บทที่ 1328 คู่เทพเซียนปีศาจ
“ช้าก่อน พวกเราก็เป็นผู้บุกรุกเช่นกัน เป็นพวกเดียวกัน!”
ในตอนนี้เอง เทพโบราณเสวียนหมัวตะโกนออกไปเสียงดังตามคำบัญชาของจ้าวเฟิง
สตรีชุดเงินผู้นี้พอเห็นพวกเทพโบราณเสวียนหมัวก็เริ่มสังหารทันที
และพวกเทพโบราณเสวียนหมัวก็แน่ใจได้ว่าคนคนนี้ไม่ใช่คนของหอมารสวรรค์ ด้วยเหตุนี้ฐานะของอีกฝ่ายจึงเห็นเด่นชัดว่าเป็นผู้บุกรุกแน่นอน
ดินแดนศักดิ์สิทธิ์มิติส่งคนกลุ่มหนึ่งออกมาภายนอก ตรึงกำลังสมาชิกส่วนใหญ่ของหอมารสวรรค์เอาไว้ แล้วแอบให้สตรีชุดเงินแฝงตัวเข้ามา ในเขตพื้นที่ต้องห้ามแห่งนี้ไร้ซึ่งทหารยาม จะต้องถูกนางสังหารไปก่อนแล้วแน่นอน
“ผู้บุกรุก? พวกเดียวกัน?”
คลื่นพลังดวงตาในดวงตาทั้งสองของสตรีชุดเงินผ่อนคลายลง
นางแฝงตัวเข้ามาที่นี่ สังหารคนของหอมารสวรรค์ไปมากมาย นี่เพิ่งเป็นครั้งแรกที่ได้ยินคนถูกที่จะสังหารพูดเช่นนี้ออกมา
นอกจากนั้นอีกฝ่ายยังสังเกตเห็นนางได้ก่อน มิเช่นนั้นแม้แต่โอกาสที่จะได้พูดก็คงไม่มี
“มีอะไรมาพิสูจน์?”
จิตสังหารของสตรีชุดเงินไม่ลดลง วิชาดวงตาที่ก่อขึ้นในดวงตาทั้งสองยังคงอยู่
ราวกับว่าหากเทพโบราณเสวียนหมัวมีการเคลื่อนไหวใดๆ นางก็จะสังหารเขาในทันที
ขวับ! ในตอนนี้เอง กลางอากาศเหนือหัวของเทพโบราณเสวียนหมัวมีดวงตาสีเงินดุจความฝันข้างหนึ่งปรากฏขึ้น ราวกับฝังอยู่ในมิติ ทำให้ผู้คนรู้สึกกดดันอย่างไร้รูปร่าง
ยามที่สัมผัสกับดวงตาสีเงินมายาข้างนี้ เนตรมิติของสตรีชุดเงินก็ขยับขึ้นอย่างประหลาด
ในขณะเดียวกันนี้เอง ตราผนึกดวงใจทมิฬบนร่างของพวกเทพโบราณเสวียนหมัวก็เผยกลิ่นอายวิญญาณที่เป็นของจ้าวเฟิงออกมา
“เช่นนี้คงเพียงพอแล้วกระมัง!” เสียงวิญญาณของจ้าวเฟิงดังขึ้นโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย
“พวกเราเคยเป็นสมาชิกของที่นี่ แต่ตอนนี้รับใช้เพื่อนายท่าน!”
เทพโบราณเสวียนหมัวพูดขึ้นทันที
สตรีชุดเงินเผยสีหน้าครุ่นคิด ครู่หนึ่งก็พอเดาได้คร่าวๆ จิตสังหารในดวงตานางก็ค่อยๆ ลดลง แต่ยังไม่หายไป
“ที่แท้ก็เป็นเทพโบราณที่ชำนาญด้านวิญญาณนี่เอง!”
สตรีชุดสีเงินเอ่ยเสียงราบเรียบ
ดูจากสถานการณ์เมื่อครู่ คนที่ซ่อนอยู่ในมุมมืดนั่นก็ครอบครองสายเลือดดวงตาเช่นเดียวกัน อีกทั้งยังเป็นผู้ที่ชำนาญด้านวิญญาณอีกด้วย
ตอนนี้สมาชิกภายในหลายคนของหอมารสวรรค์ถูกควบคุมโดยคนที่หลบซ่อนอยู่ในที่มืด
“เจ้ามีเป้าหมายอะไร?”
