Skip to content

King of Gods 1190

King Of Gods

บทที่ 1190 สังหารซีเฟิง

ในเมื่อซีเฟิงเจอตนในพื้นที่ลับรกร้างโบราณ จ้าวเฟิงก็ไม่มีทางให้เขามีชีวิตกลับไป แค่เพียงซีเฟิงนำเรื่องนี้ไปบอกเจ้าเกาะเทียนอวี่ อีกฝ่ายจะต้องเดาได้อย่างแน่นอนว่าตนสามารถเข้าออกพื้นที่ลับได้ตามอารมณ์

หากเจ้าเกาะเทียนอวี่พูดเรื่องนี้ออกไป เกรงว่าคนทั่วทั้งดินแดนเทพรกร้างไม่มีทางปล่อยจ้าวเฟิงไปแน่

ดังนั้นจะให้ซีเฟิงมีชีวิตกลับไปไม่ได้เด็ดขาด กระทั่งตอนนี้ต้องสังหารซีเฟิงให้ตายเพื่อรักษาความลับนี้เอาไว้

“ซีเฟิง มัวแต่อึ้งอะไรอยู่ ตามมาเร็วเข้า!”

ในเผ่าหยกทอง ชายชุดเกราะทองที่เป็นหัวหน้าแค่นเสียงเย็น

“ขอรับ!”

ครั้นได้ยินเสียงของชายชุดเกราะทอง ซีเฟิงสั่นเทิ้มไปทั่วร่าง รีบรับคำเหมือนกับปฏิกิริยาตอบสนองตามสัญชาตญาณ

เห็นได้ชัดว่าซีเฟิงเคารพยำเกรงชายเกราะทองคนนี้มากเพียงใด

หลายคนในกองกำลังนี้ก็เหมือนกับซีเฟิง ยำเกรงชายคนนี้เป็นอย่างมาก

เพราะคนคนนี้คือปฐมเทพตี้หลิน อัจฉริยะที่แข็งแกร่งที่สุดของเผ่าหยกทอง และเป็นความหวังของอนาคตเผ่านี้

ฟิ้ว แซ่ด แซ่ด!

ในยามนี้เอง ตรงท้องฟ้าไกลลิบ ประกายสีทองอ่อนสายหนึ่งพาดผ่าน พุ่งมายังซีเฟิงทันที

“อะไร…เจ้ากล้ารึ!”

ซีเฟิงมีสีหน้าตื่นตกใจ จ้าวเฟิงกล้าลงมือกับเขาโดยตรง อีกทั้งเขายังสัมผัสได้ถึงจิตสังหารกลุ่มหนึ่งอีกด้วย!

แต่เดิมเขากำลังคิดว่าเหตุใดจ้าวเฟิงจึงมาปรากฏตัวที่นี่ได้ หรือจะใช้ค่ายกลส่งข้ามมาเข้าร่วมกับขั้วอำนาจสี่ดาวครึ่งอื่นๆ?

แต่ในยามนี้ จ้าวเฟิงตัวคนเดียวกลับมุ่งตรงมายังเขา ช่างใจกล้าเสียจริง!

ต่อให้ซีเฟิงไม่ใช่คู่มือของจ้าวเฟิง แต่เขาอยู่ในกลุ่มของเผ่าหยกทอง การกระทำของจ้าวเฟิงเป็นการท้าทายเผ่าหยกทองอย่างไม่ต้องสงสัย!

“ท่านเป็นใคร เหตุใดจึงลงมือกับเผ่าหยกทองของข้า?”

ปฐมเทพตี้หลินตะโกนทันที

ซีเฟิงเห็นปฐมเทพตี้หลินส่งเสียงก็เผยสีหน้ายินดี ถึงแม้อีกฝ่ายจะไม่ชอบเขา แต่อย่างน้อยตนก็เป็นสมาชิกคนหนึ่งของเผ่าหยกทอง ปฐมเทพตี้หลินหยิ่งยโสอวดดี เพื่อหน้าตาของเผ่าหยกทองและตัวเองแล้ว ไม่มีทางนิ่งดูดายแน่

“ข้าและคนผู้นี้มีบุญคุณความแค้นบางอย่าง ข้าจะเอาชีวิตของเขา!”

เสียงเย็นชาของจ้าวเฟิงดังมา

ครืน ฟู่!

