภายใต้อุบัติเหตจากการต่อสู้!
“เหล่าฟูยอมแพ้!” ปรมาจารย์ที่เชี่ยวชาญแก่นแท้สังหารกล่าวขึ้น กัดฟันแน่นโบกสะบัดมือออกไป ทำให้โลงศพและบุปผาหายไป
ปรมาจารย์เกือบสี่แก่นแท้หัวเราะหึๆ ด้วยความขมขื่น แสงสีเขียวจางหายไป มันเก็บตรีศูลไว้ จากนั้นก็ประสานมือและโค้งตัวลงต่ำ
“เหล่าฟูยอมแพ้ด้วยเช่นกัน พวกเราทั้งหมดมาจากตระกูลเดียวกัน ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องต่อสู้กันถึงตาย สำหรับสายโลหิตที่สิบ…พวกเรายอมรับว่าพวกมันคือสายโลหิตหลัก และให้สัญญาว่านับจากนี้ไปจะช่วยเหลือพวกมันตามที่เจ้ากล่าวมา สหายน้อย เจ้าเห็นด้วยหรือไม่?” มันกล่าวขึ้น มองไปยังเมิ่งฮ่าวพร้อมรอยยิ้ม
เมิ่งฮ่าวไม่กล่าวตอบ แต่มองขึ้นไปในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว แสงแห่งความมุ่งหวังสาดประกายขึ้นมาในดวงตา…
เวลาเดียวกันนั้น ห้าปรมาจารย์อาณาจักรเต๋าต่างก็มองขึ้นไปด้วยความตกตะลึง
ประตูอาณาจักรโบราณกำลังตกลงมาแล้ว!