Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1391

ตอนที่ 1391

ข้าไม่ต้องการแล้ว

“ไม่…” เมิ่งฮ่าวกำลังสั่นสะท้าน หยดน้ำตาแห่งความปวดร้าว กำลังเกลือกลิ้งไหลผ่านร่องแก้ม โลกของเขากำลังพังทลายลงไป นี่เป็นครั้งที่สองที่เขาต้องพบเจอกับความเจ็บปวดของการที่บิดาต้องตายจากไป ครั้งแรกเกิดขึ้นกับเคออวิ๋นไห่ และตอนนี้ก็เป็นบิดาที่แท้จริงของตนเอง ฟางซิ่วเฟิง

ความทรงจำในวัยเด็กพุ่งขึ้นมาในจิตใจ บิดาเคยสังหารผู้ฝึกตนตระกูลฟางเพื่อปกป้องตนเอง และยินยอมที่จะมาคอยเฝ้าพิทักษ์ดาวหนานเทียนเป็นเวลาหนึ่งแสนปีเพื่อตนเอง

เมิ่งฮ่าวยังจำได้ถึงช่วงที่กลับมาพบกับบิดามารดาอีกครั้ง และตอนที่มองเข้าไปในดวงตาของบิดา ขณะที่ท่านถ่ายทอดวิชากระบี่ เวลาเดียวกันนั้นก็ทำให้ผู้ฝึกตนดาวหนานเทียนต้องตกใจกลัวไปตามๆ กัน

เขายังจำได้ถึงการให้กำลังใจอย่างเงียบๆ ของบิดา ตอนที่เขากำลังจะออกไปจากดาวหนานเทียน

เขาจำได้ว่าบิดามีความแข็งแกร่งและสูงใหญ่ราวกับเป็นขุนเขาในจิตใจของตนเองอย่างไร…

เขาจำได้ว่าหลังจากที่กลายเป็นนายน้อยแห่งตระกูลฟางแล้ว ได้นำกลุ่มคนในตระกูลทั้งหมดไปกราบคารวะ และหยดน้ำตาแห่งความภาคภูมิใจก็เอ่อล้นอยู่ในดวงตาของบิดา

เขาจำได้ว่าหลังจากที่พื้นฐานฝึกตนของตัวเองได้บรรลุถึงจุดสูงสุด และสงครามได้เกิดขึ้น บิดาเคยมองมายังตนเองด้วยความหวาดหวั่นและเกรงขาม

แต่ในตอนนั้นเขายังไม่เข้าใจ ยังได้เจ็บปวดใจและรู้สึกโดดเดี่ยวอีกด้วย แต่ก็ฝังความรู้สึกเหล่านั้นไว้ มุ่งเน้นไปที่การกลายเป็นผู้แข็งแกร่ง ในตอนนี้สายตาที่บิดามองมาเช่นนั้น เมิ่งฮ่าวตระหนักแล้วว่าทั้งหมดนั้นก็เนื่องมาจากความจงใจของบิดา

เขาตระหนักว่าบิดาเลือกที่จะตายไปเพราะว่า ในสงครามที่วิกฤตอันตรายเช่นนี้ ท่านไม่ต้องการที่จะกลายเป็น…ตัวถ่วงของบุตรชายตนเอง

ท่านหวังว่าความตายของตนเอง จะทำให้เมิ่งฮ่าวมีโอกาสรอดชีวิตอยู่ต่อไป

ท่านมีความรักในตัวของบุตรชายชัดเจนและลึกซึ้งเป็นอย่างยิ่ง

ทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านทำไปก็เพื่อบุตรชายของตนเอง เพื่อเมิ่งฮ่าว…

บิดามักจะเข้มงวดและไม่ค่อยแสดงความรักต่อบุตรธิดาของตนเอง แต่เมื่อช่วงวิกฤตมาถึง…ท่านมักจะยอมเสียสละตนเอง ถึงแม้ว่าจะทำให้บุตรธิดามีเวลาหลบหนีเอาชีวิตรอดไปได้เพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยก็ตามที

เมิ่งฮ่าวกำลังสั่นสะท้าน กำมือเป็นหมัดจนแน่น จิตใจกำลังแหลกสลาย และขณะที่หยดน้ำตาไหลลงมาตามใบหน้า ก็เริ่มกลายเป็นสีแดงไป เสียงแปลกๆ เริ่มดังก้องออกมาจากลำคอ จนยากที่จะบอกได้ว่าเป็นเสียงร้องไห้หรือหัวเราะ, สิ้นหวังหรือว่ามีโทสะ

