Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1334

ตอนที่ 1334

จักรพรรดิเต๋า

ชางจู่รู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่กำลังกระจายออกมาจากร่างเมิ่งฮ่าว นี่เป็นครั้งแรกของมันด้วยเช่นกัน ที่ได้เห็นร่างจำแลงจักรพรรดิเต๋านอกคอกกระทำเช่นนี้ ดังนั้นมันจึงเข้าร่วมการโจมตีไปในทันที

จิตใจมันกำลังเต้นรัว รู้ดีว่าไม่อาจจะประเมินเมิ่งฮ่าวต่ำจนเกินไปนัก ซึ่งทำให้มันต้องรู้สึกหวาดกลัวและวิตกกังวลโดยสิ้นเชิง

โดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย มันขยับมือร่ายเวท ทำให้พลังแก่นแท้ปะทุขึ้น แก่นแท้ทั้งห้าของมันถูกปลดปล่อยออกไป ที่แข็งแกร่งมากที่สุดคือแก่นแท้สุดท้าย, แก่นแท้แห่งแสง!

สิ่งที่พุ่งออกไปไม่ใช่แสงสว่างอันเจิดจ้า แต่เป็นความเร็วแสง ในฐานะที่เป็นราชันแห่งขุนเขาทะเลที่หก สิ่งที่มันเหนือกว่าผู้อื่นก็คือความเร็ว!

มันเข้าไปใกล้อย่างรวดเร็ว โบกสะบัดมือออกไป ทำให้แก่นแท้ของตนเองกลายเป็นความสามารถศักดิ์สิทธิ์ สีสันแวบขึ้นไปในท้องฟ้า ดวงดาวสั่นสะท้าน และหัตถ์ยักษ์ก็ปรากฏขึ้นคว้าจับไปยังเมิ่งฮ่าว

ทั้งมันและคนนอกคอกกำลังทุ่มจนสุดตัวเพื่อโจมตีไปยังเมิ่งฮ่าว แม้แต่ของวิเศษก็ยังใช้ออกมา สำหรับจักรพรรดิเต๋านอกคอก เกล็ดแต่ละชิ้นของมันราวกับเป็นอาวุธเวท เต็มไปด้วยพลังอันน่าตกใจ เมื่อรวมเข้าด้วยกันแม้แต่สวรรค์ก็สามารถจะทำลายลงไปได้

อดีตราชันแห่งขุนเขาทะเลที่หกมีของวิเศษในรูปแบบของไข่มุกสีแดงเข้มสองลูก หมุนวนอยู่รอบๆ ร่างมัน กลายเป็นดาวตกสีแดงสองดวงพุ่งออกไป กระจายเป็นแรงกดดันอันน่าเหลือเชื่อออกมา

เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น เมื่อสองผู้แข็งแกร่งที่ทรงพลังพยายามจะสังหารเมิ่งฮ่าว เวลาเดียวกันนั้นอูจู่ก็นั่งอยู่ภายในเกราะป้องกันของตนเองด้วยความวิตกกังวล

แต่สีหน้าเมิ่งฮ่าวก็ยังคงสงบนิ่งไม่เปลี่ยนไปจากเดิม มองไปยังศัตรูที่ใกล้เข้ามาทั้งสอง จากนั้นก็ยิ้มขึ้นมา ทันใดนั้นก็พบว่าตนเองกำลังคิดไปถึงตอนที่ผ่านเข้าไปในโลกแห่งภาพลวงตา ที่อยู่ในหุบเขาสุสานเทพ และมองเห็นเทพที่มีรูปร่างใหญ่โต แผดร้องคำรามออกมาด้วยโทสะ

“เทพคำราม…” เมิ่งฮ่าวพึมพำเบาๆ ขณะที่คนนอกคอกและชายชราเข้ามาใกล้ ดวงตาสาดประกายขึ้นด้วยแสงแปลกๆ ในทันที และอ้าปากขึ้น ทันใดนั้นพลังของกายเนื้อก็ระเบิดออกไป โดยที่ไม่ถูกจำกัดด้วยอารมณ์ที่สองหรือพลังอันบ้าคลั่งจากการการดับตะเกียงวิญญาณของตนเองอยู่

กรรรรรรร!!

