Skip to content

King of Gods 1208

King Of Gods

บทที่ 1208 บดขยี้อย่างแข็งแกร่ง

“จ้าวเฟิง ในที่สุดเจ้าก็ออกมา!”

เทพแท้จริงกุ่ยซาตะโกนขึ้นโดยพลัน พลังเทพศาสตร์ซากศพพวยพุ่งออก

ความแค้นและความกดดันที่สะสมในใจมาสี่เดือนของเขาระเบิดออกมาทันใด

“คือคนคนนี้งั้นรึ?”

เทพแท้จริงบางคนที่ไม่เคยเห็นจ้าวเฟิง ใบหน้าฉายแววสงสัย

เป็นเพียงแค่ปฐมเทพทั่วไปคนหนึ่ง แต่กลับทำให้เทพแท้จริงกุ่ยซาเรียกเทพแท้จริงทั้งหมดของเกาะเทียนอวี่มา อีกทั้งกระทั่งเจ้าเกาะเทียนอวี่ก็ยังมาเฝ้าที่นี่ด้วยตัวเอง!

นี่ทำให้พวกเขาสงสัยในตัวจ้าวเฟิงคนนี้เป็นอย่างมาก

“จ้าวเฟิง ทำไมเจ้าจึงออกมาเล่า!”

สีหน้าเทพแท้จริงเผ่าแพะเพลิงทองร้อนรน

ที่นี่มีผู้แข็งแกร่งขั้นเทพแท้จริงเกือบยี่สิบคน รวมทั้งกุ่ยซาเทพแท้จริงขั้นสาม และเจ้าเกาะเทียนอวี่เทพแท้จริงขั้นสี่

ต่อให้ศักยภาพและพรสวรรค์ของจ้าวเฟิงแข็งแกร่งเพียงใด ผ่านไปแค่สี่เดือน เขาจะเป็นคู่มือให้กับคนเหล่านี้ไปได้อย่างไร ท่าทางแค่เพียงเทพแท้จริงกุ่ยซาลงมือก็สามารถจับจ้าวเฟิงได้แล้ว

“จ้าวเฟิง?”

ดวงตาเย็นชาของเจ้าเกาะเทียนอวี่ประเมินชายหนุ่มผมทองเบื้องหน้าคนนี้

สามารถสังหารเทพแท้จริงกุ่ยลี่ได้ นี่ก็พิสูจน์ถึงพรสวรรค์ของอีกฝ่ายแล้วว่าสูงยิ่งกว่าซีเฟิง

อีกทั้งในยามนี้ จู่ๆ อีกฝ่ายปรากฏตัวขึ้นคนเดียว สีหน้าสงบนิ่ง ทำให้เจ้าเกาะเทียนอวี่รู้สึกแปลกๆ

ทันใดนั้น สีหน้าของเจ้าเกาะเทียนอวี่เปลี่ยนไป

เขาพบว่าจ้าวเฟิงลอยอยู่กลางอากาศ!

ต้องรู้ว่า พวกเขาวาง ‘ค่ายกลผนึกนภา’ ไว้ที่นี่ ห้ามไม่ให้โบยบิน ห้ามไม่ให้ใช้พลังมิติ

แต่จ้าวเฟิงตอนนี้กลับลอยอยู่ในค่ายกลผนึกนภาของพวกเขา

นี่มันเป็นไปได้อย่างไรกัน?

นอกจากเจ้าเกาะเทียนอวี่ ผู้ที่ค้นพบตามมาคือปรมาจารย์ด้านค่ายกลที่กางค่ายกลนี้

“จะต้องเป็นของล้ำค่าชิ้นนี้แน่!”

สายตาของเจ้าเกาะเทียนอวี่หยุดอยู่ที่ชุดคลุมยาวสีเงินหม่นบนร่างจ้าวเฟิง

เขาสามารถสัมผัสได้ว่ารอบๆ ชุดคลุมยาวตัวนี้มีเสวียนอ้าวมิติที่ล้ำลึก ขจัดพลังของค่ายกลผนึกนภาเอาไว้ด้านนอก

ของล้ำค่าชิ้นนี้ อย่างน้อยๆ คงเป็นอาวุธเทพชั้นกลาง จะต้องเอามาให้ได้!

