Skip to content

King of Gods 144

King Of Gods

บทที่ 144 : ภารกิจที่ไม่ธรรมดา

รายละเอียดของวิชาเซียนวายุสวรรค์นั้นดูคุ้นเคย และเมื่อคิดเกี่ยวกับมัน มันเป็นวิชาที่มีธาตุลม ดังนั้นแล้วจึงมีเพียงสิ่งที่เขาเรียนรู้จากกระบวนวายุทั้งสี่และฝ่ามือลมลี้ลับ

กระทั่งฝ่ามือวายุอัสนียังมีธาตุลมเป็นพื้นฐานในการเรียกสายฟ้า ดังนั้นหลังจากอ่านเพียงหนึ่งครั้ง จ้าวเฟิงจึงสามารถทำความเข้าใจได้หนึ่งถึงสองส่วนของมัน

หากมีผู้อื่นในสำนักอยู่ที่นี่ พวกเขาย่อมตื่นตะลึง ความแตกต่างระหว่างแต่ล่ะระดับนั้นมากมาย และวิชามนุษย์ระดับต่ำคือวิชาเซียนในโลกมนุษย์

สำหรับศิษย์ของสำนักแล้ว วิชามนุษย์ระดับต่ำนั้นไม่ได้ยากที่จะทำความเข้าใจ เพียงแค่ต้องใช้เวลาในการฝึกฝนจนเข้าขั้นสุดยอดเท่านั้น

ทว่าความยากของวิชามนุษย์ระดับกลางนั้นมากกว่าระดับต่ำสองเท่า ศิษย์สายในธรรมดามีเพียงวิชามนุษย์ระดับกลางหนึ่งวิชา และน้อยคนนักจึงจะมีถึงสอง

สำหรับวิชามนุษย์ระดับสูงนั้นมีเพียง 100-200 วิชาในสำนักจันทร์สลาย กระทั่งศิษย์ที่อยู่ในระดับต่ำกว่านภาที่สี่ได้รับมัน มันก็ยังยากที่จะทำความเข้าใจ

ดังนั้นแล้ว จึงมีศิษย์หลักเพียงไม่กี่คนที่มีพรสรรค์ ความสามารถ และความเข้าใจสูงจึงจะได้รับอนุญาตให้เรียนรู้วิชามนุษย์ระดับสูง

จ้าวเฟิงเพียงแค่อ่านมันครั้งเดียวและสามารถเข้าใจได้หนึ่งถึงสองในสิบส่วนของมัน

มันเป็นเพราะสองเหตุผลหลัก

  1. 1. หลังจากดวงตาซ้ายของเขาพัฒนาขึ้น ความสามารถในการเข้าใจของเขาก็สูงขึ้น
  2. 2. วิชาส่วนมากที่จ้าวเฟิงฝึกฝนนั้นคล้ายคลึงกับวิชาเซียนวายุสวรรค์

ในวันเดียวกันนั้น จ้าวเฟิงได้เริ่มฝึกฝนวิชาเซียนวายุสวรรค์ เขายังได้อ่านฉบับง่ายของมัน วิชาวายุโอบสวรรค์

กฎของสำนักกล่าวไว้ว่าวิชาในตำหนักกลวงนั้นต้องไม่ถูกแพร่งพรายออกไป หรือมิเช่นนั้นพลังฝึกตนของคนผู้นั้นจะถูกทำลาย

จ้าวเฟิงไม่ได้รับอนุญาตจากสำนัก และแม้ว่าวิชาจะไม่ถูก ‘แพร่งพราย’ มันก็ยังเป็นปัญหาหากถูกค้นพบ วิชาฉบับง่าย วายุโอบสวรรค์ จะสามารถปกปิดมันได้

ครึ่งวันต่อมา

จ้าวเฟิงได้เข้าสู่ขั้นพื้นฐานและปราณแท้ในร่างของเขาได้คล่องแคล่วว่องไว สองวันต่อมา ปราณแท้ทั้งหมดของเขาได้กลายเป็นปราณแท้วายุสวรรค์

เด็กหนุ่มได้ทดสอบปราณนั้นและการควบรวมของปราณแท้วายุสวรรค์นั้นรวดเร็วอย่างมาก และมันยังมีความแหลมคมของกระบวนท่าเสี้ยววายุอีกด้วย ทว่ามันไม่ได้ลึกล้ำมากนัก

