Skip to content

King of Gods 1060

King Of Gods

บทที่ 1060 มากันครบถ้วน

“นี่คืออะไร…”

เซียนหมื่นปรากฏการณ์ตื่นตกใจ หากเขาใช้เนตรหมื่นปรากฏการณ์ปลดปล่อยมิติหมื่นปรากฏการณ์ต่อไป เช่นนั้นก็ไม่อาจรักษาวิญญาณของตนไว้ได้ แต่หากไม่ปลดปล่อยมิติหมื่นปรากฏการณ์ เขารู้ตัวว่าตนเองไม่ใช่คู่มือของจ้าวเฟิง

สีหน้าของจ้าวเฟิงเรียบเฉย

ตาซ้ายสำแดงเนตรเพ่งเทพเจ้า กดอัดเซียนหมื่นปรากฏการณ์ อีกทั้งค่อยๆ กระชากวิญญาณของเขาออกมา ในขณะเดียวกัน จ้าวเฟิงก็ปลดปล่อยประสาทสัมผัสวิญญาณ สังเกตการต่อสู้ของหนานกงเซิ่งที่อยู่อีกฝั่ง

“มารคลั่ง!”

หนานกงเซิ่งทะลักพลังศักดิ์สิทธิ์เทวาเร้นลับม่วงโลหิตออกมา หมัดฝ่ามือเคลื่อนไหว ซัดเงาซ้อนสีม่วงเงินอันน่าหวาดหวั่นออกไป เหมือนดั่งปีศาจยักษ์ดึกดำบรรพ์ คำรามกระหายเลือด และไร้เทียมทาน

ส่วนเซียนท่าเทียนที่อยู่ใน ‘โลกพสุธาหมื่นปรากฏการณ์’ ชั่วขณะนั้นก็ตกอยู่ในสถานการณ์ที่เป็นรอง

“นี่คือพลังที่แท้จริงของหนานกงเซิ่งอย่างนั้นรึ?”

เซียนเกาหวงตกใจยิ่งนัก เขารู้สึกว่าตนเองไม่จำเป็นต้องลงมือ หนานกงเซิ่งก็สามารถจัดการเซียนท่าเทียนได้เอง

“กรงเล็บมารโลหิต!”

ใบหน้าหนานกงเซิ่งเผยรอยยิ้มกระหายเลือด กรงเล็บขนาดใหญ่สีม่วงโลหิตทรงพลังพลันก่อรูปขึ้น ซัดโจมตีไปยังเซียนท่าเทียน

เซียนท่าเทียนสีหน้าเครียดเคร่ง กระตุ้นพลังสายเลือดในกาย กลิ่นอายโหดเหี้ยมน่าหวาดหวั่นพลันปะทุออก

“เหยียบพสุธานภาทลาย!”

เห็นเพียงบนร่างของเซียนท่าเทียนมีร่างสัตว์ร้ายเป็นช้างตัวยักษ์สีเข้ม ช้างยักษ์บรรพกาลยกขาหน้าขึ้น เหยียบลงไปเต็มที่

พลังแก่นแท้ที่น่าหวาดหวั่นเป็นที่สุด พร้อมด้วยเสวียนยอ้าวธาตุดินหนักแน่น โจมตีไปทั่วทุกทิศ ฟ้าดินสั่นสะเทือน

“หนานกงเซิ่ง ข้าช่วยเจ้าเอง!”

เซียนเกาหวงถือทวนยาวสีเหลืองทอง สะบัดเงาแสงมังกรทองมหึมาโจมตีไป

ครืน บึ้ม!

หนานกงเซิ่งและเซียนเกาหวงร่วมมือกัน กำราบเซียนท่าเทียน ได้เปรียบโดยตลอด

“ท่าทางหลังจากหนานกงเซิ่งยกระดับขอบเขตพลัง การควบคุมพลังเทพปีศาจของเขา ยิ่งเป็นไปได้ดั่งใจ!”

