Skip to content

King of Gods 1194

King Of Gods

บทที่ 1194 สถานการณ์วุ่นวาย

“ต่อให้ข้ายอมช่วยพวกเจ้า ด้วยพลังของพวกเราก็ยากที่จะช่วงชิงกับขั้วอำนาจมากมายที่นี่อยู่ดี!”

สายตาของเสี่ยวหลิงกวาดไปยังยอดเขาที่ทอดตัวเป็นแนวยาว พูดอย่างตรงไปตรงมา

“เรื่องพวกนี้ไม่ต้องให้เจ้ามาเป็นกังวล!”

จ้าวเฟิงตอบง่ายๆ ตามตรง

“ข้าก็คิดเพื่อชีวิตของเจ้านั่นแหละ!”

เสี่ยวหลิงถลึงตามองจ้าวเฟิง จากนั้นเอ่ยเสริมขึ้น “จะบอกให้นะ คนที่จับจ้องวังแห่งนี้ ไม่ได้มีแต่พวกเจ้าเท่านั้น ใกล้ๆ ทิวเขานี้ซ่อนเผ่าพันธุ์บรรพกาลเอาไว้มากมาย! ”

การปรากฏขึ้นของวังก่อให้เกิดความเคลื่อนไหวใหญ่โตขนาดนี้ แน่นอนว่าไม่ได้มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่มุ่งหน้ามา

เผ่าพันธุ์บรรพกาลที่อาศัยอยู่แถวนี้ โดยผิวเผินไม่ใช่คู่มือของมนุษย์ทั้งหมดที่นี่ ดังนั้นพวกมันจึงซ่อนอยู่ในที่มืด รอโอกาสลงมือ

“ข้ารู้!” จ้าวเฟิงตอบง่ายๆ

สำหรับจ้าวเฟิงแล้ว ยิ่งวุ่นวายก็ยิ่งดี เช่นนี้จะฉวยโอกาสได้ง่าย

เห็นท่าทางสบายๆ ไม่ทุกข์ร้อนมาโดยตลอดของจ้าวเฟิง เสี่ยวหลิงไม่พอใจเป็นอย่างมาก จะไม่มีเรื่องอะไรที่ทำให้ชายเบื้องหน้าตกใจหรือลนลานเลยรึอย่างไร?

“อีกประเดี๋ยวเจ้าฟังคำชี้นำของข้า ให้เจ้าทำอะไรก็ทำสิ่งนั้น!”

จ้าวเฟิงมองไปยังเสี่ยวหลิง พูดอย่างจริงจัง

เสี่ยวหลิงไม่ใช่ข้ารับใช้ของจ้าวเฟิง จ้าวเฟิงไม่อาจบังคับการเคลื่อนไหวของนางได้อย่างเข้มงวด

“แล้วเจ้าเล่า?”

เสี่ยวหลิงพลันนึกอะไรขึ้นได้ จึงเอ่ยถามขึ้น

“ข้า แน่นอนว่ารับผิดชอบบัญชาการพวกเจ้า!”

จ้าวเฟิงพูดอย่างมั่นใจยิ่ง

“อะไรนะ เจ้าให้พวกข้าไปเสี่ยงภัย ส่วนตัวเองหลบอยู่คนเดียวงั้นรึ!”

ดวงตาเรียวของเสี่ยวหลิงเบิกกว้าง ดูถูกเหยียดหยามการกระทำของจ้าวเฟิงเป็นอย่างมาก

นางมองจ้าววั่น มังกรวารีล้างโลกา และผู้เฒ่าชุดเขียวแวบหนึ่ง พลังของสามคนนี้อ่อนแอกว่านาง แต่เมื่อครู่ที่นางแอบสังเกตการต่อสู้ของพวกจ้าวเฟิง ก็รู้ว่าสายเลือดของมังกรวารีล้างโลกาสูงส่งจนน่ากลัวนัก ส่วนจ้าววั่นยิ่งเป็นทายาทของเนตรหมื่นปรากฏการณ์

เสี่ยวหลิงไม่เข้าใจสักนิด คนทั้งสองที่มีพรสวรรค์ขนาดนี้ ทำไมจึงทำตามคำสั่งของจ้าวเฟิงอย่างเคร่งครัด

“ไม่ต้องพูดมากแล้ว ยังมีเวลาอีกระยะหนึ่ง ยกระดับพลังเสีย เตรียมใจเอาไว้ให้ดี!”