ที่ห่างไกลออกไป ศีรษะของฟางเว่ยลอยออกไปจากลำคอ ขณะที่ถูกตัดศีรษะไป…ในช่วงเวลาก่อนที่มันจะถูกสังหาร แววตาดูเหมือนว่าจะร้องตะโกนออกมาว่าข้าคือฟางเว่ย ข้าจะปกป้อง…ตระกูลฟาง

กลุ่มคนตระกูลฟางนับไม่ถ้วนต่อสู้ไปด้วยความบ้าคลั่ง ระเบิดตนเองไปคนแล้วคนเล่า ใช้พลังนั้นโจมตีไปยังกลุ่มคนนอกคอก

ฟางอวี๋กำลังโจมตีออกไปราวกับคลุ้มคลั่ง เช่นเดียวกับคนอื่นๆ ทั้งหมด ซุนไห่อยู่ที่ข้างกายนาง นางเป็นคนรักของมันไปชั่วชีวิต และมันก็จะปกป้องดูแลนางถึงแม้ว่าจะต้องตายไปจากการกระทำเช่นนั้นก็ตามที ใช้ร่างกายของตนเองเป็นเกราะป้องกันให้นาง คนทั้งสองสังหารไปตลอดทางในท่ามกลางกลุ่มคนนอกคอก

มารดาเมิ่งฮ่าวกำลังยืนอยู่ที่นั่นด้วยความงุนงง ยกมือขึ้นมาราวกับว่ากำลังพยายามคว้าจับบางสิ่งบางอย่างไว้ แต่ก็ไม่มีอะไรอยู่ที่นั่น…เฝ้ามองไปขณะที่สามีของตนเองกลายเป็นแสงไฟอันเจิดจ้า จากนั้นก็กลายเป็นเถ้าธุลีไป นำพากลุ่มคนนอกคอกให้ตกตายไปด้วยกันเป็นจำนวนมาก นางสั่นสะท้านและยิ้มออกมา

เป็นรอยยิ้มด้วยความเจ็บปวด เป็นรอยยิ้มอันอ่อนโยน เวลาเดียวกันนั้นดวงตาก็เต็มไปด้วยทั้งความเข้าใจและมุ่งมั่น

“เมื่อพวกเราแต่งงานกัน ท่านกล่าวว่า…พวกเราจะมีชีวิตอยู่ด้วยกัน และตายไปด้วยกัน…”

“ในช่วงทัณฑ์เจ็ดปีของฮ่าวเอ๋อร์ ท่านบอกว่าพวกเราจะต่อต้านโชคชะตาไปด้วยกัน”

“ราตรีนั้นท่านออกไปพร้อมกับกระบี่ในมือ เพื่อไปสังหารคนเลวในตระกูลที่คอยข่มเหงรังแกฮ่าวเอ๋อร์ ท่านคิดว่าข้าไม่เห็น แต่ไม่ใช่ ท่านกลับมาเปียกชุ่มไปด้วยโลหิต ร้องไห้ออกมาเบาๆ มองไปยังฮ่าวเอ๋อร์ที่กำลังหลับอยู่”

“ในเจดีย์แห่งถัง ท่านไม่ให้ข้าไปช่วยเหลือมัน แต่ข้าก็รู้ว่าในช่วงเวลานั้น จิตใจท่านกำลังแหลกสลาย ท่านกำลังร้อนรนเช่นเดียวกับข้า ที่ข้ารู้ก็เพราะว่าเมื่อข้ากุมมือท่านไว้ มือของท่านกำลังสั่นไปมายิ่งกว่ามือของข้า”

“เมื่อฮ่าวเอ๋อร์นำกลุ่มคนในตระกูลมากราบไหว้คารวะ เบื้องหน้าท่านทำตัวเป็นปกติ แต่ข้ารู้ว่าท่านรู้สึกตื่นเต้นและภาคภูมิใจมากกว่าครั้งใดๆ”

“เมื่ออวี๋เอ๋อร์นำซุนไห่มาพบพวกเรา ข้ารู้ว่าท่านได้ตรวจสอบดูมันจนทั่วแล้ว ท่านยอมรับมันเป็นบุตรเขยไปหมดหัวใจแล้ว เพราะว่าท่านตระหนักได้ถึงความรู้สึกจริงใจที่มันมีต่ออวี๋เอ๋อร์”

“เพื่อให้มั่นใจว่าคนทั้งหมดจะเคารพนับถือฮ่าวเอ๋อร์ ท่านจึงต้องแสร้งทำเป็นประหม่าเกรงขาม ข้ารู้ว่าท่านทำเช่นนั้น…เพื่อฮ่าวเอ๋อร์…”

