ตอนที่ 1347
แสงอันเย็นชาในดวงตา
เมิ่งฮ่าวหัวเราะหึๆ และทันใดนั้นก็ชูมือขึ้นไปในอากาศ ค่อยๆ กำเป็นหมัดยังทิศทางของรูปภาพที่มีจักรพรรดิเต๋านอกคอกอยู่ด้านใน ราวกับว่ากำลังขยำกระดาษอยู่ ผืนผ้าที่เขาเพิ่งจะสร้างขึ้นมากลายเป็นเถ้าธุลีไปในทันที
จักรพรรดิเต๋านอกคอกที่อยู่ด้านในแผดร้องเป็นเสียงโหยหวนออกมา และจากนั้นก็ถูกทำลายไปโดยสิ้นเชิง
การกระทำเช่นนี้ทำให้ใบหน้าเมิ่งฮ่าวต้องซีดขาวลงเล็กน้อย และแอบถอนหายใจออกมา เนื่องจากแก่นแท้โลกของสวรรค์ชั้นแรก ทำให้ความรู้แจ้งแห่งเต๋าของแก่นแท้เวทผนึกรุ่นแปดสูงเกินกว่าที่เมิ่งฮ่าวคาดคิดไว้มากนัก ถึงแม้ว่าจะต้องเปลืองพลังลมปราณไปอย่างมากมาย แต่ก็ทำให้มีความคิดว่าจะใช้เวทผนึกนี้ เป็นพื้นฐานสำหรับแก่นแท้ที่ถูกต้องต่อไป
“น่าเสียดายที่พื้นฐานฝึกตนของข้าในตอนนี้ สามารถใช้เวทนี้ได้แค่หนึ่งครั้งต่อเดือนเท่านั้น” นี่คือข้อจำกัดเพียงอย่างเดียวในการใช้วิชาเวทนี้ที่เมิ่งฮ่าวรู้สึกผิดหวัง มันเป็นระดับพื้นฐานฝึกตนและพลังแก่นแท้ที่เขาสามารถจะใช้ออกมาได้ในตอนนี้
นอกจากนั้นพื้นฐานฝึกตนที่แท้จริงของเมิ่งฮ่าวก็อยู่แค่ในอาณาจักรโบราณ ที่ตะเกียงวิญญาณถูกดับลงไปเพียงหกดวงเท่านั้น
“ด้วยแก่นแท้แห่งความว่างเปล่านี้ ข้าสามารถผนึกระดับหกแก่นแท้ได้ นั่นคือขีดจำกัดของข้า ถ้าต้องไปต่อสู้กับราชันจักรพรรดิ อาจจะพ่ายแพ้ก็เป็นได้ และสำหรับผู้ยิ่งใหญ่…” เมิ่งฮ่าวส่ายหน้า เขาตระหนักดีถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่ขึ้นกับพื้นฐานฝึกตน และการควบคุมพลังแก่นแท้
อันที่จริงการรู้แจ้งแก่นแท้แห่งความว่างเปล่า อาจจะเปรียบได้กับหลุมที่ลึกล้ำ ส่วนก้นหลุมคือทะเลสาบขนาดเล็ก แต่ในที่สุดหลุมที่ลึกล้ำนี้ก็จะกลายเป็น…ทะเลแห่งดวงดาวอันไร้ขอบเขต!
นอกจากนั้นการรู้แจ้งของแก่นแท้แห่งเวทรุ่นแปด ก็เป็นแค่ผลพลอยได้ครั้งแรกของเมิ่งฮ่าว ที่ได้มาจากแก่นแท้โลกเท่านั้น ยังมีผลพลอยได้ส่วนที่สองอีกด้วย!
และนั่นก็คือ…การเปลี่ยนแปลงของโลหิตภายในร่าง!