จ้าวเฟิงออกจะจนคำพูด คำถามของสาวงามคนนี้ช่างมากเสียจริง

เวลานี้ ผู้เฒ่าชุดเขียวปลดปล่อยพลังโลกมิติส่วนตัว หยิบเอาแส้ยาวอัสนีอันหนึ่งออกมาฝึกฝน ตัวเขาเองก็มีอาวุธเทพเช่นกัน แต่ชิ้นนี้เหมาะกับเขากว่า

มังกรวารีล้างโลกาก็ฝึกฝนอยู่ในโลกมิติส่วนตัวของตนเอง ยกระดับพลังเช่นเดียวกัน มีเพียงแค่พลังแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น จึงจะยิ่งมีโอกาสชิงโอกาสของล้ำค่ามาได้

ส่วนจ้าวเฟิงกำลังลองบรรลุเสวียนอ้าวมิติในท้องฟ้า เสวียนอ้าวมิติเป็นเสวียนอ้าวชนิดหนึ่งที่ผู้แข็งแกร่งคนใดก็ทดลองฝึกฝนได้ หากควบคุมเสวียนอ้าวชนิดนี้ได้จะสามารถสำแดงกลอภินิหารอื่นๆ เช่นเคลื่อนย้ายในชั่วพริบตา เคลื่อนที่ครั้งใหญ่ ไม่ว่าจะหลบหนี ไล่ล่าศัตรู หรือว่าเดินทางก็ล้วนมีประโยชน์มาก

แน่นอน นอกจากพวกนี้แล้ว เสวียนอ้าวมิติยังเป็นอภินิหารที่สามารถเปลี่ยนเป็นการโจมตีได้ ลักษณะเด่นก็คือไร้ช่องว่าง ทำให้คนหลบอย่างไรก็ไม่พ้น

‘ดวงตาเทพเจ้าของข้า เดิมก็มีความสามารถใช้พลังมิติอยู่แล้ว บรรลุเสวียนอ้าวมิติน่าจะไม่ยาก!’

จ้าวเฟิงพึมพำในใจ

ครั้งที่แล้วจ้าวเฟิงประมาทเลินเล่อ เกือบถูกผู้แข็งแกร่งขั้นเทพแท้จริงที่บรรลุเสวียนอ้าวมิติบีบจนจนมุม

ดังนั้นวันนี้จ้าวเฟิงจึงให้ความสำคัญกับเสวียนอ้าวมิติเป็นอย่างมาก

วู้ม! ตาซ้ายของจ้าวเฟิงปกคลุมไปด้วยลายคลื่นสีทองอ่อนชั้นหนึ่ง

จากนั้น โลกเบื้องหน้าจ้าวเฟิงก็ตกอยู่ในโลกที่ประกอบขึ้นด้วยโครงสร้างจุดสีทอง คลื่นมิติที่ก่อขึ้นจากเสวียนอ้าวมิติหลั่งไหลเข้าไปในหัวของจ้าวเฟิงอย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น

“หืม?”

บนยอดเขาที่แดนศักดิ์สิทธิ์มิติตั้งมั่นอยู่ สายตาของเงาร่างสองร่างส่องประกายเล็กน้อย

หนึ่งในนั้นคือปฐมเทพคงหยวน อีกคนหนึ่งก็คือเทพแท้จริงขั้นห้าของแดนศักดิ์สิทธิ์มิติ ทั้งสองล้วนเป็นผู้ครอบครองเนตรมิติ

‘ช่างเป็นความรู้สึกที่ประหลาดยิ่งนัก!’

