Skip to content

King of Gods 1202

King Of Gods

บทที่ 1202 เสวียนอ้าวเวลา

สำหรับคนที่เหลือ จ้าวเฟิงเป็นเพียงแค่ปฐมเทพทั่วไป

แต่ในเวลานี้ จ้าวเฟิงกลับสำแดงเสวียนอ้าวมิติขอบเขตขั้นที่สองและเคล็ดวิชามิติที่ลึกล้ำออกมา

เนื่องจากเคล็ดวิชาประเภทมิติได้รับการเพิ่มพลังขึ้น กำลังรบของจ้าวเฟิงในยามนี้จึงเทียบเท่ากับปฐมเทพขั้นสาม

“แข็งแกร่งมาก คนคนนี้เป็นอัจฉริยะของขั้วอำนาจใดกัน เสวียนอ้าวมิติถึงขั้นที่สองแล้ว!”

สมาชิกในกลุ่มคนอื่นๆ ที่ต่อสู้ไปด้วยกันกับจ้าวเฟิงเอ่ยอย่างตกใจ

ปฐมเทพคงหยวนเป็นถึงผู้ถูกเลือกขั้นปฐมเทพที่แข็งแกร่งที่สุดของแดนศักดิ์สิทธิ์มิติ ก่อนหน้าที่จะเข้ามาในพื้นที่ลับรกร้างโบราณ เสวียนอ้าวมิติก็เพิ่งจะขั้นที่สามเท่านั้น ต่อมาพบเจอโชคบางอย่าง และบรรลุเสวียนอ้าวมิติในวังโปร่งแสง ถึงได้ทะลวงถึงขั้นสี่

อัจฉริยะปฐมเทพบางคนของแดนศักดิ์สิทธิ์มิติเห็นจ้าวเฟิงไม่ธรรมดาเช่นนี้ก็จงใจพุ่งเป้าเล่นงานเขา แต่ยามที่พวกเขาโจมตีจ้าวเฟิง ถึงพบว่าข้างกายอีกฝ่ายมีผู้แข็งแกร่งสองคนปกป้องอยู่

คนหนึ่งคือชายเกราะมังกรเกล็ดดำ เสวียนอ้าวมิติแข็งแกร่ง ทั้งยังมีเสวียนอ้าวทำลายล้างที่น่าหวาดหวั่นอีกด้วย

อีกคนหนึ่งคือสตรีพริ้มเพราใบหน้างดงาม พลังฝึกตนของนางลึกล้ำ เสวียนอ้าวแห่งไฟแข็งแกร่ง

ครืน ตูม บึ้ม!

“เพลิงล้างโลกา!”

“หมัดเทพเจ้า!”

ระหว่างทั้งสองฝ่ายเป็นดุจไฟและน้ำ

ผู้แข็งแกร่งมากมายของฝั่งจ้าวเฟิงไม่ได้ใช้เคล็ดวิชาประเภทมิติ แต่ผู้ที่สามารถเดินมาได้จนถึงขั้นนี้ไม่มีธรรมดาสักคน พวกเขาล้วนมีขอบเขตที่ตนเองเชี่ยวชาญ

ส่วนจ้าวเฟิงก็ยังคงสำแดง ‘ฝ่ามือครองสวรรค์’ ซ้ำๆ ไม่หยุด

ถึงแม้ว่าตอนนี้ที่นี่กลายเป็นสนามรบ แต่ก็ยังเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับฝึกฝนบรรลุเสวียนอ้าวมิติ ยามนี้พูดได้ว่าจ้าวเฟิงกำลังสู้รบ แต่เหมือนกำลังฝึกฝน ‘ฝ่ามือครองสวรรค์’ บรรุลุเสวียนอ้าวมิติยิ่งกว่า

ครืน ตูม บึ้ม!

การต่อสู้ของคนสามสิบหกคนวุ่นวาย ดุเดือดเป็นอย่างมาก ไม่นานนักก็คัดขั้วอำนาจที่ค่อนข้างอ่อนแอกลุ่มหนึ่งออกไป

ยามนี้ บนกระดานหิน ฝั่งแดนศักดิ์สิทธิ์มิติเหลือสิบสองคน ฝั่งจ้าวเฟิงฝั่งนี้เหลือสิบหกคน

“ยังต้องคัดออกอีกสิบแปดคน!”