จ้าวเฟิงเอ่ยเสียงเบา

“เจ้าเด็กนี่ ยังแบ่งสมาธิไปสนใจอย่างอื่น…”

เซียนหมื่นปรากฏการณ์โมโหโกรธา

ยามที่จ้าวเฟิงสู้กับเขา กลับไปสนใจสถานการณ์การต่อสู้ของที่อื่น

ฟู่! เนตรหมื่นปรากฏการณ์ของเซียนหมื่นปรากฏการณ์หมุนวนรอบหนึ่งทันใด

ในท้องฟ้าปรากฏลายก้นหอยหลากสีขึ้น จากนั้นเงาคนผู้หนึ่งก็กระโจนออกมา

วิญญาณของเซียนหมื่นปรากฏการณ์ถูกจ้าวเฟิงกดไว้ เขาไม่อาจปลดปล่อยมิติหมื่นปรากฏการณ์ได้ จึงได้แต่ส่งร่างแยกออกมาเท่านั้น

“ร่างแยก?”

สีหน้าของจ้าวเฟิงตึงเครียด

ในยามที่สำแดงเนตรเพ่งเทพเจ้า เขาไม่อาจแบ่งสมาธิสำแดงการโจมตีอื่น มิฉะนั้นเนตรเพ่งเทพเจ้าจะหยุดชะงัก

แต่เซียนเทวาเร้นลับชั้นต้นขึ้นไปเหมือนจะมีร่างแยกทั้งนั้น ในระดับหนึ่ง หลังจากที่ทะลวงขอบเขตเทวาเร้นลับแล้ว ผลของเนตรเพ่งเทพเจ้าของจ้าวเฟิงลดลงเป็นอย่างมาก

“ตายซะ!”

ร่างแยกของเซียนหมื่นปรากฏการณ์ ทั่วทั้งร่างส่องประกายแสงศักดิ์สิทธิ์หลากสี พุ่งโจมตีไปยังจ้าวเฟิง

จ้าวเฟิงหยุดเนตรเพ่งเทพเจ้าทันใด หมัดหนึ่งโจมตีพุ่งออกไป

ครืน บึ้ม!

พลังทรงอำนาจที่แข็งแกร่งหนักแน่นโจมตีไปยังร่างแยกของเซียนหมื่นปรากฏการณ์

ก่อนที่การโจมตีนั้นจะมาถึง ร่างแยกของเซียนหมื่นปรากฏการณ์ก็แปรสภาพโครงสร้างเป็นหินทราย ในหินทรายยังมีเสวียนอ้าวธาตุทองประกอบอยู่ด้วย จึงเพิ่มพลังการป้องกัน ฝืนต้านทานหมัดของจ้าวเฟิง

ครืน ตึง!

ร่างแยกของเซียนหมื่นปรากฏการณ์ถูกโจมตีลอยไปทันที กลางอกปรากฏรูขนาดใหญ่ ต่อให้ร่างแยกเซียนหมื่นปรากฏการณ์ป้องกันสุดกำลัง ก็ยังคงไม่อาจต้านทานหมัดของจ้าวเฟิงได้

ส่วนเซียนหมื่นปรากฏการณ์ก็อาศัยจังหวะนี้ เรียกวิญญาณกลับเข้ามาในร่าง อีกทั้งรีบเว้นระยะห่างกับจ้าวเฟิงแล้วนำร่างแยกเก็บกลับมา

ร่างแยกของเซียนหมื่นปรากฏการณ์บรรลุเสวียนอ้าวมากมายอยู่ในมิติหมื่นปรากฏการณ์ การบรรลุถึงพลังของธาตุหลากชนิดมากเกินคนปกติ

แต่หมัดของจ้าวเฟิงหมัดยังคงทำให้ร่างแยกได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก เกือบจะถูกทำลายสิ้น

“เป็นไปได้อย่างไร เจ้ามนุษย์นี่พัฒนาไปได้รวดเร็วเช่นนี้…”

ใบหน้าของเซียนหมื่นปรากฏการณ์ฉายแววตกใจกลัว

ระยะเวลาสองปี มนุษย์ที่เคยถูกเขาบดขยี้ตามอารมณ์ กลับพัฒนาได้เทียบเคียงกับเขา กระทั่งถึงขั้นเป็นฝ่ายได้เปรียบ

“นั่นมัน?”

