บทที่ 1340 เทพโบราณหลัวเหมิน

“เก็บ!” จ้าวเฟิงกระตุ้นกระจกเก้าอัสนีหลอมวิญญาณ ดูดวิญญาณของมนุษย์งูเกล็ดฟ้าเข้าไปในอาวุธเทพ

ในขั้วอำนาจหอมารสวรรค์มีทายาทเนตรสังสารวัฏมากมาย ผู้แข็งแกร่งเบื้องหลังที่ไล่จับจ้าวเฟิงก็เป็นทายาทเนตรสังสารวัฏเช่นกัน ต่อให้เขาสังหารคนพวกนี้ ด้วยพลังของเทพโบราณโยวเฉวียน หากจะฟื้นคืนชีพให้ก็ไม่ได้เสียแรงอะไร ด้วยเหตุนี้มิสู้เก็บวิญญาณของศัตรูพวกนี้เอามาใช้เองจะดีกว่า

กระจกเก้าอัสนีหลอมวิญญาณแฝงด้วยพลังอัสนีเทวะมหาศาล สามารถหล่อหลอมวิญญาณที่ดูดเข้าไปข้างในให้กลายเป็น ‘ผลึกวิญญาณอัสนี’ หลังจากกินเข้าไปแล้วจะสร้างอัสนีวิญญาณที่พิเศษขึ้นมา ฝึกฝนและทำให้พลังวิญญาณแข็งแกร่ง และยิ่งวิญญาณของจ้าวเฟิงคือกายวิญญาณอัสนี เมื่อใช้แล้วสรรพคุณของผลึกวิญญาณอัสนีก็จะยิ่งได้ผลมากที่สุด

“นี่คือดวงที่หนึ่ง!” สายตาของจ้าวเฟิงเย็นชา

เทพโบราณขั้นเจ็ดที่สังหารไปก่อนหน้านี้ เดิมก็คือกายวัฏสงสาร ดังนั้นจึงไม่ถือว่าฆ่า

เขากวาดสายตาไปรอบบริเวณ ไม่นานนักเทพโบราณขั้นเจ็ดคนหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในครรลองสายตา

“ในเมื่อคิดจะจับข้า เช่นนั้นข้าก็จะเดินไปหาเองถึงที่!”

จ้าวเฟิงหัวเราะเสียงเย็น ร่างกะพริบวูบไหวแล้วหายวับไป

“ใคร!” เทพโบราณขั้นเจ็ดคนนั้นสัมผัสไม่ได้เลยสักนิด จึงตกใจจ้าวเฟิงที่จู่ๆ ก็โผล่ออกมาไม่น้อย

“หนี!”

เทพโบราณขั้นเจ็ดคนนี้รู้ดีว่าตัวเองไม่ใช่คู่มือของจ้าวเฟิง จึงหนีไปอย่างรวดเร็วทันที

เขาเพียงแค่เตรียมตัวมาเข้าร่วมสักนิด ให้ได้รับคะแนนคุณูปการมาบ้างเล็กน้อยแต่กลับคิดไม่ถึง ตัวเองยังไปไม่ถึงเป้าหมายก็เจอเป้าหมายเสียก่อน!

“วิญญาณก่อกำเนิดมาร!”

จ้าวเฟิงสำแดงวิชาดวงตามายาออกมากระบวนท่าหนึ่งตามอารมณ์

ประกายแสงมืดมนเย็นเยือกหลากสีกลุ่มหนึ่งโจมตีเข้าไปในวิญญาณของอีกฝ่ายทันที ทำให้เทพโบราณขั้นเจ็ดคนนั้นตกอยู่ในห้วงของมารในใจทันที ยิ่งตกลงไปก็ยิ่งลึก มารในใจก็ยิ่งใหญ่ขึ้น ต่อให้จ้าวเฟิงไม่ฆ่าเขา พลังฝึกตนของคนคนนี้ในวันข้างหน้าก็ยากจะพัฒนา!

“ดวงที่สอง เก็บ!”

กระจกเก้าอัสนีหลอมวิญญาณในมือจ้าวเฟิงแผ่กระจายแสงอัสนีเจิดจ้าออกมา

วู้ม แซ่ด แซ่ด!

