Skip to content

King of Gods 1123

King Of Gods

บทที่ 1123 ร่างแยกร่างที่สอง

นอกป่าไม่ไกลนัก เบื้องหน้ายอดเขาเตี้ยที่ทอดตัวเป็นแนวยาว คนยักษ์ผลึกธุลีหลายตนปรากฏขึ้น

เหมือนว่าการท้าทายโดยไม่ได้ตั้งใจครั้งก่อนนี้ของจ้าวเฟิง จะทำให้เผ่าพันธุ์ผลึกธุลีระวังเขตพื้นที่ป่าเป็นอย่างมาก ในยามที่พวกมันสัมผัสได้ว่ามีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นก็รวมกันออกมาทันใด

“คนยักษ์เผ่าพันธุ์ผลึกธุลีสิบสองตัว!”

จ้าวเฟิงรู้เบาะแสสถานการณ์ของศัตรู

กำลังรบทั่วไปของเผ่าพันธุ์ผลึกเซียนถึงขั้นราชาเซียน หนึ่งในนั้นมีตัวหนึ่งถึงราชาเซียนระดับสุดยอด

จ้าวเฟิงไม่เกรงกลัวคนยักษ์เผ่าพันธุ์ผลึกธุลีที่นี่ตัวใดทั้งนั้น แต่ในยามนี้คือการต่อสู้แบบกลุ่ม จ้าวเฟิงจะแข็งแกร่งอย่างไรก็ไม่มีทางต้านทานคนยักษ์ผลึกธุลีทั้งหมดด้วยตัวคนเดียวได้

“พวกเจ้ารนหาที่ตาย!”

ในเผ่าพันธุ์ผลึกธุลี คนยักษ์ผลึกธุลีตนหนึ่งที่ร่างกายกำยำผิดธรรมดาคำรามก้อง

“โจมตีพวกมัน!” จ้าวเฟิงบัญชา

ผึ้งเบญจพิษ วานรสายฟ้านภาเพลิง เสืออัคคีปีกทอง และวัวคลั่งพสุธาทลาย โจมตีไปข้างหน้าอย่างไม่ลังเล

“คู่มือของเจ้าคือข้า!”

จ้าวเฟิงพุ่งไปยังเผ่าพันธุ์ผลึกธุลีที่แข็งแกร่งที่สุดตัวนั้นทันที

ด้วยพลังของจ้าวเฟิงในวันนี้ ราชาเซียนทั่วไปเหล่านั้นไม่อาจกระตุ้นจิตต่อสู้ของจ้าวเฟิงขึ้นมาได้

“มนุษย์ชั้นต่ำ กล้าบุกเผ่าพันธุ์ผลึกธุลีของข้า!”

คนยักษ์ผลึกธุลีไม่สะทกสะท้านต่อสายเลือดและขอบเขตพลังของจ้าวเฟิง

“ฝ่ามือสายฟ้าทลายนภา!”

จ้าวเฟิงโคจรกายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ ผสานพลังศักดิ์สิทธิ์วายุอัสนี ซัดเงาฝ่ามือศักดิ์สิทธิ์สีทองแดงออกมาทันใด

ครืน บึ้ม!

ฝ่ามืออัสนีศักดิ์สิทธิ์ซัดไปยังร่างใหญ่โตของคนยักษ์ผลึกธุลี อัสนีทองแดงนับไม่ถ้วนพลันสั่นไหวออกมา

“อ๊าก…เจ้ามนุษย์!”

คนยักษ์ผลึกธุลีตกใจเป็นอย่างยิ่ง พลังของมนุษย์เบื้องหน้าเกินกว่าจินตนาการของมันไปมากนัก

โฮก! คนยักษ์ผลึกธุลีหันหน้าไปยังจ้าวเฟิงแล้วคำรามก้อง

คลื่นการโจมตีอากาศอันหนักหน่วงแข็งแรงบดอัดไปยังจ้าวเฟิง

ในขณะเดียวกัน คนยักษ์ผลึกธุลีสะบัดแขน ก่อตัวขึ้นเป็นขวานสีเหลืองหม่นด้ามหนึ่ง ฟันลงไปยังจ้าวเฟิง

ฟิ้ว ฟิ้ว! จ้าวเฟิงใช้ข้อได้เปรียบด้านความเร็ว หลบหลีกการโจมตีของคนยักษ์ผลึกธุลี

“หมัดศักดิ์สิทธิ์อัสนี!”

