บทที่ 1319 มาหาถึงที่
ในตอนที่เห็นคุนอวิ๋น จ้าวเฟิงอดคิดถึงคำสัญญากำหนดเวลาสามสิบปีของเขากับอีกฝ่ายตอนอยู่ที่ดินแดนทวีปไม่ได้
“ตอนนี้เลยมานานถึงสี่สิบปีแล้ว” จ้าวเฟิงอดทอดถอนใจไม่ได้
ถึงแม้สี่สิบปีสำหรับคนอื่นช่างแสนสั้นจนแทบจะเมินเฉยไปได้ แต่สำหรับจ้าวเฟิง สี่สิบปีกลับยาวนานเป็นอย่างยิ่ง
“คิดไม่ถึงเลยว่าพวกเขาทั้งสองคนจะอยู่ที่นี่!” จ้าวเฟิงรู้สึกว่าเรื่องใดๆ ในโลกล้วนยากคาดเดา
ที่ดินแดนทวีป คุนอวิ๋นและเทพแท้จริงพั่วเมี่ยเป็นคนที่เป็นปฏิปักษ์ต่อราชวงศ์
ตอนนี้ทั้งสองล้วนอยู่ที่เขามารทมิฬ แน่นอนว่าไม่มีทางอยู่ร่วมกันอย่างเป็นมิตรแน่นอน อีกทั้งไม่ว่าจะเป็นพลังหรือฐานะ เทพแท้จริงพั่วอวิ๋นก็ล้ำหน้าคุนอวิ๋นไปมากนัก คิดอยากจะเล่นงานคุนอวิ๋นจนตายก็ง่ายราวพลิกฝ่ามือ ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าคุนอวิ๋นจะต้องอัดอั้นตันใจแทบตายอยู่แล้วแน่นอน
ถึงแม้จะพูดว่าตลอดมาระหว่างคุนอวิ๋นและจ้าวเฟิงมีเพียงการพึ่งพาประโยชน์กันเท่านั้น แต่ทั้งสองจะดีจะร้ายก็รู้จักกันมาหลายปี ไม่มีคุนอวิ๋นก็ไม่มีจ้าวเฟิงในตอนนี้ อีกทั้งจ้าวเฟิงก็ไม่ได้มีความรู้สึกดีๆ กับเทพแท้จริงพั่วอวิ๋นเลยแม้แต่น้อย กระทั่งเกลียดชังเป็นอย่างมากก็ว่าได้
ดังนั้นเรื่องนี้ จ้าวเฟิงต้องช่วยแน่
ครืน ตูม ตูม!
เรือรบเหล็กสีฟ้าขาวทะลุผ่านทะเลหมอกหนาสีดำ ไม่นานนักก็ไปถึงยังยอดเขาที่อยู่ใจกลางสุดท่ามกลางยอดเขาสีดำทั้งห้า
บนยอดเขา ผู้นำระดับสูงหลายคนของเขามารทมิฬมาถึงนานแล้ว
“เผ่าพันธุ์วิญญาณทุกท่านให้เกียรติมาเยือน หากเขามารทมิฬต้อนรับไม่ทั่วถึงก็โปรดอภัย…”
ผู้อาวุโสชุดดำรูปร่างสูงใหญ่คนหนึ่งรีบเดินมารับหน้าทันใด กลิ่นอายที่แข็งแกร่งทำให้จ้าวหุยรู้สึกกดดันและหายใจไม่ออก
“ผู้อาวุโสเถาเอ่ยเกินไปแล้ว”
ฝั่งเผ่าพันธุ์วิญญาณ สตรีผมเงินคนนั้นก้าวออกมา
จากนั้น ทุกคนของเผ่าพันธุ์วิญญาณก็ลงจากเรือรบ เข้าไปยังยอดเขาหลักแห่งนี้ภายใต้การต้อนรับจากผู้นำระดับสูงเขามารทมิฬ
“คนหนุ่มคนนี้คือ?”
ผู้อาวุโสเขามารทมิฬที่ใบหน้ามีริ้วลายสีขาวดำเหมือนหน้าผีมองจ้าวหุยอย่างแปลกใจและเหยียดหยาม
“เขาคือลูกศิษย์เผ่าพันธุ์วิญญาณที่ข้าถูกใจ ภารกิจครั้งนี้เลยถือโอกาสพาเขาออกมาเปิดหูเปิดตาหน่อย!”