เนตรหมื่นปรากฏการณ์ของเซียนหมื่นปรากฏการณ์ราวกับสัมผัสอะไรได้

ส่วนตาซ้ายของจ้าวเฟิงก็ขยับเล็กน้อย

เห็นเพียงไม่ไกลจากด้านขวาขององค์ชายเก้า กองกำลังทหารมนุษย์บินมาอย่างรวดเร็ว ในนั้นยังมีกลิ่นอายที่แข็งแกร่งเกินปกติหลายสาย

“ผู้อาวุโสท่าเทียน พวกมนุษย์เพิ่มกำลังเสริมมาแล้ว ถอยเร็ว!”

เซียนหมื่นปรากฏการณ์รีบส่งกระแสจิตไป ในขณะเดียวกันทั้งร่างก็โอบล้อมด้วยพลังวายุอัสนี แล้วจึงจากไปไกลทันที

ในวันนี้ ลำพังแค่กองกำลังทหารขององค์ชายเก้ากองเดียว กองกำลังของเซียนหมื่นปรากฏการณ์ก็ไม่ใช่คู่มือแล้ว ส่วนกองกำลังทหารที่มุ่งหน้ามา กระบวนทัพก็ไม่ธรรมดา ไม่หลีกหนีในยามนี้ ก็อาจหนีไม่ได้ไปตลอดกาล

อีกด้านหนึ่ง เซียนท่าเทียนก็เข้าใจสถานการณ์ จึงรีบหลบหนีทันที เขาอาศัยเสวียนอ้าวธาตุดินที่เข้มข้นทั่วบริเวณ ความเร็วในการหลีกหนีก็เร็วเป็นอย่างมาก

“คิดหนีรึ?”

หนานกงเซิ่งกำลังสู้อย่างหนำใจ เมื่อเห็นเซียนเทียนท่าหลบหนี จึงรีบไล่ตามทันที

ครึ่ก ครืน ครืน!

ทันใดนั้น สภาพอากาศระหว่างฟ้าดินเปลี่ยนสี เสวียนอ้าวล้นทะลัก ข้างหน้าหนานกงเซิ่งพลันเกิดพายุหนาวเหน็บ เสวียนอ้าวน้ำแข็งที่เย็นยะเยือกทำให้ความเร็วของเขาลดลงทันใด

“หนานกงเซิ่ง ไม่ต้องตาม!”

จ้าวเฟิงเรียกหนานกงเซิ่งกลับมา

ต่อให้จ้าวเฟิงไล่สังหารเนตรหมื่นปรากฏการณ์ด้วยตนเอง ความสำเร็จในการไล่ตามก็มีไม่มาก

พลังของเนตรหมื่นปรากฏการณ์สามารถเปลี่ยนแปลงธรรมชาติในฟ้าดินได้ตามแต่ใจ ประเดี๋ยวฟ้าดินหนาวเหน็บ ประเดี๋ยวราวกับตกอยู่ในบ่อโคลน อัสนีบนท้องฟ้า เพลิงแผดเผาผืนดิน หรือลมพายุ ทั้งหมดล้วนเป็นเรื่องง่ายดาย

ส่วนตัวเซียนหมื่นปรากฏการณ์เองก็เชี่ยวชาญเสวียนอ้าววายุอัสนี ด้านความเร็วเกินกว่าคนทั่วไป

หรือก็คือ หากคิดไล่สังหารเซียนหมื่นปรากฏการณ์ ภายใต้การต้านทานเหตุการณ์หมื่นปรากฏการณ์ของฟ้าดินและพลังธรรมชาติ ยังจะต้องมีความเร็วที่เหนือกว่าเซียนหมื่นปรากฏการณ์อีกด้วย

“องค์รัชทายาท ช่วงนี้ผลงานการรบโดดเด่นเสียจริง!”

ยามนี้ กองกำลังทหารที่อยู่ไกลๆ เข้ามาใกล้ เสียงค่อยๆ ดังมา

“น้องสิบสาม ข้าห่างชั้นกับเจ้าอีกไกลนัก!”