สตรีชุดเงินถามขึ้นโดยพลัน
ผู้ที่มีความสามารถแฝงเข้ามาในนี้ได้ไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน ดังนั้นนางจึงไม่ดูถูกคนที่ซ่อนอยู่ผู้นี้ นอกจากนั้น อีกฝ่ายเสี่ยงอันตรายใหญ่หลวงถึงเพียงนี้แฝงตัวเข้ามาที่นี่ เป้าหมายต้องไม่ธรรมดาแน่นอน
“แล้วเจ้ามีเป้าหมายอะไร?” จ้าวเฟิงไม่ตอบ กลับย้อนถาม
คิ้วเรียวของสตรีชุดเงินเลิกขึ้นเล็กน้อย จากนั้นพูดขึ้นอย่างไม่ปิดบัง “ช่วยคน น้องชายของข้าถูกจับมาที่นี่!”
หลังจากสตรีชุดเงินพูดจบ ดวงตาทั้งสองก็เยียบเย็นน่าหวาดหวั่น สายตาของนางกวาดไปยังพวกเทพโบราณเสวียนหมัว ทำเอาพวกเขาสั่นเทิ้มไปทั้งกาย
“ข้าพูดจบแล้ว เป้าหมายของเจ้าเล่า?”
นางพูดอย่างเย็นชา
“ช่วยแมว สัตว์วิเศษของข้าถูกพวกมันจับมา!” จ้าวเฟิงก็ไม่ปิดบังเช่นเดียวกัน
สีหน้าท่าทางของสตรีชุดเงินกลับยิ่งเย็นชาขึ้น เหมือนจะไม่เชื่อแม้แต่น้อย เพื่อช่วยสัตว์วิเศษจึงแฝงกายเข้ามาในหอมารสวรรค์ มีเรื่องเหลวไหลเพียงนี้ที่ไหนกัน
“แต่ว่าในโถงลับหอมารสวรรค์จะต้องมีผู้แข็งแกร่งเฝ้าอยู่แน่นอน พวกเราต้องร่วมมือกันถึงจะเข้าไปข้างในได้อย่างราบรื่น!”
จ้าวเฟิงพูดทันทีโดยไม่สนใจว่าสตรีชุดเงินจะเชื่อหรือไม่
สตรีชุดเงินก็ไม่ซักถามเป้าหมายของจ้าวเฟิงต่อ นั่นไม่ได้เกี่ยวอะไรกับนางมากเท่าใดนัก
“ลงมือเถอะ!” สตรีชุดเงินค่อนข้างร้อนรนอย่างเห็นได้ชัด
จากนั้นร่างของนางหลบซ่อนเข้าไปในอากาศ แล้วมุ่งหน้าไปอย่างช้าๆ
พวกเทพโบราณเสวียนหมัวทั้งสี่คนตามอยู่ข้างหลัง ทั้งยังคอยชี้แนะมากมาย
สตรีชุดเงินถึงแม้จะเป็นทายาทเนตรมิติ วิชาหลบหลีกล้ำลึก ก็ยากที่จะหลบเลี่ยงกับกับดักหรือกลไกบางอย่าง
“วิชาอำพรางกายในมิติล้ำลึกยิ่งนัก!” จ้าวเฟิงอดไม่ได้ที่จะสังเกตวิชาอำพรางกายของสตรีชุดเงินคนนี้
คนที่ชำนาญเสวียนอ้าวมิติล้วนสามารถอำพรางตนเองไปในอากาศได้ แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่อำพรางเท่านั้น หากขยับกายรุนแรงในอากาศก็จะเกิดความเคลื่อนไหวจนถูกคนอื่นสังเกตได้ง่าย
ทว่าหลังจากสตรีชุดเงินอำพรางกายในความว่างเปล่า นางก็รักษาความเร็วสุดยอดเอาไว้ ทั้งยังควบคุมคลื่นไหวกระเพื่อมให้ถึงขีดต่ำสุด หากไม่สัมผัสให้ละเอียดก็ยากที่จะพบเจอ
“ข้าก็น่าจะทำได้!” จ้าวเฟิงอดโคจรตาซ้ายขึ้นบ้างไม่ได้