ปฐมเทพคงหยวนพึมพำในใจ เมื่อครู่เขามีความรู้สึกเหมือนถูกคนมองทะลุปรุโปร่ง และเนตรมิติของเขาก็ค้นพบเศษเสี้ยวคลื่น

“อาจจะมีทายาทเนตรเทพเจ้าอื่นที่แข็งแกร่งซ่อนอยู่ในคนพวกนี้!”

ชายชราเอ่ยเสียงเรียบนิ่ง

ในพื้นที่ลับรกร้างโบราณ ผู้ที่รวมตัวอยู่ล้วนเป็นอัจฉริยะชั้นยอด มีทายาทเนตรเทพเจ้าอื่นมาที่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

ฟู่ ฟู่! ในท้องฟ้า มีเพียงเสียงพายุมิติขนาดมหึมาเท่านั้น

วู้ม ครืน!

ฉับพลันทันใด วังโปร่งแสงที่ยังมีอีกส่วนเล็กๆ ซ่อนอยู่ในอากาศ จู่ๆ ก็พุ่งออกมาจากท้องฟ้า

ครืน ครืน ครืน!

ช่องว่างมิติขนาดใหญ่พัดพายุคลั่งมิติที่น่าหวาดกลัวออกมา

ห่างกันมากถึงเพียงนั้น หลายคนแค่เพียงโดนไปเล็กน้อยก็ถูกฉีกจนเป็นรอยเลือดอันน่าตกใจ ยังมีบางคนสัมผัสได้ถึงแรงดึงดูดมิติที่น่าหวาดกลัว จึงรีบถอยหนีไปข้างหลังทันที

ฟู่ ฟู่!

ช่องว่างมิติขนาดใหญ่นี้เริ่มค่อยๆ สมานกัน กระแสมิติปั่นป่วนอ่อนแรงลงทีละน้อย

“ของวิเศษจะปรากฏขึ้นแล้ว!”

ในชั่วขณะนี้ ผู้แข็งแกร่งรอบด้านทั้งหมดยืนขึ้นพร้อมกัน หัวใจเต้นตุบๆ สายตาจ้องไปยังวังโปร่งแสงในอากาศ

พายุคลั่งมิติรอบด้านค่อยๆ อ่อนแรงลง ภาพของวังแห่งนั้นส่องสะท้อนในตาของทุกคน

“ของล้ำค่า เป็นของล้ำค่าทั้งนั้นเลย!”

ร่างของทุกคนสั่นเล็กน้อย ตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง

“วังโปร่งแสงครึ่งหนึ่งแห่งนี้ คล้ายกับสิ่งก่อสร้างของแดนศักดิ์สิทธิ์มิติมาก!”

ปฐมเทพซือคงซึ่งเป็นผู้ถูกเลือกขั้นปฐมเทพของแดนศักดิ์สิทธิ์ชะตาสวรรค์มีสีหน้านิ่งสงบ

“หรือนี่จะเป็นที่ที่ท่านผู้ครอบครองเคยอาศัยอยู่?”

เทพแท้จริงคนหนึ่งของแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งมิติทอดถอนใจด้วยใบหน้าเคารพ

ว่ากันว่า ผู้ครอบครองมิติอาศัยอยู่ในรอยแยกท้องฟ้า พเนจรไปในความว่างเปล่า และรับรู้เสวียนอ้าวมิติ

วังแห่งนี้อาจจะเป็นที่ที่ ‘ผู้ครอบครองมิติ’ อาศัยอยู่เมื่อหลายนานนมมาแล้ว สิ่งของข้างในเดิมคือของธรรมดา แต่เพราะ ‘ผู้ครอบครองมิติ’ เคยอาศัยอยู่ ของเหล่านี้ล้วนย้อมด้วยเสวียนอ้าวเวลาหรือเสวียนอ้าวมิติ คุณสมบัติสูงถึงขั้นเทพ

ฟู่ ฟู่!

