ตอนที่ 1367
ต้องตกลงมาเท่านั้น
ในทันทีที่คำพูดหลุดออกมาจากปากของเสวียนฟาง แสงอันเจิดจ้าก็ปรากฏขึ้นบนสวรรค์ชั้นเจ็ด จากนั้นก็ชั้นที่แปด และชั้นที่เก้า จนกระทั่งไปถึงชั้นที่สามสิบสาม
ยังคงมีเวลาเหลืออยู่อีกหลายเดือน ก่อนที่พวกมันจะโผล่ออกมาจากสภาวะในตอนนี้ แต่พวกมันก็สามารถจะได้ยินคำพูดที่เปล่งออกมาของเสวียนฟาง และมองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างได้ชัดเจน
อันที่จริงพวกมันได้เฝ้าสังเกตดูการต่อสู้ที่เกิดขึ้นนี้อย่างใกล้ชิดมานานหลายเดือนแล้ว และเริ่มจัดเตรียมกลยุทธ์พิเศษเพื่อจัดการกับอาณาจักรขุนเขาทะเล จากสิ่งที่พวกมันมองเห็น ดังนั้นพวกมันจึงตระหนักมานานแล้วว่าดวงตะวันและจันทรามีความสำคัญมากแค่ไหน!
จากสิ่งที่พวกมันสามารถจะบอกได้ สิ่งสำคัญมากที่สุดระหว่างทั้งสองนั้น ไม่ใช่ดวงตะวันแต่เป็นจันทรา!
แน่นอนว่าด้วยการมีเมิ่งฮ่าวคอยประจำการอยู่บนดวงตะวัน จากพลังการต่อสู้และการที่เขาสามารถจะควบคุมผู้ยิ่งใหญ่หุ่นเชิดได้ ก็ทำให้มีคุณสมบัติที่จะตรึงสองผู้ยิ่งใหญ่ในสนามรบได้อย่างแท้จริง
ผู้ฝึกตนขุนเขาทะเลเป็นคนที่สามสิบสามสวรรค์ไม่อาจจะละเลยหรือเพิกเฉยได้ และพวกมันก็วางเขาไว้ในเป้าหมายหลักที่ต้องสังหารไปให้จงได้
หลังจากที่ได้ยินคำประกาศก้องของเสวียนฟาง ผู้แข็งแกร่งนอกคอกที่ทรงพลังจากสวรรค์ชั้นที่เจ็ดจนถึงสวรรค์ชั้นที่สามสิบสาม รวมทั้งผู้ยิ่งใหญ่แปดแก่นแท้อีกสองคน ต่างก็เพ่งสมาธิไปยังสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเนื่องมาจากความพยายามที่จะสังหารเมิ่งฮ่าวและตี้จ้างไป สำหรับกลยุทธ์ทั้งหมดที่จะใช้ออกมาในสนามรบ หรือที่สำคัญมากไปกว่านั้น ก็เพื่อความปลอดภัยของเสวียนฟางและหลีหลงเอง สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในตอนนี้ก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุด
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำไมเสวียนฟางถึงได้ลงมือในทันที ดูเหมือนว่าหลังจากที่ถูกปลดปล่อยออกมามันก็โจมตีไปอย่างบ้าคลั่ง ทำให้ดินแดนอันกว้างใหญ่ทั้งหมดตกลงมา เนื่องจากมันไม่มีสถานที่ให้หลบหนีจากไปอีกแล้ว และเป็นการบังคับให้…สามสิบสามสวรรค์ที่ยังคงเหลืออยู่กระทำการทุกอย่างโดยไม่ต้องลังเลใดๆ เพื่อมาช่วยเหลือมัน
มีแต่ต้องกระทำเช่นนั้น การต่อสู้นี้ถึงจะไม่ถูกเรียกว่า เป็นความล้มเหลวโดยสิ้นเชิงสำหรับมัน
“ตราบเท่าที่ข้าสามารถจะทำลายดวงตะวันและจันทรา การต่อสู้นี้…ก็จะไม่ถือว่าล้มเหลวไปทั้งหมด” ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวเริ่มสั่นสะเทือน ขณะที่มีลำแสงโผล่ออกมาจากกองกำลังหลักของสามสิบสามสวรรค์ จากนั้นก็พุ่งลงมายังอาณาจักรขุนเขาทะเล
ลำแสงนั้นเคลื่อนที่มาด้วยความรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ ขณะที่ใกล้เข้ามา อีกลำแสงก็พุ่งขึ้นมาจากขุนเขาที่เก้า ลำแสงทั้งสองพุ่งตรงเข้าหากัน และจากนั้นก็ปะทะกันอยู่ตรงด้านนอกของอาณาจักรขุนเขาทะเล
เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น และเสียงแผดร้องด้วยโทสะก็ดังออกมาจากสามสิบสามสวรรค์ แสงที่พุ่งลงไปนั้นระเบิดขึ้นจนกลายเป็นเศษชิ้นส่วนของแสง ที่ตอนนี้ไม่อาจจะรวมตัวกันเป็นค่ายกลกักเซียนตามที่เสวียนฟางได้พูดขึ้นมา!