องค์ชายเก้าสีหน้าเรียบนิ่ง

ผู้มาเยือนคือกองกำลังขององค์ชายสิบสาม

ข้างหน้าของกองกำลังทหารคือสตรีในชุดสีม่วงผู้งดงามไร้มลทิน เลิศล้ำเป็นหนึ่งในใต้หล้า ดึงดูดสายตาของทุกคนทันที

“พี่เฟิง…”

ดวงตาทั้งสองของจ้าวหยูเฟยมีหยาดน้ำพร่างพราย จ้องไปยังจ้าวเฟิงที่อยู่เบื้องล่าง ไม่มีสิ่งอื่นใดในสายตา

หลังได้พบหน้าจ้าวเฟิงที่มิติเทพลวงตาก็นานถึงเก้าปี เก้าปีแล้ว ตอนนี้ในที่สุดจ้าวหยูเฟยก็ได้พบกับจ้าวเฟิงอีกครั้ง

“พี่เฟิง ในที่สุดข้าก็ได้พบท่าน…”

เงาร่างงดงามราวกับควันสีม่วง โผเข้าไปในอ้อมกอดของจ้าวเฟิง

หางตาของจ้าวหยูเฟยแดงเล็กน้อย ในขณะที่ปีติยินดีก็มีความรู้สึกอยากร้องไห้ นางมีคำพูดมากมายอยากจะระบาย

ภาพเบื้องหน้าจ้าวเฟิงสั่นไหว รู้สึกว่ามีร่างอุ่นนุ่มงดงามโผเข้ามาในอ้อมอก ประกายน้ำตาที่ไหลรินทำพวงแก้มเปียกชื้น

“หยูเฟย!”

จิตใจของจ้าวเฟิงคล้ายเกิดคลื่นแปรปรวน ทั้งความยินดีและเศร้าโศกโจมตีเข้ามาพร้อมๆ กัน ทำให้เขาแยกไม่ออกว่าใจของตนคิดเช่นไร

“น้องหยูเฟย…”

องค์ชายสิบสามที่อยู่ข้างๆ หน้าตาแดงก่ำ สีหน้าเคืองแค้น

จักรพรรดิองค์ปัจจุบันได้ให้สัญญาหมั้นหมายพวกเขาสองคนกับผู้อาวุโสสูงสุดตระกูลตวนมู่แล้ว แต่ในวันนี้ สตรีที่เขารักกลับโผเข้าไปในอ้อมแขนของชายอีกคน นี่ทำให้ไฟแค้นในใจของเขาลุกโหมไหม้จนใกล้จะปะทุออก

“ท่านอาจารย์!”

จ้าวเฟิงมองไปยังตวนมู่ชิงที่อยู่ในกองกำลังทหารขององค์ชายสิบสาม

ส่วนข้างกายตวนมู่ชิงยังมีเซียนสายมารอีกผู้หนึ่ง เซียนสายมารผู้นี้ มองจ้าวเฟิงด้วยสายตาเย็นเยียบแวบหนึ่ง

ยามนี้ สมาชิกในกองกำลังทหารขององค์ชายเก้าที่ออกห่างจากสนามรบพวกนั้น ก็รีบกลับมาทันใด

จีหลานมองเทพธิดาหยกเกลี้ยงเกลาผู้งดงามสะคราญ เลิศล้ำเป็นหนึ่งในอ้อมกอดจ้าวเฟิง ในใจสั่นสะเทือนเล็กน้อย ก้มหน้าไม่พูดจา

ผู้ชมโดยรอบเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ คนไม่น้อยตกใจเป็นที่สุด ซุบซิบเสียงเบา ใบหน้าเกลี้ยงเกลาของจ้าวหยูเฟยแดงเรื่อ ก่อนจะปล่อยจ้าวเฟิง

“เซียนหมื่นปรากฏการณ์หนีไปแล้ว พวกเราไปคุยกันในฐานที่มั่นที่ยึดได้ด้านหน้าเถิด!”

