Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1567

ตอนที่ 1567

ไม่ยินดี

แทบจะในทันทีที่เมิ่งฮ่าวพูดจบ ม่านตาก็ต้องหรี่เล็กลง เมื่อรับรู้ได้ถึงกลิ่นอายอันโดดเด่นบางอย่างพุ่งขึ้นมาจากภายในอาณาจักรเทพ

กลิ่นอายนั้นคล้ายกับเป็นเจตจำนง หรือบางทีก็อาจจะเป็นกระแสแห่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ เป็นสิ่งที่ทรงพลังและมีอำนาจสะกดข่มอย่างสูงสุด

แสงสีแดงพุ่งขึ้นมาจากส่วนลึกภายในอาณาจักรเทพ จนดูคล้ายกับเป็นโลหิต สามารถจะรับรู้ได้ถึงความก้าวร้าวสะกดข่ม และเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง เป็นแสงที่…สามารถจะกำจัดชีวิตทั้งหมดไปได้!

แทบจะในทันทีที่แสงสีแดงปรากฏขึ้นมา กลุ่มผู้ฝึกตนแห่งอาณาจักรเทพก็มีท่าทางตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง

“แสงบรรพชนเหนือขอบเขต!!”

“พวกเรายังไม่แพ้! พวกเราจะพ่ายแพ้ได้อย่างไร?” ในท่ามกลางเสียงแผดร้องคำรามเหล่านี้ พวกมันเริ่มต่อสู้กลับมายังชางหมางพ่ายอย่างเต็มกำลัง เวลาเดียวกันนั้นเมิ่งฮ่าวก็ได้ยินคำพูดที่พวกมันร้องตะโกนขึ้นมา

“แสงบรรพชนเหนือขอบเขต!!” เมิ่งฮ่าวมองไปยังแสงสีแดง ที่กำลังพุ่งตรงไปยังผู้ฝึกตนแห่งชางหมางพ่ายอย่างรวดเร็ว

เขาสามารถจะรับรู้ได้ถึงพลังธรรมชาติอันน่ากลัวที่อยู่ภายในแสงนั้น และมั่นใจว่าเป็นสิ่งที่ผู้ฝึกตนชางหมางพ่ายไม่อาจจะต่อต้านได้อย่างแน่นอน ถ้าแสงนั้นกระจายออกไปปกคลุมยังกองกำลังทั้งหมด พวกมันก็คงจะถูกสังหารไปมากกว่าครึ่งอย่างแน่นอน

ทันใดนั้นเมิ่งฮ่าวก็หัวเราะขึ้นมา และเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ด้วยท่าทางเยือกเย็นมั่นคง อย่างน่าตกใจยิ่งเมื่อปรากฏกายขึ้นอีกครั้ง เขาก็ไปอยู่ตรงด้านหน้าของแสงสีแดง จากนั้นก็ยกมือขวาขึ้นมา ฟาดออกไปที่เบื้องหน้า

แสงสีแดงซึ่งระเบิดออกมาจากส่วนลึกมากที่สุดภายในอาณาจักรเทพ มีปฏิกิริยาขึ้นมาในทันที เริ่มสาดประกายเจิดจ้ามากขึ้นกว่าเดิม พุ่งกระจายออกไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็รวมตัวเข้าด้วยกันกลายเป็นลำแสงพุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าว

ลำแสงนั้นพุ่งออกไปด้วยความรวดเร็วจนยากที่จะคาดคิดได้ ในชั่วพริบตาก็กลายเป็นสายฟ้าสีแดงแวบผ่านอากาศตรงไปยังมือที่ฟาดออกมาของเมิ่งฮ่าว

ทุกสรรพสิ่งที่อยู่รอบตัวเมิ่งฮ่าวสั่นสะเทือนขึ้นมาอย่างรุนแรง ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวกำลังพังทลายลงมา ประจุไฟฟ้าสีแดงนับไม่ถ้วนพุ่งมาอยู่รอบๆ บริเวณนั้น เส้นผมเมิ่งฮ่าวพลิ้วไสวไปมา และเสื้อผ้าก็โบกสะบัดอย่างรุนแรง ขณะที่สายฟ้าสีแดงพุ่งมาอยู่รอบๆ ตัว