เทพโบราณฝูหลิงเอ่ยปาก
เทพโบราณฝูหลิงคือเทพโบราณขั้นแปดของเผ่าพันธุ์วิญญาณ มาเขามารทมิฬแล้วหลายครั้ง ผู้อาวุโสที่นี่คุ้นเคยกับเขาเป็นอย่างดี
“เอ๋?”
คนเขามารทมิฬหลายคนที่เหลือมองประเมินจ้าวหุย แต่ก็ไม่เจออะไรพิเศษ จึงไม่ได้สนใจอีก ในเมื่อเป็นเพียงแค่เทพแท้จริงขั้นสาม ต่อให้จะพิเศษอย่างไรก็ไม่อยู่ในสายตาของพวกเขา อีกทั้งจ้าวหุยก็ไม่ได้มีอะไรที่พิเศษ
ระหว่างทาง จ้าวเฟิงค้นพบว่าในผู้อาวุโสทั้งสามของเขามารทมิฬ ผู้อาวุโสเถาที่เป็นหัวหน้ามีท่าทีเป็นมิตร กระตือรือร้นเป็นอย่างมาก ส่วนผู้อาวุโสหน้าผีและผู้อาวุโสอีกคนหนึ่งกลับเย็นชากับเผ่าพันธุ์วิญญาณนัก
ผู้นำระดับสูงของขั้วอำนาจห้าดาวทั้งสองพูดคุยสนทนาจนไปถึงโถงหลัก
“ธุระของผู้อาวุโสทุกท่าน ผู้น้อยไม่ขอเข้าร่วมแล้ว!”
ยังไม่ทันเข้าไปในโถงหลัก จ้าวหุยก็ขอตัวลา คำพูดของจ้าวหุยทำให้ผู้นำระดับสูงของทั้งสองฝั่งรู้สึกว่าเขารู้กาลเทศะมาก
หลังจากขอตัวลาจากผู้นำระดับสูงทั้งสองฝั่งแล้ว จ้าวเฟิงก็เตรียมมุ่งไปยังเขาสีดำลูกนั้นที่คุนอวิ๋นอยู่
จากไปไม่นาน จ้าวเฟิงก็หยิบเอาเหรียญทองแดงโบราณออกมา
“แสงดาวสว่างจ้ามาก!” จ้าวเฟิงมีหน้าตื่นตะลึง
แสงประกายที่สาดส่องออกมาจากเหรียญทองแดงโบราณในตอนนี้ เกือบทำให้เขาคิดว่าแมวขโมยน้อยซ่อนอยู่ที่นี่ไปแล้ว จากนั้นจ้าวเฟิงใช้เหรียญทองแดงสัมผัส จึงค่อยแน่ใจว่าไม่อยู่ที่นี่
“แต่ว่าก็ไม่ไกลแล้ว!” จ้าวเฟิงเผยสีหน้าลิงโลด เก็บเหรียญทองแดงลงไป
การไปรับแมวขโมยตัวน้อย จะบุ่มบ่ามลงมือไม่ได้ อย่างน้อยๆ จะต้องสืบข่าวให้แน่ชัด แล้วค่อยแฝงตัวเข้าไปอย่างระมัดระวัง
ฟิ้ว! จ้าวเฟิงในร่างจ้าวหุยบินไปในหมอกดำ ออกจากยอดเขาหลักไป
ในตอนที่ผ่านภูเขาลูกที่สองก็พบกับเทพแท้จริงพั่วอวิ๋นอย่างบังเอิญยิ่ง
ตอนนี้จ้าวเฟิงจะเปิดเผยฐานะง่ายๆ ไม่ได้ อีกทั้งเทพแท้จริงพั่วอวิ๋นคือลูกศิษย์เขามารทมิฬ จ้าวเฟิงคิดอยากจะจัดการเขาก็ต้องหาเหตุผลมาก่อน ดังนั้นเขาจึงเมินเทพแท้จริงพั่วอวิ๋นแล้วไปหาคุนอวิ๋นก่อน
“ทำไมข้าจึงไม่เคยเห็นเจ้ามาก่อน เจ้าไม่รู้รึว่าเขาลูกนี้มีเพียงแค่ลูกศิษย์สายในถึงจะเข้าไปได้?”