เมิ่งฮ่าวรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า หลังจากที่ดูดซับแก่นแท้โลกของสวรรค์ชั้นแรกเข้าไป สายโลหิตเซียนเต๋าทุกชั้นฟ้าของตนเองมีการเปลี่ยนแปลงอย่างแปลกๆ ขึ้น ถึงแม้ว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะไม่ได้มากมายนัก แต่ก็จะกลายเป็นรากฐานที่ทำให้คนผู้หนึ่งสามารถเขย่าสวรรค์สั่นปฐพีได้
เมิ่งฮ่าวไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปนั้นคืออะไร แต่ก็รู้สึกได้ว่าสายโลหิตทุกชั้นฟ้าของตนเอง…มีความแตกต่างออกไปจากเดิม
ตอนนี้เขารู้แล้วว่ามีความลับที่ไม่ธรรมดาและน่าตกใจ อยู่ภายในสายโลหิตทุกชั้นฟ้า เป็นสิ่งที่อาจจะทำให้ตนเองมีความก้าวหน้าสูงขึ้นไปอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
หลังจากที่เกิดการเปลี่ยนแปลงนี้ โลหิตเซียนเต๋าทุกชั้นฟ้าของตนเองก็พบกับการตื่นขึ้นมาอีกครั้ง และเมิ่งฮ่าวก็มีลางสังหรณ์อย่างแรงกล้าว่า…ตนเองจะต้องบรรลุถึงระดับที่น่าเหลือเชื่อ
บางทีระดับนั้นอาจจะเป็นอาณาจักรที่ไม่เคยมีใครพบเห็นมาก่อน!
แต่นั่นคืออาณาจักรอะไร เมิ่งฮ่าวไม่อาจจะรู้ได้ รู้แต่เพียงว่าถ้าตนเองต้องการจะทำให้โลหิตทุกชั้นฟ้าตื่นขึ้นมาเช่นนั้น ก็จำเป็นต้องดูดซับแก่นแท้โลกเข้าไปอีก
หลังจากที่แก่นแท้โลกของสวรรค์ชั้นแรกถูกดูดซับเข้าไปจนหมดสิ้น ก็สามารถจะรู้สึกได้ถึงการตื่นขึ้นมาอย่างเลือนลาง
แทบจะในทันทีที่เมิ่งฮ่าวดูดซับแก่นแท้โลกเสร็จสิ้น และสายโลหิตเซียนเต๋าทุกชั้นฟ้าของตนเองแสดงให้เห็นถึงสัญญาณแห่งการตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ก็มีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นอยู่บนดาวหนานเทียน ดวงตาของสุ่ยตงหลิวจู่ๆ ก็แวบประกายขึ้น และสั่นสะท้านไปทั้งร่าง พึมพำขึ้นว่า
“ตั้งแต่ตอนที่เด็กผู้นี้เปลี่ยนแปลงโชคชะตาของตนเอง ข้าก็ไม่อาจจะมองเห็นอนาคตของมันได้ แต่ก็รู้สึกได้ว่า…มันมีโอกาสที่จะกลายเป็น…สิ่งที่อยู่เหนือกว่าสิ่งอื่นๆ ทั้งปวง…เพื่อบรรลุถึงอาณาจักรสูงสุด!”
“บางทีอาจจะสูงมากไปกว่านั้น…บางทีมันอาจจะกลายเป็นสิ่งที่อยู่ในตำนานของอาณาจักรเซียนผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งผู้คนศรัทธามาตั้งแต่ตอนนั้นจนกระทั่งถึงตอนนี้…เซียน!”
“ในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวอันกว้างใหญ่ มีเทพและมาร แต่ไม่มีเซียน…” สุ่ยตงหลิวกำลังสั่นสะท้าน แววตาเต็มไปด้วยความมุ่งหวังและจดจ่อ ขณะที่มองขึ้นไปในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว ตรงไปยังเมิ่งฮ่าว
“เซียน…นับจากนั้นมาเป็นแค่คำพูดเท่านั้น ไม่มีใครกลายเป็นเซียนได้อย่างแท้จริง…เซียนเทียบเท่ากับเทพ เช่นเดียวกับมาร…มีชีวิตอยู่ตราบชั่วนิรันดร์ในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว!”