สายตาของจ้าวเฟิงสังเกตไปทั่วทั้งสนามรบ

การต่อสู้ดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง สุดท้ายคนที่เหลือแทบจะเป็นผู้แข็งแกร่งที่มีประสบการณ์มากมายกันหมด สายตาเฉียบคม หากคิดจะคัดคนกลุ่มนี้ออกต่อไปนั้นยากเป็นอย่างยิ่ง

สุดท้ายผู้แข็งแกร่งทั้งหลายฝั่งจ้าวเฟิงอาจจะร่วมมือกันชั่วคราวแล้วลงมือกับคนของตัวเอง เพียงเพื่อคัดคนออก เข้าสู่รอบต่อไป

โชคดี จ้าวเฟิงมีมังกรวารีล้างโลกาและเสี่ยวหลิงสองผู้ช่วยนี้ เพียงแค่ลงมืออย่างรอบคอบน่าจะไม่ตกรอบ

การต่อสู้ค่อยๆ ลดความรุนแรงลง ไม่เหมือนในตอนแรก

คนจำนวนไม่น้อยเริ่มแอบสะสมพลัง ฟื้นฟูพลังที่ใช้ไปและรักษาบาดแผล

“กลุ่มของแดนศักดิ์สิทธิ์มิติแข็งแกร่งเกินไป คิดอยากจะกำจัดออกอีกสองสามคนก็ยากยิ่ง

ฝั่งจ้าวเฟิง เทพแท้จริงขั้นสี่คนหนึ่งพูดขึ้น

ตอนนี้บนกระดานหินเหลือทั้งหมดยี่สิบสองคน คนเหล่านี้ก็ใช่ว่าจะจัดการได้ง่ายๆ

“พวกเราควรจะร่วมมือกัน จัดการกับคนคนหนึ่งในเวลาเดียวกัน เช่นนี้ก็จะสามารถลดถึงสิบคนได้อย่างรวดเร็ว!”

จ้าวเฟิงเอ่ยเสนอความเห็น

“ใช่แล้ว เช่นนั้นพวกเราก็โจมตีปฐมเทพคนนั้นก่อนเถอะ!”

สมาชิกฝั่งจ้าวเฟิงเริ่มหารือรับมือ

ฟุ่บ ฟุ่บ ~

ทันใดนั้น ผู้แข็งแกร่งฝั่งจ้าวเฟิงบุกออกไปทั้งหมดทันที เป้าหมายคือปฐมเทพผู้หนึ่งของฝ่ายตรงข้าม

“ฝ่ามือครองสวรรค์!”

“กระบี่มังกรแหวกว่าย!”

“คลื่นมังกรศักดิ์สิทธิ์!”

การโจมตีมากมายมหาศาลบดขยี้ไปยังคนผู้หนึ่งในเวลาเดียวกัน

“ช่วยข้าด้วย…”

ปฐมเทพคนนั้นตกใจจนสั่นเทิ้มไปทั้งตัว

“บัดซบ!”

คนของฝั่งแดนศักดิ์สิทธิ์มิติคิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะทำเช่นนี้ คิดจะช่วยปฐมเทพคนนั้นสกัดกั้นก็ไม่ทันกาลเสียแล้ว

ครืน ตูม บึ้ม!

ปฐมเทพถูกโจมตีสังหารทันที จำนวนคนลดลงไปอีกหนึ่ง

“ฆ่ามัน!” สมาชิกฝั่งแดนศักดิ์สิทธิ์มิติจู่โจมกลับทันที

“จัดการชายวัยกลางคนที่สวมชุดสีเขียวผู้นั้น!”

สมาชิกฝั่งจ้าวเฟิงเห็นพ้องต้องกัน โจมตีไปยังคนหนึ่งในฝั่งแดนศักดิ์สิทธิ์มิติอีกครั้ง

ครืน บึ้ม!

ผ่านการต่อสู้อย่างดุเดือดมารอบหนึ่ง สถานการณ์การรบยืดเยื้อต่อไป

ตอนนี้ฝั่งแดนศักดิ์สิทธิ์มิติเหลือเจ็ดคน ฝั่งจ้าวเฟิงเหลือสิบคน!

บนกระดานหิน คนของทั้งสองฝั่งประจันหน้ากันอยู่ไกลๆ ไม่ลงมือชั่วคราว

ความคิดของจ้าวเฟิงขยับเล็กน้อยก่อนเข้าไปในมิติเนตรเทพเจ้า หลังจากศึกษาสังเกตภาพฉาย ‘ฝ่ามือครองสวรรค์’ ชั่วขณะหนึ่ง ความคิดก็กลับเข้ามาในร่าง เข้าใจในเสวียนอ้าวมิติ

“เสวียนอ้าวเวลา!”