วังโปร่งแสงลอยอยู่กลางท้องฟ้า คลื่นมิติที่ชวนให้คนหวาดผวาลอยออกมาจากข้างใน ต่อให้เป็นคนจากแดนศักดิ์สิทธิ์มิติก็ล้วนไม่กล้าเข้าใกล้ง่ายๆ

“คลื่นมิติรอบด้านวังน่ากลัวเกินไป แค่เพียงไม่ระวังก็จะถูกรอยแยกท้องฟ้าสังหารเอาได้!”

ผู้แข็งแกร่งจากแดนศักดิ์สิทธิ์มิติคนหนึ่งเอ่ยอย่างหวาดหลัว

คนที่เหลือล้วนนิ่งเงียบ สังเกตดู

ถึงแม้สถานที่แห่งสมบัติจะปรากฏขึ้น แต่ทุกคนกระทั่งเข้าใกล้ก็ยังไม่กล้า ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเข้าไปลึกๆ ข้างในเลย

บนยอดเขาที่พวกจ้าวเฟิงอยู่

พรึ่บ!

จ้าวหวางปรากฏขึ้นจากในมนตราอากาศ ดวงตาชั่วร้ายทั้งสองข้างที่มีกลิ่นอายแห่งความตายแผ่กระจายจ้องไปยังท้องฟ้า

เหมียว เหมียว!

แมวขโมยตัวน้อยก็ปรากฏขึ้นบนไหล่ของจ้าวเฟิง โยนเหรียญทองแดงโบราณออกมา ดวงตาลุ่มลึกแหงนมองวังโปร่งแสง

“ยังมีผู้ช่วยอีกรึ!”

สายตาของเสี่ยวหลิงตกตะลึงเล็กน้อย

ถึงแม้จ้าวหวางขอบเขตพลังไม่สูง แต่เสวียนอ้าวมรณะบนร่างของเขาน่ากลัวเกินไป เข้าใกล้เพียงเล็กน้อยก็รู้สึกว่าพลังชีวิตรั่วไหลไปอย่างไรอย่างนั้น

กลิ่นอายบนร่างของแมวขโมยตัวนั้นก็แปลกประหลาดยิ่งนัก ไม่ธรรมดาแน่นอน เพียงแต่ว่าเสี่ยวหลิงมองไม่ออก

ฟู่ ฟู่!

ผู้แข็งแกร่งทั้งหมดลอยไปข้างบนอย่างไม่รู้ตัว เพียงเพื่อเข้าใกล้และสัมผัสถึงสมบัติล้ำค่าในวัง

“ไป ไปดูกัน!”

ปฐมเทพคงหยวนพลันส่งเสียง

พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ!

ผู้แข็งแกร่งแดนศักดิ์สิทธิ์มิติขยับกายวูบวาบ เข้าใกล้วังโปร่งแสง แต่พวกเขากลับไม่กล้าเข้าไปลึกอีกก้าว

“ตามคนของแดนศักดิ์สิทธิ์มิติไป!”

คนของแดนศักดิ์สิทธิ์กลืนนภาและแดนศักดิ์สิทธิ์ชะตาสวรรค์ทะยานออกไปทันที

พวกเขาล้วนมองออก วังแห่งนี้อาจจะมีความเกี่ยวข้องกับแดนศักดิ์สิทธิ์มิติ คนของแดนศักดิ์สิทธิ์มิติจะมีกลวิธีพิเศษอะไรหรือไม่ก็สามารถเข้าไปในวังได้

ฟู่ ฟู่! ผู้แข็งแกร่งที่เหลือในที่นั่นก็ใกล้เข้าอีกระยะหนึ่ง

“บัดซบ วังแห่งนี้เต็มไปด้วยรอยแยกมิติ วายุคลั่งมิติเต็มไปทั่วบริเวณ ไม่อาจเข้าใกล้ได้เลย!”