“ฝ่ามือสายฟ้าทลายนภา!”

จ้าวเฟิงสลับใช้เคล็ดวิชากายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองชนิด โจมตีคนยักษ์ผลึกธุลีเบื้องหน้าอย่างต่อเนื่อง

ในด้านความเร็ว คนยักษ์ผลึกธุลีสู้จ้าวเฟิงไม่ได้เลย มันที่หงุดหงิดฉุนเฉียวเป็นที่สุดกระตุ้นสายเลือดทันที

วู้ม ฟู่!

กายของมันขยายใหญ่หลายจั้งทันใด พลังและการป้องกันเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก รอบด้านก่อเป็นมิติแรงดึงดูดที่น่าหวาดหวั่นขึ้น

ครืน!

หลังจากกระตุ้นสายเลือด คนยักษ์ผลึกธุลีสะบัดขวานยักษ์ เหนี่ยวนำเสวียนอ้าวธาตุดินในฟ้าดิน ฟันฉับลงไปยังจ้าวเฟิง

ขวานยักษ์ยังไม่ทันฟาดลงมา จ้าวเฟิงก็สัมผัสได้ถึงการควบคุมแรงดึงดูดอย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน ซึ่งพันธนาการเขาเอาไว้แน่น

พรสวรรค์ด้านเขตแดนแรงดึงดูดของเผ่าพันธุ์ผลึกธุลีเป็นหนึ่งในใต้หล้า ประสิทธิภาพโดดเด่นกว่าจ้าวเฟิงนัก

พรึ่บ! ชิ้นเหล็กสามเหลี่ยมปรากฏขึ้นในมือของจ้าวเฟิง

ชิ้ง ชิ้ง!

เมื่อผสานพลังเทพเข้าไปข้างใน ชิ้นเหล็กสามเหลี่ยมในมือจ้าวเฟิงเปลี่ยนรูปร่างอย่างรวดเร็ว กลายเป็นโล่ธาตุโลหะสีดำอันหนึ่ง

มือถือโล่ป้องกันที่แปรมาจากตราเทพบรรพกาล จ้าวเฟิงรู้สึกว่าความกดดันจากแรงดึงดูดของฟ้าดินเหมือนจะหายวับไปทันใด

ครืน วู้ม!

การโจมตีที่ทรงพลานุภาพของคนยักษ์ผลึกธุลีฟาดมาบนโล่ของจ้าวเฟิง ส่งเสียงสะท้อนกลับของโลหะ

แกรก!

ขวานยักษ์สีเหลืองหม่นในมือของคนยักษ์ผลึกธุลีแตกละเอียดลงกลายเป็นฝุ่นผง

“นี่เป็นไปได้ยังไงกัน? เจ้ามีอาวุธเทพรึ!”

คนยักษ์ผลึกธุลีตกใจหน้าซีด

มีเพียงอาวุธเทพเท่านั้นจึงจะมีพลังเช่นนี้

ชิ้ง ชิ้ง!

หลังจากที่ต้านทานการโจมตีของคนยักษ์ผลึกธุลีเอาไว้ได้แล้ว โล่สีดำในมือของจ้าวเฟิงก็แปรเปลี่ยนเป็นหอกยาวสีดำ

ฉึก! จ้าวเฟิงใช้แรงกวาดหอกออกไป พายุหมุนสีดำโหดเหี้ยมทรงพลังม้วนตัวออกมาล้อมคนยักษ์ผลึกธุลีเอาไว้ข้างใน

เห็นเพียงรอบกายของคนยักษ์ผลึกธุลีตนนี้ถูกกรีดเป็นบาดแผลลึกหลายฉื่อนับไม่ถ้วน

“เอาเจ้าเป็นตัวฝึกฝีมือก็แล้วกัน!”

