Skip to content

King of Gods 1417

King Of Gods

บทที่ 1417 ศึกสุดท้าย

บนท้องฟ้า คลื่นวนมิติชั้นหนึ่งแผ่ระลอกขึ้นมา

ฟุ่บ! จ้าวเฟิงพาเทพโบราณหยวนเหยากระโดดออกมาจากความว่างเปล่าในท้องฟ้า

“ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว!” จ้าวเฟิงหยุดลง แขนผละออกจากเอวนุ่มนิ่มของเทพโบราณหยวนเหยา

“ขอบใจมาก!” ถึงแม้เทพโบราณหยวนเหยาจะอ่อนแอมาก แต่ใบหน้ากลับแดงซ่านเย้ายวนใจ

“ข้าช่วยเจ้าควบคุมพิษในกายก่อนก็แล้วกัน” จ้าวเฟิงเอ่ยปาก

หากไม่ใช่ว่าเพราะเทพโบราณหยวนเหยาถูกพิษ ไม่สามารถต่อสู้ในเวลานานได้ จ้าวเฟิงคงไม่ต้องรีบร้อนหนีมา

ตอนนี้เขาอยากจะสังหารครึ่งก้าวสู่จอมเทพก็ไม่ได้ลำบากนัก ครึ่งก้าวสู่จอมเทพสองคนแม้จะจัดการยาก แต่หากนำไพ่ตายออกมาแล้วละก็ เขามีความมั่นใจเป็นอย่างยิ่งในการสังหารพวกเขา

ในตอนนี้เอง ตรงขอบฟ้าไกลลิบ ลมเมฆพลันเปลี่ยนสี

ครืน! ความกดดันน่าครั่นคร้ามกลุ่มหนึ่งแผ่กระจายมาทันใด

เสี้ยวขณะนี้ ฟ้าดินพลันพัดลมสีขาวรางเลือนขึ้นมา พลังทุกอย่างข้างในถูกควบคุมโดยสิ้นเชิง

ท่ามกลางลมพายุหมุน ผู้อาวุโสชุดคลุมยาวสีขาวทอง มีแสงเทพสีขาวระยับล้อมรอบกายคนหนึ่ง เดินออกมาในฉับพลัน

ยามนี้ ผู้อาวุโสคนนี้ราวกับเป็นตัวแทนแห่งฟ้าดิน ทุกการเคลื่อนไหวแผ่กระจายพลังที่มาจากทั่วทั้งดินฟ้า

“จอมเทพ!” สีหน้าของจ้าวเฟิงตื่นตะลึง จ้องผู้อาวุโสคนนั้นเขม็ง

“ผู้อาวุโสที่สอง!” เทพโบราณหยวนเหยามีสีหน้าเคารพนบนอบ

“พวกเจ้าสองคนไยจึงมาอยู่ที่นี่?” สายตาของผู้อาวุโสสองจ้องเพ่งไปยังเทพโบราณหยวนเหยาและจ้าวเฟิง

“รายงานผู้อาวุโส ข้าถูกแผนชั่วของเผ่าเปลวทองตลบหลัง ตกอยู่ในอันตราย แต่จ้าวเฟิงมาช่วยข้าเพียงลำพัง พวกเราทั้งสองร่วมมือกันหนีจากอันตราย!”

เทพโบราณหยวนเหยาพูดสั้นๆ ได้ใจความ

“หืม?” สายตาของผู้อาวุโสสองหยุดลงที่จ้าวเฟิงทันใด เขาปิดด่านฝึกตนมาตลอดปี เรื่องของจ้าวเฟิงก็รู้ไม่มากนัก เพียงแต่เคยได้ยินมาบ้าง

ชุดคลุมมิติบนร่างจ้าวเฟิงดึงดูดความสนใจของเขา ต่อมาอายุและพลังฝึกตนก็ทำให้เขาค่อนข้างตกตะลึง สุดท้าย สายตาของเขาหยุดอยู่ที่ตาซ้ายจ้าวเฟิง ฉายแววประหลาดใจ

“ไม่เลว เจ้าเกินกว่าความคิดของข้าไปมาก!” สุดท้ายผู้อาวุโสสองเอ่ยแค่ประโยคนี้ออกมา แต่สามารถทำให้จอมเทพเอ่ยปากชมเชยได้ สำหรับคนขั้นต่ำกว่าครึ่งก้าวสู่จอมเทพลงมานับเป็นเกียรติยศอย่างหนึ่ง

“ขอบคุณผู้อาวุโสที่ชมเชย!” จ้าวเฟิงเอ่ยตามมารยาท

“ถึงแม้พวกเจ้าจะพ้นจากอันตรายเรียบร้อย แต่ในเมื่อข้ามาแล้ว ก็จะไม่กลับไปง่ายๆ!”

