บทที่ 1078 แผนการของจ้าวเฟิง
“พวกเราร่วมมือกัน สังหารมันเสีย!”
เซียนหมื่นปรากฏการณ์เอ่ยกับเซียนต่างเผ่าพันธุ์ในขอบเขตเทวาเร้นลับชั้นสูงข้างกาย
ส่วนเซียนเทวาเร้นลับชั้นต้นอีกคน เมื่อเผชิญหน้ากับแรงกดดันจากแก่นแท้พลังสายฟ้าของจ้าวเฟิง กำลังรบถูกกดลงไปมากกว่าห้าส่วน จึงถูกเซียนหมื่นปรากฏการณ์มองข้ามไป
“ตกลง!”
ต่างเผ่าพันธุ์ร่างกายสูงใหญ่ที่มีขนแดงทั่วร่างจ้องจ้าวเฟิงเขม็ง
ถึงแม้มนุษย์ตรงหน้าจะมีขอบเขตพลังอยู่แค่เพียงเทวาเร้นลับชั้นแรกเริ่ม แต่ความกดดันจากอีกฝ่ายกลับหนักหน่วงอย่างมาก
แต่เมื่อร่วมมือกับเซียนหมื่นปรากฏการณ์ เขาจึงไม่กังวลแต่อย่างใด เซียนหมื่นปรากฏการณ์มีเนตรหมื่นปรากฏการณ์ พลานุภาพแท้จริงเกรงว่าจะอยู่เหนือเซียนเทวาเร้นลับชั้นสูงทั่วไป
“โลกเพลิงหมื่นปรากฏการณ์!”
ดวงตาเซียนหมื่นปรากฏการณ์จ้องเขม็ง ไอสวรรค์ฟ้าดินรอบบริเวณพลันถูกเขาควบคุม กลายเป็นเสวียนอ้าวพลังธาตุไฟ
อุณหภูมิรอบกายเพิ่มขึ้นอย่างรวดดเร็ว คลื่นเพลิงร้อนระอุกลุ่มหนึ่งหมุนวนรอบจ้าวเฟิง
ต่างเผ่าพันธุ์ผมแดงตะโกนเสียงดัง แกว่งหมัดสองข้างจนย้อมด้วยเพลิงสีแดงฉาน พลานุภาพยิ่งใหญ่น่าพรั่นพรึง ประหนึ่งอสุรกายเพลิงขนาดยักษ์
“มังกรเพลิงฟ้าดิน!”
รอบตัวเซียนต่างเผ่าพันธุ์ผมแดงล้อมด้วยมังกรเพลิงโลหิตสีแดงฉานตัวหนึ่ง และตรงดิ่งมาหาจ้าวเฟิงทันควัน
เปลวเพลิงที่มืดฟ้ามัวดินพวยพุ่งเต็มบริเวณ แต่กลับไม่สร้างความเสียหายต่อกำแพงผลึกรอบตัวแม้แต่น้อย
“ข้าก็สามารถดูดซึมพลังธาตุไฟได้!”
จ้าวเฟิงหัวเราะเสียงเย็น พลันกระตุ้นสายเลือดเพลิงมารโลหิตที่สมบูรณ์
วิ้ง โครม!
เพลิงเจิดจ้าราวดวงอาทิตย์ทะลักออกจากทั่วร่างจ้าวเฟิง กลิ่นอายน่ากลัวที่ลุกโหมรุนแรงระเบิดปะทุ
ในเวลาเดียวกัน พลังธาตุไฟรอบบริเวณก็ทะลักเข้าไปในร่างกายจ้าวเฟิงอย่างรวดเร็ว
หมัดศักดิ์สิทธิ์อัสนี!