“คนส่วนใหญ่เชื่อว่าสองกองกำลังอันยิ่งใหญ่กำลังใกล้เข้ามาก็เนื่องจากของวิเศษอันล้ำค่า หนึ่งในพวกมันค้นหาการกลับมาของเทพ อีกหนึ่งปรารถนาที่จะคืนชีพให้กับมาร…”
“แต่ความจริงแล้ว จุดประสงค์ของพวกมันไม่ได้จำกัดอยู่ที่เรื่องเหล่านั้น พวกมันต้องการมาขัดขวาง…การถือกำเนิดขึ้นมาของเซียน!”
“ด้วยการยึดพลังที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากการถือกำเนิดขึ้นมาของเซียน และหลอมรวมเข้ากับของวิเศษอันล้ำค่าของพวกมัน จะทำให้ความทะเยอทะยานที่ยาวนานของพวกมันสำเร็จได้อย่างแท้จริง!”
ตรงด้านนอกของท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว ใกล้เคียงกับบริเวณที่เมิ่งฮ่าวกำลังลอยตัวอยู่นั้น มีบางสิ่งที่ไม่มีใครมองเห็นได้ เป็นเรือลำหนึ่ง มีชายชราผู้หนึ่งนั่งขัดสมาธิอยู่บนลำเรือ กำลังจ้องมองไปยังเมิ่งฮ่าวอย่างเงียบๆ แววตาเต็มไปด้วยอารมณ์อันซับซ้อนที่ผสมปนเปกันไปมา รวมทั้งแสงแห่งความรู้แจ้ง
ที่ห่างออกไปไม่ไกลมากนักตรงตำแหน่งที่แตกต่างกันเป็นมือสังหาร ที่อยู่ในชุดยาวสีดำ กำลังลอยตัวอยู่ที่นั่นคล้ายกับเป็นกระบี่ที่หลุดออกมาจากฝัก ถึงแม้ว่าจะถูกปกคลุมด้วยกลิ่นอายอันน่ากลัวอย่างลึกล้ำ แต่ก็ไม่มีใครจะสามารถรับรู้ถึงมันได้ ขณะที่ลอยตัวอยู่ในที่แห่งนั้น กำลังมองดูเมิ่งฮ่าวด้วยสีหน้าครุ่นคิดไตร่ตรอง
เวลาเดียวกับที่เมิ่งฮ่าวได้รับความรู้แจ้งเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสายโลหิตของตนเอง และประกายแห่งความมุ่งหวังก็พุ่งขึ้นมาในจิตใจ ก็มีสิ่งเกิดขึ้นอยู่ในอาณาจักรขุนเขาทะเลที่ด้านล่าง ที่ซึ่งจิตใจของคนทั้งหมดยังคงหมุนคว้างด้วยความตกตะลึง เมื่อได้เห็นเมิ่งฮ่าวทำลายสวรรค์ชั้นแรกและดูดซับแก่นแท้โลกของมันเข้าไป
เสียงแผดร้องคำรามที่กึกก้องอย่างน่าประหลาดใจ ดังขึ้นมาจากทิศทางของขุนเขาทะเลที่สี่ และเวลาเดียวกันนั้นพลังที่คล้ายกับเป็นพลังของผู้ยิ่งใหญ่ก็ปะทุออกไปในทันที ตี้จ้างร้องตวาดขึ้น แต่ก็ไม่อาจจะขัดขวางเงาร่างๆ หนึ่งที่กำลังพุ่งทะยานออกไปจากขุนเขาทะเลที่สี่ได้
มันคือราชันจักรพรรดินอกคอกนั่นเอง!
