บทที่ 1123 ร่างแยกร่างที่สอง
นอกป่าไม่ไกลนัก เบื้องหน้ายอดเขาเตี้ยที่ทอดตัวเป็นแนวยาว คนยักษ์ผลึกธุลีหลายตนปรากฏขึ้น
เหมือนว่าการท้าทายโดยไม่ได้ตั้งใจครั้งก่อนนี้ของจ้าวเฟิง จะทำให้เผ่าพันธุ์ผลึกธุลีระวังเขตพื้นที่ป่าเป็นอย่างมาก ในยามที่พวกมันสัมผัสได้ว่ามีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นก็รวมกันออกมาทันใด
“คนยักษ์เผ่าพันธุ์ผลึกธุลีสิบสองตัว!”
จ้าวเฟิงรู้เบาะแสสถานการณ์ของศัตรู
กำลังรบทั่วไปของเผ่าพันธุ์ผลึกเซียนถึงขั้นราชาเซียน หนึ่งในนั้นมีตัวหนึ่งถึงราชาเซียนระดับสุดยอด
จ้าวเฟิงไม่เกรงกลัวคนยักษ์เผ่าพันธุ์ผลึกธุลีที่นี่ตัวใดทั้งนั้น แต่ในยามนี้คือการต่อสู้แบบกลุ่ม จ้าวเฟิงจะแข็งแกร่งอย่างไรก็ไม่มีทางต้านทานคนยักษ์ผลึกธุลีทั้งหมดด้วยตัวคนเดียวได้
“พวกเจ้ารนหาที่ตาย!”
ในเผ่าพันธุ์ผลึกธุลี คนยักษ์ผลึกธุลีตนหนึ่งที่ร่างกายกำยำผิดธรรมดาคำรามก้อง
“โจมตีพวกมัน!” จ้าวเฟิงบัญชา
ผึ้งเบญจพิษ วานรสายฟ้านภาเพลิง เสืออัคคีปีกทอง และวัวคลั่งพสุธาทลาย โจมตีไปข้างหน้าอย่างไม่ลังเล
“คู่มือของเจ้าคือข้า!”
จ้าวเฟิงพุ่งไปยังเผ่าพันธุ์ผลึกธุลีที่แข็งแกร่งที่สุดตัวนั้นทันที
ด้วยพลังของจ้าวเฟิงในวันนี้ ราชาเซียนทั่วไปเหล่านั้นไม่อาจกระตุ้นจิตต่อสู้ของจ้าวเฟิงขึ้นมาได้
“มนุษย์ชั้นต่ำ กล้าบุกเผ่าพันธุ์ผลึกธุลีของข้า!”
คนยักษ์ผลึกธุลีไม่สะทกสะท้านต่อสายเลือดและขอบเขตพลังของจ้าวเฟิง
“ฝ่ามือสายฟ้าทลายนภา!”
จ้าวเฟิงโคจรกายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ ผสานพลังศักดิ์สิทธิ์วายุอัสนี ซัดเงาฝ่ามือศักดิ์สิทธิ์สีทองแดงออกมาทันใด
ครืน บึ้ม!
ฝ่ามืออัสนีศักดิ์สิทธิ์ซัดไปยังร่างใหญ่โตของคนยักษ์ผลึกธุลี อัสนีทองแดงนับไม่ถ้วนพลันสั่นไหวออกมา
“อ๊าก…เจ้ามนุษย์!”
คนยักษ์ผลึกธุลีตกใจเป็นอย่างยิ่ง พลังของมนุษย์เบื้องหน้าเกินกว่าจินตนาการของมันไปมากนัก
โฮก! คนยักษ์ผลึกธุลีหันหน้าไปยังจ้าวเฟิงแล้วคำรามก้อง
คลื่นการโจมตีอากาศอันหนักหน่วงแข็งแรงบดอัดไปยังจ้าวเฟิง
ในขณะเดียวกัน คนยักษ์ผลึกธุลีสะบัดแขน ก่อตัวขึ้นเป็นขวานสีเหลืองหม่นด้ามหนึ่ง ฟันลงไปยังจ้าวเฟิง
ฟิ้ว ฟิ้ว! จ้าวเฟิงใช้ข้อได้เปรียบด้านความเร็ว หลบหลีกการโจมตีของคนยักษ์ผลึกธุลี
“หมัดศักดิ์สิทธิ์อัสนี!”