ยิ่งเขาฝึกฝนมากเท่าใด เด็กหนุ่มก็ยิ่งประหลาดใจมากขึ้นเท่านั้น วิชาเซียนวายุสวรรค์นี้ได้มีความเข้าใจของสามกระบวนท่าแรกของกระบวนท่าวายุทั้งสี่ ปราณแท้ของมันนั้นคล้ายคลึงกับพลังภายในของนภาลอยล่อง รวดเร็ว คล่องแคล่ว และแหลมคม

“หืมมม!?”

จ้าวเฟิงพลันตระหนักได้ว่ากระบวนท่าของวิชาเซียนวายุสวรรค์นั้นคือกระบวนท่าเดียวกันฝ่ามือลมลี้ลับ

แม้ว่ากระบวนท่าเซียนวายุสวรรค์จะฝึกฝนปราณแท้ มันก็ยังมีกระบวนท่าอยู่ และหนึ่งในนั้นนามว่า ‘กระบวนท่าพายุคมมีด’ นั้นได้คล้ายคลึงกับฝ่ามือลมลี้ลับอย่างมาก กระทั่งฉบับง่าย วิชาวายุโอบสวรรค์ยังมีกระบวนท่าที่คล้ายคลึงนามว่าฝ่ามือคมมีดหมุน

“หรือหลันเสี่ยวหยวนได้ฝึกฝนวิชาวายุโอบสวรรค์หรือวิชาเซียนวายุสวรรค์กัน?” จ้าวเฟิงคิดขณะที่ภาพได้ฉายขึ้นในสมองของเขา

หลันเสี่ยวหยวนนั้นค่อนข้างเด็ก ทว่ากลับเกือบจะเข้าไปยังนภาที่สามแห่งขอบเขตก่อกำเนิดปราณ หากนางได้ฝึกฝนวิชาเซียนวายุสวรรค์ เช่นนั้นคนหนุนหลังของนางย่อมไม่ธรรมดา

เด็กหนุ่มหยุดคิดเรื่องไร้สาระและโคจรปราณแท้วายุสรรค์อีกครั้ง ยิ่งเขาโคจรมากเท่าใด เขาก็ยิ่งค้นพบความน่าสะพรึงกลัวของมัน

ด้วยวิชาเซียนวายุสวรรค์เป็นพื้นฐาน ฝ่ามือวายุอัสนีของเขาได้อยู่ในระดับใหม่โดยสิ้นเชิง

ในเวลาเพียงไม่กี่วัน พลังฝึกตนของจ้าวเฟิงก็ได้มั่นคงในขั้นสุดยอดของนภาที่หนึ่งแห่งขอบเขตก่อกำเนิดปราณ

เมื่อเขาได้เรียนรู้วิชาเซียนวายุสวรรค์และฝ่ามือวายุอัสนี เด็กหนุ่มเชื่อว่าไม่มีผู้ใดภายใต้นภาที่สามแห่งขอบเขตก่อกำเนิดปราณจะสามารถคุกคามเขาได้

ฟู่วว

กระดูกของเด็กหนุ่มนั้นค่อนข้างฝืดเคืองหลังจากฝึกตนติดต่อกันเป็นเวลาสองสามวัน เมื่อเขาเดินออกจากประตู เขาก็พบกับจดหมายพิเศษที่แปะอยู่บนประตูและมีรูปจันทร์เสี้ยวอยู่บนนั้น

จ้าวเฟิงรู้ว่าสัญลักษณ์นี้หมายถึงจดหมายนี้เป็นภารกิจที่ถูกมอบหมายโดยสำนักและเขาต้องทำให้สำเร็จ ทุกๆ สองเดือน ศิษย์สายในจำต้องทำภารกิจอย่างหนึ่งให้สำนักและเมื่อทำสำเร็จ พวกเขาจะได้รับแต้มสนับสนุนและผลึกเริ่มต้นจำนวนหนึ่งเป็นของรางวัล หากพวกเขาล้มเหลว แต้มสนับสนุนจำนวนหนึ่งจะถูกลด และหากคนผู้นั้นทำผิดพลาดอย่างต่อเนื่อง พวกเขาอาจถูกไล่ออกจากสำนักได้