ปฐมเทพหนุ่มคนหนึ่งสบถด่า

แต่ในตอนนี้เอง เบื้องล่างของวังโปร่งแสงแห่งนี้ มีวัตถุชิ้นหนึ่งร่วงลงมา

นั่นคือ ‘ถ้วยชาสีขาว’ ใบหนึ่ง รอบด้านลอยอบอวลไปด้วยคลื่นเสวียนอ้าวมิติ

“ของล้ำค่าร่วงลงมาแล้ว!”

“รีบแย่งเร็ว!”

ใครก็คิดไม่ถึงว่าของล้ำค่าจะปรากฏออกมาด้วยวิธีนี้

ทุกคนไม่มีทางเข้าไปในวังโปร่งแสงได้ แต่ของในวังกลับออกมาตามกระแสมิติ

พรึ่บ! พรึ่บ! พรึ่บ! คนของแดนศักดิ์สิทธิ์มิติชิงลงมือก่อน

แต่ทันใดนั้น ในถ้วยชานั่นก็มีลายน้ำมิติกลุ่มหนึ่งกระเพื่อมออกมา พาดผ่านไปยังท้องฟ้า

อั้ก! อั้ก!

ผู้แข็งแกร่งที่เข้าใกล้ ‘ถ้วยชาสีขาว’ กระเด็นถอยไปในอากาศ กระอักเลือดออกมาหลายครั้ง ใบหน้าตื่นตกใจเป็นอย่างยิ่ง

“ฮ่าๆ…”

มีเพียงเทพแท้จริงขั้นห้าของแดนศักดิ์สิทธิ์มิติเท่านั้น กายเขาทะลักคลื่นเสวียนอ้าวมิติที่น่าหวาดหวั่น ฝืนเข้าใกล้ไปข้างถ้วยชา

“หืม? ไม่อาจเก็บเข้าไปในมิติเก็บของได้!”

เทพแท้จริงขั้นห้าคนนี้ขมวดคิ้วเล็กน้อย

คลื่นเสวียนอ้าวมิติบนถ้วยชารุนแรงนัก ส่วนคุณสมบัติมิติเก็บของของตัวเขาไม่สูงพอ ไม่อาจเก็บมันลงไปด้านในได้

ยังมีอีกวิธีหนึ่ง นั่นก็คือกำราบถ้วยชาใบนี้ แค่เพียงกำราบก็สามารถควบคุมพลังของมันได้ จะเก็บลงไปในมิติเก็บของก็ไม่ยาก แต่การควบคุมอาวุธเทพชิ้นหนึ่งต้องใช้เวลานานมาก

“วางของล้ำค่าลงซะ!”

ผู้แข็งแกร่งแดนศักดิ์สิทธิ์กลืนนภาพุ่งมาจากหลายทาง

ในขณะเดียวกัน คนของแดนศักดิ์สิทธิ์ชะตาสวรรค์ก็ไม่รั้งท้าย

ครืน ตูม บึ้ม!

ถ้วยชาใบหนึ่งทำให้ผู้แข็งแกร่งจากแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามปะทะกันอย่างดุเดือด

ในท้องฟ้า พลังวายุคลั่งอันน่าพรั่นพรึงทะลักล้นออก ทำให้ผู้แข็งแกร่งจากขั้วอำนาจอื่นมองไปแล้วเกิดความหวาดกลัว

“สมกับที่เป็นคนของแดนศักดิ์สิทธิ์ พลังแต่ละคนไม่ธรรมดาเลย!”

“ถ้วยชาใบนั้นยังอยู่อย่างปลอดภัยท่ามกลางการต่อสู้ของทุกคน!”