จ้าวเฟิงหลอมรวมวายุอัสนีธาตุไฟและกายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ ปล่อยแสงอัสนีเพลิงกลุ่มหนึ่งออกมา ปะทะเข้ากับเซียนต่างเผ่าพันธุ์ผมแดงเข้าอย่างจัง
เซียนต่างเผ่าพันธุ์ผมแดงเพียงแค่ฝึกฝนวิชาธาตุไฟ แต่จ้าวเฟิงไม่เพียงมีธาตุไฟแฝงอยู่ใน ‘วิชาวายุอัสนีห้าสาย’ ตัวของเขาเองยังมีสายเลือดธาตุไฟด้วย
ด้วยเหตุนี้ ‘โลกเพลิง’ ของเซียนหมื่นปรากฏการณ์ ในความเป็นจริงแล้วจึงส่งผลช่วยหนุนจ้าวเฟิงอย่างมาก
บึ้ม!
เซียนต่างเผ่าพันธุ์ผมแดงถูกพลังที่ระเบิดออกในพริบตาของจ้าวเฟิงซัดจนกระเด็นถอยไปปะทะกำแพงแก้วเบื้องหลัง ทั่วร่างยังมีเพลิงเจิดจ้าลุกไหม้ และเผาผลาญกัดกร่อนไม่หยุด
“เป็นไปได้อย่างไรกัน? พลังของเจ้าเด็กมนุษย์นี่…”
เซียนต่างเผ่าพันธุ์ผมแดงผู้นั้นตื่นตะลึง ไม่อยากจะเชื่อว่าตนเองจะถูกเซียนเทวาเร้นลับชั้นต้นคนหนึ่งเอาชนะได้อย่างง่ายดายเช่นนี้
ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ!
ในขณะที่เซียนต่างเผ่าพันธุ์ผมแดงถูกโจมตีกระเด็นไป ภายในคลื่นเพลิงปรากฏกระบี่แสงสีทองจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งไปหาจ้าวเฟิง
“กระบี่จินรุ่ย!”
เกลียววนหลากสีในดวงตาซ้ายของเซียนหมื่นปรากฏการณ์ค่อยๆ หยุดลง
ในอีกฟากหนึ่ง เซียนเทวาเร้นลับชั้นต้นผู้นั้นถอยไปตั้งหลักด้านหลัง เพื่อโจมตีจ้าวเฟิงจากไกลๆ
เมี้ยว เมี้ยว!
เจ้าแมวขโมยน้อยลงมือตามความคิดของจ้าวเฟิง สะบัดแส้งูมังกรทอง แล้วโผทะยานไปหาเซียนต่างเผ่าพันธุ์ในขอบเขตเทวาเร้นลับชั้นต้นผู้นั้น
“เซียนหมื่นปรากฏการณ์ ยังใช้ลูกเล่นกระจอกแบบนี้รับมือข้าอีกหรือ?”
จ้าวเฟิงหัวเราะเยาะ
พรึ่บ แซ่ด แซ่ด!
รอบกายของจ้าวเฟิง พลังศักดิ์สิทธิ์วายุอัสนีธาตุดินและแก่นแท้พลังสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์บิดเบี้ยวเข้าหากัน กลายเป็นเกราะวายุอัสนีสีเหลืองเข้มเก่าแก่ชั้นหนึ่ง
เปรี๊ยะ ฟุ่บ ฟุ่บ!
กระบี่จินรุ่ยจำนวนมากมายแทงลงบนเกราะอัสนีคุ้มกายของจ้าวเฟิง ทะลุเข้าไปครึ่งชุ่นก็ถูกต้านทานเอาไว้
แกรก!
เกราะวายุอัสนีเก่าแก่รอบตัวจ้าวเฟิงปลดปล่อยเส้นอัสนีสีทองเข้มที่เจิดจ้าแสบตาออกไป ทำลายแสงกระบี่ทองนับไม่ถ้วนแตกกระจาย
เวลาเดียวกัน พลังศักดิ์สิทธิ์วายุอัสนีธาตุดินส่วนหนึ่งพุ่งทะยานไปหาเซียนหมื่นปรากฏการณ์
พรึ่บ ฟู่!
ดวงตาเซียนหมื่นปรากฏการณ์เพ่งมอง เกราะวายุอัสนีปรากฏขึ้นด้านหน้าทันที และต้านทานการโต้กลับจากเกราะอัสนีคุ้มกายของจ้าวเฟิงไว้
“ขอบเขตพลังของเจ้าเพิ่มขึ้นรวดเร็วเช่นนี้ เหตุใดจึงยังมีกำลังรบในระดับนี้?”