เสียงคำรามอันทรงพลังดังก้องออกมาจากปากเมิ่งฮ่าว อย่างไรก็ตามไม่มีเสียงให้ได้ยิน เห็นได้ชัดว่า…เสียงนั้นดังมากเกินกว่าที่จะกลายเป็นเสียง ดังมากจนไม่มีกฎธรรมชาติใดจะมีผลกระทบหรือต่อต้านมันได้ ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวแตกกระจายไป และดูเหมือนว่าสวรรค์ก็แทบจะหายไป อันที่จริง…เสียงนี้เกินกว่าระดับที่ผู้ฝึกตนหรือคนนอกคอกใดๆ จะได้ยินโดยสิ้นเชิง

ระลอกคลื่นกระจายออกมา ฉีกความว่างเปล่าให้ขาดกระจายออกไป

ขณะที่เมิ่งฮ่าวส่งเสียงคำรามที่มีแหล่งกำเนิดมาจากสมัยโบราณ แต่ก็ดังก้องอยู่ในยุคปัจจุบันนี้

ในชั่วพริบตาระลอกคลื่นนับไม่ถ้วนก็ปรากฏขึ้น ทำให้ว่างเปล่าบิดเบี้ยวไปมาอยู่ที่เบื้องหน้า กลายเป็นลมพายุอันรุนแรงทำให้ทุกสรรพสิ่งสั่นสะเทือน ขณะที่พุ่งตรงไปกระแทกยังร่างของจักรพรรดิเต๋านอกคอกและราชันแห่งขุนเขาทะเลที่หก

ตูมมมมมมม!

คนนอกคอกกระอักโลหิตออกมากองโต รู้สึกราวกับว่าร่างตนเองกำลังจะถูกฉีกกระชากออกเป็นชิ้นๆ และแผดร้องออกมา แต่เสียงแผดร้องนั้นก็ถูกกลบไปโดยเสียงคำรามอันทรงพลังโดยสิ้นเชิง บังคับให้มันต้องกลายร่างเป็นกิ้งก่าที่ยาวนับพันจ้าง ซึ่งเป็นหนทางเดียวที่จะสามารถต่อต้านได้ แต่ก็ยังคงสั่นสะท้านถอยไปทางด้านหลังอย่างต่อเนื่อง

สำหรับชางจู่ มันไม่อาจจะต่อต้านกับเสียงคำรามนี้ได้ โลหิตพ่นกระจายออกมาจากปาก กายเนื้อและโลหิตแหลกเหลวไปในทันที ขาทั้งสองข้างแตกกระจายกลายเป็นชิ้นๆ แม้แต่กระดูกก็กลายเป็นเถ้าธุลีไป

แต่ก็ยังโชคดีที่มันมีความรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ ทำให้สามารถจะหลบหนีจากไปได้ ถ้าช้ากว่านี้เพียงเล็กน้อย ก็คงจะสูญเสียไปมากกว่าขาทั้งสองข้างอย่างแน่นอน

อูจู่ชุดม่วงที่นั่งอยู่ภายในเกราะป้องกัน จิตใจหมุนคว้างดวงตาเบิกกว้าง ไม่อาจจะทำอะไรได้นอกจากจ้องมองไปยังความแข็งแกร่งและน่ากลัวของเมิ่งฮ่าว มองไปยังชางจู่ที่กระเซอะกระเซิงอย่างถึงที่สุด และร่างจำแลงจักรพรรดิเต๋านอกคอกที่น่าอนาถใจ

ในตอนนี้อาวุธเวทที่เป็นเกล็ดของร่างจำแลง ต่างก็แตกกระจายกลายเป็นเถ้าธุลีไป ถูกทำลายไปโดยสิ้นเชิง

ไข่มุกทั้งสองลูกของราชันแห่งขุนเขาทะเลที่หกก็แตกกระจายไปด้วยเช่นกัน กลายเป็นฝุ่นผงสีแดงและจางหายไปในทันที

“จักรพรรดิเต๋า…หกแก่นแท้!!” ราชันแห่งขุนเขาทะเลที่หกรู้สึกว่าจิตใจกำลังหมุนคว้าง ความคิดที่เกี่ยวกับอาการบาดเจ็บทั้งหมดจางหายไป แม้แต่ในตอนที่ของวิเศษตนเองถูกทำลายไปก็ยังไม่ได้สังเกตเห็นด้วยซ้ำ จิตใจมันกำลังถูกบดขยี้ด้วยคลื่นแห่งความตกใจขณะที่จ้องมองไปยังเมิ่งฮ่าว