จ้าวเฟิงยิ้มบางๆ

ในห้วงฝันบรรพกาล จ้าวเฟิงไม่ต้องกังวลว่าความลับเรื่องอาวุธเทพจะรั่วไหลออกมา สามารถทำความคุ้นเคยกับพลังของอาวุธเทพชิ้นนี้อย่างไร้กังวล

นอกจากนั้นจ้าวเฟิงก็ไม่ได้ทุ่มใช้พลังทั้งหมด อีกทั้งการป้องกันของเผ่าพันธุ์ผลึกธุลีแข็งแกร่งไร้เทียมทาน ไม่ถึงขั้นถูกอาวุธเทพของจ้าวเฟิงสังหารลงได้ในพริบตาเดียว

ชิ้ง ชิ้ง!

ตราเทพบรรพกาลในมือของจ้าวเฟิงแปรเปลี่ยนเป็นมีดใหญ่เล่มหนึ่ง

ครืน บึ้ม! ม่านแสงสีดำที่สะเทือนฟ้าสะท้านดินพุ่งออกมาในชั่วพริบตา โจมตีไปยังคนยักษ์ผลึกธุลี

“ไร้ยางอายนัก…เจ้ามนุษย์!”

คนยักษ์ผลึกธุลีที่แข็งแกร่งที่สุดของเผ่าพันธุ์ เมื่ออยู่ต่อหน้าอาวุธเทพของจ้าวเฟิงก็ทำได้เพียงแค่เป็นฝ่ายป้องกันเท่านั้น

แต่ต่อให้เป็นเผ่าพันธุ์ผลึกธุลีที่เชี่ยวชาญการป้องกัน ก็ยังคงไม่อาจต้านทานพลังของอาวุธเทพได้

สุดท้ายแล้ว ในยามที่คนยักษ์ผลึกธุลีอ่อนล้าไร้เรี่ยวแรง จ้าวเฟิงก็ลงตราผนึกดวงใจทมิฬบนวิญญาณของมัน

จากนั้นจ้าวเฟิงมองไปยังสถานการณ์ต่อสู้รอบกาย

แม้สัตว์อสูรของจ้าวเฟิงจะมีจำนวนมาก แต่สายเลือดผลึกธุลีแข็งแกร่งยิ่งกว่า ขอบเขตพลังสูงกว่า ทั้งสองฝ่ายสู้กันอย่างสูสี

แต่หลังจากจ้าวเฟิงจับเผ่าพันธุ์ผลึกธุลีที่แข็งแกร่งที่สุดเป็นทาสได้ และคนยักษ์ผลึกธุลีตัวนี้เข้าร่วมการต่อสู้ด้วย สถานการณ์การต่อสู้ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงทันที

ใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่ จ้าวเฟิงก็สามารถยึดครองถิ่นที่อยู่ของเผ่าพันธุ์ผลึกธุลีได้อย่างราบรื่น

การบุกโจมตีครั้งนี้ สัตว์วิเศษของจ้าวเฟิงเสียหายหนักมาก

แต่นี้ก็คือสิ่งที่จ้าวเฟิงตั้งใจไว้ ด้านหนึ่งก็คือผู้แข็งแกร่งชนะ ผู้อ่อนแอพ่ายแพ้ คัดสัตว์วิเศษที่พลังค่อนข้างอ่อนแอและศักยภาพค่อนข้างต่ำทิ้งไป อีกด้านหนึ่งก็เป็นการประหยัดทรัพยากรที่ไม่จำเป็นต้องเสีย

หลังยึดครองถิ่นของเผ่าพันธุ์ผลึกธุลีแล้ว จ้าวเฟิงก็เริ่มค้นหาทรัพยากรของเผ่าพันธุ์ผลึกธุลี

“นายท่าน นี่คือของสะสมทั้งหมดของข้า!”