จ้าวเฟิงเหมือนจะสัมผัสอะไรได้ แต่ก็เหมือนกับไม่เข้าใจอะไรเลย

ในยามนี้ เสวียนอ้าวเวลาของจ้าวเฟิงขาดเพียงทะลวงชั้นบางๆ ชั้นสุดท้ายเท่านั้น

“ให้เวลาพวกเจ้าอีกหนึ่งก้านธูป เมื่อถึงเวลา ข้าจะใช้จำนวนสังหารจัดอันดับ คัดสิบคนแรก!”

จู่ๆ ผู้อาวุโสที่คลุมชุดคลุมมิติในอากาศก็ยิ้มพูดขึ้น

คำพูดนี้ของผู้อาวุโสเพียงออกมา คนสิบเจ็ดคนที่กำลังนั่งพักรักษาบาดแผลอย่างสงบ จิตใจก็สั่นสะท้านทันใด

“ทำไมไม่บอกให้เร็วกว่านี้!” มีคนเอ่ยโทษ

การสังหารปฐมเทพหรือเทพแท้จริงคนหนึ่ง โดยพื้นฐานแล้วต้องร่วมมือกันหลายคนจึงจะสามารถทำได้ เป็นใครที่สังหารคู่มือได้ ทุกคนล้วนไม่ทันได้สังเกต

กระทั่งว่าคนที่พลังแข็งแกร่งบางคน ไม่ได้สังหารคนไปมากน้อยเท่าใด ส่วนคนที่พลังค่อนข้างอ่อนแอกลับโชคดี ชิงลงมือกระบวนท่าสุดท้ายได้

ฟู่! ทันใดนั้น คนยี่สิบคนบนกระดานหินยืนขึ้นพร้อมกัน

ไม่ว่าใครก็ไม่แน่ใจว่าตนเองสังหารคนไปเท่าใด แต่หากอยากเข้ารอบได้สำเร็จ จะต้องแน่ใจว่าสังหารได้สักคนสองคน

ครืน ตูม บึ้ม! ทุกคนถูกบีบบังคับ เริ่มไล่สังหารอีกครั้ง

เวลาเพียงแค่หนึ่งก้านธูป หากสุดท้ายแล้วจำนวนคนทั้งหมดเกินสิบคน ก็จะใช้จำนวนคนที่สังหารไปได้ชิงสิบอันดับแรก

“ข้าไม่เอาด้วยแล้ว!”

ปฐมเทพขั้นสามคนหนึ่งออกไปจากเขตพื้นที่กระดานหินทันที กายหายไปจากมิติแห่งนี้

พลังของเทพแท้จริงขั้นสามคนนี้แข็งแกร่งมาก แต่เขาไม่คิดว่าตนเองจะสามารถชิง ‘ชุดคลุมมิติ’ มาได้

“ตายไปซะ!”

บางคนสำแดงไม้ตาย

ครืน บึ้ม!

ขณะนี้ คนที่เหลือฝั่งแดนศักดิ์สิทธิ์มิติล้วนเป็นผู้แข็งแกร่ง วิชาประเภทมิติที่น่าหวาดหวั่นกวาดเหนือเก็บใต้

ในหมู่แดนศักดิ์สิทธิ์มิติ กำลังรบที่เทพแท้จริงขั้นสี่และปฐมเทพคงหยวนสำแดงออกมาแข็งแกร่งที่สุด

“ฝ่ามือครองสวรรค์!”

จ้าวเฟิงยังคงฝึกฝนเคล็ดฝ่ามือนี้

“เอ๋ ในฝ่ามือของคนผู้นี้แฝงไว้ด้วยเสวียนอ้าวเวลาส่วนหนึ่งด้วย!”

ผู้แข็งแกร่งแดนศักดิ์สิทธิ์มิติสังเกตการโจมตีของจ้าวเฟิงได้

“เสวียนอ้าวมิติขอบเขตขั้นที่สอง เสวียนอ้าวเวลาใกล้จะถึงขั้นที่หนึ่ง!”

สายตาของปฐมเทพคงหยวนจ้องไปยังร่างของจ้าวเฟิง

ยามนี้ ปฐมเทพคงหยวนอิจฉาจ้าวเฟิงอยู่บ้าง ทั้งที่ไม่มีเนตรมิติ แต่เสวียนอ้าวก็ถึงขอบเขตขั้นที่สอง เสวียนอ้าวเวลาก็ใกล้จะเป็นรูปร่าง

เสวียนอ้าวมิติของปฐมเทพคงหยวนถึงขั้นที่สี่ แต่เสวียนอ้าวเวลาก็เพิ่งจะเป็นขั้นที่หนึ่งเท่านั้น

“ฆ่าคนผู้นี้!”