มันไม่อาจจะคาดคิดได้ว่า จะมีผู้ฝึกตนสามารถปลดปล่อยพลังอันน่ากลัวและน่าตกใจเช่นนี้ออกมาได้ ถ้าไม่ใช่จักรพรรดิเต๋าหกแก่นแท้

ขณะที่จิตใจมันกำลังสั่นสะท้าน ก็อดที่จะคิดไปถึงคำพูดที่ตนเองเคยกล่าวไว้เกี่ยวกับจักรพรรดิเต๋าหกแก่นแท้ขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ และในตอนนี้มันกำลังเผชิญหน้ากับบุคคลเช่นนั้นแล้ว!

“นี่ไม่น่าจะเป็นไปได้ เป็นไปไม่ได้! อาณาจักรขุนเขาทะเลถูกผนึกไว้แล้ว ตี้จ้างใช้พลังแห่งการเกิดใหม่เพื่อหลีกเลี่ยงผนึกนี้ แต่คนอื่นๆ ไม่น่าจะมีใครสามารถทะลวงผ่านออกไปได้…”

ร่างจำแลงคนนอกคอกกำลังสั่นสะท้านด้วยเช่นกัน ขณะที่มองไปยังเมิ่งฮ่าว ดวงตาสาดประกายขึ้นด้วยความหวาดกลัว มันกำลังคิดอยู่อีกด้วยว่าจะมีความมั่นใจกำจัดเมิ่งฮ่าวไปด้วยร่างที่แท้จริงได้หรือไม่

พลังเช่นนี้ไม่อาจจะจินตนาการได้อย่างแท้จริง เมื่อเทียบกับสิ่งที่มันจำได้เกี่ยวกับเมิ่งฮ่าวตอนที่เคยเผชิญหน้ากันในขุนเขาที่แปด…ตอนนี้เขามีความแข็งแกร่งมากกว่าอย่างน้อยก็สิบเท่าขึ้นไป

“เป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไร!?!?”

ขณะที่ผู้แข็งแกร่งทรงพลังทั้งสามกำลังหมุนคว้างด้วยความตกใจอยู่นั้น ใบหน้าเมิ่งฮ่าวจู่ๆ ก็ซีดขาวลงไป และกระอักโลหิตออกมากองโต ไม่ใช่เป็นเพราะว่าเขาได้รับบาดเจ็บ

แต่เป็นเพราะว่าทัณฑ์ทรมานของอารมณ์ที่สองบรรลุถึงจุดวิกฤต และกำลังจะได้ข้อสรุปแล้ว เมื่อไหร่ที่เป็นเช่นนั้น กายเนื้อก็จะ…เข้าไปในระดับจักรพรรดิเต๋าหกแก่นแท้ได้อย่างแท้จริง!

ดูเหมือนว่าการโจมตีไปเมื่อครู่นี้ ใช้พลังจากกายเนื้อของเมิ่งฮ่าวเท่านั้น ทำให้ทัณฑ์ทรมานของอารมณ์ที่สองเปิดออก แต่เมิ่งฮ่าวก็ไม่สนใจ กายเนื้อของตนเองมีความแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง จนสามารถจะควบคุมทัณฑ์ทรมานได้แม้ในขณะที่โจมตีไป แม้แต่พลังแห่งการทำลายล้างจากการดับตะเกียงวิญญาณดวงที่หก ก็ไม่อาจจะทำให้เขามีปัญหามากนัก

“เมิ่งโหม่ว ยังไม่ใช่จักรพรรดิเต๋า” เมิ่งฮ่าวกล่าวเสียงราบเรียบ

ในตอนนั้นเองที่ดวงตาของจักรพรรดิเต๋านอกคอกแวบประกายขึ้น “มันได้รับบาดเจ็บแล้ว! การโจมตีมาเช่นนั้นทำให้มันได้รับบาดเจ็บ ถ้าพวกเราโจมตีต่อไป ก็จะทำให้อาการบาดเจ็บนั้นเลวร้ายลงไปอีก! วันนี้มันต้องตาย!”