คนยักษ์ผลึกธุลีทั้งหมดนำของสะสมของพวกมันมามอบให้กับจ้าวเฟิง

เผ่าพันธุ์ผลึกธุลีบรรพกาล ร่างกายสามารถผลิตผลึกเริ่มต้นหรือผลึกเซียนระดับล่างเองได้

ปกติแล้วพวกมันจะสะสมทรัพยากรสำหรับฝึกฝนพวกนี้ไว้เพื่อแลกเปลี่ยนกับเผ่าพันธุ์อื่นๆ

นอกจากนั้น ที่ที่เผ่าพันธุ์ผลึกธุลีอาศัยยังแฝงไว้ด้วยทรัพยากรสินแร่ที่สมบูรณ์เป็นอย่างมาก

“นายท่าน ใต้พื้นดินที่พวกเราเผ่าพันธุ์ผลึกธุลีอาศัยมีสายแร่ผลึกอยู่สายหนึ่ง…”

ผู้แข็งแกร่งที่สุดในเผ่าพันธุ์ผลึกธุลีเอ่ยขึ้นกับจ้าวเฟิง

“สายแร่ผลึก?” จ้าวเฟิงสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย

สายแร่ผลึกก็คือสายแร่ที่ผลิตผลึกเริ่มต้นหรือผลึกเทพ

ไอสวรรค์ฟ้าดินของดินแดนทวีปเบาบาง ยากที่จะก่อตัวเป็นสายแร่ผลึก ต่อให้มีก็เป็นสายแร่ผลึกระดับต่ำมาก

ถัดจากนั้น จ้าวเฟิงสำแดงวิชาดำดิน ดำลงไปใต้พื้นพร้อมกับคนยักษ์ผลึกธุลี

“สายแร่ผลึกเซียนระดับล่าง!” แววตาของจ้าวเฟิงเปล่งประกาย

สายแร่ผลึกเซียนระดับล่างจะผลิตผลึกเซียนระดับล่าง หากเป็นสายแร่ผลึกเซียนระดับล่างที่ค่อนข้างมีคุณภาพ จะสามารถหลอมรวมผลึกเซียนออกมาได้อีกด้วย

ต้องรู้ว่า ปกติเวลาเซียนเทวาเร้นลับบางคนฝึกฝน จะล้วนตัดใจใช้ผลึกเซียนระดับล่างไม่ลง แต่ยามนี้จ้าวเฟิงได้รับสายแร่ผลึกเซียนระดับล่างสายหนึ่งมา

ผลเก็บเกี่ยวจากการโจมตีเผ่าพันธุ์ผลึกธุลีมากเกินกว่าจินตนาการของจ้าวเฟิงนัก

หากมีทรัพยากรพวกนี้ จ้าวเฟิงก็สามารถยกระดับพลังของตนและตำหนักราชันได้อย่างรวดเร็ว

พรึ่บ! จ้าวเฟิงหยิบเอาทรัพยากรมากมาย ออกจากห้วงฝันบรรพกาลไป

“ทรัพยากรพวกนี้ หลักๆ แล้วจะเอามาตบรางวัลให้กับผู้แข็งแกร่งขั้นเซียนที่มีคุณูปการค่อนข้างมาก!”

จ้าวเฟิงจัดสรรทรัพยากรส่วนหนึ่งให้ปี้ชิงเยวี่ยจัดการ

ระยะนี้ตำหนักราชันปรากฏผู้แข็งแกร่งขอบเขตเทวาเร้นลับมากมาย แต่พลังแท้จริงของพวกเขาอ่อนแอเกินไป

นอกจากนั้น เซียนที่เป็นรุ่นบุกเบิกอย่างปี้ชิงเยวี่ย เซียนราตรีทมิฬ เซียนเกราะดำ ก็ต้องการทรัพยากรจำนวนมากเพื่อยกระดับพลังเช่นเดียวกัน

“นายท่าน หลิ่วฉินอินไปถึงยังดินแดนชายทะเลแล้ว เหมือนจะวางแผนไปจากดินแดนทวีป!”

ปี้ชิงเยวี่ยรายงานความเคลื่อนไหวของหลิ่วฉินอินให้กับจ้าวเฟิง

“ออกจากดินแดนทวีป หรือนางจะกลับทวีปบุปผาคราม?”

