Skip to content

King of Gods 1206

King Of Gods

บทที่ 1206 ปิดมิติลับ

ความคิดดำดิ่งลึกเข้าไปในชุดคลุมมิติ จ้าวเฟิงพบว่ามิติแห่งนี้ถูกตนควบคุมโดยสมบูรณ์แบบแล้ว

จ้าวเฟิงคิดอยากจะจากไปเมื่อใดก็ได้ และก็สามารถนำใครเข้ามาก็ได้เช่นกัน

นอกจากนั้น มิติแห่งนี้อาศัยพลังของมิติเปิดทาง รอให้จ้าวเฟิงมีพลังมากเพียงพอ ยังสามารถเปลี่ยนแปลงได้

นอกจากนี้แล้ว ยามจ้าวเฟิงสวมชุดคลุมมิติยังสามารถเพิ่มพลังอื่นๆ ได้ด้วย

จ้าวเฟิงสวมชุดคลุมยาวสีเงินหม่น ยืนขึ้นทันที

“ฝ่ามือครองสวรรค์!” เขาโคจรเสวียนอ้าวมิติผสานเข้าไปในฝ่ามือทั้งสอง

ครืน! ครืน!

เงาฝ่ามือครองสวรรค์หลายสายพร้อมด้วยพลังยิ่งใหญ่มหาศาลเลือนหายเข้าไปในท้องฟ้า แล้วก็ปรากฏขึ้นมาอีกทันที

สถานการณ์ที่น่าหวาดหวั่นนั้น ราวกับทำให้ทั่วทั้งท้องฟ้าสั่นไหว

“เสวียนอ้าวมิติเพิ่มถึงขอบเขตขั้นที่สามทันที เสวียนอ้าวเวลาเพิ่มขึ้นค่อนข้างน้อย!”

จ้าวเฟิงหยุดลง และทำการสรุปออกมา

ชุดคลุมมิติตัวนี้ทำให้เสวียนอ้าวมิติของเขาเพิ่มขึ้นหนึ่งขั้น เสวียนอ้าวเวลาก็เพิ่มขึ้นไม่น้อย

หรือก็คือ หากจ้าวเฟิงสวมชุดคลุมตัวนี้แล้วสำแดงเคล็ดวิชาประเภทมิติ พลังจะเพิ่มขึ้นอย่างน้อยกว่าครึ่งขั้น

“ลองอันนี้ดู!”

จ้าวเฟิงยิ้มมีเลศนัย โคจรเสวียนอ้าวมิติส่งเข้าไปในชุดคลุม

ขวับ! ร่างของจ้าวเฟิงหายไปในเงามิติเลือนรางทันที

ขวับ! ไม่ไกลนัก ร่างของเขาพลันปรากฏขึ้น

ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!

จ้าวเฟิงขยับวูบไหวไปมาในท้องฟ้า ร่างล่องลอยไม่อาจจับต้องได้ ราวกับว่าสามารถปรากฏขึ้นที่ใดก็ได้

“ไม่เลว!” จ้าวเฟิงเผยสีหน้ายินดี

ประกายมิติ เป็นพลังชนิดหนึ่งที่ชุดคลุมมิติเพิ่มให้กับจ้าวเฟิง ในขอบเขตพื้นที่ระดับหนึ่ง จ้าวเฟิงสามารถทะลุผ่านได้ตามใจชอบ

ถึงจะพูดว่าพลังโจมตีของเทพแท้จริงส่วนมากน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งมีวิชาพุ่งเป้าที่มิติ แต่ประกายมิติที่เป็นวิธีการจู่โจมอย่างฉับพลันก็ไม่เลวนัก

นอกจากนั้น ในชุดคลุมมิติยังจดบันทึกกลวิชาประเภทมิติไว้มากมาย สามารถให้จ้าวเฟิงเลือกสรรศึกษาได้

“เรียนเคลื่อนย้ายในพริบตาให้ได้ก่อน!”

จ้าวเฟิงวางแผนเรียบร้อย

เสวียนอ้าวมิติของเขาถึงขอบเขตขั้นที่สอง ศึกษา ‘เคลื่อนย้ายชั่วพริบตา’ คงใช้เวลาไม่มากนัก อีกทั้งชุดคลุมมิติก็เพิ่มประสิทธิภาพให้เคลื่อนย้ายชั่วพริบตา สามารถเพิ่มระยะหรือไม่ก็ลดเวลาในการเคลื่อนย้าย

“ไม่รู้ว่าชุดคลุมมิติจะเพิ่มพลังให้วิชาดวงตามิติของเนตรเทพเจ้าหรือไม่!”