“ฝ่ามือสายฟ้าทลายนภา!”
จ้าวเฟิงสลับใช้เคล็ดวิชากายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองชนิด โจมตีคนยักษ์ผลึกธุลีเบื้องหน้าอย่างต่อเนื่อง
ในด้านความเร็ว คนยักษ์ผลึกธุลีสู้จ้าวเฟิงไม่ได้เลย มันที่หงุดหงิดฉุนเฉียวเป็นที่สุดกระตุ้นสายเลือดทันที
วู้ม ฟู่!
กายของมันขยายใหญ่หลายจั้งทันใด พลังและการป้องกันเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก รอบด้านก่อเป็นมิติแรงดึงดูดที่น่าหวาดหวั่นขึ้น
ครืน!
หลังจากกระตุ้นสายเลือด คนยักษ์ผลึกธุลีสะบัดขวานยักษ์ เหนี่ยวนำเสวียนอ้าวธาตุดินในฟ้าดิน ฟันฉับลงไปยังจ้าวเฟิง
ขวานยักษ์ยังไม่ทันฟาดลงมา จ้าวเฟิงก็สัมผัสได้ถึงการควบคุมแรงดึงดูดอย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน ซึ่งพันธนาการเขาเอาไว้แน่น
พรสวรรค์ด้านเขตแดนแรงดึงดูดของเผ่าพันธุ์ผลึกธุลีเป็นหนึ่งในใต้หล้า ประสิทธิภาพโดดเด่นกว่าจ้าวเฟิงนัก
พรึ่บ! ชิ้นเหล็กสามเหลี่ยมปรากฏขึ้นในมือของจ้าวเฟิง
ชิ้ง ชิ้ง!
เมื่อผสานพลังเทพเข้าไปข้างใน ชิ้นเหล็กสามเหลี่ยมในมือจ้าวเฟิงเปลี่ยนรูปร่างอย่างรวดเร็ว กลายเป็นโล่ธาตุโลหะสีดำอันหนึ่ง
มือถือโล่ป้องกันที่แปรมาจากตราเทพบรรพกาล จ้าวเฟิงรู้สึกว่าความกดดันจากแรงดึงดูดของฟ้าดินเหมือนจะหายวับไปทันใด
ครืน วู้ม!
การโจมตีที่ทรงพลานุภาพของคนยักษ์ผลึกธุลีฟาดมาบนโล่ของจ้าวเฟิง ส่งเสียงสะท้อนกลับของโลหะ
แกรก!
ขวานยักษ์สีเหลืองหม่นในมือของคนยักษ์ผลึกธุลีแตกละเอียดลงกลายเป็นฝุ่นผง
“นี่เป็นไปได้ยังไงกัน? เจ้ามีอาวุธเทพรึ!”
คนยักษ์ผลึกธุลีตกใจหน้าซีด
มีเพียงอาวุธเทพเท่านั้นจึงจะมีพลังเช่นนี้
ชิ้ง ชิ้ง!
หลังจากที่ต้านทานการโจมตีของคนยักษ์ผลึกธุลีเอาไว้ได้แล้ว โล่สีดำในมือของจ้าวเฟิงก็แปรเปลี่ยนเป็นหอกยาวสีดำ
ฉึก! จ้าวเฟิงใช้แรงกวาดหอกออกไป พายุหมุนสีดำโหดเหี้ยมทรงพลังม้วนตัวออกมาล้อมคนยักษ์ผลึกธุลีเอาไว้ข้างใน
เห็นเพียงรอบกายของคนยักษ์ผลึกธุลีตนนี้ถูกกรีดเป็นบาดแผลลึกหลายฉื่อนับไม่ถ้วน
“เอาเจ้าเป็นตัวฝึกฝีมือก็แล้วกัน!”