“ของวิเศษ!”

เทพแท้จริงคนอื่นก็ค้นพบชุดคลุมสีเงินหม่นบนร่างของจ้าวเฟิงเช่นกัน

ของล้ำค่าสามารถเพิกเฉยต่อค่ายกลผนึกนภาได้ จะต้องเป็นอาวุธเทพประเภทมิติแน่นอน

ครืน ฟิ้ว ฟิ้ว!

ทันใดนั้น พลังเจตจำนงของเทพแท้จริงสิบกว่ากลุ่มบีบเข้ามายังร่างของจ้าวเฟิง

พลังเหล่านั้นพุ่งผ่านท้องฟ้า ชั้นวิญญาณสั่นสะเทือน เหนี่ยวนำพลังเสวียนอ้าวฟ้าดิน มากพอที่จะทำลายขั้วอำนาจสี่ดาวได้ในชั่วพริบตา

ครืน ตูม ตูม!

ลมเมฆรอบกายหมุนตลบ ก้อนหินภูเขารอบบริเวณถล่มทลายทันทีราวกับวันสิ้นโลก

“หึ!” จ้าวเฟิงยืนนิ่งอยู่กับที่ ไม่ขยับเขยื้อน

พลังวิญญาณของเขานิ่งสงบดุจมหาสมุทรลึก กายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ถึงขั้นที่เจ็ด เมินเฉยการโจมตีของคนต่ำกว่าเทพแท้จริงขั้นสองทั้งหมด

ลำพังแค่พลังเจตจำนงของเทพแท้จริงขั้นหนึ่งและขั้นสองเหล่านี้ จะสร้างผลกระทบอะไรให้เขาได้!

“นี่มัน…เป็นไปได้อย่างไรกัน!”

เทพแท้จริงทั้งหลายที่ลงมือหวาดกลัวจนหน้าซีด

ต่อให้พลังวิญญาณของจ้าวเฟิงถึงเทพแท้จริงขั้นสอง ก็ไม่ทีทางต้านทานการโจมตีจากเทพแท้จริงทั้งหลายที่นั่นได้

หรือว่าบนร่างของเขายังมีอาวุธเทพประเภทป้องกันวิญญาณ?

ดวงตาของคนทั้งหมดฉายแววละโมบ จับจ้องมายังจ้าวเฟิง

‘หรือว่าจ้าวเฟิงทะลวงถึงเทพแท้จริงแล้ว?’

เทพแท้จริงเจินหั่วสงสัยในใจ

กลิ่นอายพลังของจ้าวเฟิงมหาศาลลึกซึ้ง สำนึกรู้ล้ำลึก เทพแท้จริงเจินหั่วประเมินระดับพลังฝึกตนของเขาไม่ได้

อีกทั้งพรสวรรค์ของจ้าวเฟิง เทพแท้จริงเจินหั่วนั้นรู้ดี แค่เพียงเขาทะลวงขอบเขตเซียนสวรรค์ เป็นไปได้เป็นมากว่าจะได้ตำแหน่งเทพขั้นสองแล้ว

“หึ ท่าทางพลังของเจ้าเพิ่มขึ้นไม่น้อยเลย!”

เทพแท้จริงกุ่ยซาใบหน้าเย็นเยือก

หากพลังไม่แข็งแกร่งขึ้น จ้าวเฟิงก็คงไม่กล้าปรากฏตัวขึ้น

แต่ภายในเวลาสี่เดือน จ้าวเฟิงจะแข็งแกร่งขึ้นมากเท่าใดกันเชียว?