‘พลังฟ้าประสานหนึ่ง’ ของเขา หลักๆ แล้วฝึกฝนเสวียนอ้าวมิติ หากการใช้เสวียนอ้าวมิติแข็งแกร่งขึ้น ก็สามารถทำให้พลังเทพรวมศูนย์แกร่งขึ้นได้อย่างไม่ต้องสงสัย อีกทั้งจ้าวเฟิงยังมีอาวุธเทพมิติเวลาอย่างพวกชุดคลุมมิติ คิดอยากทำให้ได้ถึงจุดนี้ก็น่าจะไม่ยาก
วู้ม! ณ โลกภายนอก ตาสีเงินดุจความฝันข้างหนึ่งค่อยๆ ปรากฏขึ้น อีกทั้งยังเคลื่อนไหวตามทุกคนไป
ดวงตาสีเงินนั่นพุ่งเป้าไว้บนร่างของสตรีชุดเงิน ประกายแสงมายาตลบอบอวลออกมา
“เอ๋?” สตรีชุดเงินที่อยู่ข้างหน้าสุดเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เผยท่าทีระแวดระวัง
เมื่อครู่ จู่ๆ นางก็มีความรู้สึกเหมือนถูกเปลื้องอาภรณ์จนถูกคนมองอะไรต่อมิอะไรชัดแจ้งไปหมด
‘ตาข้างนี้ไม่ธรรมดาเลย!’ สตรีชุดเงินแอบพูดขึ้นในใจ แต่จากนั้นก็ไม่ไปสนใจอีก
นอกจากดวงตาของทายาทแปดเนตรเทพเจ้า ก็มีสายเลือดดวงตาจำพวกที่เข้าใกล้ระดับนี้ไม่น้อย
กระทั่งสายเลือดดวงตาบางประเภทเกิดการแปรสภาพ พลังจะพิเศษเป็นอย่างยิ่ง สามารถเทียบเคียงกับทายาทเนตรแปดเนตรเทพเจ้าได้เลย เพียงแต่ขอบเขตที่จะพัฒนาขึ้นอาจไม่เหมือนกัน
ฉัวะ ฉึก! คมแสงสีเงินสองสายพาดผ่านไป ทหารองครักษ์สองคนยังไม่ทันตั้งตัว ร่างก็ถูกฟันขาดเป็นสองท่อนในเวลาเดียวกัน อีกทั้งการโจมตีมิตินี้สะเทือนไปถึงวิญญาณ ดับสังหารศัตรูไปในพริบตา
‘กระบวนท่าเดียวสังหารเทพโบราณขั้นเจ็ดได้ พลังของสตรีนางนี้แข็งแกร่งมากกว่าที่ข้าคิดเอาไว้เสียอีก!’
ใจของจ้าวเฟิงเพิ่มความระวังขึ้น
ไม่นานนัก จ้าวเฟิงลอกเลียนแบบวิชาอำพรางกายของสตรีชุดเงินได้ทั้งหมด แต่ว่าตอนนี้เขายังไม่มีโอกาสได้ทดลอง
หลังจากลอกเลียนแบบสำเร็จแล้ว ดวงตาสีเงินมายาที่ลอยอยู่ข้างนอกก็ไม่ได้หายไปไหน
ตอนนี้เขาร่วมมือกับสตรีชุดเงิน เมื่อพบทหารองครักษ์ก็ล้วนสังหารทันที ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลว่าจะถูกเจอตัว
อีกทั้งทำเช่นนี้มีประโยชน์ต่อการสังเกตการณ์สถานการณ์ของศัตรู และควบคุมเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ทุกสิ่ง
“หาเจอแล้ว โถงลับนั่น!”
ตาซ้ายของจ้าวเฟิงมองทะลุสิ่งกีดขวางเป็นชั้นๆ สำรวจเห็นโถงลับห้องหนึ่งซึ่งมีทหารองครักษ์เทพโบราณขั้นเจ็ดหลายคนอยู่ทั่วทั้งสี่ทิศ
แต่ว่าโถงลับนี้ค่อนข้างพิเศษ จ้าวเฟิงในตอนนี้ก็เพียงฝืนมองทะลุจนเห็นเงาคนบางคนเท่านั้น
“แย่แล้ว มีคนมา!”