ดวงตาของจ้าวเฟิงส่องประกายขึ้นโดยพลัน

เคลื่อนย้ายกลางอากาศและเนตรพิฆาตของเนตรเทพเจ้า ในระดับหนึ่งสามารถนับเป็นเคล็ดวิชาประเภทมิติได้

หากชุดคลุมมิติสามารถเพิ่มพลังให้กับวิชาดวงตาของตนเองแล้วละก็ จ้าวเฟิงยินดีจะเลือกวิชาดวงตามิติบางอย่างมาฝึกฝนมากกว่า

คิดถึงตรงนี้ จ้าวเฟิงก็โคจรเนตรเทพเจ้า ในขณะเดียวกันก็สื่อสารกับชุดคลุมมิติ

วู้ม! ตาซ้ายของจ้าวเฟิงปรากฏคลื่นวนสีทองอ่อนขึ้นชั้นหนึ่ง

วูบ! เวลาเดียวกัน ในมิติไม่ไกลนักปรากฏคลื่นวนพลังดวงตาขึ้น

แต่จ้าวเฟิงกลับตะลึงอยู่กับที่ ดวงตาทั้งสองราวกับไร้สติสัมปชัญญะ นิ่งไม่ขยับ

“ความรู้สึกแบบนี้…” จ้าวเฟิงเอ่ยอย่างตะลึง

เมื่อครู่นี้ ในยามที่จ้าวเฟิงใช้ชุดคลุมเพิ่มวิชาดวงตามิติของมิติเนตรเทพเจ้า เนตรเทพเจ้าของเขาก็เกิดการเปลี่ยนแปลง

จ้าวเฟิงรู้สึกว่า ระหว่างโครงสร้างมิติอันกว้างใหญ่กับเนตรเทพเจ้าเกิดความเชื่อมโยงบางอย่างขึ้น

เขารู้สึกว่าความคิดของตนค่อยๆ หลุดออกจากร่าง โดดออกจากมิติแห่งนี้ และไปปรากฏขึ้นในห้วงฝันบรรพกาล

ครืน ตูม บึ้ม!

โลกภายนอก ผู้แข็งแกร่งมากมายยังคงลงมืออย่างดุเดือดเพื่อของล้ำค่า

ส่วนผู้แข็งแกร่งแดนศักดิ์สิทธิ์มิติก็กางค่ายกลบางอย่างตรงจุดที่ชุดคลุมมิติหายไป ราวกับรอจ้าวเฟิงออกมา

จ้าวเฟิงไม่เห็นเปลวเพลิงสีม่วงและกระบี่ยาวสีเงินทั้งสองชิ้นนี้ ส่วนผู้แข็งแกร่งขั้นเทพโบราณก็จากไปแล้ว

“หืม?” เทพแท้จริงขั้นห้าแดนศักดิ์สิทธิ์มิติราวกับสัมผัสอะไรได้ คิ้วขมวดเล็กน้อย เงยหน้าจ้องไปยังท้องฟ้า

เมื่อครู่เขาพลันรู้สึกว่าบนฟ้าเหมือนมีอะไรจับตามองเขาอยู่

“ไม่มีอะไรเลย?”

เทพแท้จริงขั้นห้าคนนี้มีสีหน้าสงสัย หรือเมื่อครู่จะเป็นความรู้สึกไปเองของเขา?

ข้างในชุดคลุมมิติ

ดวงตาทั้งสองของจ้าวเฟิงฟื้นคืนชีวิตชีวากลับมา

“เมื่อครู่นั่นมันคืออะไรกัน? ความคิดของข้ากระโดดออกไปนอกมิติแห่งนี้ แล้วผสานเข้าไปในท้องฟ้าของห้วงฝันบรรพกาล!”