โซ่อัสนีเจ็ดเส้นพลันพุ่งออกมาจากข้างใน มัดวิญญาณของอีกฝ่ายไว้แน่น

ผ่านไประยะหนึ่ง วิญญาณดวงนั้นก็ถูกจ้าวเฟิงเก็บเข้าไปในกระจกเก้าอัสนีหลอมวิญญาณ

“เป้าหมายต่อไปอยู่ที่ไหน?” จ้าวเฟิงโคจรตาซ้าย มองทะลุผ่านสิ่งกีดขวางทั้งหมดไปรอบๆ

……

ในโถงลับ ณ พื้นที่ใจกลาง

“นี่มัน…ผู้อาวุโส”

สมาชิกผู้ควบคุมกลไกคนนั้นจ้องไปยังม่านแสงมหึมาเบื้องหน้า สีหน้าค่อนข้างลำบากใจ

“เกิดอะไรขึ้น?” เทพโบราณโยวเฉวียนถามเสียงเย็น

จนถึงตอนนี้ เขาก็รู้ว่าจ้าวเฟิงหนีไปจากจุดหมายล่วงหน้า อีกทั้งยังทำลายกายวัฏสงสารขั้นเจ็ดของเขาไปร่างหนึ่งแล้ว

“ผู้บุกรุกคนนั้นไม่ได้หนีไปสุดกำลัง แต่กลับเริ่มสังหารสมาชิกหอมารสวรรค์ที่อยู่แถวๆ นั้น!”

สมาชิกที่ควบคุมกลไกพูดสรุปจากข้อมูลที่ตนได้มา ถึงแม้จะคาดไม่ถึงอย่างยิ่ง แต่เรื่องจริงก็เป็นเช่นนี้

“อะไรนะ? ไม่หนีงั้นรึ?” เทพโบราณโยวเฉวียนตื่นตกใจ จากนั้นก็ครุ่นคิด

พลังเทพโบราณขั้นแปดของอีกฝ่ายไม่มีทางต้านทานหอมารสวรรค์ได้เลย ไม่ว่าจะดิ้นรนอย่างไรก็มีแต่ความตายเท่านั้น ฝ่ายตรงข้ามอาจจะรู้ถึงจุดนี้ ท่าทางคงยอมรับชะตากรรมแล้ว ดังนั้นจึงตัดสินใจพยายามสังหารคนสักสามสี่คนก่อนจะถูกจับ

“โง่เง่า!” เทพโบราณโยวเฉวียนหัวเราะเสียงเย็น

คนที่ถูกฆ่าพวกนั้นมีพลังฝึกตนขั้นแปดทั่วไปกระทั่งต่ำกว่านั้น ความยากในการฟื้นคืนชีพไม่มาก หรือก็คือคนที่ถูกจ้าวเฟิงสังหารไป ถึงตอนนั้นล้วนสามารถฟื้นคืนชีพได้หมด!

ทันใดนั้น สีหน้าของเทพโบราณโยวเฉวียนเปลี่ยนไปเล็กน้อย เพราะกายวัฏสงสารขั้นหกสุดยอดร่างหนึ่งที่เขาควบคุมถูกจ้าวเฟิงจับตามองอยู่

“สังหารกายวัฏสงสารของข้างั้นรึ? นี่ยิ่งโง่เขลาเข้าไปใหญ่”

สีหน้าเทพโบราณโยวเฉวียนฉายแววเหยียดหยาม หัวเราะเยาะขึ้นมา

การชุบวิญญาณดวงหนึ่งเป็นความสามารถของเนตรสังสารวัฏแห่งชีวิต ใช้พลังค่อนข้างมาก หากเป็นกายวัฏสงสารแล้วละก็ จะใช้พลังเพียงแค่ครึ่งหนึ่งของสิ่งที่เอ่ยมาก่อนหน้านี้เท่านั้น

“กระจกเก้าอัสนีหลอมวิญญาณ!” แววตาของเทพโบราณโยวเฉวียนอึ้งตะลึงไป

อีกด้านหนึ่ง จ้าวเฟิงกระตุ้นกระจกเก้าอัสนีหลอมวิญญาณ ฉุดกระชากวิญญาณของเทพแท้จริงขั้นหกสุดยอดคนนี้ไป และวิญญาณของอีกฝ่ายไม่มีพลังต้านทานแม้แต่น้อย ถูกอาวุธเทพระดับสุดยอดดูดเข้าไปทันที

“เป็นไปได้อย่างไร? เจ้าเด็กนี่ยึดครองกระจกเก้าอัสนีหลอมวิญญาณได้ถึงระดับนี้แล้ว!” เทพโบราณโยวเฉวียนพลันร้องออกมาอย่างตกใจ