เซียนหมื่นปรากฏการณ์เพ่งสายตา จ้องไปยังจ้าวเฟิง
ขณะที่เซียนหมื่นปรากฏการณ์ประมือกับจ้าวเฟิงเป็นครั้งแรก
จ้าวเฟิงยังอยู่ขอบเขตพลังปฐมเซียนเท่านั้น ผ่านระยะเวลาหลายปี ขอบเขตพลังของเซียนหมื่นปรากฏการณ์ไม่เพิ่มขึ้น แต่จ้าวเฟิงกลับทะยานขึ้นไปแตะขอบเขตเทวาเร้นลับชั้นต้นแล้ว อีกอย่าง เดิมทีเซียนหมื่นปรากฏการณ์คิดว่าจ้าวเฟิงฝืนเพิ่มขอบเขตพลังไปเทวาเร้นลับชั้นต้นเพื่อจะค้นหาโอกาสที่นี่ แต่พลังแท้จริงไม่ได้เพิ่มขึ้นมากมายนัก
แต่ตอนนี้ พลังที่จ้าวเฟิงปลดปล่อยออกมา กระทั่งเขายังต้องหวาดกลัวอยู่บ้าง
“พูดไร้สาระเสียจริง!”
จ้าวเฟิงหัวเราะเสียงเย็น ปลดปล่อยเงาโลกมิติส่วนตัววายุอัสนี ผสานกับขอบเขตแก่นแท้อัสนี ตรงดิ่งไปที่เซียนหมื่นปรากฏการณ์
จริงอยู่ที่ขอบเขตพลังของจ้าวเฟิงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ใครจะรู้ จ้าวเฟิงใช้สมบัติล้ำค่าและวัตถุดิบยาต่างๆ ไปมากเท่าไหร่ สิ้นเปลืองผลึกเซียนระดับล่างไปกี่ชิ้น เพื่อจะยกระดับขอบเขตพลังขึ้น
ในตอนนี้ ขอบเขตพลังของจ้าวเฟิงและเซียนหมื่นปรากฏการณ์เท่าเทียมกัน ด้านการโจมตีชั้นกายเนื้อ จ้าวเฟิงไม่หวาดกลัวเซียนหมื่นปรากฏการณ์แม้แต่น้อย ส่วนชั้นวิญญาณ จ้าวเฟิงยิ่งเหนือกว่าเซียนหมื่นปรากฏการณ์ด้วยซ้ำไป
“ท่านเฮยตู๋ จื่อตู๋!”
เซียนหมื่นปรากฏการณ์เห็นจ้าวเฟิงแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ จึงเตรียมจะขอความช่วยเหลือจากราชาเซียนสองคนในกลุ่ม
แต่ขณะที่เขาปรายตามองด้านข้าง ก็ต้องชะงักค้างไปอีกครั้ง
เขาเห็นเพียงราชาเซียนสองคนแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์งูประมือกับหนานกงเซิ่งและจ้าวหยูเฟยอย่างสูสี ไม่มีใครยอมใคร
ส่วนอีกฟาก เซียนเทวาเร้นลับชั้นต้นโดนเจ้าแมวขโมยกำราบราบคาบ ไม่มีโอกาสได้โต้กลับด้วยซ้ำ
“เพลิงอัสนีวายุเนตรเทพเจ้า!”
จ้าวเฟิงฉวยโอกาสตอนเซียนหมื่นปรากฏการณ์เสียสมาธิ โคจรดวงตาซ้าย ปลดปล่อยวิชาดวงตากระบวนท่าหนึ่ง
โครม ฟิ้ว!
ลูกเพลิงแสงอัสนีสีทองม่วงระเบิดลงบนศีรษะของเซียนหมื่นปรากฏการณ์
ด้วยพลังวิญญาณในขอบเขตเทวาเร้นลับชั้นสูงของจ้าวเฟิง เมื่อปลดปล่อยเพลิงอัสนีวายุเนตรเทพเจ้า ก็พอจะทำให้เซียนหมื่นปรากฏการณ์บาดเจ็บได้แล้ว
“เขตแดนคุกมายา!”