ใจของจ้าวเฟิงเต้นแรง รู้สึกค่อนข้างไม่อยากจะเชื่อ

เสี้ยวขณะนั้น ความคิดของเขาเหมือนหลอมรวมเข้าไปในท้องฟ้า สามารถสังเกตสภาพแวดล้อมของห้วงฝันบรรพกาล และไม่ใช่การสังเกตสถานการณ์ของโลกภายนอกด้วยเนตรสวรรค์

จ้าวเฟิงสงบจิตใจลง โคจรเนตรเทพเจ้าอีกครั้ง สื่อสารกับชุดคลุมมิติ

วู้ม วู้ม! ความคิดค่อยๆ แผ่กระจายออกไปตามโครงสร้างมิติที่เลือนราง อีกทั้งยังขยายออกไปไม่หยุด จนไปถึงในห้วงฝันบรรพกาล

เสี้ยวขณะนี้ จ้าวเฟิงผสานเป็นหนึ่งเดียวกับผืนฟ้าได้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น สังเกตทุกคนรอบด้าน ส่วนพวกเขากลับยากที่จะพบจ้าวเฟิง

ความคิดของจ้าวเฟิงขยับ

วู้ม ครืน ครืน! ฟ้าดินในห้วงฝันบรรพกาลพลันสั่นไหว

“เกิดอะไรขึ้น?” ผู้แข็งแกร่งมากมายที่กำลังต่อสู้อยู่ในใจสั่นสะท้าน

ด้วยอานุภาพจากการต่อสู้ของพวกเขา ไม่มีทางสั่นคลอนห้วงอากาศของพื้นที่ลับรกร้างโบราณได้

ห้วงอากาศที่นี่ เหตุใดจึงสั่นคลอนขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยเล่า?

ฟุ่บ! ความคิดของจ้าวเฟิงกลับเข้ามาในร่างอีกครั้ง

“ข้าเข้าใจแล้ว ใช้พลังเสริมของชุดคลุมมิติ พลังการควบคุมห้วงฝันบรรพกาลของข้าจะได้รับการยกระดับขึ้น!”

จ้าวเฟิงสูดหายใจลึก เอ่ยอย่างตื่นตะลึง

ในยามนี้ จ้าวเฟิงยิ่งมั่นใจว่าระหว่างห้วงฝันบรรพกาลและเนตรเทพเจ้ามีความเกี่ยวข้องกันแนบแน่นมาก หรือไม่ก็ห้วงฝันบรรพกาลคือมิติดั้งเดิมของเนตรเทพเจ้า

“พื้นที่ลับรกร้างโบราณที่หมื่นปีจะเปิดครั้งหนึ่งเปิดก่อนกำหนด เช่นนั้นก็ต้องมีวิธีทำให้จบลงก่อนกำหนดอย่างแน่นอน!”

และจ้าวเฟิงยังคิดมาตลอดว่า เหตุที่พื้นที่ลับเปิดก่อนกำหนดเป็นเพราะเขา เช่นนั้นหากคิดจะปิดมิติลับแห่งนี้ก่อนกำหนดเพื่อไล่คนเหล่านี้ออกไป ประเด็นสำคัญแน่นอนว่าอยู่ที่เขา อยู่ที่เนตรเทพเจ้า

คิดถึงตรงจุดนี้ ใบหน้าของจ้าวเฟิงก็คร่ำเคร่ง นั่งขัดสมาธิลงเริ่มศึกษา

“พลังดั้งเดิม!”

ความคิดของจ้าวเฟิงจมลงไปในลูกทรงกลมสีทองลึกลับ ค้นพบว่าตนเองสามารถเคลื่อนย้ายพลังกลุ่มนี้ได้

จ้าวเฟิงจำได้ว่าทุกครั้งที่ใช้เนตรเทพเจ้าลอกเลียนแบบ เนตรเทพเจ้าก็จะใช้พลังดั้งเดิมในระดับหนึ่งเช่นกัน

“ดูจากเนตรมรณะและสภาพของมัน พลังดั้งเดิมสามารถสร้างผลกระทบให้กับมิติดั้งเดิม!”

จ้าวเฟิงเหมือนจะจับประเด็นสำคัญได้

วู้ม! ในมิติเนตรเทพเจ้า ลูกทรงกลมสีทองลึกลับหมุนวนอีกครั้ง

และครั้งนี้ ในลูกสีทองทะลักพลังหลากสีที่ราวกับความฝัน

เสี้ยวขณะที่ดึงพลังกลุ่มนี้ออกมา จ้าวเฟิงรู้สึกว่าเนตรเทพเจ้าของตนเองอ่อนแอลงหลายส่วน

ฟู่!