มันอยู่ในขั้นสูงสุดของระดับหกแก่นแท้ ครึ่งก้าวจากการเป็นผู้ยิ่งใหญ่เท่านั้น!
เดิมทีตี้จ้างสามารถจะตรึงมันไว้ได้ แต่ก็เห็นได้ชัดว่าในตอนนี้มันฉวยโอกาสจากความช่วยเหลือของผู้ยิ่งใหญ่นอกคอก ซึ่งยังไม่อาจจะทะลวงผ่านออกไปจากไห่เมิ่งได้ และเห็นได้ชัดว่ามันตัดสินใจที่จะช่วยให้ราชันจักรพรรดิหลุดพ้นเป็นอิสระจากไป
ตอนนี้ราชันจักรพรรดิกำลังระเบิดพลังระดับสูงสุดของมันออกมา ฉวยโอกาสจากความผันผวนอันเนื่องมาจาก การปรากฏขึ้นมาของแก่นแท้เมิ่งฮ่าว หลุดพ้นเป็นอิสระออกมาจากตี้จ้างและพุ่งตรงไปโจมตี
มันกลายเป็นทะเลเปลวไฟที่พุ่งฝ่าความว่างเปล่าออกไปคล้ายกับเป็นดาวตก ระเบิดพลังพื้นฐานฝึกตนออกมาอย่างรุนแรง ขณะที่เข้าไปใกล้เมิ่งฮ่าว
ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้น และมองออกไปยังทิศทางอื่นชั่วขณะ ซึ่งก็คือตำแหน่งของไห่เมิ่งจื้อจุนที่กำลังต่อสู้อยู่กับผู้ยิ่งใหญ่นอกคอก น่าเสียดายที่ตอนนี้เขาไม่อาจจะส่งข้อความไปยังไห่เมิ่งได้ ดังนั้นจึงมองกลับไปยังราชันจักรพรรดิ และจากนั้นแทนที่จะล่าถอยหลบหนีเขากลับเดินตรงไป
ราชันจักรพรรดินอกคอกดูน่ากลัวไปโดยสิ้นเชิง ดวงตาสาดประกายขึ้นด้วยความต้องการสังหารอย่างบ้าคลั่ง จากความผันผวนของพื้นฐานฝึกตน ก็เห็นได้ชัดว่ามันกำลังทุ่มเทพลังแก่นแท้ออกมาอย่างสุดกำลัง ทะเลเปลวไฟกลายเป็นกระแสน้ำวน และจากนั้นก็ก่อตัวเป็นกระแสน้ำวนอีกห้าแห่งขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง กระแสน้ำวนแต่ละแห่งมีขนาดใหญ่มากขึ้นกว่าเดิม
มองเห็นกระแสน้ำวนอยู่หกแห่ง ทั้งหมดนั้นกำลังกระจายพลังแก่นแท้ออกมา ทำให้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวต้องสั่นสะเทือน และคนทั้งหมดที่มองมาต่างก็อ้าปากค้างไปตามๆ กัน
พลังอันน่ากลัวนี้สูงเกินกว่าพลังของจักรพรรดิเต๋า เป็นระดับพลังที่น่าตกใจมากที่สุดรองจากผู้ยิ่งใหญ่เท่านั้น
พลังที่อยู่ภายในกระแสน้ำวนแต่ละแห่งเหล่านั้น สูงเกินกว่าครึ่งของพลังจากจักรพรรดิเต๋า และจริงๆ แล้วถ้ารวมกระแสน้ำวนสองแห่งเข้าด้วยกัน ก็จะมีพลังที่สามารถบดขยี้จักรพรรดิเต๋าได้อย่างง่ายดาย
เมื่อรวมเข้าด้วยกันทั้งหกแห่ง พลังแก่นแท้ที่กระจายออกมาก็สามารถจะทำให้ราชันจักรพรรดิสามารถจะใช้มันบดขยี้จักรพรรดิเต๋าใดๆ ก็ได้!
