บทที่ 1118 ต่อกรราชาเซียนสังสารวัฏ
“ที่แท้จุดประสงค์ของราชาเซียนสังสารวัฏคือสังหารสตรีนางนี้นี่เอง!”
จักรพรรดิแห่งความตายรีบมุ่งหน้าไปยังธารน้ำระหว่างภูเขาเบื้องหน้า
ฟู่! ประสาทสัมผัสวิญญาณของจักรพรรดิแห่งความตายเพียงกวาดผ่าน ใบหน้าก็เปลี่ยนสีทันใด
“นายท่าน หลิ่วฉินอินไม่อยู่!”
จักรพรรดิแห่งความตายติดต่อกับราชาเซียนสังสารวัฏทันที
“อะไรนะ? ข้าจะชี้ทางให้เจ้า รีบไปสังหารนางเสีย!”
น้ำเสียงร้อนรนของราชาเซียนสังสารวัฏดังขึ้นในวิญญาณของจักรพรรดิแห่งความตาย
บนร่างของหลิ่วฉินอินก็มีตราประทับสังสารวัฏของราชาเซียนสังสารวัฏเช่นกัน ดังนั้นหากต้องการรู้ตำแหน่งในตอนนี้ของหลิ่วฉินอินก็ง่ายดายยิ่งนัก
จากนั้น จักรพรรดิแห่งความตายก็ตามไปยังทิศทางที่ราชาเซียนสังสารวัฏชี้บอก
เบื้องหน้าอันแสนไกล หลิ่วฉินอินบินไปในท้องฟ้าอย่างเร็วรี่
“เหมือนว่าข้างหน้าจะมีพลังชีวิตอยู่เล็กน้อย ท่านอาจารย์กลับมาแล้วรึ?”
ดวงตาของหลิ่วฉินอินค่อนข้างสับสน
หลังจากนั้นขณะหนึ่ง จู่ๆ หลิ่วฉินอินก็หันกลับมามอง
“ฮี่ๆ หลิ่วฉินอิน เจ้าจะหนีไปไหน?”
จักรพรรดิแห่งความตายมาพร้อมกับพลังความกดดันที่น่าหวั่นเกรง
หลิ่วฉินอินที่อยู่เบื้องหน้าจักรพรรดิแห่งความตายถูกควบคุมจนไม่อาจขยับได้ เหมือนจะแตกสลายได้ทุกเมื่อ
“จักรพรรดิแห่งความตาย ไยเจ้าจึงคิดสังหารข้า?”
หลิ่วฉินอินถามอย่างหวาดกลัว
“ฮ่าๆ หากเจ้าอยากทำเพื่ออาจารย์ของเจ้า เจ้าก็ควรจะฆ่าตัวตายไปซะเดี๋ยวนี้!”
จักรพรรดิแห่งความตายหัวเราะลั่น
“ไม่มีทาง…”
หลิ่วฉินอินไม่เชื่อว่าจักรพรรดิแห่งความตายได้รับคำสั่งมาจากอาจารย์ของนาง
อาจารย์ที่อบรมเลี้ยงดูนางมาสิบกว่าปี จะส่งคนมาสังหารนางได้อย่างไรกัน?
จะต้องเกิดเรื่องอะไรกับอาจารย์ของนางแน่ จักรพรรดิแห่งความตายจึงหลุดจากการควบคุมของอาจารย์…
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว! ในขณะนี้เอง เบื้องหลังของหลิ่วฉินอินมีเงาดำหลายร่างบินมา
“ในที่สุดก็ตามทัน!”
ชายใบหน้าชั่วร้ายเย็นชาผู้หนึ่งทอดถอนใจ
ในยามที่สายตาของหลิ่วฉินมองชายผู้นี้ ความคิดของนางพลันสั่นสะท้าน
ชายเบื้องหน้าผู้นี้เป็นชายที่วนเวียนอยู่ในฝันของนางและสลัดภาพออกไปไม่ได้ไม่ใช่รึ?
ถึงแม้ระหว่างทั้งสองคนจะแตกต่างกันเล็กน้อย แต่ในความรู้สึกของหลิ่วฉินอิน คนผู้นี้อาจจะเป็นคนในฝันผู้นั้นที่นางตามหามาโดยตลอด
“จ้าวเฟิง? ไม่ใช่สิ!”
จักรพรรดิแห่งความตายมีสีหน้าตกตะลึง จากนั้นก็รีบปฏิเสธ
คนเบื้องหน้าผู้นี้ถึงแม้จะเหมือนจ้าวเฟิงแต่ก่อนทุกประการ แต่ขอบเขตพลังและกลิ่นอายแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
“ล้อมสังหาร!”