จ้าวเฟิงพลันเห็นเงาร่างคนสองคนบินตรงมายังจุดที่เขาอยู่ในตอนนี้อย่างรวดเร็ว
ขวับ! ดวงตาสีเงินดุจความฝันกลางอากาศหายไปทันที
พวกเทพโบราณเสวียนหมัวสี่คนเว้นระยะห่างจากสตรีชุดเงิน ทั้งยังเผยท่าทีเป็นปฏิปักษ์
สตรีชุดเงินจ้องพวกเทพโบราณเสวียนหมัว สีหน้าตกตะลึงไปเล็กน้อย
คนเหล่านี้เมื่อครู่เพิ่งจะพูดว่าร่วมมือกับนาง ทำไมจู่ๆ จึงเว้นระยะห่างกับนางและเผยท่าทีเป็นปฏิปักษ์
หรือว่าทั้งหมดเมื่อครู่ล้วนเป็นเรื่องหลอกลวง? เป็นกลอุบายของคนพวกนี้
“เจ้าหลอกข้า?” สีหน้าของสตรีชุดเงินดุจน้ำค้างแข็ง จิตสังหารดุจมีรูปร่างเป็นรูปธรรม
“มีคนมา!” ทว่าเสี้ยวขณะต่อมา เสียงของจ้าวเฟิงถึงดังขึ้นในหัวของนาง
“ตอนนี้ข้ายังต้องใช้สี่คนนี้ ดังนั้นต่อหน้าสมาชิกหอมารสวรรค์ พวกเราคือศัตรูกัน!”
จ้าวเฟิงอธิบายขึ้นอีก
สตรีชุดเงินถึงแม้จะสงสัย แต่นางก็รับรู้ได้ถึงกลิ่นอายที่แข็งแกร่งสองกลุ่มได้อย่างรวดเร็ว
ฟุ่บ! ฟุ่บ! หนึ่งบุรุษหนึ่งสตรีมาถึงที่นี่อย่างรวดเร็ว
“หาเจอแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าคนที่แฝงเข้ามาที่นี่จะเป็นเทพโบราณลั่วหลิง (ธาราวิญญาณ)!”
พวกเขาทั้งสองเปล่งเสียงออกมาในเวลาเดียวกัน ให้ความรู้สึกแปลกประหลาดอย่างบอกไม่ถูก แต่แท้ที่จริงแล้วกายวัฏสงสารสองร่างนี้เชื่อมกับเจตจำนงของเทพโบราณโยวเฉวียน ประโยคนี้เป็นคำพูดที่เทพโบราณโยวเฉวียนควบคุมให้พวกเขาเอ่ยออกมา
และเทพโบราณโยวเฉวียนเรียกชื่อสตรีชุดเงินนี้ออกมาทันที เห็นได้ว่าสตรีนางนี้มีชื่อเสียงอยู่บ้าง
เทพโบราณลั่วหลิงมีสีหน้าเคร่งเครียดเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าคนทั้งสองเบื้องหน้านางในตอนนี้เกินกว่าขอบเขตที่นางจะรับมือไหว
“พวกเจ้าไยจึงมาอยู่ที่นี่?”
คู่เทพเซียนปีศาจจ้องไปยังพวกเทพโบราณเสวียนหมัวทั้งหลาย
“เจ้าเป็นใครกัน?” เทพโบราณเสวียนหมัวถามทันใด
หากเป็นช่วงปกติ ผู้ที่ปรากฏขึ้นที่นี่แทบจะเป็นผู้กุมอำนาจหอมารสวรรค์ทั้งสิ้น เขาไม่มีทางถามเช่นนี้แน่
แต่ตอนนี้สถานการณ์ไม่เหมือนเดิม เบื้องหน้าคนทั้งสองล้วนเป็นกายวัฏสงสาร อีกทั้งพวกเขายังไม่เคยพบเจอมาก่อน
“เทพโบราณโยวเฉวียน!” คู่เทพเซียนปีศาจพูดขึ้นพร้อมกัน สีหน้าโกรธเคือง
“ที่แท้เป็นผู้อาวุโสโยวเฉวียนนี่เอง!”
พวกเทพโบราณเสวียนหมัวทั้งสี่คนสีหน้าเปลี่ยนไปทันที ก่อนเผยสีหน้าเคารพนบนอบ
“รายงานผู้อาวุโสโยวเฉวียน ห้องฝึกแรงดึงดูดเกิดการระเบิดขึ้น พวกเราสืบร่องรอยจนตามมาถึงที่นี่ ไล่ตามผู้บุกรุกคนนี้มาและกำลังเตรียมลงมือจับกุม จากนั้นค่อยรายงานผู้อาวุโสทุกท่าน!”