ผู้อาวุโสสองเงยหน้ามองไปยังที่ไกล

“เจ้าค่ะ!” เทพโบราณหยวนเหยาพยักหน้าทันที

ในใจของนางตื่นตะลึงเป็นอย่างยิ่ง ผู้อาวุโสสองจะยื่นมือเข้ามาในสงครามงั้นหรือ?

“ไป!” ชายเสื้อของผู้อาวุโสสองเพียงสะบัดไป พลังไร้รูปร่างกลุ่มหนึ่งดึงจ้าวเฟิงและเทพโบราณหยวนเหยามายังข้างกายเขา

“พิษ?” สายตาของผู้อาวุโสสองมองไปยังเทพโบราณหยวนเหยาอีกครั้ง

ในขณะเดียวกัน พลังกฎเกณฑ์ที่ลึกลับยากหยั่งถึงก็หุ้มล้อมไปยังร่างของนาง

ชั่วขณะนี้ เทพโบราณหยวนเหยารู้สึกเหมือนว่าตนกลายเป็นคนธรรมดา โคจรพลังใดๆ ไม่ได้เลย

ตาซ้ายของจ้าวเฟิงมองไปยังเทพโบราณหยวนเหยา

ถึงแม้ตอนนี้ นางจะถูกควบคุมจากกฎเกณฑ์มหาศาล แต่พิษในกายถูกพลังควบคุมหนักยิ่งกว่า เห็นเพียงพิษทั่วทั้งร่างของเทพโบราณหยวนเหยา พลังกฎเกณฑ์ภายใต้ขั้นครึ่งก้าวสู่จอมเทพลงมาถูกทำลายหายไปโดยสิ้นเชิง

เวลาขณะต่อมา การจำกัดควบคุมบนร่างของนางหายไปหมดสิ้น นางพบว่าพิษในร่างก็ถูกขจัดไปหมดแล้ว

“ขอบคุณผู้อาวุโส!” เทพโบราณหยวนเหยาเอ่ยอย่างซาบซึ้งใจ

ผู้อาวุโสสองไม่ได้พูดอะไร สำแดงเคลื่อนย้ายมิติพาเทพโบราณหยวนเหยาและจ้าวเฟิงจากไป

……

สนามรบของสองเผ่าอลหม่านวุ่นวายไปทั่ว มองไม่เห็นฟ้าดิน

ฟุ่บ! ฟุ่บ! ทันใดนั้น ร่างเงาที่มีกลิ่นอายพลังแข็งแกร่งสองร่างโบยบินมาใกล้สนามรบอย่างรวดเร็ว

“เทพโบราณหานเยี่ยน เทพโบราณโม๋อู!”

ผู้อาวุโสสามเผ่าพันธุ์วิญญาณมองไปยังร่างสองร่าง หลับตาลงเล็กน้อย ฉายแววจนปัญญา

“หรือว่าเทพโบราณหยวนเหยากับเด็กนั่น…”

สีหน้าของหญิงชราที่อยู่ข้างๆ ฉายแววสงสาร

บนสนามรบ คนเผ่าพันธุ์วิญญาณส่วนมากมีอาการหดหู่สิ้นหวัง

“ฮ่าๆ พวกเจ้าในที่สุดก็กลับมา!” ผู้อาวุโสจินหัวเราะเสียงเย็น ไม่ได้ถามไถ่อะไร

เพราะสำหรับเขา เทพโบราณหานเยี่ยนและเทพโบราณโม๋อูร่วมมือกัน เทพโบราณหยวนเหยากับจ้าวเฟิงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย

“พวกเรา…” เทพโบราณหานเยี่ยนมองไปยังผู้อาวุโสจิน ยากจะเอื้อนเอ่ยอะไร

ต่อให้บอกผู้อาวุโสจิน เขาก็น่าจะไม่เชื่อ จ้าวเฟิงอัจฉริยะหน้าใหม่ขั้นเก้าช่วยเทพโบราณหยวนเหยาไปจากเงื้อมมือพวกเขาครึ่งก้าวสู่จอมเทพทั้งสองได้ แต่นี่มันเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นไปแล้ว พวกเขาจะต้องรายงานเบื้องบน