จ้าวเฟิงเรียกใช้วิชาต้องห้ามศาสตร์ลวงตาอีกครั้ง
ทันใดนั้นเอง ดวงตาของเซียนหมื่นปรากฏการณ์ถูกตาซ้ายจ้าวเฟิงดึงดูด ตกลงไปในเขาวงกตลวงตาที่ไร้จุดสิ้นสุดทันที
“ข้าต้องการเนตรหมื่นปรากฏการณ์!”
จ้าวเฟิงเอ่ยอย่างยินดีเล็กน้อย
จ้าวเฟิงในตอนนี้สามารถใช้ข้อได้เปรียบโค่นเซียนหมื่นปรากฏการณ์ และใช้การโจมตีวิญญาณสังหารอีกฝ่ายเสีย
แต่หากเป็นเช่นนั้น เมื่อวิญญาณของเซียนหมื่นปรากฏการณ์สูญสลาย เนตรหมื่นปรากฏการณ์ก็จะสลายไปด้วย
ตั้งแต่บรรลุ ‘วิชาแยกวิญญาณ’ ขั้นที่สอง จ้าวเฟิงก็มีความคิดอย่างหนึ่ง คือการหลอมรวมดวงตามรดกของแปดเนตรเทพเจ้าให้กับร่างแยกของเขา
เพราะร่างแยกของเซียนทั่วไป หลังจากสร้างออกมาแล้วจะมีกำลังรบหลายส่วนของร่างจริงทันที แต่ร่างแยกวิญญาณของจ้าวเฟิงกลับต้องอาศัยเวลาในการเติบโต
ถ้าหากจ้าวเฟิงเอามรดกเนตรของแปดเนตรเทพเจ้าหลอมรวมเข้าไปในร่างแยก ย่อมไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะเอื้อประโยชน์ต่อความเร็วในการเติบโตของพลังร่างแยกได้
จ้าวเฟิงคาดเดาเอาไว้ ถ้าหากจ้าวหวางไม่มีเนตรมรณะแล้วละก็ ความเร็วในการฝึกตนน่าจะลดลงไปหกส่วนเป็นอย่างน้อย
ดังนั้นจ้าวเฟิงจึงต้องวางแผนเผื่อร่างแยกร่างที่สองของเขา จำต้องช่วงชิงมรดกแปดเนตรเทพเจ้ามาสักอย่างเพื่อเพิ่มพูนความเร็วการฝึกฝนเพิ่มพลังของร่างแยก
อีกด้านหนึ่ง ความลึกซึ้งในการฝึกตนและประสบการณ์ของร่างแยกก็จะถ่ายทอดเข้ามาในจิตสำนึกของจ้าวเฟิงด้วย
หากร่างแยกที่สองของจ้าวเฟิงครอบครองเนตรหมื่นปรากฏการณ์
เช่นนั้นจ้าวเฟิงก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องการรับรู้เสวียนอ้าวทั้งห้าธาตุ สิ่งนี้จะมีส่วนช่วยอย่างมากต่อการฝึก ‘วิชาวายุอัสนีห้าสาย’ ของจ้าวเฟิง
ทว่าเวลานี้ เซียนต่างเผ่าพันธุ์ผมแดงผู้นั้นทะยานมาสังหารจ้าวเฟิง
“โทสะมังกรเพลิง!”
ทั่วร่างเซียนต่างเผ่าพันธุ์ผมแดงสาดพลังศักดิ์สิทธิ์เทวาเร้นลับสีแดงพร่างพราย เกาะกลุ่มเป็นมังกรเพลิงที่ไร้รูปร่างตัวหนึ่ง จากนั้นตรงดิ่งไปหาจ้าวเฟิง
โฮก!
มังกรเพลิงพ่นไฟพลังศักดิ์สิทธิ์ที่น่ากลัวออกมา ย้อมกำแพงผลึกรอบด้านเป็นสีแดงฉาน แผ่กระจายอุณหภูมิร้อนจัด
“พลังธาตุไฟแข็งแกร่งยิ่ง!”