แววตาเย็นชาของจ้าวหวางจ้องเขม็งไปยังจักรพรรดิแห่งความตาย จากนั้นมองหลิ่วฉินซินอย่างมีนัยลึกซึ้ง
“ขอรับ ผู้อาวุโสสูงสุด!”
ผู้อาวุโสหลายคนของสำนักวิญญาณทมิฬสังเวยค่ายกลแห่งศาสตร์ซากศพ สำแดงวิชาออกมาทันใด
“หึ พวกเจ้ารหาที่ตาย!”
จักรพรรดิแห่งความตายแผ่กระจายกลิ่นอายน่าหวั่นเกรงที่ไร้เทียมทานออกมา
เขามีเนตรมรณะ ครอบครองกายวัฏสงสาร จะมากลัวจักรพรรดิไร้พ่ายไม่กี่คนเบื้องหน้านี้รึ?
อีกทั้งเมื่อผ่านศึกในร่างเทพมา พลังเนตรมรณะของของเขาแข็งแกร่งกว่าเมื่อก่อน
“เช่นนั้นก็ลองดูว่าใครรนหาที่ตายกันแน่!”
จ้าวหวางแค่นเสียงหยัน ทะยานออกไปทันใด
“หลุมมรณะ!”
จ้าวหวางโคจรตาขวา สายตาเพ่งไปยังรอบกายของจักรพรรดิแห่งความตาย
วู้ม ฟิ้ว ฟิ้ว!
พลังมรณะที่แข็งแกร่งไร้เทียมทานก่อตัวเป็นลูกทรงกลมสีดำ แผ่กระจายแรงดูดทรงพลังน่าพรั่นพรึง ฉุดดึงจักรพรรดิแห่งความตายไม่หยุดหย่อน
หลุมมรณะ เป็นเคล็ดวิชาดวงตามรณะใหม่ที่จ้าวหวางสร้างขึ้นโดยใช้วิชาสูงสุดของสำนักวิญญาณทมิฬผสานกับเนตรเพ่งมรณะของจักรพรรดิแห่งความตาย แน่นอนว่าในนั้นมีความช่วยเหลือจากจ้าวเฟิงด้วย
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!
อีกด้านหนึ่ง ผู้อาวุโสคนอื่นของสำนักวิญญาณทมิฬควบคุมค่ายกลศาสตร์ซากศพ ขังจักรพรรดิแห่งความตายไว้ข้างใน
“เนตรมรณะ!”
ใบหน้าของจักรพรรดิแห่งความตายคลุ้มคลั่งทันใด
นี่คือเนตรมรณะที่ถูกจ้าวเฟิงชิงไปไม่ใช่รึ?
“คืนเนตรมรณะของข้ามา!”
……
อีกฟากหนึ่ง จ้าวเฟิงเปิดศึกกับราชาเซียนสังสารวัฏ
ข้างราชาเซียนสังสารวัฏมีกายวัฏสงสารขั้นราชาเซียนร่างหนึ่งลอยอยู่
“ราชาเซียนสังสารวัฏ เจ้าจะบอกที่อยู่ของหลิ่วฉินอินกับข้าไม่ใช่รึ?”