“ท่านไม่ใช่คนที่ชอบแสดงออก แต่ข้าก็รู้ว่าท่านรักฮ่าวเอ๋อร์และอวี๋เอ๋อร์มากเท่ากับข้า…”

“พวกเราแต่งงานกันบนดาวตงเซิ่ง และถูกส่งมาให้คอยพิทักษ์ดาวหนานเทียน พวกเราใช้เวลาอยู่ด้วยกันมานานหลายปี แต่วันนี้ท่านจากไปแล้ว…และข้าก็จะไปพร้อมกับท่าน เพราะข้ายังจำได้ถึงคำสาบานที่พวกเราเคยกล่าวด้วยกันในวันวิวาห์”

“พวกเราจะมีชีวิตอยู่ด้วยกัน…และพวกเราก็จะตายไปด้วยกัน!”

ในขณะที่เสียงระเบิดดังก้องอยู่ในสนามรบ เมิ่งลี่ก็หันหน้าไปมองยังเมิ่งฮ่าวและฟางอวี๋ และยิ้มออกมา นางเกลียดการแยกจากคนทั้งสองไป แต่ก็เข้าใจถึงความหมายที่ฟางซิ่วเฟิงต้องตายไป และดังนั้นนางจึงเริ่มเดินเข้าไปในสนามรบ

“ฮ่าวเอ๋อร์, อวี๋เอ๋อร์ หลบหนีไป ไม่ว่าจะใช้วิธีอะไรก็ตาม ให้หนีจากไป…ออกไปจากที่แห่งนี้ เพื่อมีชีวิตอยู่ต่อไป”

เมิ่งฮ่าวสั่นสะท้านขณะที่มองดูมารดาเดินเข้าไปในกองกำลังกลุ่มคนนอกคอก ขณะที่พวกมันห้อมล้อมอยู่รอบตัวนาง ทันใดนั้นแรงระเบิดก็ม้วนกวาดออกไปทั่วทั้งบริเวณนั้น

เส้นเลือดเขียวปะทุขึ้นมาบนใบหน้าและลำคอเมิ่งฮ่าว ดวงตาเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอย และกำลังสั่นสะท้านอย่างรุนแรง จนเกิดเป็นกลุ่มควันลอยขึ้นมาจากศีรษะ

“เตีย… เหนียง…” น้ำตาไหลนองหน้า เมิ่งฮ่าวอยากจะร้องตะโกน และอยากจะหัวเราะออกมาในเวลาเดียวกัน ต้องการจะกู่ร้องด้วยความปวดร้าว และแผดร้องคำรามด้วยโทสะ อย่างไรก็ตามเสียงทั้งหมดนั้นก็ติดขัดอยู่ในลำคอ

ในตอนนี้โลกของเมิ่งฮ่าวดูเหมือนว่าจะหยุดการเคลื่อนไหวไป โลหิตกำลังหยุดไหลเวียน ทุกสิ่งทุกอย่างหยุดชะงักแน่นิ่งไม่ไหวติง

เสียงเดียวเท่านั้นที่ได้ยินก็คือเสียงเต้นหัวใจของตนเอง ซึ่งดังก้องขี้นราวกับเสียงฟ้าคำราม เต็มอยู่ในจิตใจ ราวกับว่าต้องการจะระเบิดออกมาจากภายในร่าง ม้วนกวาดออกไปทั่วทั้งท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว ทำให้ทุกสรรพสิ่งยุติจบสิ้นไป!

ทันใดนั้นเสียงอันเย็นชาของผู้ยิ่งใหญ่สตรีก็ดังก้องขึ้น “ดาวดวงนี้จะต้องถูกทำลายไป บุรุษที่เพิ่งจะตายไปนั้นเป็นบิดาเจ้า? และสตรีที่ตายไปพร้อมกับมันเป็นมารดาเจ้า? ช่างน่าสนใจนัก”

คำพูดของนางคล้ายกับเป็นกุญแจที่ปลดปล่อยความโศกเศร้าของเมิ่งฮ่าวที่ถูกกักขังไว้ออกมา ทันใดนั้นก็เริ่มหัวเราะขึ้นมา เป็นเสียงหัวเราะที่เต็มไปด้วยความทุกข์ทรมาน, ความบ้าคลั่งและความไม่ยินยอม!

“ตายไปแล้ว…? ตายไปแล้ว…?”