ต่อให้เขาทะลวงขอบเขตพลังของเทพแท้จริง ก็ไม่มีทางเป็นคู่มือของเทพแท้จริงทั้งหลายที่นี่ได้ อีกทั้งเจ้าเกาะเทียนอวี่พี่ใหญ่ของเขาก็อยู่ที่นี่ด้วย

“ฆ่ามัน!” เทพแท้จริงกุ่ยซาคำรามเสียงต่ำ

สายตาของเทพแท้จริงทั้งหมดที่นั่นจ้องไปยังจ้าวเฟิง

คนทั้งหมดล้วนมองออกถึงความไม่ธรรมดาของชุดคลุมยาวสีเงินหม่นบนร่างเขา อีกทั้งได้ยินมาว่าจ้าวเฟิงเคยนำอาวุธเทพระดับสูงมากออกมา หากใครสังหารเขาได้ก่อน ไม่แน่ว่าอาจจะได้ส่วนแบ่งของสะสมบางอย่างมาก็ได้

เวลานี้ ทุกคนกำลังคิดว่าจะเอาผลประโยชน์มาจากจ้าวเฟิงได้อย่างไร พวกเขาที่เป็นผู้แข็งแกร่งขั้นเทพแท้จริงกลับต้องเฝ้าอยู่ที่นี่สี่เดือน หากไม่ได้อะไรกลับไปก็เจ็บใจอยู่บ้าง

ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!

ผู้แข็งแกร่งเทพแท้จริงสิบกว่าคนพุ่งไปยังจ้าวเฟิง

พลังในฟ้าดินที่น่าหวาดหวั่นทำเอาทุกสิ่งรอบกายจ้าวเฟิงพังทลายลงชั่วพริบตา

ครืน ครืน ครืน!

อัสนี เพลิง วายุ และเหมันต์ พลังมหาศาลอันน่าสะพรึงบดขยี้ไปที่จ้าวเฟิง

จ้าวเฟิงกำลังจะถูกกลืนไปในการโจมตีของเทพแท้จริง

แต่ทันใดนั้น เงามิติเลือนรางชั้นหนึ่งปรากฏขึ้นรอบกายเขา

พรึ่บ! เสี้ยวขณะต่อมา ร่างของจ้าวเฟิงก็หายวับไป

“นี่มัน…เรื่องอะไรกัน?”

ฉากนี้ ทุกคนที่อยู่ที่นั่นเห็นกันหมด พากันร้องถามเซ็งแซ่

ด้วยประสบการณ์ของเทพแท้จริงขั้นหนึ่งจากเกาะเทียนอวี่ แน่นอนว่าย่อมมอง ‘ประกายมิติ’ ไม่ออก

“ระวัง!” เทพแท้จริงกุ่ยซาพลันสัมผัสถึงอะไรได้ ตะโกนขึ้นโดยพลัน

แต่คำเตือนของเขาสายเกินไป

ขวับ! ไม่รู้ว่าเมื่อใด จ้าวเฟิงปรากฏตัวขึ้นเบื้องหลังเทพแท้จริงขั้นหนึ่งคนหนึ่ง

วู้ม แซ่ด แซ่ด!

จ้าวเฟิงโคจรกายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ กระตุ้นเพลิงมารโลหิต ซัดฝ่ามือหนึ่งออกไปทันที

ครืน บึ้ม!

ร่างเทพแท้จริงขั้นหนึ่งถูกโจมตีจนเป็นรูใหญ่ เลือดสดไหลอาบไปทั้งตัว

ครืน ฟู่ ฟู่ ~

ในขณะเดียวกัน เพลิงอาทิตย์ร้อนระอุลุกไหม้ไปทั่วร่างเขาทันที

“อ๊าก…”

เสียงร้องอเนจอนาถดังอยู่ชั่วครู่ ดวงจิตและวิญญาณของเทพแท้จริงคนนี้แตกดับ!

เฮือก! ที่แห่งนั้นเงียบงันทันใด!

เทพแท้จริงทั้งหมดรอบกายจ้าวเฟิงตกตะลึงตาค้าง

โจมตีกระบวนท่าเดียวก็สังหารเทพแท้จริงขั้นหนึ่งลงได้ อีกฝ่ายไม่มีพลังต้านทานเลยแม้แต่น้อย!

คนทั้งหมดกายใจสั่นสะท้าน หลายคนที่อยู่ที่นั่นส่วนมากเป็นเทพแท้จริงขั้นหนึ่ง

หรือก็คือ จ้าวเฟิงสังหารพวกเขาได้ง่ายราวพลิกฝ่ามือ เพียงโจมตีกระบวนท่าเดียวเท่านั้น!