เวลาเดียวกันนั้นผู้ฝึกตนจำนวนมากก็หลั่งไหลออกมาจากขุนเขาที่สอง ตรงเข้าไปยังกลุ่มคนนอกคอก และเริ่มต่อสู้กันอย่างโหดเหี้ยมดุร้าย
หลีหลงจื้อจุนเริ่มต่อสู้กับผู้ยิ่งใหญ่หุ่นเชิด, ไห่เมิ่งจื้อจุนและมังกรทะเลจากอาณาจักรแห่งท้องทะเล มันสามารถจะทำให้สำนักกระบี่ไท่สิงต้องหยุดชะงักนิ่งด้วยเช่นกัน แม้แต่บุรุษวัยกลางคนจากเซียนกู่เต้าฉ่างก็สามารถจะตรึงไว้ได้
แน่นอนว่ามันต้องจ่ายค่าตอบแทนออกไปเพื่อกระทำสิ่งเหล่านั้นทั้งหมด แทบจะทันใดนั้นโลหิตก็พ่นกระจายออกมาจากปากมัน แต่ก็ยังคงไม่ยอมจำนน กัดฟันแน่นอย่างดุร้าย ฟาดฝ่ามือลงไปบนศีรษะของตนเอง
เกิดเป็นเสียงระเบิดดังก้องขึ้น เมื่อแสงสีดำปะทุออกมาจากร่างมัน ทำให้พลังการต่อสู้ของร่างจำแลงทั้งหมดพุ่งทะยานสูงขึ้นไป
“ยึดร่างมังกรอสูร!?!?” ไห่เมิ่งจื้อจุนกล่าวพร้อมกับดวงตาที่แวบประกายขึ้น “นั่นเป็นความสามารถศักดิ์สิทธิ์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติของชนเผ่าหลีหลง เพื่อให้จิตวิญญาณการต่อสู้ยึดครองร่าง ทำให้ความสามารถศักดิ์สิทธิ์และวิชาเวทต่างๆ ไร้ผลกระทบใดๆ! แต่เมื่อไหร่ที่การยึดครองร่างนี้สิ้นสุดลง บาดแผลทั้งหมดที่ดูเหมือนว่าจะหลีกเลี่ยงไปได้ก็จะปรากฏขึ้นมาในทันที!”
“นั่นหมายความว่ามันกำลังรนหาที่ตาย!!”
“เนื่องจากการถ่วงเวลาของมัน ทำให้กลุ่มคนนอกคอกมีโอกาสที่จะพ่ายแพ้ในการต่อสู้ครั้งนี้ ดังนั้นมันจึงยอมทุ่มออกมาจนสุดตัวในตอนนี้…”
ที่ห่างไกลออกไป เสวียนฟางจื้อจุนมองเห็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้ หลังจากที่เงียบไปชั่วขณะ มันก็แหงนหน้าขึ้นและหัวเราะออกมา ดวงตาแวบประกายขึ้นด้วยความมุ่งมั่น พุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าวในทันที แววตาเมิ่งฮ่าวก็สาดประกายขึ้นด้วยเช่นกัน แทนที่จะถอยไปทางด้านหลัง เขากลับพุ่งตรงไป ในที่สุดคนทั้งสองก็ต่อสู้กันไปมาพร้อมกับเสียงระเบิดที่ดังก้องขึ้นของความสามารถศักดิ์สิทธิ์
เมิ่งฮ่าวด้อยกว่าเล็กน้อย พื้นฐานฝึกตนของเขามีคุณสมบัติพอที่จะต่อสู้กับผู้ยิ่งใหญ่ ถึงแม้ไม่อาจจะเอาชนะได้ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะถ่วงเวลาเสวียนฟางไว้
สำหรับหลีหลง มันกำลังถูกโจมตีกลับด้วยวิชาเวทต่างๆ ที่ถูกใช้ออกมาจากคนทั้งหมดที่มันกำลังต่อสู้อยู่ด้วย
“พวกเจ้าสองผู้ยิ่งใหญ่ จะต้องตายอยู่ที่นี่ไปหนึ่งคน” เมิ่งฮ่าวกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ ดวงตาสาดประกายขึ้นด้วยรังสีสังหาร นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาต่อสู้กับเสวียนฟาง และในการต่อสู้ครั้งล่าสุดของคนทั้งสอง เขาถูกผลักดันจนถึงขีดจำกัด แต่ตอนนี้ก็ฟื้นฟูกลับคืนมาอย่างสมบูรณ์แบบ และในแง่ของพลังการต่อสู้แล้วก็ยังได้แข็งแกร่งมากขึ้นอีกด้วย