เทพแท้จริงเห็นจ้าวหุยไม่แม้แต่จะทักทาย จึงเรียกอีกฝ่ายเอาไว้ทันที
ต้องรู้ว่าต่อให้เป็นลูกศิษย์สายในทั้งหลายที่อยู่ในอันดับต้นๆ เมื่อเห็นเทพแท้จริงพั่วอวิ๋นแล้วก็ยังต้องทักทาย แต่คนหนุ่มตรงหน้าคนนี้ที่ดูไปแล้วธรรมดาๆ ขั้นพลังก็ต่ำ เห็นเขาเทพแท้จริงพั่วอวิ๋นกลับเมินเฉยไปด้วยสีหน้าเย็นชา
“ข้าก็ไม่ใช่ลูกศิษย์สายในจริงๆ นั่นแหละ แต่ข้าเข้าไปในนี้แล้วจะทำไม?”
จ้าวหุยพูดอย่างรำคาญใจ
เขาเป็นแขกที่มาจากเผ่าพันธุ์วิญญาณ เทพแท้จริงพั่วอวิ๋นจะทำอะไรเขาได้?
“เจ้า…นี่กำลังพูดกับข้า?”
หลังจากมีสีหน้าตกตะลึงไปแล้ว เทพแท้จริงพั่วอวิ๋นก็ถามขึ้นอย่างเคร่งเครียดทันที
ในเมื่อจ้าวหุยไม่ใช่ลูกศิษย์สายใน อีกทั้งยังกระด้างกระเดื่องต่อเขา ต่อให้เทพแท้จริงพั่วอวิ๋นลงมือซัดจนเกือบตายก็ไม่เป็นปัญหาอะไร
“หรือว่านี่เป็นวิธีต้อนรับแขกของเขามารทมิฬ?”
จ้าวหุยอดหัวเราะขึ้นไม่ได้
“เจ้าคือ…ลูกศิษย์เผ่าพันธุ์วิญญาณ?”
สีหน้าของเทพแท้จริงพั่วเมี่ยเปลี่ยนไปเล็กน้อย สีหน้าเคร่งเครียดสลายไปโดยไร้ร่องรอยทันที จากคำพูดของจ้าวหุย เขาก็สามารถเดาฐานะของฝ่ายตรงข้ามได้
จากที่เขารู้มา การค้าขายไปมาหาสู่ของเผ่าพันธุ์วิญญาณและเขามารทมิฬ ปกติแล้วจะเป็นการแลกเปลี่ยนกันระหว่างผู้นำระดับสูง แต่ครั้งนี้เผ่าพันธุ์วิญญาณกลับพาเทพแท้จริงขั้นสามมาด้วย นี่พิสูจน์ว่าฐานะของจ้าวหุยจะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
อีกทั้งในฐานะที่เป็นขั้วอำนาจห้าดาว เผ่าพันธุ์วิญญาณย่อมแข็งแกร่งเกียงไกรยิ่งกว่าเขามารทมิฬ
“ต้องขอโทษด้วย ข้าน้อยมีตาไม่มีแวว คิดไม่ถึงว่าท่านจะเป็นอัจฉริยะของเผ่าพันธุ์วิญญาณ!” เทพแท้จริงพั่วอวิ๋นฝืนยิ้มออกมาน้อยๆ
“หึ!” จ้าวหุยแค่นเสียงเย็นอย่างเหยียดหยามยิ่ง จากนั้นมุ่งตรงจากไป
การกระทำนี้ทำเอามุมปากเทพแท้จริงพั่วอวิ๋นกระตุกเล็กน้อย ในใจโกรธเคืองนัก
แต่จ้าวหุยเป็นแขกมาจากแดนไกล หากเขาทำให้จ้าวหุยโมโหก็จะกระทบต่อความสัมพันธ์ของเผ่าพันธุ์วิญญาณและเขามารทมิฬได้
“ไม่เช่นนั้นให้ข้าพาท่านเยี่ยมชมที่นี่ก็แล้วกัน!”