ปฐมเทพคงหยวนพลันส่งกระแสจิตให้กับทุกคนของแดนศักดิ์สิทธิ์มิติ

“ได้ ฆ่ามัน!” เทพแท้จริงขั้นสี่พยักหน้า

ตามหลักแล้ว ข้างกายจ้าวเฟิงมีผู้แข็งแกร่งสองคนคอยปกป้องอยู่ตลอด การกระทำและการตัดสินใจของพวกเขาช่างไม่ชาญฉลาด เป็นไปได้มากว่าอาจจะมีช่องโหว่ให้อีกฝ่ายโจมตีกลับเอาได้

แต่พรสวรรค์ของจ้าวเฟิง ทุกคนล้วนเห็นอยู่กับตา

ด้วยพรสวรรค์ของปฐมเทพคงหยวน เขายังค่อนข้างอิจฉาจ้าวเฟิง แล้วนับประสาอะไรกับคนอื่นๆ ในแดนศักดิ์สิทธิ์มิติกัน

“สังหาร!”

ทันใดนั้น ผู้แข็งแกร่งทั้งหมดของแดนศักดิ์สิทธิ์มิติ ร่างกายกะพริบวูบไหว ประชิดไปยังตำแหน่งที่จ้าวเฟิงอยู่

“คมมีดแหวกมิติ!”

“ตรวนฟ้าทมิฬ!”

เคล็ดวิชาประเภทมิติมืดฟ้ามัวดินโจมตีไปยังจ้าวเฟิง

“ไม่ดีแล้ว เสี่ยวเฮย รีบใช้พลังทำลายล้างดั้งเดิมเร็ว!”

สีหน้าของจ้าวเฟิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาคิดไม่ถึงว่าตัวเองจะกลายเป็นเป้าหมายของแดนศักดิ์สิทธิ์มิติทุกคน

วู้ม วู้ม! ร่างของมังกรวารีล้างโลกาพลันแผ่กระจายพลังทำลายล้างบรรพกาล แสงเทพเพลิงทมิฬนับไม่ถ้วนล้นทะลักออกมาอย่างบ้าคลั่ง

ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ!

เสี่ยวหลิงรีบสาดตาข่ายเพลิง ม้วนออกไปข้างหน้า

แต่เคล็ดวิชาประเภทมิติแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง ทำลายการโจมตีของนางในชั่วพริบตา

ฉึก! เสี่ยวหลิงได้รับเศษเสี้ยวคลื่นการโจมตีที่เหลือ ถอยหลังไปหลายก้าว กระอักเลือดสดออกมา

ครืน บึ้ม!

อานุภาพเคล็ดวิชาที่เหลือปะทะบนร่างของมังกรวารีล้างโลกาทั้งหมด

มังกรวารีล้างโลการักษาร่างมนุษย์เอาไว้ แสงเทพเพลิงทมิฬทั่วร่างพวยพุ่งไม่ดับมอด ร่างของเขาถูกทำร้ายจนแหลกลาญ แต่ก็สมานตัวทันที

แต่เสี้ยววินาทีนั้น มังกรวารีล้างโลกาก็ใช้พลังทำลายล้างดั้งเดิมหมดไปมหาศาล

“เป็นไปได้ยังไง? พลังทำลายล้างดั้งเดิม สภาวะกายอมตะ คนคนนี้เป็นเผ่าพันธุ์ใดกัน?”

ผู้แข็งแกร่งฝั่งแดนศักดิ์สิทธิ์มิติตื่นตะลึงเป็นอย่างยิ่ง

แต่พวกเขาก็ทำได้เพียงสัมผัสถึงกลิ่นอายสายเลือดที่น่าหวาดหวั่นจากร่างของมังกรวารีล้างโลกาเท่านั้น เดาไม่ออกว่าเขาเป็นเผ่าพันธุ์ใดกันแน่

“ฆ่า!” ผู้แข็งแกร่งฝั่งจ้าวเฟิงไม่สนใจเขาแต่อย่างใด ถือโอกาสบุกไปหาอีกฝ่าย

“คมมิติ!” ปฐมเทพคงหยวนโคจรเนตรมิติ พลังที่สั่งสมมาช่วงหนึ่งก่อเป็นคมมีดมายาสีเงินทะลวงไปทั่วทุกทิศ

วู้ม วู้ม!