เสียงระเบิดและเสียงแผดร้องดังก้องออกมาจากภายในกองกำลังของกลุ่มคนนอกคอก ผู้ฝึกตนขุนเขาทะเลกำลังทำการสังหารไปอย่างต่อเนื่อง และจำนวนคนก็ขยายตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่ผู้ฝึกตนมาเข้าร่วมการต่อสู้นี้มากขึ้น
จำนวนของกลุ่มคนนอกคอกจากสวรรค์ชั้นสองถึงชั้นที่หก มีมากกว่ากลุ่มคนจากการต่อสู้ครั้งแรกของสวรรค์ชั้นที่หนึ่งมากนัก แต่ในแง่ของการทำลายล้างที่พวกมันกระทำต่อผู้ฝึกตนขุนเขาทะเล ไม่อาจจะเทียบได้แม้แต่น้อย
เวลาเดียวกันนั้นกองกำลังในสวรรค์ชั้นที่เจ็ดจนถึงชั้นที่สามสิบสาม ตรงด้านบนก็สามารถจะรับรู้ได้ว่าเสวียนฟางและหลีหลงต่างก็ตกอยู่ในอันตราย เสียงคำรามด้วยโทสะดังก้องออกมา เมื่อพวกมันพยายามจะหลุดพ้นออกมาจากสภาวะในตอนนี้ของตนเอง แต่สถานการณ์ของพวกมันก็เหมือนกับเป็นกระบี่สองคม ถึงแม้ว่าจะสามารถรอดพ้นไปจากหายนะที่อาณาจักรขุนเขาทะเลโจมตีมา แต่ก็ทำให้พวกมันต้องถูกผนึกไว้โดยสิ้นเชิง
จากการวิเคราะห์ในครั้งสุดท้าย พวกมันไม่มีทางจะคาดหวังได้ว่าการรวมพลังกันของห้าดินแดนอันกว้างใหญ่…จะสามารถทำลายด่านป้องกันที่สองของอาณาจักรขุนเขาทะเลได้ นอกจากนั้นพวกมันกำลังเสียเปรียบเป็นอย่างมาก ในการต่อสู้ที่ด้านล่างซึ่งเห็นได้ชัดว่ากำลังถูกสังหารหมู่อยู่ตลอดเวลา
เสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น เมื่อสวรรค์ชั้นที่เจ็ดจนถึงชั้นที่สามสิบสาม ต่างก็บดขยี้ไปยังเกราะป้องกันที่มองไม่เห็น ในสนามรบตรงด้านล่างก็เห็นได้ชัดว่าอาณาจักรขุนเขาทะเลกำลังได้เปรียบ และกลุ่มคนนอกคอกกำลังตกตายไปเป็นจำนวนมาก พวกมันถูกผลักดันให้ต้องถอยไปทางด้านหลังครั้งแล้วครั้งเล่า และดูเหมือนว่าไม่อาจจะต่อสู้กลับไปยังผู้ฝึกตนขุนเขาทะเลได้แม้แต่น้อย
ตรงด้านหน้าของขุนเขาที่สอง ทะเลที่สองพังทลายลงไป และในที่แห่งนั้นก็กลายเป็นทะเลแห่งโลหิตไป
สำหรับหลีหลงจื้อจุน หลังจากที่ใช้วิชายึดร่างแล้ว มันก็ทุ่มออกมาจนสุดตัว แต่จิตใจกลับเต็มไปด้วยความขมขื่น อันเนื่องมาจากความล้มเหลวของค่ายกลกักเซียน ถ้าทำได้สำเร็จ มันก็คงจะไม่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายเช่นนี้
ตอนนี้มันตรึงผู้แข็งแกร่งทั้งหมดจากขุนเขาทะเลไว้ได้ แต่ค่าตอบแทนที่ต้องจ่ายออกไป ก็ทำให้ตนเองตกอยู่ในสถานการณ์อันร้ายแรงอย่างที่คาดไม่ถึง