จ้าวเฟิงยิ้มบางๆ
ในห้วงฝันบรรพกาล จ้าวเฟิงไม่ต้องกังวลว่าความลับเรื่องอาวุธเทพจะรั่วไหลออกมา สามารถทำความคุ้นเคยกับพลังของอาวุธเทพชิ้นนี้อย่างไร้กังวล
นอกจากนั้นจ้าวเฟิงก็ไม่ได้ทุ่มใช้พลังทั้งหมด อีกทั้งการป้องกันของเผ่าพันธุ์ผลึกธุลีแข็งแกร่งไร้เทียมทาน ไม่ถึงขั้นถูกอาวุธเทพของจ้าวเฟิงสังหารลงได้ในพริบตาเดียว
ชิ้ง ชิ้ง!
ตราเทพบรรพกาลในมือของจ้าวเฟิงแปรเปลี่ยนเป็นมีดใหญ่เล่มหนึ่ง
ครืน บึ้ม! ม่านแสงสีดำที่สะเทือนฟ้าสะท้านดินพุ่งออกมาในชั่วพริบตา โจมตีไปยังคนยักษ์ผลึกธุลี
“ไร้ยางอายนัก…เจ้ามนุษย์!”
คนยักษ์ผลึกธุลีที่แข็งแกร่งที่สุดของเผ่าพันธุ์ เมื่ออยู่ต่อหน้าอาวุธเทพของจ้าวเฟิงก็ทำได้เพียงแค่เป็นฝ่ายป้องกันเท่านั้น
แต่ต่อให้เป็นเผ่าพันธุ์ผลึกธุลีที่เชี่ยวชาญการป้องกัน ก็ยังคงไม่อาจต้านทานพลังของอาวุธเทพได้
สุดท้ายแล้ว ในยามที่คนยักษ์ผลึกธุลีอ่อนล้าไร้เรี่ยวแรง จ้าวเฟิงก็ลงตราผนึกดวงใจทมิฬบนวิญญาณของมัน
จากนั้นจ้าวเฟิงมองไปยังสถานการณ์ต่อสู้รอบกาย
แม้สัตว์อสูรของจ้าวเฟิงจะมีจำนวนมาก แต่สายเลือดผลึกธุลีแข็งแกร่งยิ่งกว่า ขอบเขตพลังสูงกว่า ทั้งสองฝ่ายสู้กันอย่างสูสี
แต่หลังจากจ้าวเฟิงจับเผ่าพันธุ์ผลึกธุลีที่แข็งแกร่งที่สุดเป็นทาสได้ และคนยักษ์ผลึกธุลีตัวนี้เข้าร่วมการต่อสู้ด้วย สถานการณ์การต่อสู้ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงทันที
ใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่ จ้าวเฟิงก็สามารถยึดครองถิ่นที่อยู่ของเผ่าพันธุ์ผลึกธุลีได้อย่างราบรื่น
การบุกโจมตีครั้งนี้ สัตว์วิเศษของจ้าวเฟิงเสียหายหนักมาก
แต่นี้ก็คือสิ่งที่จ้าวเฟิงตั้งใจไว้ ด้านหนึ่งก็คือผู้แข็งแกร่งชนะ ผู้อ่อนแอพ่ายแพ้ คัดสัตว์วิเศษที่พลังค่อนข้างอ่อนแอและศักยภาพค่อนข้างต่ำทิ้งไป อีกด้านหนึ่งก็เป็นการประหยัดทรัพยากรที่ไม่จำเป็นต้องเสีย
หลังยึดครองถิ่นของเผ่าพันธุ์ผลึกธุลีแล้ว จ้าวเฟิงก็เริ่มค้นหาทรัพยากรของเผ่าพันธุ์ผลึกธุลี
“นายท่าน นี่คือของสะสมทั้งหมดของข้า!”