เทพแท้จริงพั่วอวิ๋นเอ่ยขึ้นก่อน
เขาเป็นฝ่ายแสดงทีท่าเป็นมิตรในฐานะเจ้าบ้าน หากหาโอกาสได้ค่อยเล่นงานจ้าวหุย ต่อให้มีปัญหาเกิดขึ้นก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรมาก
“ก็ดี!” จ้าวหุยคิดอยู่ชั่วขณะ แล้วจึงตอบตกลง
เขามารทมิฬนับได้ว่าเป็นขั้วอำนาจศาสตร์มาร ข้างในมีคนร้อยพ่อพันแม่ปะปนกัน ระหว่างลูกศิษย์ช่วงชิงกันทั้งในที่ลับและที่แจ้งให้เห็นได้อยู่บ่อยๆ กระทั่งเอะอะอะไรก็ขึ้นเวทีประลองดวลชี้ขาด
จ้าวหุยมองไปแล้วอ่อนแอเกินไป ยังยากที่จะเลี่ยงเรื่องยุ่งยากบางเรื่อง
หากอยู่กับเทพแท้จริงพั่วอวิ๋น เรื่องพวกนี้ก็จะสามารถหลีกเลี่ยงได้อย่างสมบูรณ์ ขณะเดียวกันยังสามารถชี้นิ้วใช้เจ้านี่ได้อีกด้วย จากนั้นจ้าวหุยก็จากเขาที่ลูกศิษย์สายในอยู่ ก่อนมาถึงยังนอกเขาด้วยการนำทางจากเทพแท้จริงพั่วอวิ๋น
ระหว่างทางมีลูกศิษย์มากมายแปลกใจกับชายหนุ่มอ่อนแอที่อยู่ข้างกายเทพแท้จริงพั่วอวิ๋นเป็นอย่างมาก
“สหายจ้าว สถานที่ของลูกศิษย์สายนอกไม่มีอะไรน่าดูหรอก”
เทพแท้จริงพั่วอวิ๋นยิ้มพูดขึ้น
“ไม่เป็นไร ตอนที่ข้าเพิ่งมาถึงได้พบกับคนคุ้นเคยที่นอกเขา ตอนนี้คิดอยากไปดูเขาเสียหน่อย!”
จ้าวหุยไม่หลบเลี่ยงแม้แต่น้อย
“เอ๋? คิดไม่ถึงว่าสหายจ้าวจะมีคนรู้จักอยู่ที่เขามารทมิฬด้วย ไม่รู้ว่าคนคนนี้เป็นใคร? ไม่แน่ว่าข้าก็อาจจะรู้จักเหมือนกัน!” เทพแท้จริงพั่วอวิ๋นตะลึงไปเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยตามนั้น
ที่จริงแล้วเทพแท้จริงพั่วอวิ๋นกำลังขบคิด ด้วยฐานะตำแหน่งของจ้าวหุย จะรู้จักลูกศิษย์สายนอกของเขามารทมิฬไปได้อย่างไรกัน
“คุนอวิ๋น!” จ้าวหุยยิ้มเล็กน้อยยามจ้องไปยังเทพแท้จริงพั่วอวิ๋น
“คุน…อวิ๋น?” เทพแท้จริงพั่วอวิ๋นอึ้งตะลึง จากนั้นจึงเผยสีหน้าประหลาด
เขาคิดไม่ออกจริงๆ ว่าคุนอวิ๋นและลูกศิษย์เผ่าพันธุ์วิญญาณจะมีความสัมพันธ์อะไรกันได้
เวลาที่คุนอวิ๋นมายังดินแดนเทพรกร้างสั้นมาก กระทั่งว่ายังไม่เคยไปเขตเทพสวรรค์มาก่อน หากไม่ใช่ว่าท่าทางของจ้าวหุยดูแปลกตาเป็นอย่างยิ่ง เขาคงสงสัยกระทั่งว่าจ้าวหุยเป็นคนของดินแดนทวีปใช่หรือไม่ มิฉะนั้นคงไม่มีทางรู้จักคุนอวิ๋น
ครั้นคิดถึงความสัมพันธ์ของตนและคุนอวิ๋น เทพแท้จริงพั่วอวิ๋นชักไม่คิดอยากจะไปจริงๆ แต่สีหน้าของเขาเมื่อครู่ก็เป็นการบอกแล้วว่าเขารู้จักคุนอวิ๋น
“สวัสดีเทพแท้จริงพั่วอวิ๋น!”