ประกายแสงสีทองอ่อนพลันปะทุเปลวเพลิงร้อนแรงน่าหวาดหวั่น ราวกับแปลงเป็นหินอุกกาบาตไฟก้อนหนึ่ง

ฟิ้ว! หลังจากที่กระตุ้นเพลิงมารโลหิตโบราณ ความเร็วของจ้าวเฟิงเพิ่มขึ้นทันที

“ช่างเป็นพลังที่แข็งแกร่งนัก สายเลือดบรรพกาลน่ากลัวจริงๆ!”

พลังที่จ้าวเฟิงปะทุขึ้นกะทันหัน ทำเอาซีเฟิงตกใจจนหน้าซีดขาว สั่นเทิ้มไปทั้งตัว

เขาจำได้ชัดว่าก่อนหน้านี้ที่ต่อสู้กับจ้าวเฟิง สายเลือดของฝ่ายตรงข้ามไม่ได้แข็งแกร่งมาก

ฟู่!

ความเร็วของจ้าวเฟิงสูงเกินไป ซีเฟิงทำได้เพียงแค่พึ่งพาเสวียนอ้าวแห่งลมที่เขาชำนาญ ทิ้งห่างไประยะหนึ่งเท่านั้น

ครืน!

จ้าวเฟิงมาถึงยังข้างกายของซีเฟิงชั่วพริบตา โคจรแก่นแท้กายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์และเพลิงมารโลหิตโบราณ จากนั้นชกหมัดออกมาทันใด

ครืน บึ้ม!

พลังแก่นแท้เปลวเพลิงที่ร้อนระอุและน่ากลัวโจมตีมายังร่างของซีเฟิง

“อ๊าก…”

ท่ามกลางเสียงร้องโหยหวนน่าอนาถ ร่างของซีเฟิงแหลกรุ่งริ่ง

จ้าวเฟิงลงมือสังหารทันที อีกทั้งทำลายกายเนื้อของซีเฟิง ฉากนี้ ซีเฟิงคิดไม่ถึง ทุกคนของเผ่าหยกทองที่อยู่ข้างๆ ก็ล้วนคิดไม่ถึง

ครืน ฟู่ ฟู่!

เปลวเพลิงสีแดงร้อนแรงน่าพรั่งพรึงลุกไหม้รอบกายซีเฟิง ไฟร้อนอันบ้าคลั่งนั้น ขณะที่ลุกโหมก็กลืนกินร่างของซีเฟิงจนดับดิ้น

ฟุ่บ! วิญญาณสีฟ้าเย็นเยือกหนีออกจากเปลวเพลิงสีแดง

ถึงแม้การโจมตีรุนแรงของจ้าวเฟิง รวมกับเพลิงอาทิตย์ของเพลิงมารโลหิตโบราณ จะสร้างบาดแผลให้กับวิญญาณของเขาในระดับหนึ่ง แต่ยังไม่เพียงพอจะสังหาร

“เป็นไปได้อย่างไรกัน!”

วิญญาณของซีเฟิงตกใจเป็นอย่างยิ่ง ตนเองกลับไม่สามารถต้านทานแม้กระทั่งกระบวนท่าเดียวของจ้าวเฟิง

“เพลิงดวงตาอัสนีเทวะ!”

ในตาซ้ายของจ้าวเฟิง ตราอัสนีเทวะส่องประกาย ก่อเป็นลูกเพลิงอัสนีเทวะที่บิดเบี้ยวกลุ่มหนึ่ง

ครืน ฉัวะ!

เห็นเพียงแสงอัสนีวาววับฟาดผ่าไปยังกายวิญญาณของซีเฟิง

“ไม่…”

วิญญาณซีเฟิงส่งเสียงร้องน่าอนาถที่ชวนให้คนสั่นสะท้าน พลังอัสนีเทวะปะทุบนวิญญาณเขาอย่างบ้าคลั่ง ทุกที่ที่ผ่าน วิญญาณสูญสลายไปอย่างสิ้นเชิง!

สุดท้าย วิญญาณของซีเฟิงและพลังอัสนีเทวะหายไปจากท้องฟ้า

ซีเฟิงดับดิ้น!

แม้กระทั่งตัวซีเฟิงเองก็ไม่คาดคิดว่าเขาจะตายอย่างกะทันหันและง่ายดายเพียงนี้!

“ไม่เลว เพลิงมารโลหิตโบราณ เสวียนอ้าวแห่งไฟขั้นที่หนึ่ง!”