องค์ชายเก้าก็มองออก องค์ชายสิบสามไม่ได้มาช่วยเหลือเด็ดขาด น่าจะมีเรื่องต้องมาคุย

จากนั้น กองกำลังทหารขององค์ชายเก้าและองค์ชายสิบสามก็มุ่งไปข้างหน้า

ตลอดทางไม่เจอกองกำลังทหารต่างเผ่าพันธุ์ใดๆ ทั้งสิ้น เห็นได้ชัดว่าต่างเผ่าพันธุ์ทิ้งฐานที่มั่นนี้ไปแล้ว

ไม่นานนัก ทุกคนก็มาถึงเมืองร้างแห่งหนึ่ง

จ้าวเฟิง จ้าวหยูเฟย และตวนมู่ชิงรวมตัวกันในตำหนักแห่งหนึ่งเพียงลำพัง

“พี่เฟิง ข้า…”

จ้าวหยูเฟยอยากพูดความทุกข์และความกลัดกลุ้มในใจออกมา แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหน จะเอ่ยปากอย่างไร

ใจของนางสับสนยิ่งนัก ถึงแม้ว่านางจะมีสายเลือดสูงส่งกับพลังที่แข็งแกร่ง แต่ในด้านความรู้สึกก็เป็นเพียงแค่สตรีธรรมดาคนหนึ่ง

“ข้ารู้ทั้งหมด…วางใจเถิด เรื่องที่เจ้าไม่อยากทำ ใครก็บังคับเจ้าไม่ได้!”

ใบหน้าของจ้าวเฟิงจริงจัง น้ำเสียงเด็ดเดี่ยว

ก่อนหน้านี้เนิ่นนาน จ้าวเฟิงก็มีใจคิดจะสังหารองค์ชายสิบสาม

เพียงแต่ไม่มีโอกาสมาโดยตลอด และหลังจากนั้น องค์ชายสิบสามก็ท้าทายความอดทนของจ้าวเฟิงอีกครั้ง จ้าวเฟิงตัดสินใจว่าจะสังหารแล้ว ขอเพียงแค่มีโอกาสแม้เพียงเศษเสี้ยวเดียว เขาก็จะลงมือ ขอเพียงแค่องค์ชายสิบสามตายลง สัญญาหมั้นนีจะมีประโยชน์อันใดอีกเล่า?

“จ้าวเฟิง ข้ามาถึงสนามรบกับศิษย์น้องหยูเฟย ก็เพื่อหารือเรื่องสัญญาหมั้นหมายกับองค์ชายสิบสาม”

ตวนมู่ชิงพูดขึ้น

แต่ทว่าจนถึงในตอนนี้ พูดคุยกับองค์ชายสิบสามกี่ครั้ง อีกฝ่ายกลับพูดตลอดว่าจะทำให้หยูเฟยชมชอบตน ดังนั้นทุกครั้งที่พูดคุย ยังไม่ทันได้ข้อสรุปก็จบลงอย่างรวดเร็ว

“ข้าไม่มีทางตกลงยกเลิกการหมั้นหมาย!”

ยามนี้เอง องค์ชายสิบสามเดินเข้ามาในตำหนักช้าๆ สายตาเย็นเยียบจ้องมายังจ้าวเฟิง

ในใจของเขาแค้นเคืองเป็นอย่างมาก ทำไมในตอนนั้นแผนการไล่สังหารที่ขั้วอำนาจมากมายวางแผนถึงล้มเหลวได้

หากในตอนแรกจ้าวเฟิงถูกสังหาร ก็จะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น

สตรีที่มีสัญญาหมั้นหมายกับเขา เมื่อครู่จ้าวเฟิงกอดไว้ในอ้อมแขน นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่เขาห็นฉากนี้ ทำให้จิตสังหารและความริษยาชิงชังขององค์ชายสิบสามต่อจ้าวเฟิงยกระดับจนถึงขีดสูงสุด

แต่เขาก็เข้าใจ ในวันนี้จ้าวเฟิงพลังเเข็งแกร่ง เขาทำได้เพียงอาศัยขั้วอำนาจเบื้องหลังและเสด็จแม่จึงจะกำจัดจ้าวเฟิงได้

ขอเพียงแค่เขาไม่ยอมยกเลิกสัญญาหมั้นหมาย ตระกูลตวนมู่ก็ไม่มีทางฝืนยกเลิกคำมั่นกับองค์จักรพรรดิในวันนั้นได้

“องค์ชายสิบสาม ข้าไม่มีวันชอบท่าน!”