คนยักษ์ผลึกธุลีทั้งหมดนำของสะสมของพวกมันมามอบให้กับจ้าวเฟิง
เผ่าพันธุ์ผลึกธุลีบรรพกาล ร่างกายสามารถผลิตผลึกเริ่มต้นหรือผลึกเซียนระดับล่างเองได้
ปกติแล้วพวกมันจะสะสมทรัพยากรสำหรับฝึกฝนพวกนี้ไว้เพื่อแลกเปลี่ยนกับเผ่าพันธุ์อื่นๆ
นอกจากนั้น ที่ที่เผ่าพันธุ์ผลึกธุลีอาศัยยังแฝงไว้ด้วยทรัพยากรสินแร่ที่สมบูรณ์เป็นอย่างมาก
“นายท่าน ใต้พื้นดินที่พวกเราเผ่าพันธุ์ผลึกธุลีอาศัยมีสายแร่ผลึกอยู่สายหนึ่ง…”
ผู้แข็งแกร่งที่สุดในเผ่าพันธุ์ผลึกธุลีเอ่ยขึ้นกับจ้าวเฟิง
“สายแร่ผลึก?” จ้าวเฟิงสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย
สายแร่ผลึกก็คือสายแร่ที่ผลิตผลึกเริ่มต้นหรือผลึกเทพ
ไอสวรรค์ฟ้าดินของดินแดนทวีปเบาบาง ยากที่จะก่อตัวเป็นสายแร่ผลึก ต่อให้มีก็เป็นสายแร่ผลึกระดับต่ำมาก
ถัดจากนั้น จ้าวเฟิงสำแดงวิชาดำดิน ดำลงไปใต้พื้นพร้อมกับคนยักษ์ผลึกธุลี
“สายแร่ผลึกเซียนระดับล่าง!” แววตาของจ้าวเฟิงเปล่งประกาย
สายแร่ผลึกเซียนระดับล่างจะผลิตผลึกเซียนระดับล่าง หากเป็นสายแร่ผลึกเซียนระดับล่างที่ค่อนข้างมีคุณภาพ จะสามารถหลอมรวมผลึกเซียนออกมาได้อีกด้วย
ต้องรู้ว่า ปกติเวลาเซียนเทวาเร้นลับบางคนฝึกฝน จะล้วนตัดใจใช้ผลึกเซียนระดับล่างไม่ลง แต่ยามนี้จ้าวเฟิงได้รับสายแร่ผลึกเซียนระดับล่างสายหนึ่งมา
ผลเก็บเกี่ยวจากการโจมตีเผ่าพันธุ์ผลึกธุลีมากเกินกว่าจินตนาการของจ้าวเฟิงนัก
หากมีทรัพยากรพวกนี้ จ้าวเฟิงก็สามารถยกระดับพลังของตนและตำหนักราชันได้อย่างรวดเร็ว
พรึ่บ! จ้าวเฟิงหยิบเอาทรัพยากรมากมาย ออกจากห้วงฝันบรรพกาลไป
“ทรัพยากรพวกนี้ หลักๆ แล้วจะเอามาตบรางวัลให้กับผู้แข็งแกร่งขั้นเซียนที่มีคุณูปการค่อนข้างมาก!”
จ้าวเฟิงจัดสรรทรัพยากรส่วนหนึ่งให้ปี้ชิงเยวี่ยจัดการ
ระยะนี้ตำหนักราชันปรากฏผู้แข็งแกร่งขอบเขตเทวาเร้นลับมากมาย แต่พลังแท้จริงของพวกเขาอ่อนแอเกินไป
นอกจากนั้น เซียนที่เป็นรุ่นบุกเบิกอย่างปี้ชิงเยวี่ย เซียนราตรีทมิฬ เซียนเกราะดำ ก็ต้องการทรัพยากรจำนวนมากเพื่อยกระดับพลังเช่นเดียวกัน
“นายท่าน หลิ่วฉินอินไปถึงยังดินแดนชายทะเลแล้ว เหมือนจะวางแผนไปจากดินแดนทวีป!”
ปี้ชิงเยวี่ยรายงานความเคลื่อนไหวของหลิ่วฉินอินให้กับจ้าวเฟิง
“ออกจากดินแดนทวีป หรือนางจะกลับทวีปบุปผาคราม?”