จ้าวเฟิงยิ้มน้อยๆ

เขาเพียงอาศัยแก่นแท้กายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ก็สามารถบดขยี้ซีเฟิงได้ รวมกับการปะทุของเพลิงมารโลหิตโบราณและพลังเพลิงอาทิตย์ ซีเฟิงไม่มีทางทนรับการโจมตีสุดพลังของจ้าวเฟิงได้เลย

ตุบ ตุบ!

ฝั่งเผ่าหยกทองทุกคนได้ยินเสียงหัวใจตนเองเต้นอย่างชัดเจน

กระทั่งปฐมเทพตี้หลินอัจฉริยะที่แข็งแกร่งที่สุดของเผ่าหยกทองก็ตกใจยิ่งนัก

ถึงแม้เขาจะสังหารซีเฟิงได้อย่างง่ายดายเช่นกัน แต่ไม่มีทางคล่องแคล่วหมดจดเหมือนกับจ้าวเฟิงเช่นนี้ กระบวนท่าหนึ่งสังหารร่างกายชั่วพริบตา อีกกระบวนท่าหนึ่งทำลายล้างวิญญาณ

ครืน ฟู่!

ชายผมทองคนนั้นยืนนิ่งอยู่กับที่ ทั่วทั้งร่างเป็นสีแดงชาดแวววาว เพลิงร้อนแรงบ้าคลั่งลุกไหม้ ดั่งจอมมารเปลวเพลิงตนหนึ่ง ทรงอำนาจไร้พันธนาการ

ในยามนี้ ทุกคนของเผ่าหยกทองรู้สึกว่าสายเลือดของตนลุกไหม้ร้อนผ่าวต่อหน้าคนผู้นี้ แสดงชัดว่าสายเลือดของชายคนนี้แข็งแกร่งกว่าพวกเขา!

“เจ้าเป็นใคร? ไยจึงสังหารคนของเผ่าหยกทอง?”

หลังผ่านไปนาน ดวงตาของปฐมเทพตี้หลินจับจ้อง พูดออกมาทันที

ชายเบื้องหน้าบางทีอาจจะแข็งแกร่งกว่าเขา แต่อีกฝ่ายมีตัวคนเดียว แต่กองกำลังของเขามีคนเผ่าหยกทองเก้าคน ในนั้นยิ่งมีเทพแท้จริงขั้นสามสองคน

จ้าวเฟิงสังหารคนของเผ่าหยกทองต่อหน้าพวกเขาทั้งหมด นี่เป็นการตบหน้าเผ่าหยกทองและตัวเขา ปฐมเทพตี้หลินย่อมไม่มีทางเงียบไม่พูดจา

“นี่ไม่เกี่ยวอะไรกับเผ่าหยกทอง เขากับข้ามีความแค้นกัน ดังนั้นข้าจึงเอาชีวิตเขา!”

จ้าวเฟิงมองไปยังปฐมเทพตี้หลินด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง

“ตี้หลิน ช่างเถิด คนผู้นี้พรสวรรค์สุดยอดนัก เกรงว่าคงเป็นลูกศิษย์ของขั้วอำนาจใหญ่สักกลุ่ม อีกทั้งซีเฟิงก็ไม่ใช่คนของเผ่าหยกทอง!”

ข้างหลังปฐมเทพตี้หลิน ปฐมเทพขั้นสามคนหนึ่งส่งกระแสจิตเตือน

ชายผมทองเบื้องหน้าเผชิญกับพวกเขาทั้งกองกำลังก็ไม่เกรงกลัวแม้แต่น้อย นี่แสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายหากไม่ฐานะสูงส่ง ก็ยังมีไพ่ตายอีก

ด้วยประสบการณ์กว่าแสนปีของเขา เรื่องนี้จบไปเช่นนี้เป็นดี

“ท่านสังหารคนของเผ่าหยกทองเช่นนี้ ไม่เห็นใครอยู่ในสายตาเกินไปกระมัง?”

ปฐมเทพตี้หลินแค่นเสียงเย็น ไม่ฟังคำเตือนของผู้อาวุโสคนนั้น

คนที่ซีเฟิงรู้จักจะเป็นอัจฉริยะของขั้วอำนาจใหญ่ไปได้อย่างไรกัน ต่อให้จ้าวเฟิงเป็นอัจฉริยะของขั้วอำนาจใหญ่จริง ก็ควรจะมีผู้แข็งแกร่งมากมายปกป้อง จะเดินทางลำพังในพื้นที่ลับรกร้างโบราณได้อย่างไร?

อีกทั้งระดับพลังฝึกตนของจ้าวเฟิงก็ต่ำเกินไปแล้ว!