นี่เป็นถึงอาวุธเทพระดับสุดยอด ถ้าเป็นเพียงแค่เทพโบราณขั้นแปดจะยึดครองได้ง่ายๆ ที่ไหนกัน แต่ตอนนี้ ดูจากพลังอาวุธเทพที่จ้าวเฟิงสำแดงออกมา คงห่างจากการยึดครองได้อย่างสมบูรณ์ไม่ไกลแล้ว

“จุดสำคัญของกายวัฏสงสารคือวิญญาณเป็นอมตะ ต่อให้วิญญาณถูกพันธนาการ ข้าก็สามารถใช้เคล็ดวิชาลับเรียกกลับมาได้ แต่หากวิญญาณถูกกระจกเก้าอัสนีหลอมวิญญาณแปรเปลี่ยน ผนึกคำสาปวัฏสงสารแห่งความตายบนนั้นก็จะถูกทำลายในระดับหนึ่ง จะเรียกกลับมาได้หรือไม่ยังต้องดูที่โชคด้วย…”

หากวิญญาณถูกกระจกหลอมโดยสมบูรณ์แบบ เช่นนั้นก็จะหลุดพ้นจากการควบคุมของเนตรสังสารวัฏ

ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม กระจกเก้าอัสนีหลอมวิญญาณก็ข่มความสามารถของเนตรสังสารวัฏอยู่บ้าง

“แย่แล้ว หรือว่าคนอื่นๆ ก็เป็นเช่นนี้ วิญญาณถูกกระจกเก้าอัสนีดูดไปแล้ว!”

สีหน้าของเทพโบราณโยวหลิงเปลี่ยนไปทันที

มีอาวุธเทพระดับสุดยอดอย่างกระจกเก้าอัสนีหลอมวิญญาณและชุดคลุมมิติ เทพโบราณขั้นแปดทั่วไปไม่มีทางเป็นคู่มือของจ้าวเฟิงได้เลย

กายวัฏสงสารที่ถูกจ้าวเฟิงจับตามองพวกนั้น โดยพื้นฐานแล้วมีเพียงแค่ความตายรออยู่เท่านั้น แต่เทพโบราณโยวเฉวียนก็ให้จ้าวเฟิงหนีไปจากที่นี่ไม่ได้เด็ดขาด หากพลาดโอกาสครั้งนี้ จ้าวเฟิงเป็นไปได้มากว่าอาจจะหนีไปจากที่นี่ได้

“พวกเจ้าสองคนเร็วเข้าสิ!” เทพโบราณโยวเฉวียนส่งกระแสจิตให้คู่เทพเซียนปีศาจในทันใด

……

พื้นที่ภายในหอมารสวรรค์

หุ่นเชิดกลไกสีฟ้าหม่นที่ทั่วร่างห่อหุ้มอยู่ในเงามิติชั้นหนึ่ง ร่างกะพริบไหววูบอย่างรวดเร็ว

“ถึงตอนนี้ยังหาสิ่งผิดปกติใดไม่เจอ เจ้าเด็กนั่นคงไม่ได้ตายไปแล้วหรอกนะ!”

เทพโบราณหลัวเหมินที่ควบคุมหุ่นเชิดกลไกแค่นเสียงเย็น

เพราะจากเหตุที่ระเบิดตัวเอง ข้าวของที่เขาพกติดตัวล้วนถูกทำลายจนสิ้น ด้วยเหตุนี้จึงไม่อาจติดต่อสมาชิกคนอื่นๆ และผู้นำระดับสูงของหอมารสวรรค์ได้

“เอ๋? ข้างหน้ามีบางอย่าง!”

ดวงตาของหุ่นเชิดกลไกส่องประกายอัญมณีสีฟ้าระยับ

เมื่อครู่นี้เทพโบราณหลัวเหมินสัมผัสได้ว่าข้างหน้ามีคลื่นมิติที่ผสมปนเป เห็นได้ชัดว่าเป็นร่องรอยของการต่อสู้

ฟุ่บ! ฟุ่บ! ร่างของเทพโบราณหลัวเหมินกะพริบไหววูบติดๆ กัน มุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว

ไม่นานนัก เขาก็รับรู้ถึงพลังอัสนีที่แข็งแกร่งได้อย่างชัดเจน จากนั้นภาพหนึ่งก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้า ในหมอกแสงห้าสีกลุ่มนั้นสามารถมองเห็นกระจกแสงอัสนีวิจิตรวาวแววบานหนึ่งได้รางๆ