จ้าวเฟิงคาดเดาในใจ
แต่ว่าเช่นนี้ก็ดีเหมือนกัน ด้วยขอบเขตพลังของหลิ่วฉินอินในวันนี้ หากไปจากแผ่นดินใหญ่ โดยพื้นฐานแล้วไม่มีทางเจอกับอันตรายอะไร
ต่อมา จ้าวเฟิงคัดเลือกทรัพยากรบางอย่าง เตรียมดำเนินตามแผนปลุกสายเลือดเพลิงมารโลหิตที่สมบูรณ์แบบ
ในวันนี้ จ้าวเฟิงมายังที่อยู่ของหมอเทวดาอวี้หลิง
“หมอเทวดาอวี้หลิง รบกวนท่านแล้ว…”
จ้าวเฟิงนำวัตถุดิบล้ำค่าที่คัดเลือกมามอบให้กับหมอเทวดาอวี้หลิง
“จ้าวเฟิง ข้าในตอนนี้ก็นับว่าเป็นสมาชิกของตำหนักราชันด้วยกระมัง!”
หมอเทวดาอวี้หลิงท่าทางหดหู่ไร้ชีวิตชีวา
ช่วงระยะนี้จ้าวเฟิงตบรางวัลให้กับสมาชิกของตำหนักราชัน ทรัพยากรบางอย่างต่อให้เป็นหมอเทวดาอวี้หลิงก็ยังเฝ้าปรารถนาเป็นอย่างมาก
คราวนี้หมอเทวดาอวี้หลิงนึกเสียใจเป็นอย่างมาก ทำไมตอนนั้นตนเองจึงถูกหลอกมายังตำหนักราชันเพราะของเพียงแค่นั้น
“นี่คือรางวัลพิเศษที่ผู้อาวุโสรับใช้ตำหนักราชัน!”
จ้าวเฟิงมอบวัตถุดิบยาบรรพกาลล้ำค่าหลายอย่างให้กับหมอเทวดาอวี้หลิวอีกครั้ง
หมอเทวดาอวี้หลิงที่แต่เดิมไม่ค่อยพอใจจ้าวเฟิงพลันยิ้มแย้ม ไม่พูดพร่ำทำเพลง เริ่มปรุงยาทันใด
หลายวันหลังจากนั้น จ้าวเฟิงก็นำยาเหล่านี้ไปให้ลูกศิษย์ตระกูลเถี่ยกิน ขณะเดียวกันก็สังเกตสภาวะของสายเลือดพวกเขาอย่างใกล้ชิด
“นายท่าน จากรายงานของสายสืบที่กระจายอยู่ทุกที่ของดินแดนทวีป ช่วงนี้ทุกขั้วอำนาจใหญ่ของราชวงศ์ต้าเฉียนครึกครื้นนัก ไปมาหาสู่แน่นแฟ้นจนผิดปกติ โดยเฉพาะวังเก้านิรย…”
ในวันนี้ ปี้ชิงเยวี่ยรายงานข่าวบางอย่างและการคาดเดาในใจให้จ้าวเฟิงฟัง
“ข้ารู้แล้ว!”
ใบหน้าของจ้าวเฟิงเรียบเฉย หลังจากพูดจบแล้วก็เริ่มปิดด่าน
ในมนตราอากาศ
“ระดับขั้นชีวิตถึงเซียนชั้นต้นแล้ว ขอบเขตพลังก็ใกล้แล้วเช่นกัน!”
จ้าวเฟิงมองร่างแยกร่างที่สองข้างกายแวบหนึ่ง
พรึ่บ พรึ่บ! เบื้องหน้าของจ้าวเฟิง ผลึกเซียนระดับล่างหลายสิบชิ้นและทรัพยากรล้ำค่ามากมายปรากฏขึ้น หลังจากที่โคจร ‘วิชาหมื่นห้วงคิดเซียน’ แล้ว
จ้าวเฟิงหนึ่งจิตใจใช้หลากหลาย ฝึกฝนเคล็ดวิชาชั้นยอดต่างๆ เช่น ‘กายสายฟ้าปฐพีทอง’ ‘วิชาวายุอัสนีห้าธาตุ’ ‘วิชาแปลงเทพ’
เมื่อยึดถิ่นเผ่าพันธุ์ผลึกธุลีมาแล้ว ทรัพยากรในมือของจ้าวเฟิงก็มีมากมาย
ในยามนี้ราชวงศ์ต้าเฉียนก็เคลื่อนไหวอย่างลับๆ ความกดดันไร้รูปร่างมาเยือนจ้าวเฟิง ดังนั้นเขาต้องรีบยกระดับพลังและขั้วอำนาจของตัวเองในทุกชั่วขณะ
หนึ่งเดือนหลังจากนั้น ลวดลายอัสนีสีเหลืองหม่นที่ไหลเวียนไปทั่วผิวกายจ้าวเฟิงพลันเปล่งประกายเจิดจ้า
“กายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ถึงระดับสุดยอดแล้ว!”