“เทพแท้จริงพั่วอวิ๋นให้เกียรติมาเยือน ไม่ทราบว่ามีเรื่องอันใด?”
ในตอนที่เทพแท้จริงพั่วอวิ๋นมาถึงนอกเขา ลูกศิษย์สายนอกทั้งหมดตามทางล้วนแต่ทักทายเขาอย่างนอบน้อม
และเทพแท้จริงพั่วอวิ๋นก็เสพสุขกับสิ่งพวกนี้เป็นอย่างมาก เดินไปท่ามกลางลูกศิษย์สายนอกนับไม่ถ้วนด้วยสีหน้าเย่อหยิ่ง
“สหายจ้าว มาทางนี้!” เทพแท้จริงพั่วอวิ๋นยิ้มพูดขึ้น
“คนข้างกายเทพแท้จริงพั่วอวิ๋นเป็นใคร? ทำไมข้าไม่เห็นเจอมาก่อน?”
“ดูจากท่าทางแล้ว ตำแหน่งของคนคนนั้นน่าจะไม่ธรรมดา!”
แต่เดิมทุกคนคิดว่าจ้าวหุยก็คือคนที่มาประจบเทพแท้จริงพั่วอวิ๋น แต่ท่าทางของเทพแท้จริงพั่วอวิ๋นเมื่อครู่ กลับทำให้ทุกคนตกใจเป็นอย่างยิ่ง
เพราะความประหลาดใจ ลูกศิษย์สายนอกมากมายเดินตามหลังคนทั้งสองไป
ไม่นานนัก จ้าวหุยและเทพแท้จริงพั่วอวิ๋นมาถึงข้างๆ ที่พักอาศัยของคุนอวิ๋น
“มาหาคุนอวิ๋น!”
“เฮ้อ วันนี้คุนอวิ๋นเพิ่งจะโดนสั่งสอนไป ครั้งนี้เทพแท้จริงพั่วอวิ๋นมาเองเลย เขาซวยแน่แล้ว!”
ลูกศิษย์สายนอกไม่น้อยหัวเราะ พูดขึ้นอย่างสะใจในความทุกข์ของผู้อื่น
เทพแท้จริงพั่วอวิ๋นหาเรื่องเทพแท้จริงคุนอวิ๋นลูกศิษย์สายนอกมาโดยตลอด เรื่องนี้ลูกศิษย์สายนอกทั้งหมดล้วนรู้กันดี เพียงแต่ว่าเทพแท้จริงพั่วอวิ๋นน้อยครั้งที่จะมาหาคุนอวิ๋น ท่าทางครั้งนี้จะมีอะไรสนุกๆ ดูแล้ว
ลูกศิษย์สายนอกค่อยๆ ล้อมกันเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนคุนอวิ๋นที่อยู่ข้างในก็สัมผัสได้ถึงสิ่งผิดปกติข้างนอกเช่นกัน
“เทพแท้จริงพั่วอวิ๋น เจ้าจะเอาอย่างไรกันแน่?”
คุนอวิ๋นพุ่งออกมาทันที มองไปยังเทพแท้จริงพั่วอวิ๋นด้วยสีหน้าอาฆาตแค้น
เหตุเพราะเทพแท้จริงพั่วอวิ๋น เขาแทบจะโดนสั่งสอนในทุกช่วงสามสี่วัน พูดได้ว่าได้รับความอัปยศอดสูเป็นที่สุด เหตุที่คุนอวิ๋นอดทนก็เพราะคิดว่าวันหนึ่งจะต้องล้ำหน้าเทพแท้จริงพั่วอวิ๋น และจะล้างความอัปยศที่ได้รับให้หมดสิ้น
“สหายจ้าวอย่าได้ถือสา ระหว่างคุนอวิ๋นกับข้ามีเรื่องเข้าใจผิดกันเล็กน้อย!”