โซ่เจ็ดเส้นแผ่ออกมาจากในกระจก มัดวิญญาณของเทพโบราณขั้นเจ็ดของหอมารสวรรค์คนหนึ่งเอาไว้แน่น ทั้งยังดึงเข้าไปข้างใน

“ช่วยข้าด้วย มันคือผู้บุกรุก!” ร่างวิญญาณนั่นเห็นหุ่นเชิดกลไกของหอมารสวรรค์ก็รีบขอความช่วยเหลือทันที

“ผู้บุกรุก!” เทพโบราณหลัวเหมินมีสีหน้าคร่ำเคร่ง

ตามรายงานข่าวก่อนหน้านี้ หอมารสวรรค์มีผู้บุกรุกสองคน

คนที่หนึ่งคือเทพโบราณลั่วหลิง คนที่สองก็คือจ้าวเฟิง

เทพโบราณลั่วหลิงคือเทพโบราณขั้นแปดสุดยอดผู้เป็นทายาทเนตรมิติ เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนเบื้องหน้านี้ เช่นนั้นคนลึกลับที่อยู่ในหมอกแสงห้าสีเบื้องหน้า ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นจ้าวเฟิงนั่นเอง

เขาจำได้ว่าตอนนั้นพลังฝึกตนของจ้าวเฟิงเป็นเพียงแค่ขั้นเจ็ดสุดยอดเท่านั้น คิดไม่ถึงเลยว่าจะทะลวงขั้นแล้ว

“จ้าวเฟิง ข้าจะฆ่าเจ้า!”

เทพโบราณหลัวเหมินคำรามลั่น จากนั้นนำความกดดันพลังเทพที่แข็งแกร่งกลุ่มหนึ่งโจมตีไปยังจ้าวเฟิง

จ้าวเฟิงที่อยู่ในหมอกแสงห้าสีได้ยินประโยคนี้ สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที

“เขารู้ตัวตนของข้า!” จนถึงตอนนี้ ทุกคนที่จ้าวเฟิงประมือด้วยล้วนไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงของเขา

แต่หุ่นเชิดกลไกตัวนี้กลับตะโกนเรียกชื่อเขาออกมา ดูจากท่าทีแล้วเหมือนจะมีความแค้นกับตนไม่น้อยด้วย

“จ้าวเฟิง?” เทพโบราณที่วิญญาณถูกจ้าวเฟิงพันธนาการเอาไว้ก็อึ้งไปเช่นกัน

จากรายงานข่าว ผู้บุกรุกสองคนล้วนเป็นคนของแดนศักดิ์สิทธิ์มิติ!

ทว่าจ้าวเฟิงไม่ใช่คนของเผ่าพันธุ์วิญญาณจากเขตเทพสวรรค์หรอกรึ?

ในขณะที่เขาขบคิด ตาซ้ายของจ้าวเฟิงก็โคจรขึ้น วิชาดวงตาอัสนีเทวะสายหนึ่งฟาดออกมา

“เพลิงดวงตาอัสนีเทวะ!”

ตัวตนของจ้าวเฟิง หากเก็บไว้เป็นความลับได้ก็พยายามเก็บไว้ หากรั่วออกไปก็ไม่เป็นไร จนถึงตอนนี้ตัวตนของเขาน่าจะยังไม่เผยออกมาทั้งหมด

ดังนั้นคนผู้นี้…หุ่นเชิดกลไกตัวนี้ต้องตาย!

ครืน ฉัวะ! วิญญาณของโบราณขั้นเจ็ดถูกพลังอัสนีทำลายล้างอย่างบ้าคลั่ง

ในขณะเดียวกัน กระจกเก้าอัสนีหลอมวิญญาณปล่อยพลังกระชากวิญญาณเก็บเข้ามาด้านใน

ขณะเดียวกับที่ดำเนินการเรื่องพวกนี้ แน่นอนว่าจ้าวเฟิงก็หลบไปมา หนีการโจมตีของหุ่นเชิดกลไกสีฟ้าหม่น

“เจ้าคือเทพโบราณหลัวเหมิน!”