“เจ้าพวกบัดซบทั้งหลาย พวกเจ้า…ต้องตาย!” ขณะที่เมิ่งฮ่าวหัวเราะ น้ำตาโลหิตก็ไหลลงมาบนใบหน้า ตอนนี้เขากำลังสั่นสะท้านมากขึ้นกว่าเดิม และเวลาเดียวกันนั้นกลิ่นอายอันน่ากลัวก็พุ่งออกไป

เมื่อผู้ยิ่งใหญ่สตรีได้ยินเสียงหัวเราะของเมิ่งฮ่าว นางก็สั่นสะท้านขึ้นมาอย่างที่ไม่อาจจะควบคุมตนเองได้ และจิตใจก็จมดิ่งลงไป ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้นางรู้สึกหวาดกลัวอยู่เล็กน้อยอีกด้วย

เมื่อผู้ฝึกตนศีรษะใหญ่ได้ยินเสียงหัวเราะของเมิ่งฮ่าว ม่านตามันก็หดเล็กลง

เมิ่งฮ่าวมองขึ้นไปอย่างช้าๆ ดวงตาสาดประกายขึ้นด้วยความโศกเศร้า ขณะที่มองออกไปทั่วทั้งสนามรบ “เจ้าต้องการทำให้เต๋าข้าแปดเปื้อน? เจ้าต้องการทำให้โลหิตข้าสกปรก? เจ้าต้องการทำให้วิญญาณข้าไม่บริสุทธิ์…?”

“ก่อนหน้านี้ข้าเคยต่อสู้กลับไป ไม่ต้องการให้แปดเปื้อน แต่เมื่อคิดดูแล้ว ข้าอาจจะทำพลาดไป…”

“สกปรกแปดเปื้อนแล้วจะอย่างไร!?!?” ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้นด้วยความเย็นชาและบ้าคลั่ง เต็มไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจ และทันใดนั้นภายในดวงตาก็กลายเป็นบางสิ่งบางอย่างที่แปลกประหลาดอย่างน่าตกใจยิ่ง

“สกปรกแปดเปื้อนแล้วจะอย่างไร? ข้าไม่ต้องการเต๋าแล้ว ข้าไม่ต้องการโลหิตแล้ว ข้าไม่ต้องการวิญญาณแล้ว ข้าต้องการแต่…สังหารพวกเจ้าเท่านั้น!”

ขณะที่คำพูดหลุดออกมาจากปาก เมิ่งฮ่าวก็หยุดการต่อต้านกลับไปยังโลหิตที่ปนเปื้อนสกปรกนั้นโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย ในชั่วพริบตาก็เริ่มสั่นสะท้าน ขณะที่พลังแห่งคำสาปแช่งกลายเป็นโลหิตของตนเอง, ทำให้วิญญาณสกปรก ชำระล้างกระดูก และทำให้พื้นฐานเต๋าของตนเองเปรอะเปื้อน

ทันใดนั้นกลิ่นอายที่ปะทุออกมาจากภายในร่างเมิ่งฮ่าว ไม่ได้เป็นอาณาจักรเซียนหรืออาณาจักรโบราณอีกต่อไป แต่เป็นการหลอมรวมของกลิ่นอายที่ยากจะอธิบายได้บางอย่าง

เป็นกลิ่นอายต่างๆ มากมาย เมื่อครู่นี้เป็นกลิ่นอายที่ปกติธรรมดาโดยสิ้นเชิง แต่ตอนนี้แทบจะโหดเหี้ยมราวกับปีศาจ ก่อนหน้านี้เป็นกลิ่นอายที่บริสุทธ์สะอาด แต่ตอนนี้สกปรกและปนเปื้อน!

เส้นเลือดดำกระจายออกไปทั่วทั้งใบหน้า และจากนั้นก็ทั่วร่างกาย เส้นผมเริ่มยาวออกไปอย่างน่าเหลือเชื่อ และเสียงหัวเราะอันโหยหวนก็ดังก้องออกมา

ขณะที่เมิ่งฮ่าวยืนสั่นสะท้านอยู่ที่นั่น ขณะที่เสียงหัวเราะนั้นดังเต็มอยู่ในอากาศ พื้นฐานเต๋าและชีพจรเซียนของเมิ่งฮ่าวก็แตกกระจายไป!

กลุ่มคนนอกคอกที่อยู่บริเวณนั้นต่างก็ตกตะลึงไปโดยสิ้นเชิง พวกมันรับรู้ได้ถึงความน่ากลัวบางอย่างจากภายในร่างเมิ่งฮ่าว เป็นสิ่งที่ไม่ใช่ทั้งเซียน, เทพหรือปีศาจ คล้ายกับเป็นการกลายพันธุ์!!

กลิ่นอายอันน่าตกใจนี้ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบออกมาจากเซียน!