จ้าวเฟิงอดยิ้มเอ่ยไม่ได้
ความจริงแล้ว ตอนแรกที่เขาให้ปี้ชิงเยวี่ยไปสืบค้นร่องรอยของราชาเซียนสังสารวัฏ ไม่นานเท่าใด ปี้ชิงเยวี่ยก็หาสถานที่ที่ราชาเซียนสังสารวัฏพักอยู่ก่อนเข้าไปยังในร่างเทพเจอ
และที่นั่นก็อยู่ใกล้ๆ กับสำนักวิญญาณทมิฬพอดี ดังนั้นจ้าวเฟิงจึงส่งจ้าวหวางไปดู
หลังจากนั้น จ้าวเฟิงใช้ตราประทับสังสารวัฏรับรู้ตำแหน่งคร่าวๆ ของราชาเซียนสังสารวัฏ เขาจึงเดาได้ว่าที่ที่ปี้ชิงเยวี่ยสืบเจออาจจะเป็นจุดที่หลิ่วฉินอินอยู่
แต่บนร่างของจ้าวเฟิงมีตราประทับสังสารวัฏ เขาจึงไม่ได้ไปหาหลิ่วฉินอินทันใด เพื่อไม่ให้ราชาเซียนสังสารวัฏสังเกตพบแล้วเตรียมแผนรับมือได้
ดังนั้นจ้าวเฟิงจึงเข้าบุกราชาเซียนสังสารวัฏ ส่วนจ้าวหวางไปช่วยหลิ่วฉินอิน
นี่คือครั้งแรกที่ได้ใช้จ้าวหวางลงสนามจริง อีกทั้งยังมีประโยชน์อย่างมาก
นอกจากนั้น จ้าวหวางในตอนนี้มีพลังที่แข็งแกร่งยิ่งนัก
ยามที่สองราชวงศ์สำรวจร่างเทพ จ้าวหวางก็โยกย้ายผู้ที่สนับสนุนตนในสำนัก ได้รับตำแหน่งผู้อาวุโสสูงสุดของสำนักวิญญาณทมิฬ
หลังจากที่กลายเป็นผู้อาวุโสสูงสุดแล้ว จ้าวหวางก็ไม่ปิดบังอีกต่อไป ใช้ทรัพยากรที่จ้าวเฟิงให้อย่างใจกล้า ฝึกฝนอย่างบ้าคลั่ง ตอนนี้จึงมีพลังของจักรพรรดิไร้เทียมทาน
ส่วนพลังวิญญาณของจ้าวหวางแบ่งออกมาจากจ้าวเฟิง พลังแฝงและศักยภาพมหาศาล ก้าวสู่ขอบเขตขั้นเซียนนานแล้ว
“เนตรมรณะ เป็นเจ้างั้นรึ?”
ราชาเซียนสังสารวัฏฟังข้อมูลที่จักรพรรดิแห่งความตายส่งมาก็เข้าใจ ผู้ที่ครอบครองเนตรมรณะอีกข้างหนึ่งคือคนที่จ้าวเฟิงส่งไป
“จ้าวเฟิง เจ้ากล้าแย่งลูกศิษย์ของข้า!”
ราชาเซียนสังสารวัฏคำรามอย่างแค้นเคือง
วู้ม!
ในตาซ้ายมืดหม่นของราชาเซียนสังสารวัฏ เส้นวงกลมสีดำหมุนวนขึ้นทันใด
ฟู่ ฟู่ ฟู่! เงาคนชุดดำเปล่งประกายปรากฏออกมาปิดล้อมเบื้องหน้าจ้าวเฟิง
ดวงตาของจ้าวเฟิงกวาดมอง สีหน้าตะลึงไปเล็กน้อย
ราชาเซียนสองคน เซียนชั้นสูงสี่คน เซียนที่เหลือก็มีสิบกว่าคน
ถึงแม้เขาจะคิดได้อยู่แล้วว่าราชาเซียนสังสารวัฏมี ‘กายวัฏสงสาร’ มากมาย แต่จำนวนและคุณภาพในตอนนี้ยังคงทำให้เขาตกตะลึงอยู่บ้าง
พรึ่บ! มือซ้ายของจ้าวเฟิงสะบัด เรียกผู้ช่วยหลายคนออกมา
เหมียว เหมียว!
แมวขโมยตัวน้อยและไหมเมฆาผีเสื้อเซียนปรากฏขึ้นในอากาศ ข้างๆ ยังมีเซียนหมื่นปรากฏการณ์ รวมทั้งวานรทองสะท้านฟ้าที่ทะลวงขั้นเซียนได้นานแล้วหลายตัว
“บุก!” จ้าวเฟิงตะโกนเสียงต่ำ
วู้ม แซ่ด แซ่ด!
จ้าวเฟิงสำแดงวิชาปีกอัสนีโบยบิน ทะลวงเข้าไปในค่าย เป้าหมายพุ่งไปยังราชาเซียนสังสารวัฏ
“ฆ่ามัน!” ราชาเซียนสังสารวัฏตะโกนก้อง
ที่จริงแล้ว หากให้เวลาราชาเซียนสังสารวัฏอีกสักหน่อย ก็ยังสามารถสร้างกายวัฏสงสารขึ้นได้อีกมาก
ในร่างเทพ บนร่างของเซียนชั้นสูงและราชาเซียนมากมายถูกเขาลงตราประทับสังสารวัฏเอาไว้ และในการสู้กับเทพแท้จริงเทียนฝา ผู้แข็งแกร่งที่ตายไปช่างมากมายเหลือคณนา
ทว่าระหว่างการต่อสู้ราชาเซียนสังสารวัฏก็ใช้พลังดั้งเดิมสังสารวัฏไปมาก ต้องใช้เวลาพักฟื้น จึงจะสามารถสร้างผู้แข็งแกร่งที่ตายไปเหล่านี้เป็นกายวัฏสงสารได้
หากผ่านไปอีกสักระยะแล้วค่อยมาหาถึงที่ ราชาเซียนสังสารวัฏมั่นใจว่าจะสังหารจ้าวเฟิงได้ทันที
ครืน! กายวัฏสงสารยี่สิบกว่าร่างเข้าจู่โจมจ้าวเฟิงทันใด
ฟิ้ว! จ้าวเฟิงข้ามผ่านผืนฟ้า พยายามหลบหลีกการโจมตีของราชาเซียนสองคน
ครืน ตูม บึ้ม!