เทพโบราณเสวียนหมัวพูดขึ้นตามคำบรรยายของจ้าวเฟิง
“หึ คุยโวเสียโอ้อวดจริง คนคนนี้พวกเจ้าจะจัดการได้งั้นรึ? ”
คู่เทพเซียนปีศาจแค่นเสียงเย็น ความสงสัยต่อพวกเทพโบราณเสวียนหมัวลดลงเล็กน้อย เพื่อประโยชน์ของตัวเอง ไม่รายงานเบื้องบนก่อนแต่กลับลงมือลำพัง เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ
สำหรับเรื่องการระเบิดของห้องฝึกฝนแรงดึงดูด พวกเขาก็รู้ข่าวนี้เช่นกัน
แต่เดิมควรไปใช้เนตรสังสารวัฏฟื้นคืนชีพผู้ตายแล้วค่อยว่ากัน แต่ตอนนี้พวกเขาต้องเฝ้ารักษาการณ์โถงลับ จึงจากไปไม่ได้
“ผู้อาวุโสโยวเฉวียนสั่งสอนได้ถูกต้อง แต่ว่ากายวัฏสงสารของท่านมาถึงแล้ว สตรีนางนี้คงต้องยอมให้จับแต่โดยดี!”
เทพโบราณเสวียนหมัวกล่าวยกยอ
“หึ!” คู่เทพเซียนปีศาจแค่นเสียงหยัน ทำการโจมตีเทพโบราณลั่วหลิงทันที
ครืน! พลังอำนาจที่ทั้งสองปะทุขึ้นในชั่วพริบตาทำให้พลังเทพและสายเลือดของพวกเทพโบราณเสวียนหมัวเกือบจะแข็งตัว ได้แต่พากันถอยหลังไป
ชายที่ร่างสูงใหญ่ ทั่วร่างโอบล้อมด้วยหมอกทึบดำทะมึน มือถือดาบศีรษะภูตผี ฟันดาบคมกริบเย็นเยือกออกมา อีกด้านหนึ่ง กระบี่ยาวผลึกขาวในมือสตรีชุดขาวบริสุทธิ์ก็ฟันคมประกายแสงศักดิ์สิทธิ์ออกมาหลายสาย
“เขตแดนฟ้าดิน!”
เนตรมิติของเทพโบราณลั่วหลิงกระตุ้นขึ้นทันที อากาศฟ้าดินรอบด้านมีเงามิติเลือนรางชั้นหนึ่งกะพริบแล้วหายวับไป
ฟุ่บ! หลังจากสำแดงกระบวนท่านี้แล้ว เทพโบราณลั่งหลิงก็ราวกับปลาได้น้ำ ร่างแทบจะจับสังเกตไม่เห็น ในมือของนางไม่รู้ว่ามีดาบโค้งวงพระจันทร์สีเงินเล่มเล็กขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่
ฟิ้ว! เพียงแค่สะบัดเบาๆ ก็ฟันประกายแสงมิติคมกริบรวดเร็วออกมาสายหนึ่ง
แต่ทว่าคู่เทพเซียนปีศาจคือกายวัฏสงสาร ต่อให้การโจมตีธรรมดาสร้างบาดแผลให้พวกเขาได้ก็สามารถฟื้นฟูทันที
“ภูติผีพิฆาต!”
“กระบี่แสงวิญญาณเซียน!”
คู่เทพเซียนปีศาจร่างเป็นกายสังสารวัฏ จึงโจมตีออกไปอย่างบ้าคลั่งโดยไม่กังวลแม้แต่น้อย
“ทั้งสามคนล้วนเป็นขั้นแปดสุดยอด!”
จากการต่อสู้ จ้าวเฟิงเข้าใจตื้นลึกหนาบางของพลังฝึกตนทั้งสามคนนี้ได้กระจ่างแล้ว
หากปะทะกันเดี่ยวๆ คู่เทพเซียนปีศาจคนใดคนหนึ่งล้วนไม่มีทางเป็นคู่มือของเทพโบราณลั่วหลิงได้เลย แต่ในตอนนี้พวกเขาคือกายวัฏสงสาร จึงไม่กังวลเลยแม้แต่น้อย และกลับกลายเป็นฝ่ายได้เปรียบ
“ข้าจะช่วยเจ้า!” จ้าวเฟิงส่งกระแสจิตให้เทพโบราณลั่วหลิงจากในที่ลับตา
ตอนนี้เขาต้องการพลังของเทพโบราณลั่วหลิง มิฉะนั้นเขาก็ยากที่จะเข้าไปในโถงลับแล้วช่วยแมวขโมยน้อยออกมาได้อย่างราบรื่น