และถ้าสามารถสังหารเทพแท้จริงขั้นหนึ่งในกระบวนท่าเดียว จะสังหารเทพแท้จริงขั้นสองก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร!

เทพแท้จริงขั้นต่ำตรงนั้น ในใจเกิดความรู้สึกหวาดกลัวอย่างไร้รูปร่าง

“คนคนนี้…”

เจ้าเกาะเทียนอวี่แววตาคร่ำเคร่ง ท่าทางเคร่งขรึมเย็นชา

โจมตีกระบวนท่าเดียวสังหารเทพแท้จริงขั้นหนึ่ง เขาก็ทำได้เช่นกัน

แต่กลวิชาของจ้าวเฟิงเมื่อครู่ไม่ธรรมดา เห็นได้ชัดว่าต้องใช้เสวียนอ้าวมิติที่แข็งแกร่งจึงจะสำแดงออกมาได้

“บุกไปพร้อมกัน!” เจ้าเกาะเทียนอวี่ร้องเสียงเย็นเยียบ

ฟิ้ว! เทพแท้จริงกุ่ยซาโคจรพลังโลกมิติส่วนตัว โจมตีไปยังจ้าวเฟิง

ต่อให้จ้าวเฟิงสำแดงพลังที่ชวนพรั่นพรึงเช่นนี้ออกมา ก็ไม่มีทางสังหารเขาได้เด็ดขาด

ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!

เทพแท้จริงคนอื่นถูกบีบจนไร้หนทาง ทำได้เพียงแค่ร่วมมือกัน ผนึกกำลังกับเทพแท้จริงกุ่ยซา

ในเมื่อเจ้าเกาะเทียนอวี่คือเทพแท้จริงขั้นสี่ สังหารพวกเขาก็เหมือนกับขยี้มดปลวก คนทั้งหลายจึงไม่กล้าขัดความต้องการของเจ้าเกาะเทียนอวี่

อีกทั้งพวกเขามีมากขนาดนี้ ถ้าจับมือให้ความร่วมมือกัน ระมัดระวังรอบคอบ รวมกับเทพแท้จริงกุ่ยซา และเจ้าเกาะเทียนอวี่ ต้องสังหารจ้าวเฟิงในชั่วพริบตาได้อย่างแน่นอน

“พวกเจ้าช้าเกินไปแล้ว!”

จ้าวเฟิงส่ายหน้า

ฟุ่บ! เสวียนอ้าวมิติทะลักออก ร่างของจ้าวเฟิงหายวับไปอีกครั้ง

“ระวัง!”

เสี้ยวขณะที่จ้าวเฟิงหายตัวไป ทุกคนจิตใจตึงเครียด

เพราะเมื่อครู่เทพแท้จริงขั้นหนึ่งคนนั้นก็ถูกจ้าวเฟิงลอบโจมตีกะทันหัน โจมตีสังหารในคราเดียว

แต่ทว่า ต่อให้ทุกคนจะระมัดระวังขึ้นก็ยังคงไร้ประโยชน์

“อ๊าก…”

ในยามที่จ้าวเฟิงมาถึงข้างหลังเทพแท้จริงคนหนึ่ง เสียงร้องน่าอเนจอนาถดังขึ้นอีกครั้ง

เทพแท้จริงคนที่สองดับดิ้น!

ยังคงลงมือในชั่วพริบตา กระบวนท่าเดียวปลิดชีวิต!

“รนหาที่ตาย!”

เสียงเย็นชาลอยมา ร่างของเจ้าเกาะเทียนอวี่วูบไหวมาถึงข้างกายจ้าวเฟิง

เมื่อครู่เขาให้เทพแท้จริงกุ่ยซาและคนอื่นๆ ลงมือ ก็เพื่อบีบให้จ้าวเฟิงใช้ ‘ประกายมิติ’

เสี้ยวขณะที่จ้าวเฟิงปรากฏตัวขึ้น เจ้าเกาะเทียนอวี่ก็ลงมืออีกครั้ง จ้าวเฟิงไม่อาจหลบได้แน่

“ฝ่ามือเหมันต์ยะเยือก!”