เสี้ยวขณะที่ผสมปนเปไปกับพลังหลากสีกลุ่มนี้ ความคิดของจ้าวเฟิงค่อยๆ แผ่ขยายออกไปตามโครงสร้างมิติใหญ่โตนั่น

ฟุ่บ! ความคิดของจ้าวเฟิงผสานเข้าไปในอากาศและฟ้าดินของห้วงฝันบรรพกาลอีกครั้ง

แต่ครั้งนี้แตกต่างกับสองครั้งที่แล้วอย่างสิ้นเชิง

ตอนนี้ จ้าวเฟิงมองเห็นสภาพเหตุการณ์ทั้งหมดรอบด้านในหลายร้อยหลายหมื่นลี้ อีกทั้งเขายังสัมผัสได้ว่าทุกอย่างที่นี่ล้วนอยู่ในการควบคุมของเขา เขาสามารถนำสำนึกรู้ฟ้าดินมาใช้ได้

ขณะนี้ จ้าวเฟิงดุจดั่งผู้ครอบครองฟ้าดินแห่งนี้ เรื่องใดๆ ล้วนเป็นไปตามเจตจำนงของเขา!

‘ไสหัวออกไปจากที่นี่ให้หมด!’ จ้าวเฟิงคำรามอย่างเงียบๆ ในใจ

ในขณะเดียวกัน ความคิดของเขาที่ผสมผสานด้วยพลังเนตรเทพเจ้าดั้งเดิม แทรกตัวเข้าไปในโครงสร้างมิติขนาดใหญ่

วู้ม ครืน ครืน!

ทันใดนั้น ห้วงฝันบรรพกาลไหวครืน อากาศและฟ้าดินหมุนวนด้วยวิธีน่าอัศจรรย์อย่างหนึ่ง

กองกำลังกลุ่มหนึ่งที่กำลังเดินอยู่ไม่ไกลนักพลันหยุดลง

“เอ๋? ‘ป้ายมิติ’ มีปฏิกิริยาแล้ว? ”

ป้ายตราพิเศษแผ่นหนึ่งปรากฏขึ้นในมือของผู้อาวุโสคนหนึ่ง

ป้ายแผ่นนี้กะพริบไม่หยุด แผ่กระจายคลื่นเสวียนอ้าวมิติออกมา

ทุกคนที่เข้ามาในดินแดนดินแดนเทพรกร้างล้วนได้รับป้ายมิติที่ขั้วอำนาจทำขึ้นเป็นพิเศษ

มีเพียงแค่ใช้ ‘ป้ายมิติ’ เท่านั้น พวกเขาจึงจะสัมผัสได้ถึงอุโมงค์มิติของเผ่าพันธุ์หรือสำนักได้ จากนั้นจึงติดต่อแล้วกลับไปได้อย่างราบรื่น

“เป็นไปไม่ได้ แต่ก่อนพื้นที่ลับรกร้างโบราณไม่ได้เปิดเป็นเวลาครึ่งปีหรอกรึ?”

หญิงสาวคนหนึ่งถามขึ้นทันที

“ไม่แน่ใจ แต่ว่าประกายแสงบนป้ายมิติสว่างขึ้นเรื่อยๆ หากพวกเราไม่รีบกลับไป เป็นไปได้มากว่าจะถูกขังอยู่ที่นี่ ไม่อาจกลับไปได้!”

ผู้อาวุโสจ้องไปยังป้ายมิติในมือด้วยสีหน้าจริงจัง

“อะไร? เป็นอย่างนี้ไปได้อย่างไร?”

ในกองกำลัง ทุกคนหยิบป้ายมิติออกมา หลังจากยืนยันความจริงนี้ สีหน้าก็หม่นหมอง

ในขณะเดียวกันนี้เอง ทุกคนในพื้นที่ลับรกร้างโบราณล้วนสัมผัสได้ พื้นที่ลับครั้งนี้ใกล้จะจบสิ้นลงแล้ว พวกเขาต้องกลับไปยังดินแดนเทพรกร้างทันที

“เป็นอย่างนี้ไปได้อย่างไรกัน? เจ้าเด็กนั่นยังไม่ออกมาเลย!”