“เจ้าจะเอายังไง?” สีหน้าของจ้าวเฟิงเย็นชา

หากเขาไม่สังหารซีเฟิงด้วยความเร็วปานสายฟ้า ถ้าซีเฟิงเปิดโปงความลับของตนออกไป เช่นนั้นก็จะยิ่งยุ่งไปใหญ่

กลุ่มเบื้องหน้าถึงแม้จะมีเก้าคน แต่ด้วยความเร็วของจ้าวเฟิง ทั้งเก้าคนนี้ไม่สำแดงไพ่ตาย ก็ไม่มีใครตามตนได้ทัน

“แค่เพียงเจ้าก้มหัวยอมรับผิด ข้าก็จะทำเป็นว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น!”

ปฐมเทพตี้หลินพูดขึ้นทันที

ปฐมเทพตี้หลินเป็นอัจฉริยะของเผ่ามาโดยตลอด

ผู้คนมากมายเคารพเลื่อมใส แต่ยามนี้จ้าวเฟิงเมินเฉยเขา สังหารซีเฟิงในชั่วพริบตา ทำให้ทุกคนที่นี่ตื่นตะลึง ปฐมเทพตี้หลินจึงหงุดหงิดเป็นอย่างมาก

แต่เพียงจ้าวเฟิงก้มหัวต่อหน้าเขา ไม่ใช่เป็นการแสดงว่าจ้าวเฟิงสู้ตนไม่ได้ทางอ้อมหรอกหรือ

“ไสหัวไป!”

จ้าวเฟิงเลิกคิ้วเล็กน้อย ในตาส่องประกายแสงเย็นเยือกออกมา

ปฐมเทพตี้หลินไม่ชอบซีเฟิงแม้แต่นิด และไม่สนใจความตายของเขา ตอนนี้อีกฝ่ายก็แค่ใช้ตนเองอวดเบ่งเท่านั้น

ฟิ้ว แซ่ด แซ่ด!

จ้าวเฟิงเก็บพลังสายเลือด ปีกแสงสีทองระยิบระยับไม่ธรรมดาก่อตัวขึ้นที่แผ่นหลัง เตรียมจะจากไป

“จับมันเอาไว้!”

ปฐมเทพตี้หลินตะโกนทันใด พุ่งออกไปกับปฐมเทพขั้นสามสองคนในกลุ่มกองกำลังทันที

“พันธนาการแสงหยก!”

คนทั้งสามโคจรพลังและพลังเสวียนอ้าว

ฟิ้ว ฟิ้ว!

เข็มขัดแสงหยกทองสามเส้นพร้อมด้วยประกายเจิดจ้า พุ่งตรงไปรัดจ้าวเฟิง

“รนหาที่ตาย!” จ้าวเฟิงแค่นเสียงเย็น ไม่สบอารมณ์เป็นอย่างยิ่ง

พรึ่บ! มือขวาของเขาเพียงสะบัด ชายชุดดำและเผ่าพันธุ์บรรพกาลที่ดุร้ายหลายตัวก็ปรากฏขึ้นข้างกาย

สัตว์วิเศษบรรพกาลที่ถูกจ้าวเฟิงเรียกออกมาเพียงลำพังได้ อย่างน้อยก็มีพลังเทพแท้จริงขั้นสองขึ้นไปทั้งสิ้น

ครืน บึ้ม!

สัตว์วิเศษทั้งหมดลงมือพร้อมจ้าวเฟิง พลังการโจมตีที่น่าหวาดหวั่นทำลายเคล็ดวิชาของเผ่าหยกทองทั้งสามเพียงชั่วพริบตา

ครืน! คลื่นพลังที่เหลือจากการโจมตีกลุ่มนั้นปะทะไปยังปฐมเทพตี้หลิน

“ระวัง ตี้หลิน!”

ผู้อาวุโสขั้นสามสองคนลงมือทันใด รับคลื่นการโจมตีแทนตี้หลิน

“อย่าบังคับให้ข้าสังหารเจ้า!”

สายตาของจ้าวเฟิงดุจเกลียวหมุนเย็นเยือก ทิ่มแทงเข้าไปในจิตใจของปฐมเทพตี้หลิน

ขวับ! แขนเสื้อเพียงสะบัด สัตว์อสูรทั้งหมดของจ้าวเฟิงก็หายวับไป

ฟิ้ว! ส่วนจ้าวเฟิงแปลงเป็นแสงสีทองสายหนึ่ง หายไปจากที่ไกลๆ!