พลังเย็นเยียบที่ฝ่ามือของเจ้าเกาะเทียนอวี่เข้มข้นเป็นที่สุด ดุจหมอกเทากลุ่มหนึ่ง

ครืน บึ้ม!

ฝ่ามือหนึ่งของเขาโจมตีออกไป เงาฝ่ามือน้ำแข็งลึกล้ำ แผ่กระจายกลิ่นอายเย็นเยือกที่กัดกร่อนทุกสรรพสิ่ง โจมตีไปยังจ้าวเฟิงด้วยความเร็วดุจสายฟ้า

“เจ้าเกาะลงมือแล้ว เจ้านี่ต้องตายอย่างแน่นอน!”

“สมกับที่เป็นเทพแท้จริงขั้นสี่ การโจมตีกระบวนท่านี้มากพอจะทำลายเผ่าพันธุ์ที่ข้าอยู่ได้ทันที!”

เทพแท้จริงขั้นหนึ่งและเทพแท้จริงขั้นสองที่นั่นเผยสีหน้าลิงโลด ตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง

ครืน! เงาฝ่ามือสีเทาหม่นใหญ่ยักษ์โจมตีไปบนร่างจ้าวเฟิง

วู้ม ขวับ ขวับ!

ชุดคลุมสีเงินหม่นบนร่างแผ่กระจายเงามิติเลือนรางอันลึกลับเกินหยั่งออกมาเป็นชั้นๆ

พลังทั้งหมดในเงาฝ่ามือราวกับถูกขับไล่ไปยังต่างมิติ พลังค่อยๆ ลดลงดุจก้อนหินจมลงสู่ทะเล

ครืน บึ้ม!

พลังฝ่ามือเหมันต์ยะเยือกลดลงถึงขีดจำกัด พอโจมตีไปถึงจ้าวเฟิงก็เป็นเพียงแค่เศษน้ำแข็งเท่านั้น

ส่วนจ้าวเฟิงยืนอยู่กับที่อย่างปลอดภัย เหมือนจะไม่มีบาดแผลอะไรเลย

“เจ้านั่นไม่เป็นอะไรงั้นรึ!”

“นี่เป็นไปได้อย่างไรกัน!”

ผู้แข็งแกร่งขั้นเทพแท้จริงคนอื่นเห็นภาพนี้ ใจก็เต้นรัวทันที ในหัวมีคลื่นยักษ์มหาศาลโหมซัดสาด

จ้าวเฟิงน่าจะยังเป็นปฐมเทพ แต่ปฐมเทพจะแข็งแกร่งเพียงนี้ได้อย่างไร? จะต้านทานการโจมตีของเจ้าเกาะเทียนอวี่ได้อย่างไรกัน?

“เป็นไปได้อย่างไร?”

สีหน้าของเจ้าเกาะเทียนอวี่ตกตะลึงเกินจะเปรียบ

ตัวเองเป็นเทพแท้จริงขั้นสี่ โจมตีสุดกำลัง แต่กลับสร้างบาดแผลให้จ้าวเฟิงไม่ได้เท่าใดเลย?

ต่อให้เป็นเทพแท้จริงขั้นสี่ ก็ทำไม่ได้ถึงจุดนี้กระมัง!

แน่นอน เจ้าเกาะเทียนอวี่ไม่คิดว่านี่เป็นเพราะพลังของจ้าวเฟิง จะต้องเป็นเพราะชุดคลุมสีเงินหม่นตัวนั้นบนร่างของเขาอย่างแน่นอน

ชุดคลุมตัวนี้ บางทีอาจจะเป็นขั้นเทพระดับสูง!

ฟุ่บ! ร่างของจ้าวเฟิงกะพริบหายไปอีกครั้ง

“แย่แล้ว คนคนนี้คิดใช้วิธีนี้สังหารเทพแท้จริงคนอื่นอีกแล้ว!”