จ้าวเฟิงใช้ทรัพยากรมากมาย ทะลวงข้อติดขัดของกายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่หกได้
หลังจากกายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ถึงระดับสุดยอดแล้ว ต่อให้เป็นการโจมตีของราชาเซียนทั่วไปก็ยากที่จะสร้างความบาดเจ็บอะไรให้กับจ้าวเฟิงได้
“เยี่ยมมาก เจ้าก็ถึงเซียนชั้นต้นแล้ว ตอนนี้ข้าจะหลอมรวมเนตรหมื่นปรากฏการณ์ให้เจ้า!”
จ้าวเฟิงและร่างแยกที่สองเผยรอยยิ้มอันตื่นเต้นออกมาในขณะเดียวกัน
ถึงแม้จ้าวเฟิงจะมีเนตรหมื่นปรากฏการณ์ แล้วยังมีเนตรสังสารวัฏ
แต่สิ่งที่จ้าวเฟิงต้องการในตอนนี้คือกำลังรบที่แข็งแกร่ง เนตรของเนตรหมื่นปรากฏการณ์คือวัฏสงสารแห่งชีวิต มีประโยชน์ไม่สู้เนตรหมื่นปรากฏการณ์
ทว่าเซียนหมื่นปรากฏารณ์ยังไงก็เป็นพวกต่างเผ่าพันธุ์ เคลื่อนไหวในราชวงศ์ต้าเฉียนไม่สะดวกเป็นอย่างมาก ดังนั้นจ้าวเฟิงจึงไม่ลังเลสักนิด สังหารและแย่งชิงเนตรนี้มา
“หลังจากที่ผสานเนตรหมื่นปรากฏการณ์แล้ว พลังของเจ้าก็จะรุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว!”
จ้าวเฟิงเอ่ยเสียงเรียบนิ่ง
เมื่อผสานเนตรหมื่นปรากฏการณ์แล้ว ร่างแยกที่สองจะมีกำลังรบประมาณเซียนชั้นสูง อีกทั้งผู้ครองเนตรหมื่นปรากฏการณ์ยังพัฒนาการป้องกันวิญญาณของเขา ยกระดับความเร็วในการฝึกฝน
เพราะมีประสบการณ์จากครั้งที่แล้ว เวลาหนึ่งวัน จ้าวเฟิงก็สามารถหลอมรวมเนตรหมื่นปรากฏการณ์เข้าไปในวิญญาณของร่างแยกร่างที่สองได้
“ร่างแยกร่างที่สอง จ้าววั่น!” จ้าวเฟิงตั้งชื่อให้
ครั้นหลอมเนตรหมื่นปรากฏการณ์ให้จ้าววั่นสำเร็จ จ้าวเฟิงก็เลือกเคล็ดวิชาดวงตาและศาสตร์วิชาพิเศษมอบให้จ้าววั่นไปฝึก
มีเพียงวิชาดวงตาที่แข็งแกร่งเท่านั้นจึงจะสามารถดึงศักยภาพพลังของสายเลือดดวงตาออกมาได้
ในวันนี้ ปี้ชิงเยวี่ยส่งข่าวมาให้จ้าวเฟิงอีกครั้ง
“นายท่าน วังเก้านิรยในช่วงนี้ไปมาหาสู่กับขั้วอำนาจแข็งแกร่งทั้งหลายในราชวงศ์อย่างแน่นแฟ้น กระทั่งรวมไปถึงแปดตระกูลใหญ่ นอกจากนั้นตำหนักไท่หวงก็เหมือนจะมีการเคลื่อนไหวด้วย…”
ปี้ชิงเยวี่ยเอ่ยอย่างจริงจัง