“เสวียนฟาง เร็วเข้า!!” หลีหลงแผดร้องออกไป เสวียนฟางกำลังทุ่มเทพลังการฝึกตนทั้งหมดออกไป พลังแห่งผู้ยิ่งใหญ่ปะทุขึ้น แต่ก็ไม่อาจจะหลุดพ้นเป็นอิสระจากการต่อสู้ได้ ไม่ใช่ว่ามันอ่อนแอ แต่เมิ่งฮ่าวที่เคยต่อสู้กับมันมาก่อน คุ้นเคยกับกลยุทธ์ของมันเป็นอย่างดี ดังนั้นการหลุดพ้นออกมาจากการต่อสู้ จึงเป็นสิ่งที่เสวียนฟางไม่อาจจะทำได้อย่างรวดเร็วนัก
ไม่ว่ามันจะพยายามอย่างไรก็ตาม ก็ยังคงไม่อาจจะจากไปได้อย่างง่ายดาย
เมิ่งฮ่าวกลายเป็นวิหคยักษ์สีฟ้า ส่งเสียงหวีดหวิวแหวกฝ่าท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว กรีดเฉือนกรงเล็บโจมตีออกไปอย่างดุร้าย ใช้หนึ่งรำพึงกลายเป็นดวงดาว รวมทั้งเวทระเบิดดวงตะวันออกมา
แม้แต่เวทผนึกอสูรเขาก็ใช้ออกไป และพลังสะท้อนกลับก็ไม่ได้เลวร้ายเหมือนในครั้งก่อน
ในตอนนี้สองผู้ยิ่งใหญ่นอกคอกไม่อาจจะหลบหนีจากไป และไม่มีใครมาช่วยเหลือพวกมันได้ สวรรค์ชั้นที่เจ็ดจนถึงชั้นที่สามสิบสามต่างก็วิตกเป็นอย่างยิ่ง ถ้าเหตุการณ์ยังคงดำเนินต่อไปเช่นนี้ พวกมันก็จำเป็นต้องเตรียมใจว่า…หนึ่งในผู้ยิ่งใหญ่ของพวกมันต้องถูกกำจัดไป
เดิมทีสามสิบสามสวรรค์มีห้าผู้ยิ่งใหญ่ โดยหลักการแล้วก็ถือว่าอี้กู่ได้ตายไปแล้ว ถ้าพวกมันต้องสูญเสียไปอีกคน ถึงแม้ว่าจะยังคงได้รับชัยชนะ แต่ค่าตอบแทนที่พวกมันต้องจ่ายออกไปก็ยากที่จะยอมรับได้
ตอนนี้สุ่ยตงหลิวอยู่บนดาวหนานเทียน ตรงด้านนอกของขุนเขาที่เก้า มองขึ้นไปยังท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวด้วยสายตาที่เย็นชา ท่านมีท่าทางลังเลราวกับว่ายากที่จะตัดสินใจได้
หลังจากที่ผ่านไปนานสักพัก ท่านก็พึมพำขึ้น “จากการมองไปในระยะยาว ไม่มีใคร…ที่ไม่อาจจะเสียสละได้ แม้แต่ข้าก็ตามที…เมื่อเป็นเช่นนั้น…” ท่านสูดหายใจเข้าลึกๆ และจากนั้นก็ลดมือลงมาอย่างช้าๆ
“ถ้าเช่นนั้นเหล่าฟูก็จะเปิดช่องว่างออกก่อนกำหนด ทำให้พวกเจ้า…สามารถจะส่งใครบางคนเข้ามา แต่ค่าตอบแทนที่ต้องจ่ายออกไปก็คือว่า เวลาโดยรวมก่อนที่พวกเจ้าจะสามารถโผล่ออกมาจากผนึกจะยืดขยายออกไป…ที่สำคัญมากไปกว่านั้นก็คือว่า…สองผู้แข็งแกร่งที่มาจากสองกองกำลังอันยิ่งใหญ่ ที่ตอนนี้มีพลังแห่งผู้ยิ่งใหญ่แปดแก่นแท้…ไม่อาจจะลงมาก่อนที่ผนึกจะถูกปลดออกไปโดยสิ้นเชิง”
“เรื่องนี้จะอันตรายเป็นอย่างยิ่งสำหรับตี้จ้าง ไห่เมิ่ง และสามกลุ่มเต๋าอันยิ่งใหญ่ และจะยิ่งอันตรายมากขึ้นสำหรับ…เมิ่งฮ่าว…”
หลังจากที่ครุ่นคิดเป็นเวลานาน สุ่ยตงหลิวก็ถอนหายใจ
“สุดท้ายแล้ว สามสิบสามสวรรค์ก็ไม่นับว่าเป็นอย่างไร สองกองกำลังที่มีผู้ยิ่งใหญ่เหล่านั้น…จึงจะเป็นศัตรูที่แข็งแกร่งซึ่งพวกเราไม่อาจจะจัดการได้ในตอนนี้!”