นี่คือพลังแห่งราชันจักรพรรดิ!
แม้แต่ตี้จ้างที่พึ่งพาแม่น้ำแห่งการเกิดใหม่และทะเลแห่งน้ำพุเหลือง
ซึ่งมีวิหารโลกันต์นับไม่ถ้วนจากขุนเขาที่สี่ สามารถใช้พลังเปลวธูปจากวิญญาณที่ตายไปแล้วนับไม่ถ้วน ก็ยังไม่อาจจะต่อสู้กับราชันจักรพรรดินอกคอกที่อยู่ในสภาวะนี้ได้
ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้ ความเป็นจริงก็คือว่าราชันจักรพรรดินอกคอกมีพลังที่จะกำจัดตี้จ้างไปได้อย่างเหลือเฟือ ขณะที่มันพุ่งตรงไปด้วยความรวดเร็วสูงสุด ก็ไม่ได้พึ่งพาวิชาเวทหรือว่ากลยุทธ์ใดๆ แต่กลับใช้พลังแก่นแท้อันน่ากลัว เพื่อเตรียมตัวบดขยี้เมิ่งฮ่าวไปโดยสิ้นเชิง
มันยกสองมือขึ้นมา จากนั้นก็ตบเข้าด้วยกันอย่างรุนแรง เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น ขณะที่กระแสน้ำวนแห่งแรกพุ่งผ่านร่างมัน ตรงไปยังเมิ่งฮ่าว
ขณะที่เมิ่งฮ่าวเข้ามาใกล้ ก็ขยับสองมือร่ายเวท เรียกภูเขาออกมาเป็นจำนวนมาก กลายร่างเป็นวิหคยักษ์ จากนั้นก็พุ่งตรงไปยังกระแสน้ำวนที่ใกล้เข้ามาราวกับเป็นสายฟ้า
เสียงระเบิดขนาดใหญ่ดังก้องขึ้น ขณะที่กระแสน้ำวนพังทลายลงไป และภูเขาของเมิ่งฮ่าวก็แตกกระจายไป เวลาเดียวกันนั้นเมิ่งฮ่าวในรูปแบบวิหคยักษ์ก็พุ่งตรงไปยังราชันจักรพรรดินอกคอกอย่างต่อเนื่อง และกระแสน้ำวนแห่งที่สองก็กรีดร้องตรงมาอยู่ที่เบื้องหน้าเมิ่งฮ่าว
เกิดเป็นเสียงระเบิดดังก้องขึ้นจนสีสันแวบขึ้นไปในท้องฟ้า ทำให้ดวงดาวสั่นไปมา วิหคยักษ์แตกกระจายไป และเมิ่งฮ่าวก็ปรากฏกายขึ้นในรูปแบบปกติ กำมือขวาเป็นหมัดและต่อยหมัดแรกออกไป!
กระแสน้ำวนสั่นสะท้าน และเสียงแตกร้าวก็ดังก้องขึ้น ขณะที่พังทลายกลายเป็นชิ้นๆ ใบหน้าเมิ่งฮ่าวซีดขาว และถอยหลังไปเล็กน้อย ในตอนนี้เองที่กระแสน้ำวนแห่งที่สามและสี่เข้ามาใกล้ พลังแห่งการทำลายล้างปะทุออกมา พลังทั้งหมดของราชันจักรพรรดิถูกปลดปล่อยออกไป
สีหน้าเมิ่งฮ่าวเปลี่ยนไป พลังกายเนื้อในตอนนี้กำลังพุ่งขึ้นไปจนถึงจุดสูงสุด และพื้นฐานฝึกตนก็ระเบิดออกไป สุดยอดสะพานปรากฏขึ้น และเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ก็ระเบิดออกมา ขณะที่ต่อยหมัดออกไปอย่างต่อเนื่องสามครั้ง!