จ้าวเฟิงคาดเดาในใจ

แต่ว่าเช่นนี้ก็ดีเหมือนกัน ด้วยขอบเขตพลังของหลิ่วฉินอินในวันนี้ หากไปจากแผ่นดินใหญ่ โดยพื้นฐานแล้วไม่มีทางเจอกับอันตรายอะไร

ต่อมา จ้าวเฟิงคัดเลือกทรัพยากรบางอย่าง เตรียมดำเนินตามแผนปลุกสายเลือดเพลิงมารโลหิตที่สมบูรณ์แบบ

ในวันนี้ จ้าวเฟิงมายังที่อยู่ของหมอเทวดาอวี้หลิง

“หมอเทวดาอวี้หลิง รบกวนท่านแล้ว…”

จ้าวเฟิงนำวัตถุดิบล้ำค่าที่คัดเลือกมามอบให้กับหมอเทวดาอวี้หลิง

“จ้าวเฟิง ข้าในตอนนี้ก็นับว่าเป็นสมาชิกของตำหนักราชันด้วยกระมัง!”

หมอเทวดาอวี้หลิงท่าทางหดหู่ไร้ชีวิตชีวา

ช่วงระยะนี้จ้าวเฟิงตบรางวัลให้กับสมาชิกของตำหนักราชัน ทรัพยากรบางอย่างต่อให้เป็นหมอเทวดาอวี้หลิงก็ยังเฝ้าปรารถนาเป็นอย่างมาก

คราวนี้หมอเทวดาอวี้หลิงนึกเสียใจเป็นอย่างมาก ทำไมตอนนั้นตนเองจึงถูกหลอกมายังตำหนักราชันเพราะของเพียงแค่นั้น

“นี่คือรางวัลพิเศษที่ผู้อาวุโสรับใช้ตำหนักราชัน!”

จ้าวเฟิงมอบวัตถุดิบยาบรรพกาลล้ำค่าหลายอย่างให้กับหมอเทวดาอวี้หลิวอีกครั้ง

หมอเทวดาอวี้หลิงที่แต่เดิมไม่ค่อยพอใจจ้าวเฟิงพลันยิ้มแย้ม ไม่พูดพร่ำทำเพลง เริ่มปรุงยาทันใด

หลายวันหลังจากนั้น จ้าวเฟิงก็นำยาเหล่านี้ไปให้ลูกศิษย์ตระกูลเถี่ยกิน ขณะเดียวกันก็สังเกตสภาวะของสายเลือดพวกเขาอย่างใกล้ชิด

“นายท่าน จากรายงานของสายสืบที่กระจายอยู่ทุกที่ของดินแดนทวีป ช่วงนี้ทุกขั้วอำนาจใหญ่ของราชวงศ์ต้าเฉียนครึกครื้นนัก ไปมาหาสู่แน่นแฟ้นจนผิดปกติ โดยเฉพาะวังเก้านิรย…”

ในวันนี้ ปี้ชิงเยวี่ยรายงานข่าวบางอย่างและการคาดเดาในใจให้จ้าวเฟิงฟัง

“ข้ารู้แล้ว!”

ใบหน้าของจ้าวเฟิงเรียบเฉย หลังจากพูดจบแล้วก็เริ่มปิดด่าน

ในมนตราอากาศ

“ระดับขั้นชีวิตถึงเซียนชั้นต้นแล้ว ขอบเขตพลังก็ใกล้แล้วเช่นกัน!”

จ้าวเฟิงมองร่างแยกร่างที่สองข้างกายแวบหนึ่ง

พรึ่บ พรึ่บ! เบื้องหน้าของจ้าวเฟิง ผลึกเซียนระดับล่างหลายสิบชิ้นและทรัพยากรล้ำค่ามากมายปรากฏขึ้น หลังจากที่โคจร ‘วิชาหมื่นห้วงคิดเซียน’ แล้ว

จ้าวเฟิงหนึ่งจิตใจใช้หลากหลาย ฝึกฝนเคล็ดวิชาชั้นยอดต่างๆ เช่น ‘กายสายฟ้าปฐพีทอง’ ‘วิชาวายุอัสนีห้าธาตุ’ ‘วิชาแปลงเทพ’

เมื่อยึดถิ่นเผ่าพันธุ์ผลึกธุลีมาแล้ว ทรัพยากรในมือของจ้าวเฟิงก็มีมากมาย

ในยามนี้ราชวงศ์ต้าเฉียนก็เคลื่อนไหวอย่างลับๆ ความกดดันไร้รูปร่างมาเยือนจ้าวเฟิง ดังนั้นเขาต้องรีบยกระดับพลังและขั้วอำนาจของตัวเองในทุกชั่วขณะ

หนึ่งเดือนหลังจากนั้น ลวดลายอัสนีสีเหลืองหม่นที่ไหลเวียนไปทั่วผิวกายจ้าวเฟิงพลันเปล่งประกายเจิดจ้า

“กายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ถึงระดับสุดยอดแล้ว!”