การโจมตีของกายวัฏสงสารคนอื่นๆ ฟาดลงมายังร่างของจ้าวเฟิง แม้กระทั่งเศษเสี้ยวร่องรอยก็ไม่มีปรากฏ
“กายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ถึงขีดสุดยอดของระดับสูง การโจมตีที่ต่ำกว่าขั้นราชาเซียนลงไปทำร้ายไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว!”
จ้าวเฟิงมั่นใจในกายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ของตนเองเป็นอย่างมาก
ในขณะเดียวกัน วานรทองสะท้านฟ้าและไหมเมฆาผีเสื้อเซียนเข้าร่วมต่อสู้อย่างรวดเร็ว ควบคุมกายวัฏสงสารทั้งหมดที่ขอบเขตต่ำกว่าเทวาเร้นลับชั้นสูงเอาไว้ได้ในชั่วพริบตา
แมวขโมยน้อยและเซียนหมื่นปรากฏการณ์ตรึงกำลังเซียนชั้นสูงคนอื่นได้อย่างสบายๆ
“นี่มันเป็นไปได้อย่างไรกัน…พลังของเจ้า!”
ราชาเซียนสังสารวัฏหน้าเปลี่ยนสี
เขาคิดไม่ถึงเลยว่าพลังของจ้าวเฟิงจะพัฒนาไปได้เร็วถึงเพียงนี้ เคล็ดวิชาฝึกกายที่ฝึกฝนก็ลึกล้ำเป็นที่สุด
การโจมตีจากกายสังสารวัฏมากมายเช่นนี้ ก็ยังยากที่จะสร้างความบาดเจ็บอะไรให้
“เจ้าทั้งสองคนควบคุมมันเอาไว้!”
ราชาเซียนสังสารวัฏออกคำสั่งกับกายสังสารวัฏขั้นราชาเซียนสองร่าง
ในขณะเดียวกัน ราชาเซียนสังสารวัฏโคจรพลังเจตจำนง ทำการพันธนาการจ้าวเฟิงเอาไว้
เนตรสังสารวัฏมีกำลังรบต่ำมาก แต่อย่างน้อยราชาเซียนสังสารวัฏก็เป็นผู้แข็งแกร่งขั้นราชาเซียน
“หึ!”
จ้าวเฟิงแค่นเสียงเย็น พลังวิญญาณน่าหวาดหวั่นพวยพุ่ง ปะทะเข้ากับพลังเจตจำนงของเซียนทั้งสามทันที
“พลังวิญญาณก็ถึงขั้นราชาเซียนแล้วงั้นรึ!”
ราชาเซียนสังสารวัฏตื่นตะลึงอีกครั้ง
จ้าวเฟิงทะลวงขอบเขตเทวาเร้นลับชั้นสูงได้ในระยะเวลาอันสั้นถึงเพียงนี้ อาจจะเพราะได้ทรัพยากรฝึกฝนมหาศาลจากในร่างเทพ
แต่ราชาเซียนสังสารวัฏคิดไม่ถึงว่าพลังวิญญาณของจ้าวเฟิงก็เพิ่มขึ้นเร็วถึงระดับนี้ด้วย
ในร่างเทพมีทรัพยากรที่เป็นประโยชน์ต่อการฝึกฝนและแก่นแท้ชีวิตค่อนข้างมาก แต่ทรัพยากรที่มีประโยชน์ต่อชั้นวิญญาณมีน้อยยิ่งนัก
“ฝ่ามือสายฟ้าทลายนภา!”
จ้าวเฟิงโคจรพลังศักดิ์สิทธิ์วายุอัสนีธาตุไฟ โจมตีไปยังกายวัฏสงสารของขั้นเซียนทั้งสองทันที
“เจ้าเด็กนี่ พลังน่ากลัวยิ่งนัก!”