หมัดทำลายล้างชีวิต!
หมัดกลายเป็นปีศาจ!
หมัดสังหารเทพ!!
หมัดทั้งสามรวมเข้ากับสุดยอดสะพานที่กำลังบดขยี้ลงมา และเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ที่กำลังส่งเสียงดังกระหึ่ม กระแสน้ำวนแห่งที่สามพังทลายลงไป
เวลาเดียวกันนั้นเมิ่งฮ่าวก็กระอักโลหิตออกมาหนึ่งคำ จากนั้นก็ถอยไปทางด้านหลัง พึ่งพาแต่ความแข็งแกร่งของกายเนื้อต่อต้านการกระแทกมาอย่างน่ากลัวของกระแสน้ำวนแห่งที่สี่และพลังแก่นแท้ของมัน
เสียงระเบิดดังก้องขึ้น และโลหิตก็พ่นกระจายออกมาจากปากเมิ่งฮ่าว ลอยละลิ่วปลิวไปทางด้านหลังราวกับเป็นว่าวที่ถูกตัดสายป่าน ตรงไปยังทิศทางที่ดูเหมือนว่าจะเป็นไปตามแผนของราชันจักรพรรดินอกคอก ซึ่งเป็นทิศทางที่มุ่งหน้าตรงไปยังสถานที่ซึ่งผู้ยิ่งใหญ่นอกคอกกำลังต่อสู้อยู่กับไห่เมิ่งจื้อจุน
สีหน้าเมิ่งฮ่าวสลดลง และเห็นได้ชัดว่าพยายามจะเปลี่ยนทิศทาง แต่ราชันจักรพรรดินอกคอกก็แค่นเสียงเย็นชา รังสีสังหารพุ่งทะยานขึ้น ส่งกระแสน้ำวนแห่งที่ห้าให้พุ่งตรงไปด้วยความรวดเร็วอย่างน่าตกใจ
ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้น เวทตราบนิรันดร์ชิงตี้ทำงานขึ้นมาอย่างคลุ้มคลั่งเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ เวลาเดียวกันนั้นเขาก็ยกมือขวาขึ้นมาและปลดปล่อยเวทผนึกอสูรออกไป เสียงกระหึ่มได้ยินมาขณะที่กระแสของเวทผนึกพุ่งออกไป ถูกเกื้อหนุนด้วยพลังแห่งขุนเขาทะเล บดขยี้ลงไปยังกระแสน้ำวนแห่งที่ห้า
เวทรุ่นเจ็ด, รุ่นหก, รุ่นห้า, รุ่นสาม, รุ่นสอง!
เวทรุ่นแปดกลายเป็นแก่นแท้ไปแล้ว แต่อีกห้าเวทผนึกได้กลายเป็นเครื่องหมายผนึกที่ดูดซับเอาพลังแห่งขุนเขาทะเลเข้ามา ทำให้พวกมันมีขนาดใหญ่ขึ้นถึงหนึ่งพันจ้าง ขณะที่เข้าไปใกล้กระแสน้ำวนแห่งที่ห้า
เมื่อพวกมันกระแทกเข้าไปในกระแสน้ำวน ก็ถูกกวาดล้างออกไปทีละเวท และเมิ่งฮ่าวก็กระอักโลหิตออกมาอย่างต่อเนื่อง ถอยไปทางด้านหลังอีกครั้ง เกิดเป็นพลังสะท้อนกลับโจมตีลงมาบนร่าง อย่างไรก็ตามกระแสน้ำวนแห่งที่ห้าก็พังทลายลงไปด้วยเช่นกัน
เวลาเดียวกันนั้น ลึกลงไปในดวงตาเมิ่งฮ่าวก็มีบางสิ่งที่คนอื่นๆ ไม่อาจจะรับรู้ได้ เป็นแสงอันเย็นชาและความคาดหวังอย่างน่ากลัว