หลังจากจัดการเทพโบราณขั้นเจ็ด จ้าวเฟิงก็มองไปยังหุ่นเชิดกลไกเบื้องหน้าอย่างจริงจัง หุ่นเชิดกลไกทั่วไปไม่มีทางมีกลิ่นอายวิญญาณแข็งแกร่งได้ถึงเพียงนี้ อีกทั้งกลิ่นอายวิญญาณที่แผ่ออกมาจากหุ่นเชิดกลไกตัวนี้ยังคุ้นเคยเป็นอย่างดี

เขานึกย้อนกลับไปเล็กน้อยก็ได้คำตอบ เพียงแต่จ้าวเฟิงคิดไม่ถึงว่าเทพโบราณหลัวเหมินจะอยากสังหารตนถึงเพียงนี้

ฟื้นคืนชีพแล้วก็ไม่รีบไปหากายเนื้อ กลับสิงสู่อยู่ในหุ่นเชิดกลไกแล้วมุ่งมาสังหารจ้าวเฟิง

“ตายเสีย!” เทพโบราณหลัวเหมินคำรามอย่างโกรธแค้น กระบี่ยาวสีฟ้าหม่นในมือกวัดแกว่งต่อเนื่อง

หุ่นเชิดกลไกเดิมก็เป็นพลังขั้นแปดสุดยอด คมกระบี่ที่มีรัศมีอำนาจหนักหน่วงหลายสายนั้น ยิ่งเมื่อผสานกับเสวียนอ้าวมิติของเทพโบราณหลัวเหมินก็ยิ่งดุดันและยากจะหลบเลี่ยง

‘พอสังหารเจ้าแล้ว ข้าก็จะสิงในร่างของเจ้า!’ เทพโบราณหลัวเหมินหัวเราะเยาะในใจไม่หยุด

จ้าวเฟิงตอนนี้ก็เป็นเทพโบราณขั้นแปดเช่นกัน ทั้งยังเป็นอัจฉริยะที่ไปถึงเทพแท้จริงขั้นหกได้ในทันที หากได้ร่างของเขามา เทพโบราณหลัวเหมินก็เท่ากับได้พลิกฟ้าเปลี่ยนชะตา

“ขั้นแปดสุดยอด!” สีหน้าของจ้าวเฟิงเคร่งเครียด

เขาเพิ่งทะลวงขั้นแปด แต่พลังแฝงมั่นคงหนาแน่น เคล็ดวิชาล้ำลึกแข็งแกร่ง พลังเทพล้ำหน้าขั้นแปดทั่วไป เมื่อรวมกับอาวุธเทพระดับสุดยอดสองชิ้น เทพโบราณขั้นแปดทั่วไปโดยพื้นฐานแล้วจะพ่ายแพ้ราบคาบ แต่หากเป็นขั้นสุดยอดหรืออัจฉริยะชั้นยอดขั้นแปดก็จะยุ่งยากขึ้นมาอีกนิด

“ปราการมิติ!” จ้าวเฟิงกระตุ้นชุดคลุมมิติ ปลดปล่อยเงามิติซ้อนทับเป็นชั้นๆ ออกมา คมกระบี่มายาที่พลังแข็งแกร่งเหนือสิ่งอื่นใดได้รับผลกระทบจากปราการมิติ จ้าวเฟิงจึงหลบได้อย่างง่ายดาย

“หมัดเทพรวมศูนย์!” จ้าวเฟิงไม่เกรงกลัวแม้แต่น้อย กระตุ้นการโจมตีพลังเทพที่แข็งแกร่งที่สุดออกไป

ครืน ตูม บึ้ม! การต่อสู้ของทั้งสองคนสะเทือนไปทั่วฟ้าดิน

“เกิดอะไรขึ้น?” เทพโบราณขั้นเจ็ดคนหนึ่งไล่ตามมาถึงที่นี่

“เป็นผู้บุกรุก!” กายวัฏสงสารขั้นหกสุดยอดแถวนั้นพูดขึ้น

ในขณะเดียวกัน กายวัฏสงสารร่างนี้ก็เผยตัวตนของเจ้านายตนออกมา

“ผู้อาวุโส ข้าจะไปช่วยจับผู้บุกรุกนั่น!” เทพโบราณขั้นเจ็ดคนนั้นเตรียมพุ่งไปทันที

ตอนนี้หุ่นเชิดกลไกขั้นแปดตรึงกำลังผู้บุกรุกไว้ แค่เพียงพวกเขาเข้าร่วมการต่อสู้ด้วยจะต้องพลิกสถานการณ์ได้แน่ เช่นนั้นก็จะได้คะแนนคุณูปการมาแล้ว

“ช้าก่อน คนอื่นๆ ล้วนกำลังมุ่งหน้ามา ถึงตอนนั้นค่อยปิดกั้นที่นี่ จากนั้นล้อมโจมตีหมู่!”

กายวัฏสงสารขั้นหกพูดเสียงต่ำ