ในตอนนี้ผู้ฝึกตนทั้งปวงที่อยู่ในบริเวณนั้น ทั้งจากชางหมางพ่ายและอาณาจักรเทพ ต่างก็มองไปด้วยความตื่นตระหนกกันทั้งหมด

ดูเหมือนว่าเวลาจะค่อยๆ เลื่อนผ่านไปอย่างเชื่องช้า พร้อมกับสายฟ้าสีแดงรอบๆ ร่างเมิ่งฮ่าวที่เริ่มจางหายไปอย่างช้าๆ เขามองขึ้นไปและจากนั้นก็ดีดนิ้วหนึ่งครั้ง

ทันใดนั้นเสียงที่คล้ายกับเสียงฟ้าผ่าก็ดังเต็มไปทั่วทั้งโลกแห่งนี้

สายฟ้าสีแดงแตกกระจายไป กลายเป็นจุดแสงสีแดงนับไม่ถ้วนลอยจนหายลับตาไปในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว

“แสงบรรพชนเหนือขอบเขตช่างยอดเยี่ยมนัก เพียงพอที่จะกำจัดสิ่งทั้งปวงที่ไม่ได้อยู่เหนือสูงสุดไปได้อย่างง่ายดาย” เมิ่งฮ่าวพึมพำด้วยเสียงแผ่วเบา

จากนั้นก็โบกสะบัดชายแขนเสื้อออกไปด้วยท่าทางเยือกเย็นเหมือนเช่นเคย ลอยตัวอยู่ที่นั่นในท้องฟ้าซึ่งเต็มไปด้วยหมู่ดาว มองลงไปยังอาณาจักรเทพที่ด้านล่าง

สายตาของเมิ่งฮ่าวเป็นสิ่งที่ดูเหมือนว่าจะเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจอย่างไร้ที่สิ้นสุด ในตอนนี้เองที่สิ่งมีชีวิตทั้งหมดบนดินแดนกว้างใหญ่ทันใดนั้นก็สั่นสะท้านขึ้นมา และร้องตะโกนขึ้นโดยพร้อมเพรียงกัน

“ใครก็ตามที่มารุกรานอาณาจักรเทพต้องตาย!” ขณะที่เสียงแผดร้องของพวกมันดังก้องออกมา อาณาจักรเทพก็เริ่มแตกร้าวและพังทลายลงไป ภูเขาแยกส่วนออกจากกัน แม่น้ำเหือดแห้งหายไป ราวกับมีหัตถ์ยักษ์มาฉีกกระชากดินแดนแห่งนี้ให้ขาดออกจากกัน เงาร่างขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นมาจากด้านใน

มันคือยักษ์ตนหนึ่ง!

นี่คือขุมกำลังที่เห็นได้ชัดว่าถูกซ่อนไว้ใต้พื้นดิน ดวงตายักษ์ลืมขึ้นมา และดวงดาวเก้าดวงก็ปรากฏขึ้นบนหน้าผากของมัน เปล่งแสงระยิบระยับออกมา ยกมือขวาขึ้นกระแทกลงไปบนพื้นดิน เพื่อพุ่งร่างขึ้นไปในท้องฟ้า

“เผ่าเทพ!” ยักษ์ตนนั้นแผดร้องคำราม ขณะที่ลอยขึ้นไปในอากาศ เริ่มขยายขนาดใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว จนมีขนาดเท่ากับดวงดาว ภาพที่เห็นนี้ทำให้ผู้ที่มองดูอยู่ต้องสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัวไปตามๆ กัน

ถ้านั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดก็อาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอันใด แต่จากนั้นอาณาจักรเทพก็มีรอยแตกร้าวแยกเปิดออกมากขึ้นกว่าเดิม และเงาร่างสิบกว่าสายก็โผล่ขึ้นมาจากด้านล่าง

ยักษ์ทั้งหมดลืมตาขึ้นมาพร้อมกับเสียงแผดร้องคำรามขณะที่บินขึ้นไปในอากาศ ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวสั่นสะท้านอย่างรุนแรง พลังที่เก่าแก่โบราณพุ่งกระจายออกมา

 

ขุมกำลังที่แท้จริงของอาณาจักรเทพกำลังโผล่ออกมาทีละคน แต่ขณะที่ทุกสิ่งทุกอย่างนี้เกิดขึ้นมา ก็เป็นการยืนยันว่าการคาดเดาเกี่ยวกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้ของเมิ่งฮ่าวเป็นเรื่องจริง