อดีตราชันแห่งขุนเขาทะเลที่หกตกอยู่ในสภาวะที่สิ้นหวัง และสูญเสียความคิดที่จะต่อสู้ไป แต่หลังจากที่ได้เห็นเมิ่งฮ่าวกระอักโลหิตออกมา ดวงตาก็สาดประกายขึ้น และความหวังก็ลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง โดยไม่ลังเลใดๆ มันพุ่งตรงไปโจมตีในทันที

อูจู่แห่งขุนเขาทะเลที่ห้าจู่ๆ ก็ส่งเสียงแผดร้องคำรามอันทรงพลังออกมา ขณะที่พยายามทำลายเกราะป้องกันเพื่อออกมาช่วยเมิ่งฮ่าว

อย่างไรก็ตามในตอนนี้เองที่เมิ่งฮ่าวยิ้มอย่างเย็นชา แทนที่จะถอยไปทางด้านหลัง เขากลับเดินตรงไปหนึ่งก้าว กำมือขวาเป็นหมัดและต่อยออกไปยังร่างจำแลงคนนอกคอก

เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น ขณะที่หมัดทำลายล้างชีวิตดูดเอาพลังชีวิตในบริเวณนั้นทั้งหมดเข้าไป จากนั้นก็กระแทกลงไปบนร่างของคนนอกคอก จนลอยละลิ่วปลิวไปทางด้านหลัง ร่างกายมันแทบจะพังทลายลงไป

เมิ่งฮ่าวเลียริมฝีปากด้วยความมุ่งหวัง เพราะว่าเขาเพิ่งจะปลดปล่อยพลังกายเนื้อออกไป ทำให้ทัณฑ์ที่อยู่ภายในร่างพุ่งขึ้นมาอีกครั้ง แต่แค่เมิ่งฮ่าวคิดขึ้นมาก็สามารถสะกดข่มมันลงไปได้เกือบสิ้นเชิง

“ใกล้จะเสร็จสิ้นแล้ว” เมิ่งฮ่าวกล่าวพร้อมกับหัวเราะออกมา หมุนตัวไปพร้อมกับกวักมือ ขณะที่ไปปรากฏร่างขึ้นที่เบื้องหน้าของชางจู่อย่างฉับพลัน

ชายชรามีสีหน้าเปลี่ยนไป และดวงตาก็เบิกกว้างขึ้น มันไม่มีเวลาที่จะปลดปล่อยความสามารถศักดิ์สิทธิ์ หรือถอยร่นไปทางด้านหลัง กัดปลายลิ้นพ่นโลหิตออกมา จนกลายเป็นกลุ่มหมอกสีโลหิต มองเห็นวิญญาณพยาบาทนับไม่ถ้วนอยู่ภายในกลุ่มหมอก กรีดร้องพุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าว

แต่หมัดของเมิ่งฮ่าวก็พุ่งผ่านพวกมันไป ราวกับว่าพวกมันอยู่ในสถานที่และช่วงเวลาที่แตกต่างกันออกไป เต็มไปด้วยเจตจำนงแห่งปีศาจร้าย หมัดนั้นไปปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้าชางจู่โดยตรง

แค่หนึ่งหมัด ก็ทำให้สวรรค์พังทลายปฐพีแตกกระจายไป!

ทั่วทั้งร่างของราชันแห่งขุนเขาทะเลที่หกระเบิดขึ้น เหลือไว้แค่ศีรษะของมันเท่านั้น กำลังส่งเสียงแผดร้องอย่างโหยหวนออกมา ขณะที่หลบหนีออกไปยังทิศทางตรงข้าม

“ข้าจะปล่อยให้เจ้ามีชีวิตอยู่ชั่วขณะ ให้เจ้าเห็นกับตาด้วยตัวเองว่าในอาณาจักรขุนเขาทะเล…ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่จะกลายเป็นจักรพรรดิเต๋า!”

ด้วยเช่นนั้น เมิ่งฮ่าวก็มองขึ้นไปในท้องฟ้า กางแขนออกไปราวกับว่าเขาต้องการจะโอบกอดดวงดาวไว้ในอ้อมแขน

จากนั้นก็สูดหายใจเข้าลึกๆ ทำให้สายลมพุ่งขึ้นไป และอาณาจักรขุนเขาทะเลก็สั่นสะเทือนไปทั่ว!