จ้าวเฟิงใช้ทรัพยากรมากมาย ทะลวงข้อติดขัดของกายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่หกได้

หลังจากกายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ถึงระดับสุดยอดแล้ว ต่อให้เป็นการโจมตีของราชาเซียนทั่วไปก็ยากที่จะสร้างความบาดเจ็บอะไรให้กับจ้าวเฟิงได้

“เยี่ยมมาก เจ้าก็ถึงเซียนชั้นต้นแล้ว ตอนนี้ข้าจะหลอมรวมเนตรหมื่นปรากฏการณ์ให้เจ้า!”

จ้าวเฟิงและร่างแยกที่สองเผยรอยยิ้มอันตื่นเต้นออกมาในขณะเดียวกัน

ถึงแม้จ้าวเฟิงจะมีเนตรหมื่นปรากฏการณ์ แล้วยังมีเนตรสังสารวัฏ

แต่สิ่งที่จ้าวเฟิงต้องการในตอนนี้คือกำลังรบที่แข็งแกร่ง เนตรของเนตรหมื่นปรากฏการณ์คือวัฏสงสารแห่งชีวิต มีประโยชน์ไม่สู้เนตรหมื่นปรากฏการณ์

ทว่าเซียนหมื่นปรากฏารณ์ยังไงก็เป็นพวกต่างเผ่าพันธุ์ เคลื่อนไหวในราชวงศ์ต้าเฉียนไม่สะดวกเป็นอย่างมาก ดังนั้นจ้าวเฟิงจึงไม่ลังเลสักนิด สังหารและแย่งชิงเนตรนี้มา

“หลังจากที่ผสานเนตรหมื่นปรากฏการณ์แล้ว พลังของเจ้าก็จะรุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว!”

จ้าวเฟิงเอ่ยเสียงเรียบนิ่ง

เมื่อผสานเนตรหมื่นปรากฏการณ์แล้ว ร่างแยกที่สองจะมีกำลังรบประมาณเซียนชั้นสูง อีกทั้งผู้ครองเนตรหมื่นปรากฏการณ์ยังพัฒนาการป้องกันวิญญาณของเขา ยกระดับความเร็วในการฝึกฝน

เพราะมีประสบการณ์จากครั้งที่แล้ว เวลาหนึ่งวัน จ้าวเฟิงก็สามารถหลอมรวมเนตรหมื่นปรากฏการณ์เข้าไปในวิญญาณของร่างแยกร่างที่สองได้

“ร่างแยกร่างที่สอง จ้าววั่น!” จ้าวเฟิงตั้งชื่อให้

ครั้นหลอมเนตรหมื่นปรากฏการณ์ให้จ้าววั่นสำเร็จ จ้าวเฟิงก็เลือกเคล็ดวิชาดวงตาและศาสตร์วิชาพิเศษมอบให้จ้าววั่นไปฝึก

มีเพียงวิชาดวงตาที่แข็งแกร่งเท่านั้นจึงจะสามารถดึงศักยภาพพลังของสายเลือดดวงตาออกมาได้

ในวันนี้ ปี้ชิงเยวี่ยส่งข่าวมาให้จ้าวเฟิงอีกครั้ง

“นายท่าน วังเก้านิรยในช่วงนี้ไปมาหาสู่กับขั้วอำนาจแข็งแกร่งทั้งหลายในราชวงศ์อย่างแน่นแฟ้น กระทั่งรวมไปถึงแปดตระกูลใหญ่ นอกจากนั้นตำหนักไท่หวงก็เหมือนจะมีการเคลื่อนไหวด้วย…”

ปี้ชิงเยวี่ยเอ่ยอย่างจริงจัง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version