ทว่าในตอนนี้เอง

“ถอย!” ผู้อาวุโสจินคำรามลั่น ตัดบทเทพโบราณหานเยี่ยน

ถึงแม้เผ่าเปลวทองจะไม่เข้าใจเหตุผล แต่พวกเขาล้วนเชื่อฟังคำสั่งของแม่ทัพใหญ่

ทันใดนั้น เผ่าเปลวทองทั้งหมดหมุนตัวกลับ ถอยทัพทันที

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น? เผ่าเปลวทองถอยทัพแล้ว!” ผู้อาวุโสสามเผ่าพันธุ์วิญญาณยืนอึ้งอยู่กับที่

ด้านล่าง สมาชิกเผ่าพันธุ์วิญญาณทั้งหมดล้วนรอฟังคำสั่งของผู้อาวุโส

ถึงแม้เผ่าเปลวทองถอยทัพไปแล้ว แต่พลังของอีกฝ่ายล้ำหน้าเผ่าพันธุ์วิญญาณไปมาก พวกเขาไล่ตามไปก็รังแต่จะหาเรื่องให้ตัวเอง

แต่ทว่า เสี้ยวขณะต่อมา ผู้อาวุโสสามและหญิงชราผมขาวเผ่าพันธุ์วิญญาณหน้าเปลี่ยนสีไปทันใด

ครืน ตูม ตูม! ฟ้าดินพลันพัดลมสีขาวรางเลือนขึ้นมา ทุกสรรพสิ่งนอกนั้นล้วนดูหม่นแสงไปสิ้น

ทันใดนั้น ร่างเงาสามร่างก็ปรากฏขึ้นเหนือเผ่าพันธุ์วิญญาณ

“คารวะผู้อาวุโสสอง!” ผู้อาวุโสสามและหญิงชราผมขาวพูดอย่างเคารพนบนอบทันที

ในขณะเดียวกัน ทุกสรรพสิ่งในฟ้าดินต่างหมอบคลานอยู่ใต้ผู้อาวุโสที่สอง

“เทพโบราณหยวนเหยาและจ้าวเฟิงต่างไม่เป็นอะไร?” ผู้แข็งแกร่งเผ่าพันธุ์วิญญาณทั้งหลายถอนหายใจโล่งอก

สำหรับพวกเขา ต้องเป็นจอมเทพตามมาได้ทันเวลาแล้วช่วยพวกเขาทั้งสองเอาไว้อยู่แล้ว

“จ้าวเฟิง ทีหลังอย่าได้ทำเรื่องโง่ๆ อีก!” ผู้อาวุโสสามตำหนิอย่างเข้มงวด

สำหรับเรื่องนี้ จ้าวเฟิงไม่ได้อธิบายอะไรมาก

“หึ คิดหนีหรือ?” ผู้อาวุโสสองแค่นเสียงต่ำ ร่างหายไปทันที

เสี้ยวขณะต่อมา เขาก็ประชิดไปยังกองทัพเผ่าเปลวทอง

“ถอยเร็วเข้า ไม่ต้องสนใจอะไรทั้งนั้น!” ผู้อาวุโสจินคำรามเสียงดัง

เผชิญหน้ากับจอมเทพ ยิ่งหยุดอยู่นาน การสูญเสียก็ยิ่งมาก

นอกจากนั้น ก่อนหน้านี้เผ่าพันธุ์วิญญาณบุกโจมตีมา ดังนั้นที่นี่จึงอยู่ค่อนข้างใกล้กับฐานที่มั่นเผ่าเปลวทอง ขอแค่เพียงกลับไปยังฐานที่มั่นได้ ทุกคนก็สามารถใช้ค่ายกลต้านทานการโจมตีของจอมเทพเผ่าพันธุ์วิญญาณเอาไว้ได้ชั่วขณะ

ครืน ตูม ตูม! พลังฟ้าดินทะลักล้น รวมตัวไปยังผู้อาวุโสสอง

“ข้ามาแล้ว จะกลับไปมือเปล่าได้อย่างไร!”

ผู้อาวุโสสองสะบัดมือ ผลึกแก้วกลุ่มหนึ่งก่อตัวขึ้น ผลึกแก้วพวกนี้ราวกับของเหลว บิดม้วนเปลี่ยนรูปร่างไปไม่หยุด

ฟู่! พลังเทพวาวระยับกลุ่มหนึ่งก่อเป็นพายุคลั่งระยิบระยับ กวาดไปยังกองทัพเผ่าเปลวทอง

“เป้าหมายของเขาคือข้า…ไม่”

ชายวัยกลางคนตัวเตี้ยรู้สึกถึงคลื่นพลังสะท้านฟ้าจากข้างหลัง สีหน้าเปลี่ยนไปทันที ร้องอย่างน่าสังเวช