ผู้แข็งแกร่งนับไม่ถ้วนมองไปยังการต่อสู้ของคนแดนศักดิ์สิทธิ์ ค่อยๆ เข้าไปใกล้ พวกเขายังคงหวาดกลัวพวกแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งสาม ใครก็ไม่กล้าลงมือก่อน

แต่ในยามนี้เอง ในท้องฟ้าก็มีของอีกหลายชิ้นร่วงลงมาอีก

การร่วงลงมาของของทุกชิ้น สามารถก่อให้เกิดการต่อสู้ของขั้วอำนาจทั้งหลาย

แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาหงุดหงิดก็คือ วัตถุพวกนี้ไม่อาจเก็บเข้าไปในมิติเก็บของได้

คนของแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามมีใบหน้าเคร่งเครียด สถานการณ์ที่วุ่นวายเกินเหตุเช่นนี้คือสิ่งที่พวกเขาไม่อยากจะเห็น

พรึ่บ พรึ่บ!

คนของแดนศักดิ์สิทธิ์อีกสองแห่งจากไปแย่งของอันอื่นทันที

“พวกเจ้าหกคนไปชิงหวีอันนั้นที่อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ฟังคำสั่งของข้า อย่าบุ่มบ่ามลงมือ!”

จู่ๆ เสียงของจ้าวเฟิงก็ดังขึ้นในหัวของพวกมังกรวารีล้างโลกาและเสี่ยวหลิง

เสี่ยวหลิงหันหลังไปมอง ไม่เห็นเงาของจ้าวเฟิงแล้ว ไม่รู้ว่าไปซ่อนอยู่ที่ใด

“ไป!”

มังกรวารีล้างโลกาตะโกนเสียงต่ำ พาคนที่เหลือทะยานออกไป

ในยามนี้ สามเผ่าพันธุ์ที่ช่วงชิงหวีอันนี้กำลังต่อสู้ห้ำหั่น

ได้ยินเสียงดัง ‘ฉัวะ ฉึก’ หวีสีเหลืองปลดปล่อยหนามมิติออกมาตามอารมณ์ พุ่งทะลุหน้าอกของเทพแท้จริงขั้นสองคนหนึ่ง สังหารลงทันที

“น่ากลัวเหลือเกิน!”

เผ่าพันธุ์ทั้งสามที่กำลังต่อสู้ใจสั่นสะท้าน

หวีที่ดูเหมือนจะธรรมดาอันนี้ แท้จริงเป็นอาวุธเทพมิติประเภทโจมตี อาศัยการโจมตีด้วยตนเองสังหารเทพแท้จริงขั้นสอง

หลังจากพวกมังกรวารีล้างโลกาเข้าร่วม ก็รีบช่วยฝั่งขั้วอำนาจที่อ่อนแอทันที เพื่อตัดกำลังของอีกฝั่งหนึ่ง

ณ พื้นที่ห่างจากจุดนี้ไปสองแสนลี้ ตาซ้ายของจ้าวเฟิงส่องประกายสีทองอ่อน ทะลุผ่านทุกสิ่ง จับเหตุการณ์ทั้งหมดที่อยู่บนท้องฟ้าไกลไว้ในสายตา

จ้าวเฟิงหวังว่าในยามที่ชิงของล้ำค่า สถานการณ์จะวุ่นวายมาก แต่คิดไม่ถึงว่าจะวุ่นวายขนาดนี้

“มิติดั้งเดิมของมังกรวารีล้างโลกา และยังมีท้องของเจ้าแมวขโมยน้อย น่าจะสามารถเก็บของพวกนี้ลงไปได้!”

จ้าวเฟิงประมาณการ

สายเลือดของมังกรวารีล้างโลกาสูงส่งเป็นอย่างยิ่ง ในยุคเฟื่องฟูก็เป็นถึงเทพแท้จริงขั้นหก ระดับของมิติดั้งเดิมสูงยิ่ง ส่วนแมวขโมยน้อยก็เป็นตัวประหลาดโดยสิ้นเชิง ท้องของมันคือหลุมไร้ก้นบึ้ง อะไรก็กลืนได้หมด

“ทำไมเผ่าพันธุ์บรรพกาลที่ซ่อนอยู่รอบๆ จึงไม่เคลื่อนไหว!”

จู่ๆ จ้าวเฟิงก็คิดได้ถึงปัญหาหนึ่ง หัวใจสั่นสะท้าน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version