เสวียนอ้าวมิติที่น่าพรั่นพรึงรวมกับเสวียนอ้าวเวลาถึงขีดสุด ทำเอาคนทั้งหลายรอบๆ ใจเต้นอย่างบ้าคลั่ง

พรึ่บ! คมมายาสีเงินที่ทะลวงไปทั่วทุกทิศทางผสานเข้าไปในท้องฟ้าทันที เสี้ยวขณะต่อมาก็มาปรากฏอยู่เบื้องหน้ามังกรวารีล้างโลกา

จ้าวเฟิงและมังกรวารีล้างโลการู้สึกว่าความคิดและการเคลื่อนไหวของตนล้วนเนิบช้า สรรพสิ่งรอบกายช้าลง ยกเว้นการโจมตีอันถึงแก่ความตายเบื้องหน้านี้

“นายท่าน ท่านติดค้างทรัพยากรก้อนโตกับข้า!”

มังกรวารีล้างโลกากระตุ้นพลังทำลายล้างดังเดิมต่อ เปลวเพลิงมหาศาลพันล้อมสองกรงเล็บ ก่อนโจมตีออกไปทันใด

ฉัวะ ฉึก! ต้านทานกันอยู่ชั่วขณะ คมสีเงินมายาก็ฟันมันออกเป็นสองท่อน

ฟิ้ว! คมมายาฟันไปยังจ้าวเฟิงต่อ

เคร้ง ตู้ม! จ้าวเฟิงยกตราเทพบรรพกาลที่เป็นโล่ขึ้น ผสานอัสนีเพลิงทำลายล้างมหาศาลเข้าไปแล้วทำการสกัดกั้น

“เสวียนอ้าวเวลา!”

จ้าวเฟิงผสานพลังเสวียนอ้าวเข้าไปในอัสนีเพลิงทำลายล้าง แผ่กระจายไปรอบด้าน

ชั่วเวลานั้น เสวียนอ้าวเวลาที่อยู่ในกระบวนท่าโจมตีของปฐมเทพคงหยวนถูกจ้าวเฟิงสลายไป พลังที่เหลือจากกระบวนท่านี้ก็ถูกตราเทพบรรพกาลสกัดกั้นเอาไว้เช่นกัน

“เสวียนอ้าวเวลาขั้นที่หนึ่ง!”

ใจของปฐมเทพคงหยวนสั่นสะท้านอย่างรุนแรง

ในเสี้ยวขณะที่จ้าวเฟิงอยู่ในวิกฤตอันตราย เสวียนอ้าวเวลาก็ทะลวงถึงขั้นที่หนึ่ง

“สังหาร!” ผู้แข็งแกร่งแดนศักดิ์สิทธิ์มิติสามคนพุ่งตรงมายังจ้าวเฟิง

“พวกเจ้าสมควรตาย!”

สีหน้าของจ้าวเฟิงเยียบเย็น ตาซ้ายทะลักเจตจำนงดวงตาที่น่าหวั่นกลัวออกมา

“คมมิติ!”

พรึ่บ! ดวงตาซ้ายของจ้าวเฟิงพลันแผ่คมมายาที่ราวกับปีกสีเงินออกมาสายหนึ่ง พลังเสวียนอ้าวมิติที่ลึกล้ำ ทำเอาผู้แข็งแกร่งทั้งสามคนขนลุกชัน

“เสวียนอ้าวมิติขั้นที่สี่ และยังมีเคล็ดวิชาเนตรมิติของข้า!”

ปฐมเทพคงหยวนตื่นตกใจยิ่ง ยืนอึ้งตะลึงอยู่ที่เดิม

กระบวนท่าที่เขาใช้เมื่อครู่ผ่านการรวบรวมพลังมาช่วงระยะหนึ่ง แต่จ้าวเฟิงกลับปลดปล่อยการโจมตีที่เหมือนกับพลังของเขาเมื่อครู่ทุกอย่างอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

ฉัวะ ฉึก!

คมมายาสีเงินดุจปีกมหึมาปรากฏขึ้นเบื้องหน้าคนทั้งสาม ฟันพวกเขาขาดออกเป็นสองท่อน

ฟิ้ว! คมมายาแล่นผ่านไปยังเบื้องหลังต่อ ในการต่อสู้ที่อลหม่าน เทพแท้จริงที่ได้รับบาดเจ็บคนหนึ่งถูกกระบวนท่านี้สังหารลงทันทีอย่างไม่ทันตั้งตัว

เคล็ดวิชามิติที่เหมือนกับปฐมเทพคงหยวน แต่กระบวนท่านี้ของจ้าวเฟิงสังหารคนถึงสี่คน!

“ดวงตาสีทองนั่น หรือว่า?”

ปฐมเทพคงหยวนมองตรงไปยังจ้าวเฟิง หยุดอยู่ที่ดวงตาสีทองล้ำลึกดุจอำพัน ราวกับว่านึกอะไรขึ้นมาได้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version