จอมเทพลงมือ แน่นอนว่าไม่มีทางสังหารเทพแท้จริงซึ่งไร้ความสำคัญเหล่านั้น แต่เป็นครึ่งก้าวสู่จอมเทพที่พลังฝึกตนสูงในกองทัพเผ่าเปลวทอง

ชายวัยกลางคนตัวเตี้ยกระตุ้นสายเลือดเผ่าเปลวทองทันใด ปะทุเปลวเพลิงสีทองร้อนแรงกลุ่มหนึ่งออกมา

ครืน บึ้ม! ภายใต้การปะทะกันของทั้งสอง ฟ้าดินผันเปลี่ยน เทพแท้จริงกับเทพโบราณแถวนั้นจำนวนไม่น้อยถูกเศษเสี้ยวการโจมตีสังหารลงทันที

“ข้าให้เจ้าตาย เจ้าก็ต้องตาย!” ผู้อาวุโสสองแค่นเสียงเย็น สะบัดฝ่ามือขึ้นอีกครั้ง

“ไม่…” ชายวัยกลางคนตัวเตี้ยไร้ซึ่งเรี่ยวแรง เสียงเอ่ยแหบแห้ง

เขาต้านทานการโจมตีกระบวนท่าแรกของจอมเทพก็ใช้ไปทุกสิ่งแล้ว

ครืน บึ้ม! พายุคลั่งระยิบระยับพัดมา ร่างของชายวัยกลางคนตัวเตี้ยแคระหายไปอย่างไร้ร่องรอย

“หนีเร็ว!” “พลังของจอมเทพน่ากลัวยิ่งนัก!”

เผ่าเปลวทองทั้งหมดหนีอย่างลนลาน ไม่นานนัก เผ่าเปลวทองก็กลับไปในฐานที่มั่น จากนั้นเปิดค่ายกลแต่ละชั้นๆ

“หึ!” ผู้อาวุโสสองถอยทันที

ในตอนที่เขาปรากฏตัวขึ้น เผ่าเปลวทองจะต้องรายงานจอมเทพของเผ่าตัวเองแล้วแน่นอน อีกทั้งอีกฝ่ายมีครึ่งก้าวสู่จอมเทพสามคน รวมกับค่ายกลในฐานที่มั่น ต่อให้ฝืนโจมตีก็ไม่มีผลดีอะไร จากนั้น กองทัพเผ่าพันธุ์วิญญาณก็ถอยกลับไปยังฐานที่มั่น พักผ่อนรักษาตัวเสียก่อน

ศึกนี้เผ่าพันธุ์วิญญาณสูญเสียสาหัส หากไม่ใช่ว่าผู้อาวุโสสองลงมือสังหารครึ่งก้าวสู่จอมเทพเผ่าเปลวทองคนหนึ่งและเทพแท้จริงมากมาย เกรงว่าเผ่าพันธุ์วิญญาณคงเสียเปรียบไปแล้ว

เผ่าพันธุ์วิญญาณถอยทัพได้ไม่นาน ก็ได้รับข่าวว่าจอมเทพเผ่าเปลวทองตามมาสมทบแล้ว แต่ตอนนี้พวกเขามีผู้อาวุโสสองปกป้องรักษาอยู่ที่นี่ จึงไม่เกรงกลัว

หลังจากนั้น ข่าวร้ายก็มาเยือน

“บัดซบ เผ่าเปลวทองส่งจอมเทพคนหนึ่งไปทำลายฐานที่มั่นของพวกเราหลายแห่ง!”

ผู้อาวุโสสามโกรธแค้นเป็นอย่างยิ่ง คำรามเสียงดัง

ไม่เพียงเท่านั้น จอมเทพเผ่าเปลวทองคนนั้นยังดักซุ่มอยู่ที่ทางกลับของเผ่าพันธุ์วิญญาณ สังหารกองกำลังย่อยของเผ่า รวมถึงครึ่งก้าวสู่จอมเทพคนหนึ่งด้วย

“เตรียมเปิดศึกอย่างเต็มรูปแบบเถิด!” ผู้อาวุโสที่สองหลับตาลงเล็กน้อย พูดขึ้นทันที

ผู้อาวุโสสามสีหน้าสั่นสะท้าน พยักหน้ารับ

วันนั้น ผู้อาวุโสสามออกคำสั่งเรียกรวมพล รวบรวมกำลังคนทั้งหมดของเผ่าพันธุ์วิญญาณ อีกด้านหนึ่งที่ไกลๆ กองทัพเผ่าเปลวทองก็ค่อยๆ แข็งแกร่งขึ้น