“ทั้งหมดนี้อาจไม่ใช่ของจริงก็เป็นได้” เมิ่งฮ่าวคิด มองไปยังยักษ์เผ่าเทพที่กำลังพุ่งตรงมา จากนั้นก็ยกมือขวาขึ้นฟาดออกไปข้างหน้าอย่างเรียบง่าย

อากาศที่เบื้องหน้าบิดเบี้ยวไปมา ขณะที่พลังแห่งกาลเวลาพุ่งกระจายออกมาอย่างเงียบๆ ทั่วทุกทิศทาง ทำให้กฎธรรมชาติเปลี่ยนไป คนทั้งหมดมองเห็นยักษ์เผ่าเทพที่เหี้ยมหาญเหล่านั้น กำลังสั่นสะท้านไปทั้งร่างอยู่ในตอนนี้ จากนั้นก็เริ่มแห้งเหี่ยวลงไป เมื่อพวกมันบรรลุถึงตัวเมิ่งฮ่าวซึ่งมีสีหน้าไร้ความรู้สึก ร่างกายก็กลายเป็นเถ้าธุลีลอยไปตามสายลมทีละตน

ยักษ์ที่มีดาวเก้าดวงตนสุดท้ายแหงนหน้าขึ้น แผดร้องคำรามด้วยโทสะและความหวาดกลัวออกมา ราวกับว่าเพื่อปกป้องอาณาจักรเทพแล้ว ต่อให้ต้องจ่ายค่าตอบแทนออกไปด้วยความตายของตัวเอง มันก็ยินดีที่จะทำ!

ยักษ์แผดร้องคำราม กำหมัดจนแน่นต่อยตรงไปยังเมิ่งฮ่าว ถึงแม้ว่าร่างกายมันกำลังกลายเป็นเถ้าธุลี แต่ก็ยังคงต่อยหมัดอันทรงพลังออกไป

พลังนั้นดูเหมือนว่าจะลอยออกมาจากห้วงสมัยโบราณ กลายเป็นลมพายุที่ส่งเสียงดังกระหึ่มอย่างน่าตกใจ เกินกว่าระดับเก้าแก่นแท้ และอยู่ห่างจากเหนือสูงสุดไม่ไกลแล้ว

มันคือพลังของกายเนื้อเหนือสูงสุด เป็นสิ่งที่สามารถจะไม่ให้ความสนใจต่อกฎธรรมชาติใดๆ แม้แต่กิ้งก่าชราก็ยังต้องตกตะลึงต่อภาพที่เห็นนี้ และกำลังสั่นสะท้านไปทั้งร่าง ในตอนนี้คนทั้งหมดต่างก็เข้าใจถึงกองกำลังสำรองอันน่าตกใจของอาณาจักรเทพแล้ว

 

ยักษ์เผ่าเทพตนสุดท้าย ส่งพลังชีวิตทั้งหมดของมันเข้าไปในหมัดที่ต่อยไปยังเมิ่งฮ่าว แต่ก่อนที่หมัดนั้นจะทันได้สัมผัสโดนตัวเมิ่งฮ่าว ยักษ์ตนนั้นก็กลายเป็นเถ้าธุลีไป

เมิ่งฮ่าวไม่ได้อยู่เหนือสูงสุดแค่ร่างกายเท่านั้น แต่ยังรวมถึงพื้นฐานฝึกตนและจิตวิญญาณอีกด้วย เขามีแก่นแท้ของตนเอง และห่างจากอาณาจักรบรรพจารย์แค่ครึ่งก้าวเท่านั้น

“เถ้าสู่เถ้า ธุลีสู่ธุลี…ข้านับถือเจ้า แต่บางที…การลงมือเช่นนี้เจ้าไม่ต้องการจะทำก็เป็นได้ ข้าจะ

ตัดเส้นใยหุ่นเชิดให้เจ้าเอง” เมิ่งฮ่าวกล่าวขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบา จากนั้นก็เดินตรงไปยังอาณาจักรเทพ

เมิ่งฮ่าวเริ่มเข้าใจถึงแก่นธรรมชาติที่แท้จริงของอาณาจักรเทพเกือบหมดแล้ว แต่ในส่วนลึกของจิตใจก็มีบางอย่างที่ยังรู้สึกสงสัยอยู่ จึงจำเป็นต้องลงไปสำรวจด้วยตนเอง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version