“ราชวงศ์ต้าเฉียนสร้างอัจฉริยะที่น่ากลัวได้ถึงเพียงนี้เชียวรึ!”
กายวัฏสงสารขั้นราชาเซียนทั้งสองตกตะลึงเป็นอย่างมาก
ครืน บึ้ม! ราชาเซียนทั้งสองลงมือพร้อมกัน โคจรวิชามากมายถึงจะสกัดกั้นการโจมตีจากจ้าวเฟิงเอาไว้ได้
“พลังอัสนีเทวะ?”
หนึ่งในกายวัฏสงสารผู้หนึ่งมีสีหน้าตื่นตะลึง
ส่วนที่ถูกอัสนีเทวะทำลาย ต่อให้เป็นกายวัฏสงสารก็ยากที่จะฟื้นคืนได้
“เพลิงอัสนีวายุเนตรเทพเจ้า!”
ตาซ้ายของจ้าวเฟิงเปิดขึ้นเล็กน้อย เพ่งราชาเซียนสังสารวัฏเอาไว้ ทะลักเจตจำนงดวงตาที่น่าหวาดหวั่นออกมา
ครืน ฉัวะ!
เห็นเพียงเปลวเพลิงอัสนีม่วงทองระเบิดลงไปยังส่วนหัวของราชาเซียนสังสารวัฏ
ในการโจมตีเพลิงอัสนีวายุเนตรเทพเจ้ามีพลังอัสนีเทวะแฝงอยู่ค่อนข้างเยอะ จึงสามารถสร้างความบาดเจ็บให้กับกายวัฏสงสารของราชาเซียนสังสารวัฏได้มากพอควร!
“อ๊าก….”
ราชาเซียนสังสารวัฏร้องลั่นทันใด
ในยามนี้ ที่คอของราชาเซียนสังสารวัฏสวมสร้อยเอาไว้ ประกายแสงสงบที่ขยับวูบวาบ ช่วยราชาเซียนสังสารวัฏต้านทานพลังอำนาจของเพลิงอัสนีวายุเนตรเทพเจ้าเอาไว้
“ของวิเศษป้องกันวิญญาณระดับสุดยอดในชั้นนภา!”
สีหน้าของจ้าวเฟิงตะลึง
ของวิเศษป้องกันวิญญาณล้ำค่ายิ่งกว่าอาวุธเทพอื่นๆ ของวิเศษชิ้นนี้ของราชาเซียนสังสารวัฏ หากอยู่ในดินแดนทวีปจะเป็นของวิเศษที่มีน้อยเสียยิ่งกว่าน้อย
ฟิ้ว!
ราชาเซียนสังสารวัฏถอยหลังไปหลายลี้ ทิ้งระยะห่างกับจ้าวเฟิง
ถึงแม้เขาจะมีของวิเศษป้องกันวิญญาณ แต่วิชาดวงตาวิญญาณของจ้าวเฟิงมีพลังอัสนีเทวะ สร้างความเสียหายให้กับของวิเศษเป็นอย่างยิ่ง
“ใช้อาวุธเทพชั้นรองฆ่ามัน!”
ราชาเซียนสังสารวัฏเอ่ยทันใด
ราชาเซียนสังสารวัฏก็เก็บเกี่ยวมาได้มากในร่างเทพเช่นกัน
พรึ่บ!
ในมือของสองกายวัฏสงสารขั้นราชาเซียนต่างมีอาวุธเทพชั้นรองชิ้นหนึ่งปรากฏขึ้น
หนึ่งในนั้นเป็นมุกแสงขาวทองที่ส่องประกายเจิดจ้า ในมุกแสงมีอักขระสีทองที่มีเสวียนอ้าวแปลกประหลาดลอยอวล กลิ่นอายพลังเทพอ่อนจางแผ่กระจายออกมาจากในนั้น
อาวุธเทพชั้นรองอีกชิ้นหนึ่งเป็นไม้บรรทัดหยกสีฟ้า รอบๆ ไม้บรรทัดมีหมอกสลัวชั้นหนึ่งลอยล่อง เหนี่ยวนำเสวียนอ้าวธาตุน้ำในท้องฟ้า
“จ้าวเฟิง ในเมื่อหลิ่วฉินอินถูกเจ้าช่วยไปแล้ว เช่นนั้นเจ้าก็ตายไปเสีย!”
สีหน้าของราชาเซียนสังสารวัฏเหี้ยมเกรียม