เทพแท้จริงพั่วอวิ๋นพูดอย่างไม่ใส่ใจ
ด้วยตำแหน่งของเขาในเขามารทมิฬ ต่อให้สาเหตุเป็นเพราะคุนอวิ๋น จ้าวหุยก็ทำอะไรเขาไม่ได้
“เจ้านี่คิดจะเล่นลูกไม้อะไรอีก?”
คุนอวิ๋นระมัดระวังตัวขึ้นมา เทพแท้จริงพั่วอวิ๋นมาหาถึงที่ด้วยตัวเอง ต้องไม่มีเรื่องอะไรดีแน่นอน
ในขณะเดียวกัน คุนอวิ๋นก็ประเมินชายหนุ่มข้างกายเทพแท้จริงพั่วอวิ๋น
ดูจากท่าทาง ตำแหน่งของชายหนุ่มธรรมดาคนนี้คงจะไม่ต่างอะไรจากเทพแท้จริงพั่วอวิ๋นมาก เพียงแต่ในเมื่ออีกฝ่ายอยู่กับเทพแท้จริงพั่วอวิ๋น จะต้องไม่ใช่คนดีอะไรอย่างแน่นอน และคุนอวิ๋นก็จะมีศัตรูเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน
แต่ว่าเกินความคาดคิดของคุนอวิ๋น จ้าวหุยกางแขนทั้งสองออกแล้วเดินมาทางเขาทันที
“คุนอวิ๋น ไม่เจอกันตั้งนาน ทำไมเจ้าถึงเป็นเช่นนี้ไปได้?”
เมื่อเห็นจ้าวหุยจะกอดคุนอวิ๋นเอาไว้
คุนอวิ๋นอดไม่ได้ที่จะถอยหลังไปครึ่งก้าว จ้องจ้าวหุยด้วยใบหน้าตกตะลึง ค่อนข้างจะทำตัวไม่ถูก
ฉากนี้ทำเอาลูกศิษย์สายนอกที่อยู่ที่นั่นทุกคนตะลึงตาค้างไป
คุนอวิ๋นผู้นี้ไม่ใช่คนที่เทพแท้จริงพั่วอวิ๋นหาเรื่องมาโดยตลอดหรอกรึ?
ทำไมคนผู้นี้คนที่มาด้วยกันกับเทพแท้จริงพั่วอวิ๋นจึงเป็นมิตรกับคุนอวิ๋นเช่นนี้
ถึงแม้จะคิดไม่ออก แต่คนส่วนมากคิดว่าเทพแท้จริงพั่วอวิ๋นจะต้องเล่นลูกไม้อะไรอีกเป็นแน่ อีกประเดี๋ยวต้องทำให้คุนอวิ๋นยิ่งลำบากใจและอัปยศอดสูแน่นอน
“คุนอวิ๋น ไม่ได้มาหาเจ้านานถึงเพียงนี้ เจ้าไม่รู้จักข้าสหายคนนี้แล้วรึ!”
จ้าวหุยยิ้มพูดขึ้นอีกครั้ง พร้อมเดินไปกอดอีกฝ่ายทันที
ในขณะเดียวกัน เสวียนอ้าวธาตุไม้ที่บริสุทธิ์ก็แผ่กระจายออก
จ้าวหุยฝึกฝนศาสตร์แพทย์โดยเฉพาะ รวมกับทรัพยากรฝึกฝนล้ำค่าที่จ้าวเฟิงมอบให้และเคล็ดวิชาที่ล้ำลึก วิชาแพทย์ของเขาจึงไปถึงขั้นยอดเยี่ยมลึกซึ้งเป็นอย่างมาก
“นี่มัน?” คุนอวิ๋นตะลึงไปทันใด
ชายแปลกหน้าที่มากับเทพแท้จริงพั่วอวิ๋นกลับเรียกเขาว่าสหาย ทั้งยังรักษาบาดแผลให้เขาอีก
“คุนอวิ๋น ก่อนที่เจ้าจะมา สถานการณ์ของตำหนักราชันยังดีอยู่กระมัง?”
เสียงของจ้าวหุยพลันดังขึ้นในหัวของคุนอวิ๋น
เสี้ยวขณะนั้น คุนอวิ๋นประดุจโดนฟ้าผ่า ร่างกายแข็งทื่อ จ้องเขม็งไปยังจ้าวหุยด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