ผู้แข็งแกร่งของแดนศักดิ์สิทธิ์มิติทำหน้าสงสัย เจ็บใจเป็นอย่างยิ่ง

“ไปเถอะ ต้องออกไปจากที่นี่แล้ว!”

คนคนหนึ่งเอ่ยเตือน

“อืม!” ปฐมเทพคงหยวนรับคำ

จ้าวเฟิงหลบอยู่ในชุดคลุมมิติ พวกเขาก็ทำอะไรไม่ได้

และยามนี้เป็นไปได้มากว่าจ้าวเฟิงอาจกลับไปยังดินแดนเทพรกร้าง ไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว

“แดนศักดิ์สิทธิ์ผนึกเทพ!” ปฐมเทพคงหยวนพูดคำนี้ออกมาอย่างเงียบๆ

หลังจากกลับไปแล้ว เขาจะตรวจสอบเสียหน่อยว่าแดนศักดิ์สิทธิ์ผนึกเทพมีคนคนนี้อยู่หรือไม่

ในเมื่อเขตที่แดนศักดิ์สิทธิ์ผนึกเทพตั้งอยู่ไม่ได้เข้ามาในพื้นที่ลับรกร้างโบราณ โอกาสที่จ้าวเฟิงจะเป็นอัจฉริยะแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนั้นจึงไม่มากนัก

ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!

พร้อมกันนี้ ทุกที่ในห้วงฝันบรรพกาล เงาคนแต่ละร่างหายไปไม่ขาดสาย

ฟุ่บ! ความคิดของจ้าวเฟิงกลับเข้ามาในร่าง

“ทำได้จริงๆ ด้วย!” จ้าวเฟิงเหงื่อซึมชื้น เอ่ยอย่างลิงโลด

คิดไม่ถึงเลยว่าเมื่อได้ชุดคลุมมิติมาแล้ว จ้าวเฟิงจะค้นพบวิธีนี้ได้โดยบังเอิญ และบังคับให้คนในพื้นที่ลับรกร้างโบราณออกไปจากที่นี่

พื้นที่ลับรกร้างโบราณเปิดก่อนเวลา ก็จบลงก่อนเวลาเช่นกัน!

แต่ยามนี้ เนตรเทพเจ้าของจ้าวเฟิงอ่อนล้าเป็นอย่างยิ่ง จิตใจและความคิดของเขาก็เหน็ดเหนื่อยมาก อยากจะล้มตัวลงนอนเสียเดี๋ยวนี้

แต่ว่าจ้าวเฟิงก็ทนเอาไว้

“ไป ออกไปจากที่นี่!”

จ้าวเฟิงพูดกับมังกรวารีล้างโลกาและเสี่ยวหลิง

“นายท่าน คนของแดนศักดิ์สิทธิ์มิติพวกนั้นอาจจะยังอยู่ข้างนอกก็เป็นได้!”

มังกรวารีล้างโลกาเอ่ยเตือน

แต่จ้าวเฟิงนำมังกรวารล้างโลกาและเสี่ยวหลิงออกไปจากมิติของชุดคลุมมิติแล้ว

“เอ๋? ไม่มีคน?”

มังกรวารีล้างโลกามองประเมินไปรอบๆ ด้วยสายตาตื่นตะลึง พบว่าว่างเปล่าไร้ซึ่งผู้คน

สามสี่วันก่อนหน้านี้ ในยามที่เขาออกจากชุดคลุมมิติมา ที่นี่ยังมีสงครามใหญ่อยู่เลย แต่ตอนนี้กลับไม่มีคนแม้แต่คนเดียว

“เสี่ยวหลิง เจ้าก็ควรกลับไปได้แล้ว!”

จ้าวเฟิงพูดกับเสี่ยวหลิง

“อืม!” ดวงตาทั้งสองข้างของเสี่ยวหลิงชะงักไป จากนั้นพยักหน้าให้

ยามที่นางต้องกลับรังหงส์ ถึงพบว่าช่วงที่ออกจากรังหงส์มาติดตามจ้าวเฟิงนี้งดงามเป็นอย่างยิ่ง ไม่เลวเลยทีเดียว

ครืน ฟู่ ฟู่!

ท่ามกลางเปลวเพลิงสีม่วงฟ้า ร่างอรชรของเสี่ยวหลิงแปลงเป็นยูงหางหงส์งดงามตัวหนึ่งแล้วจากไปทันที

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version