ตรงด้านนอกของขุนเขาที่สอง การต่อสู้อย่างดุเดือดกำลังดำเนินต่อไป หลีหลงกำลังพ่ายแพ้อย่างต่อเนื่อง และดูเหมือนว่าไม่อาจจะยืนหยัดได้นานมากนัก มันใช้วิชายึดร่างออกมาหลายครั้งแล้ว และตอนนี้ก็แทบจะพังทลายลงไปโดยสิ้นเชิง
เสวียนฟางไม่อาจจะทำอะไร เพื่อผลักดันเมิ่งฮ่าวออกไป และหลุดพ้นเป็นอิสระออกมาได้ มันกำลังเริ่มกระวนกระวายใจมากขึ้นเรื่อยๆ
อย่างไรก็ตามในตอนนี้เองที่เสียงระเบิดขนาดใหญ่ก็ดังก้องอยู่ในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว ยากที่จะบอกได้ว่าสวรรค์ชั้นเจ็ดจนถึงชั้นที่สามสิบสามต้องจ่ายค่าตอบแทนออกไปมากมายเท่าใด แต่ทันใดนั้นเองที่ทุกสรรพสิ่งจากสวรรค์ชั้นที่สิบหกลงมา เริ่มแวบประกายขึ้น ราวกับว่าพลังผนึกกำลังไม่เสถียรมั่นคง จากนั้นแสงอันเจิดจ้าก็แวบขึ้นมา ขณะที่สวรรค์ชั้นที่เจ็ดจนถึงชั้นที่สิบหก…จู่ๆ ก็เป็นรูปเป็นร่างขึ้นในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว!
เห็นได้ชัดว่าสวรรค์ชั้นที่สิบเจ็ด และอยู่สูงขึ้นไปตกอยู่ภายใต้พลังผนึก ยกเว้นสวรรค์ชั้นที่เจ็ดจนถึงชั้นที่สิบหก ที่สามารถหลุดพ้นเป็นอิสระออกมาได้!
เสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น เมื่อสวรรค์ชั้นที่เจ็ดตกลงมา ตามติดมาด้วยชั้นที่แปด, เก้า…จนถึงชั้นที่สิบหก สวรรค์ทั้งหมดสิบชั้นส่งเสียงดังกระหึ่มกึกก้องไปทั่วทั้งท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว ตกลงมายังอาณาจักรขุนเขาทะเล
เวลาเดียวกันนั้นลำแสงสิบสายก็พุ่งออกมาจากดินแดนอันกว้างใหญ่เหล่านั้น ทำให้เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น เมื่อพวกมันใกล้เข้ามายังอาณาจักรขุนเขาทะเล หนึ่งในลำแสงเหล่านนั้นพุ่งตรงไปยังหลีหลง ทำให้การต่อสู้กับผู้แข็งแกร่งขุนเขาทะเลยุติลงในทันที และลากมันจากไป ลำแสงที่สองระเบิดตรงไปยังการต่อสู้ของเมิ่งฮ่าวและเสวียนฟาง ทำให้เกิดเป็นระลอกคลื่นลมปราณขนาดใหญ่ แยกคนทั้งสองออกจากกัน
เมิ่งฮ่าวถูกผลักให้ลอยตรงไปยังดวงตะวันของอาณาจักรขุนเขาทะเลอย่างรุนแรง ขณะที่โลหิตไหลซึมออกมาจากมุมปาก ลำแสงที่สี่ก็พุ่งตรงมายังดวงตะวันด้วยความรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ เมิ่งฮ่าวไม่อาจจะทำอะไรได้นอกจากมองไป เมื่อลำแสงนั้นกระแทกเข้าไปในดวงตะวัน ทำให้ผู้ฝึกตนทั้งหนึ่งแสนคนกลายเป็นเถ้าธุลีในทันที…
และดวงตะวันก็เริ่มสั่นสะเทือน และจากนั้นรอยแตกร้าวก็กระจายออกไปทั่วทั้งพื้นผิวด้วยความรวดเร็วอย่างน่าตกใจยิ่ง!