ดวงตาสุกสกาวของจ้าวหยูเฟยมององค์ชายสิบสาม น้ำเสียงเด็ดขาดแฝงด้วยความโมโหที่ไร้คำพูด

“เจ้า…”

องค์ชายสิบสามโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างยิ่ง

สตรีที่เขาเคยรักทำร้ายจิตใจเขาอย่างหนักซ้ำแล้วซ้ำเล่า เมินเฉยความจริงใจและความรักของเขา โผเข้าไปในอ้อมกอดของชายอีกคนต่อหน้าคนมากมายเช่นนั้น

ตอนนี้องค์ชายสิบสามรู้สึกว่าสตรีคนนั้นที่เขาเคยรักก็น่าชิงชังอะไรเช่นนี้

เขาในยามนี้คิดอยากจะฆ่าจ้าวเฟิงเท่านั้น คิดแม้กระทั่งอยากทรมานจ้าวหยูเฟย!

สายตาของจ้าวเฟิงมององค์ชายสิบสามอย่างเรียบเฉย พลังจิตวิญญาณที่เลือนรางกลุ่มหนึ่งกะพริบแล้วหายวับไป คนทั้งหมด ณ ที่นั้นรวมถึงในฐานที่มั่นล้วนไม่รู้สึกถึงอะไร

และในตอนนี้เอง แรงกดดันแก่นแท้พลังที่น่ากลัวเหนือสิ่งอื่นใดมาเยือนยังตำหนักใหญ่โตแห่งนี้

“นี่มันอะไรกัน? หรือว่าต่างเผ่าพันธุ์โจมตีกลับมาแล้ว?”

ขาทั้งสองขององค์ชายสิบสามอ่อนแรงลงทันใด รีบหนีออกมา

“เซียนเฮยเถี่ย (เหล็กดำ) เกิดอะไรขึ้น?”

องค์ชายสิบสามมายังข้างกายเซียนเฮยเถี่ย ใบหน้าตื่นกลัว

เซียนเฮยเถี่ยผู้นี้คือเซียนสายมารในกองกำลังขององค์ชายสิบสาม เป็นกำลังรบขั้นเซียนที่วังเก้านิรยส่งมาให้องค์ชายสิบสาม หนึ่งคือเพื่อปกป้ององค์ชายสิบสาม สองคือเพื่อสร้างคุณูปการให้กับเขา

เซียนเฮยเถี่ยเป็นขอบเขตเทวาเร้นลับชั้นสูง ต้องรู้ว่า ในสนามรบมณฑลหลาน เซียนเทวาเร้นลับชั้นสูงที่ปรากฏขึ้นทั้งหมดมีแค่ไม่กี่คน การปรากฏตัวของพวกเขาก็ล้วนเพื่อตรึงกำลังรบอันแข็งแกร่งของต่างเผ่าพันธุ์

แม้แต่ข้างกายขององค์รัชทายาท ก็มีเพียงแค่เซียนเกาหวงที่เป็นเทวาเร้นลับชั้นต้นคนเดียวเท่านั้น

หากขั้วอำนาจเบื้องหลังองค์ชายสิบสามส่งเซียนเทวาเร้นลับชั้นสูงมาช่วย ต่อให้ได้ผลงานการรบที่ดีเยี่ยม ฟากเชื้อพระวงศ์ก็ไม่รับการประเมินที่ดีเท่าไหร่นัก

ภายในเมือง ประสาทสัมผัสวิญญาณแต่ละสายๆ กวาดออก กำลังรบขั้นปฐมเซียนและเซียนปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว

“คนที่ควรมา ก็มากันหมดแล้ว!”

จ้าวเฟิงยิ้มน้อยๆ

“จ้าวเฟิง ออกมาเดี๋ยวนี้!”

เสียงสายฟ้าน่าหวาดหวั่นดังมาทันใด ทั่วทั้งเมืองสั่นสะเทือนน้อยๆ คล้ายว่าจะทลายลง

ฟุ่บ! จ้าวเฟิงมาปรากฏอยู่บนท้องฟ้าเหนือตำหนักทันใด มองไปยังชายหนุ่มผมสั้นใบหน้าหล่อเหลา

“ไม่เจอกันนานเลย คุนอวิ๋นน้อย!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version