จ้าวเฟิงตื่นตะลึง เป็นไปอย่างที่คิดไว้ เขาไม่อาจมองข้ามเซียนเทวาเร้นลับชั้นสูงคนใดก็ตาม
“ฝ่ามือสายฟ้าทลายนภา!”
สีหน้าของจ้าวเฟิงเคร่งขรึม โคจรพลังศักดิ์สิทธิ์เทวาเร้นลับ พลันฟาดฝ่ามือแสงศักดิ์สิทธิ์อัสนีสีทองแดงขนาดยักษ์ออกไป
เซียนต่างเผ่าพันธุ์ผู้นี้รบกวนจ้าวเฟิงในช่วงเวลาสำคัญ จะให้เขาออมมือให้ได้อย่างไร
โครม! พลังธาตุไฟที่น่าสะพรึงกลัวสองกลุ่มปะทะเข้าหากันอย่างรุนแรง
แกรก! จ้าวเฟิงส่งเงาฝ่ามือแสงอัสนีทองแดงไป ทำลายมังกรเพลิงตัวนั้นแหลกสลายในทันที
หลังจากทำลายมังกรเพลิงแล้ว พลานุภาพที่หลงเหลืออยู่ของฝ่ามือสายฟ้าทลายนภาตรงไปบดขยี้เซียนต่างเผ่าพันธุ์ผู้นั้น
ตูม โครม!
เมื่อเซียนต่างเผ่าพันธุ์ถูกจ้าวเฟิงซัดไปปะทะกับกำแพงผลึกด้านหลัง บนกายศักดิ์สิทธิ์ปรากฏรอยแผลจำนวนมาก เพลิงอาทิตย์สีแดงเผาไหม้อยู่ตรงปากแผลไม่หยุดหย่อน
หลังจากจัดการเซียนผู้นี้แล้ว จ้าวเฟิงจึงมองไปที่เซียนหมื่นปรากฏการณ์อีกครั้ง
และในเวลานี้เอง!
เนตรหมื่นปรากฏการณ์ของเซียนหมื่นปรากฏการณ์ปรากฏแสงประหลาด
เซียนหมื่นปรากฏการณ์สามารถหลุดพ้นออกจาก ‘เขตแดนคุกมายา’ ของจ้าวเฟิง เหงื่อไหลโซมร่าง มองจ้าวเฟิงด้วยใบหน้าสะพรึงกลัว
วิ้ง แซ่ด!
เซียนหมื่นปรากฏการณ์อาศัยเสวียนอ้าววายุอัสนีถอยร่นไปอย่างรวดเร็ว
เขาย่อมรู้ดีว่า เมื่อครู่ตนเองตกอยู่ภายใต้วิชาลวงตาของจ้าวเฟิงอยู่หลายช่วงลมหายใจ ถ้าเขาไม่มีเนตรหมื่นปรากฏการณ์ ไม่มีแรงต้านทานด้านวิญญาณที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง เกรงว่าอาจจะไม่ได้สติคืนกลับมาตลอดไป
เขาคิดไม่ถึงเลยว่าจ้าวเฟิงไม่เพียงแต่เพิ่มพูนขอบเขตพลังอย่างรวดเร็ว แต่ด้านพลังวิญญาณก็ไม่ด้อยไปกว่ากันเลย แต่เซียนหมื่นปรากฏการณ์ก็คิดขึ้นได้ทันใด ด้วยพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งเช่นนี้ของจ้าวเฟิง จะรับมือเขาก็แทบไม่ต้องเปลืองแรงมากมายเช่นนี้
เกรงว่าจ้าวเฟิงคงกำลังวางแผนแย่งชิงของอะไรบางอย่างจากเขา
“ท่านเฮยตู๋ จื่อตู๋ ถอยกันเถอะ!”
เซียนหมื่นปรากฏการณ์รีบส่งกระแสจิตให้ราชาเซียนอีกสองคน
เซียนหมื่นปรากฏการณ์รู้ดีว่าตนเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของจ้าวเฟิงอีกแล้ว
“อะไรกัน? พวกเจ้าสามคน!”