“เจ้า…เจ้า…” ผู้ยิ่งใหญ่สตรีกล่าวขึ้นพร้อมกับหอบหายใจออกมา ดูเหมือนว่านางจะประหลาดใจ หรือแม้แต่ไม่อยากจะเชื่อ มั่นใจว่าเวทแปดเปื้อนของนางไม่ได้ทำสิ่งใดๆ เช่นนี้อย่างแน่นอน หลังจากที่ใช้มันออกไป ผู้เคราะห์ร้ายก็จะกลายเป็นแอ่งโลหิตที่สกปรกไป แต่ตอนนี้…ถึงแม้จะเห็นได้ชัดว่าเมิ่งฮ่าวกำลังแปดเปื้อน…แต่ก็ไม่ได้ตายไป กลับมีการเปลี่ยนแปลงที่แปลกประหลาดบางอย่างขึ้นมา

“เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร!?” นางคิด หนังศีรษะเริ่มด้านชาจากความรู้สึกแปลกๆ ที่รับรู้จากร่างเมิ่งฮ่าวจนยากจะอธิบายออกมาได้

ราวกับว่าสวรรค์และปฐพีกำลังได้รับผลกระทบ ราวกับว่าท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวกำลังถูกชักจูงไป เซียนทั้งหมด, เทพทั้งปวง, ผู้ฝึกตนทั้งหลาย, ทุกสิ่งทุกอย่างที่คงอยู่ในที่แห่งนี้ ต่างก็รับรู้ได้ถึงแรงกดดันอันน่าเหลือเชื่อที่กำลังกระจายออกมาจากร่างเมิ่งฮ่าว

“นั่น…นั่นคืออะไร?!”

ดวงตาผู้ฝึกตนศีรษะใหญ่เบิกกว้างขึ้น และเริ่มหอบหายใจออกมา ขณะที่จ้องมองไปยังเมิ่งฮ่าวด้วยจิตใจที่หมุนคว้างไปมา

เสียงกระหึ่มกึกก้องได้ยินมา ขณะที่เมิ่งฮ่าวค่อยๆ มองขึ้นไป ดวงตากลายเป็นสีแดงจ้าอยู่ในตอนนี้ ซึ่งไม่ใช่แดงก่ำจากเส้นเลือดฝอย แต่เป็นเพราะความเจ็บปวดและทุกข์ทรมานใจ ทำให้ดวงตาทั้งคู่กลายเป็นสีแดงจ้าไป

ดวงตานั้นคล้ายกับเป็นอัญมณี แต่ถ้ามองดูให้นานมากพอ ก็จะดูเหมือนกับเป็นทะเลโลหิต

ดวงตาเป็นสีแดงเจิดจ้า ผิวหนังเต็มไปด้วยเส้นเลือดดำ และเส้นผมสีดำสนิทที่ยาวออกไป เมื่อยืนอยู่ที่นั่นก็ดูเหมือนว่าสิ่งมีชีวิตทั้งปวงจะเริ่มสั่นสะท้าน และระลอกคลื่นก็พุ่งกระจายออกไปทั่วทั้งท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว เวลาเดียวกันนั้นความรู้สึกหวาดกลัวก็เริ่มพุ่งขึ้นมาในจิตใจของกลุ่มคนนอกคอก

ราวกับว่า…แรงกดดันอันลี้ลับและน่ากลัวบางอย่าง จู่ๆ ก็เริ่มกระจายออกมาจากร่างเมิ่งฮ่าว

“มีแต่ข้าเท่านั้นที่รู้ว่าในตอนนั้น ข้าเลือกอะไรไป” เมิ่งฮ่าวพึมพำ จากนั้นก็โบกสะบัดมือออกไป และตะเกียงวิญญาณก็ปรากฏขึ้นในทันที

พวกมันดูแตกต่างไปจากเดิม ตะเกียงวิญญาณเหล่านี้ลุกโชนขึ้นอย่างลี้ลับด้วยเปลวไฟสีน้ำเงินม่วง!

เปลวไฟสีน้ำเงินม่วงลุกไหม้อย่างไร้เสียง แต่ก็ทำให้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวต้องสั่นสะเทือนไปทั้งหมด

ทั้งบนดาวหนานเทียนและตรงด้านนอก กลุ่มคนนอกคอกและผู้ฝึกตนต่างก็เป็นเช่นเดียวกัน คนทั้งหมดแม้แต่ผู้ยิ่งใหญ่ แม้แต่สุ่ยตงหลิวก็รู้สึกได้ถึงความน่ากลัวบางอย่าง!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version