ในตอนนี้เองที่เศษชิ้นส่วนสุดท้ายของทัณฑ์ทรมานอารมณ์ที่สองจางหายไป

เมิ่งฮ่าวดับตะเกียงวิญญาณดวงที่หกได้เสร็จสิ้นสมบูรณ์ ทำให้เลือดเนื้อก้าวเข้าไปสู่ขั้นตอนสุดท้าย

ตูมมมมมมม…

ร่างเมิ่งฮ่าวเริ่มมีขนาดใหญ่มากขึ้น สิบจ้าง, หนึ่งร้อยจ้าง, สองร้อยจ้าง!

สามร้อยจ้าง, สี่ร้อยจ้าง, ห้าร้อยจ้าง…

เสียงกระหึ่มขนาดใหญ่ดังก้องออกมา ความน่าเกรงขามของสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ ทำให้ชางจู่ต้องไร้คำพูดไปโดยสิ้นเชิง และจิตใจของจักรพรรดิเต๋านอกคอกก็หมุนคว้างด้วยความตกตะลึง

ทั่วทั้งอาณาจักรขุนเขาทะเลกำลังสั่นสะเทือน ราวกับว่ากำลังเป็นสักขีพยานต่อสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมานานหลายปีจนนับไม่ถ้วน

การปรากฏขึ้นของ…จักรพรรดิเต๋าที่แท้จริงคนที่สอง!!

มันอาจจะเป็นแค่กายเนื้อจักรพรรดิเต๋าเท่านั้น แต่ถึงอย่างไรก็ยังคงเป็นจักรพรรดิเต๋า!!

ตูมมมมมมม…

เมิ่งฮ่าวมีความสูงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หกร้อยจ้าง, เจ็ดร้อยจ้าง, แปดร้อยจ้าง, เก้าร้อยจ้าง!!

ขณะที่ความสูงของเมิ่งฮ่าวเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ กลิ่นอายก็พุ่งทะยานขึ้นไป กระจายเต็มไปทั่วทั้งขุนเขาทะเลที่หก และยังได้กระจายออกไปในขุนเขาทะเลที่อยู่ติดกันอีกด้วย

ในตอนนี้ เก้าขุนเขากำลังสั่นสะเทือน!

ในตอนนี้ ดวงตะวัน จันทราและดวงดาวต่างๆ กำลังสาดประกายเจิดจ้าขึ้นมา!!

ในตอนนี้ความสูงของเมิ่งฮ่าวกำลังเพิ่มขึ้นจากเก้าร้อยจ้างไปจนถึงเก้าร้อยสามสิบจ้าง! เก้าร้อยเจ็ดสิบจ้าง! จากนั้นก็เป็นเก้าร้อยเก้าสิบเก้าจ้าง…เหลืออีกแค่จ้างเดียวเท่านั้น!

หนึ่งพันจ้าง!!

หนึ่งพันจ้าง ระดับจักรพรรดิเต๋าที่แท้จริง!!

ในตอนนี้เองที่เต่าเสวียนอู่ทั้งเก้าตัวเริ่มกู่ร้องออกมา เจตจำนงแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเล ที่กระจายออกไปทั่วทั้งท้องฟ้าซึ่งเต็มไปด้วยหมู่ดาวเริ่มพลุ่งพล่านปั่นป่วน คนทั้งหมดที่กำลังต่อสู้กันอยู่ ไม่ว่าพวกมันจะอยู่ข้างไหนก็ตาม สามารถจะรับรู้ได้ว่ามีบางสิ่งที่ทรงพลังกำลังเกิดขึ้นอยู่ในขุนเขาทะเลที่หก!

“นับจากวันนี้เป็นต้นไป ข้า, เมิ่งฮ่าวคือจักรพรรดิเต๋าที่แท้จริง!”

ถึงแม้ว่าเมิ่งฮ่าวจะพูดขึ้นมาด้วยเสียงแผ่วเบา แต่กลับดังก้องออกไปราวกับเสียงฟ้าร้องคำราม ร่างกายที่สูงหนึ่งพันจ้างยืนเด่นอยู่ที่นั่น ผิวกายถูกปกคลุมด้วยสัญลักษณ์เวท กระจายเป็นพลังอันไร้ขอบเขตออกมา!

เขากำหมัดจนแน่น ราวกับว่า…กำลังคว้าจับไปยังท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว คว้าจับไปยัง…โชคชะตา!

คว้าจับไปยังสวรรค์และปฐพี!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version