ราชาเซียนเฮยตู๋แววตาเคร่งขรึม
เดิมเขาคิดว่าหนานกงเซิ่งและจ้าวหยูเฟยเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในสามคนนี้ เซียนหมื่นปรากฏการณ์และเซียนอีกสองคนน่าจะจัดการจ้าวเฟิงได้อย่างสบายๆ
แต่ยังไม่เท่าไหร่ เซียนเทวาเร้นลับชั้นต้นก็ถูกเจ้าแมวขโมยตัวหนึ่งเอาชนะไปได้ ส่วนเซียนต่างเผ่าพันธุ์ในขอบเขตเทวาเร้นลับชั้นสูงอีกคนก็โดนจ้าวเฟิงทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส
“ไป จื่อตู๋!”
ราชาเซียนเฮยตู๋ครุ่นคิด ส่งเสียงบอกราชาเซียนจื่อตู๋
ดูจากสถานการณ์ในตอนนี้แล้ว พลังของจ้าวเฟิงไม่ด้อยไปกว่าหนานกงเซิ่งและจ้าวหยูเฟยแม้แต่น้อย
ทันทีที่เซียนหมื่นปรากฏการณ์พ่ายแพ้ พวกเขาสองคนจะต้องโดนล้อมโจมตีจากพวกของจ้าวเฟิง
“บัดซบ เจ้าพวกมนุษย์สามคนนี้!”
ราชาเซียนจื่อตู๋เอ่ยด้วยใบหน้าโกรธแค้น
แต่เดิมคิดว่าจะได้ชัยชนะมาอย่างง่ายดาย กลับกลายเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบากเช่นนี้ จนสุดท้ายแล้วพวกเขาจึงจำใจต้องถอยร่นไป
เปรี๊ยะ! ราชาเซียนสองคนในเผ่าพันธุ์มนุษย์งูสำแดงวิชาโบยบิน หนีไปพร้อมกับเซียนหมื่นปรากฏการณ์
“ไล่ตาม!”
จ้าวเฟิงตะโกนกร้าว
เมื่อครู่เขาเกือบได้เนตรหมื่นปรากฏการณ์มาครองแล้ว
หากสูญเสียโอกาสนี้ไป จากนี้ยังไม่รู้ว่าจะได้เจอเซียนหมื่นปรากฏการณ์อีกหรือไม่
พรึ่บ! จ้าวเฟิง หนานกงเซิ่ง และจ้าวหยูเฟยรีบไล่ตามไปทันที
แส้งูมังกรทองในมือของเจ้าแมวกลายเป็นเชือกสีทองเข้มเส้นหนึ่ง รัดตรึงร่างของเซียนสองคนนั้นเอาไว้แน่นหนา จากนั้นลากเข้าไปในมนตราอากาศ
“เหอะ ไม่มีใครไล่ตามข้าได้หรอก!”
เซียนหมื่นปรากฏการณ์เผยยิ้มออกมา
หากหนีเพียงคนเดียว เซียนหมื่นปรากฏการณ์ไม่มีหวังจะสลัดจ้าวเฟิงมากนัก แต่เมื่อหนีมาพร้อมกับเซียนอีกสองคนจะต่างออกไป
เซียนหมื่นปรากฏการณ์เพ่งสายตา พลังศักดิ์สิทธิ์หลากสีปรากฏขึ้นเบื้องหลังเขาทันที
จู่ๆ ก็เกิดลมพายุหนาวเหน็บขึ้นกลางอากาศ
“หอกจักรพรรดิเหมันต์!”
ของเหลวเยียบเย็นสีฟ้าชั้นหนึ่งปรากฏขึ้นในอากาศรอบด้าน บิดเบี้ยวกลายเป็นม่านมายาเหมันต์สีน้ำเงิน ปกคลุมหนานกงเซิ่งและจ้าวหยูเฟยเอาไว้ภายใน
วูบ! จ้าวเฟิงและพวกพุ่งทะลวงไปในลมพายุหนาวเหน็บนั้นอย่างง่ายดาย