สีหน้าของเจ้าเกาะเทียนอวี่ย่ำแย่

แม้กระทั่งค่ายกลผนึกนภายังไม่อาจสกัดกั้นจ้าวเฟิงได้ กลวิชาของเขาก็ย่อมไร้ประโยชน์

“หนีเร็ว คนผู้นี้แข็งแกร่งเกินไป โดยเฉพาะเคล็ดวิชาท่าร่าง!”

เห็นร่างจ้าวเฟิงหายไป เทพแท้จริงที่อยู่ที่นั่นลนลานทันที

ใครก็ไม่รู้ว่าเสี้ยวขณะต่อไป จ้าวเฟิงจะปรากฏอยู่ข้างหลังผู้ใด!

การกะพริบทุกครั้งของจ้าวเฟิง ราวกับบอกล่วงหน้าถึงความตายของเทพแท้จริงคนหนึ่ง

“หืม?”

เสี้ยวขณะนี้เอง เจ้าเกาะเทียนอวี่พลันพบว่าข้างหลังมีคลื่นมิติรางเลือนกลุ่มหนึ่งทะลักขึ้นมา!

ทำไมเขาจึงคิดไม่ถึงว่าจ้าวเฟิงจะลงมือกับตน!

“หึ เจ้ารนหาที่ตาย!”

เจ้าเกาะเทียนอวี่แค่นเสียงเย็น ก่อนเคลื่อนย้ายพลังเทพ

ฟุ่บ! ร่างของจ้าวเฟิงปรากฏขึ้นข้างหลังเจ้าเกาะเทียนอวี่ทันที

“ในเมื่ออวดดีเคลื่อนมาอยู่ข้างหลังข้า ก็ตายซะเถอะ!”

เจ้าเกาะเทียนอวี่ยิ้มเย็นชา

จ้าวเฟิงก็แค่เสวียนอ้าวมิติแข็งแกร่งเท่านั้น ถ้าความเร็วอยู่ในระดับสูงสักหน่อย ก็ทำให้เขาไม่อาจเข้าใกล้แล้ว

แต่ตอนนี้จ้าวเฟิงกลับมาอยู่ข้างๆ เจ้าเกาะเทียนอวี่เสียเอง

ต่อให้อาวุธเทพป้องกันของจ้าวเฟิงจะสูงส่งยิ่งนัก แต่ภายใต้การต่อสู้ประชิดตัว เจ้าเกาะเทียนอวี่ก็มั่นใจว่าจะสังหารจ้าวเฟิงได้อย่างแน่นอน

“ฮ่าๆ!” มุมปากจ้าวเฟิงยกขึ้นน้อยๆ ร่างถอยออกไป

ในขณะเดียวกัน ในตาซ้ายเขาก็ทะลักคลื่นพลังดวงตาที่น่าพรั่นพรึงออกมา

“เนตรเทพลอกแบบ ฝ่ามือเหมันต์ยะเยือก!”

ฝ่ามือเหมันต์ลึกล้ำพลันปรากฏขึ้น แผ่กระจายกลิ่นอายเย็นเยือกที่กัดกินทุกสิ่ง โจมตีบดขยี้ไปยังเจ้าเกาะเทียนอวี่

“เป็นไปได้อย่างไร?”

สีหน้าของเจ้าเกาะเทียนอวี่เปลี่ยนไปทันที โคจรวิชาป้องกันเป็นพัลวัน

ครืน บึ้ม!

ฝ่ามือเย็นเยือกใหญ่ยักษ์โจมตีโดนเจ้าเกาะเทียนอวี่

ครืน! ตึง! ตึง!

ร่างเจ้าเกาะเทียนอวี่ลอยถอยหลังไประยะหนึ่งจึงจะทรงตัวได้

ในยามนี้ ทั่วร่างเขามีหมอกเย็นเยือกชั้นหนึ่งก่อตัวขึ้น เลือดเย็นเยียบไหลออกจากมุมปาก ใบหน้าซีดขาวเย็นชา

ส่วนเทพแท้จริงที่เหลือเห็นภาพนี้ ร่างกายก็แข็งทื่ออยู่ที่เดิมทันที สีหน้าหวาดกลัว ขวัญหนีดีฝ่อ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version