วันที่สาม เผ่าพันธุ์วิญญาณมีจอมเทพอีกสองคนมาถึง

แบ่งเป็นยอดผู้อาวุโสและผู้อาวุโสสูงสุด

ยอดผู้อาวุโสร่างท้วมค่อนข้างอบอุ่น ถึงแม้จะเป็นจอมเทพ แต่กลับชวนให้รู้สึกถึงความอ่อนโยน ส่วนผู้อาวุโสสูงสุดเผ่าพันธุ์วิญญาณอยู่ในหมอกระยิบระยับสีฟ้าอ่อนชั้นหนึ่ง มองไม่เห็นใบหน้าที่แท้จริง

วู้ม! จ้าวเฟิงอดโคจรตาซ้ายมองทะลุไปไม่ได้

เห็นเพียงยอดผู้อาวุโสเผ่าพันธุ์วิญญาณที่อยู่ในหมอกระยิบระยับเป็นชั้นๆ มีรูปร่างสูงใหญ่ สีหน้าราบเรียบ ทั่วทั้งร่างก่อขึ้นจากผลึกวาวระยับสีฟ้าอ่อนกึ่งโปร่งแสง ผมพร่างพราวสีฟ้าอ่อนพลิ้วไหวราวสายน้ำไหล

“ว่ากันว่ายอดผู้อาวุโสเผ่าพันธุ์วิญญาณไปถึงขั้นที่สอง!” จ้าวเฟิงพึมพำ

จอมเทพทั้งสามขั้น ระหว่างทุกขั้นช่างห่างกันราวคนละโลก

ครืน ตูม ตูม! ในตอนนี้ ขอบฟ้าที่ไกลเปลี่ยนเป็นสีแดงทอง ราวกับถูกไฟร้อนแรงมหาศาลเผาไหม้ จากนั้น เรือรบเพลิงทองลำมหึมาสองลำก็แล่นมาอย่างรวดเร็ว ส่วนยอดของเรือรบลำหนึ่งที่อยู่ตรงกลาง มีแสงทองเจิดจ้าสามกลุ่มลอยอยู่เงาคนร่างหนึ่งตรงกลาง ร่างสูงถึงสามจั้ง บนร่างสีทองวาววับเต็มไปด้วยลวดลายเปลวเพลิงแปลกประหลาด ด้านซ้ายของเขาคือผู้อาวุโสหลังค่อม ด้านขวาคือสตรีงดงามเย้ายวน

“วันนี้ จบทุกสิ่งกันเสียเถอะ!”

บนร่างสีทองวาววับของยอดผู้อาวุโสเผ่าเปลวทองมีเพลิงลุกไหม้ขึ้นทันใด

ทันใดนั้น ทั่วทั้งฟ้าดินตลบอบอวลไปด้วยเปลวไฟมหาศาล เปลวไฟพวกนี้ไม่ทำร้ายคนของเผ่าเปลวทอง แต่กลับทำให้พวกเขาจิตต่อสู้เต็มเปี่ยม พลังเพิ่มขึ้น

“ควรจะจบลงไปได้นานแล้ว!” ยอดผู้อาวุโสเผ่าเปลวทองพูดอย่างเรียบนิ่ง

“จ้าวเฟิง ครั้งนี้เป็นศึกสุดท้าย บาดแผลของเทพโบราณหยวนเหยายังฟื้นฟูไม่สมบูรณ์ เจ้าก็อย่าได้เก็บซ่อนพลังอีกเลย!” จู่ๆ ผู้อาวุโสสองก็ส่งกระแสจิตให้จ้าวเฟิง

สีหน้าของจ้าวเฟิงตะลึงไปเล็กน้อย ท่าทางเทพโบราณหยวนเหยาคงจะบอกทุกอย่างกับผู้อาวุโสสองแล้ว

ตอนนี้เทพโบราณหยวนเหยาบาดเจ็บหนัก ยังไม่ฟื้นสภาพ ครึ่งก้าวสู่จอมเทพฝั่งเผ่าเปลวทองมีมากกว่าเผ่าพันธุ์วิญญาณคนหนึ่ง มีเพียงให้จ้าวเฟิงทดแทนที่ว่างนี้

“ขอรับ!” จ้าวเฟิงพยักหน้า

หากเผ่าพันธุ์วิญญาณได้รับชัยชนะมา จ้าวเฟิงก็เท่ากับตัดเรื่องยุ่งยากเรื่องใหญ่ทิ้งไป ดังนั้นศึกสุดท้ายที่สำคัญนี้ เขาจะลงมือสุดกำลัง!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version