“ตี้หลิน ข้าเตือนเจ้าแล้ว อย่าได้ตอแยกับคนคนนี้!”

ผู้อาวุโสคนหนึ่งพูดขึ้น

“ไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะเป็นนักฝึกสัตว์ เผ่าพันธุ์บรรพกาลศิโรราบให้มากมายเพียงนี้ อีกทั้งคนชุดดำก็ไม่ธรรมดาเลย สามารถบรรลุเสวียนอ้าวมรณะได้ถึงขอบเขตขั้นที่หนึ่ง!”

ผู้อาวุโสอีกคนหนึ่งพูด นักฝึกสัตว์ที่อายุน้อยเพียงนี้ ทั่วทั้งเขตผาเก่ายากที่จะหาได้สักคน

“พวกเจ้านี่ช่างไร้ประโยชน์เสียจริง!”

ปฐมเทพตี้หลินกัดฟันกรอด ตะโกนอย่างโกรธแค้น

หากเทพแท้จริงขั้นสี่ในเผ่าหรือเทพแท้จริงขั้นห้าอย่างเทียนหวาร่วมทางมากับเขา จะต้องจับจ้าวเฟิงเอาไว้ได้แน่

ถึงแม้จะเคืองแค้นยิ่ง แต่เมื่อคิดย้อนกลับไปยังสายตาที่เย็นชาของจ้าวเฟิงเมื่อครู่ ในใจของตี้หลินก็เกิดความกลัว ราวกับว่าอีกฝ่ายคิดจะเอาชีวิตตนก็เป็นเรื่องที่ง่ายดายยิ่ง

“ไปเถอะ ไปรวมตัวกับกองกำลังหลักของเผ่าหยกทอง อย่าได้พลาดของวิเศษเหล่านั้น ถึงตอนนั้นหากเทพแท้จริงเทียนหวายอมลงมือ เจ้าอยากจะแก้แค้นก็ง่ายดายนัก!”

ผู้อาวุโสพูดต่อ

เขาไม่ห้ามปฐมเทพตี้หลินแก้แค้น แต่หากจะแก้แค้นก็ต้องสังหารอีกฝ่ายให้ตาย ขจัดภัยในภายหน้าอย่างถาวร

……

หลังจากสังหารซีเฟิง สลัดคนของเผ่าหยกทองได้แล้ว จ้าวเฟิงก็เดินทางต่อ

ระหว่างทาง จ้าวเฟิงพบกลุ่มคนไม่น้อย กลุ่มเหล่านี้มีจำนวนคนค่อนข้างมาก เทพแท้จริงขั้นสามหรือกระทั่งเทพแท้จริงขั้นสี่ก็พบเห็นได้ไม่น้อย ส่วนเป้าหมายของพวกเขาก็น่าจะเหมือนกับจ้าวเฟิง

พรึ่บ! จ้าวเฟิงอดไม่ได้ที่จะเพิ่มความเร็ว

หลังจากนั้นหลายสิบวัน เขาก็มาถึงเขตพื้นที่ที่มียอดเขาตั้งตระหง่าน

จ้าวเฟิงพบว่าบนยอดเขาทั้งหมดใกล้ๆ ล้วนมีกลุ่มคนไม่มากก็น้อยพักอยู่

อีกทั้งมิติแห่งนี้ไม่มั่นคงยิ่งนัก ส่งผลกระทบต่อการบินสูงมาก ท้องฟ้าไกลๆ ยิ่งสลัวราง มองเห็นสิ่งใดไม่ชัด

ฟิ้ว! จ้าวเฟิงบินไปยังยอดเขาเตี้ยลูกหนึ่งทันที

“นายท่าน ท่านมาแล้ว!”

ผู้เฒ่าชุดเขียวเอ่ยขึ้นอย่างนอบน้อม

ข้างกายของเขา จ้าววั่นและมังกรวารีล้างโลกาล้วนอยู่ที่นี่

หลังจากมาถึงที่นี่แล้ว จ้าวเฟิงก็สำแดงพลังมองทะลุผ่านของดวงตาเทพเจ้า มองไปยังที่ไกลๆ

สายตาของเขาทะลุผ่านกระแสมิติวุ่นวายเป็นชั้นๆ สุดท้ายก็มองเห็นวังที่โปร่งแสงเพียงครึ่งหนึ่งตั้งตระหง่านอยู่กลางฟ้า และอีกส่วนหนึ่งของวังแห่งนี้ยังซ่อนอยู่ในอากาศ!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version