“หน้าที่ของสำนัก…”

ดวงตาของเด็กหนุ่มเปล่งประกายระริกขณะที่เขาเปิดจดหมาย

เมื่อสำนักได้มอบหมายภารกิจ พวกเขามักจะพิจารณาพลังฝึกตนของคนผู้นั้น ดังนั้นแล้วศิษย์พี่อ่อนแอกว่าจะได้ไม่เจอภารกิจที่ยากเกินไป

ภารกิจที่ยากกว่าจำนวนหนึ่งต้องการคนเป็นกลุ่มเพื่อที่จะทำให้สำเร็จ

เพราะมันเป็นครั้งแรกที่จ้าวเฟิงได้รับภารกิจ เขาจึงตื่นเต้นและคาดหวังเล็กๆ

ภารกิจ: หาต้นกำเนิดของโรคติดต่อในตระกูลซิ่งและหาสาเหตุการตายของหัวหน้าตระกูล ‘ซิ่งเฉิน’ รางวัลพิเศษจะได้รับเมื่อพบฆาตกร

ภารกิจนั้นเรียบง่ายอย่างมากและมีคำอธิบายเกี่ยวกับตระกูลซิ่น

จ้าวเฟิงรู้เกี่ยวกับตระกูลซิ่น เมื่อมันเป็นหนึ่งในตระกูลใหญ่ในจักรวรรดิเมฆา หัวหน้าตระกูล ซิ่งเฉิน ได้อยู่ที่นภาที่สองแห่งขอบเขตก่อกำเนิดปราณ เช่นเดียวกับจ้าวเมืองกว่านจวิน

เมื่อรวมพลังของทั้งตระกูลซิ่นแล้วอาจเทียบเท่าได้กับตำหนักกว่านจวิน

ในเวลาไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มันได้มีโรคติดต่อแปลกประหลาดเกิดขึ้น และหัวหน้าตระกูลได้ตายลง บุตรชายทั้งสองได้สู้กันเพื่อแย่งชิงตำแหน่งหัวหน้าตระกูล

จดหมายได้มีคำเตือนไว้: มีร่องรอยของผู้ฝึกตนจากจักรวรรดิอื่น หากเป็นศัตรูที่ไม่อาจรับมือได้ สามารถถอยและขอความช่วยเหลือจากสำนักได้

ระดับภารกิจ: 2.5 ดาว มีโอกาสที่จะเพิ่มเป็น 3 ดาว

ภารกิจของสำนักนั้นมีทั้งหมด 7 ดาว และทุกๆ ดาวได้แทนที่เจ็ดนภา

2.5 ดาวนั้นหมายความว่าคนผู้หนึ่งจำต้องอยู่ในนภาที่สาม หรือผู้ฝึกตนในนภาที่สองจำนวนมาก

“ภารกิจนี้เป็น 2.5 ดาว ไม่ใช่สิ่งที่เด็กใหม่ควรได้รับ”

ประกายแสงส่องระริกในดวงตาของจ้าวเฟิง และเช่นที่เขาคาด เขาพบว่าสมาชิกคนอื่นของกลุ่มนั้นคือ หวงอวิ๋น ซู่เหริน เซี่ยวซุน จ้าวเฟิง และหลินฟ่าน

หัวหน้า: หวงอวิ๋น

ขั้นสุดยอดในนภาที่สองแห่งขอบเขตก่อกำเนิดปราณ

รองหัวหน้า: ซู่เหริน

นภาที่สองแห่งขอบเขตก่อกำเนิดปราณ

เมื่อมองไปยังสมาชิกของกลุ่มแล้ว จ้าวเฟิงก็มีความรู้สึกแปลกๆ ว่าภารกิจในครานี้นั้นไม่ธรรมดา จากเบื้องหน้า มันดูเป็นภารกิจที่ถูกนำโดยศิษย์สองคนในนภาที่สอง และอีกสามล้วนเป็นยอดฝีมือในนภาที่หนึ่ง โดยเฉพาะเมื่อจ้าวเฟิงและหลินฟ่านต่างเคยเป็นศิษย์สายนอกอันดับหนึ่งมาก่อน

การจัดกลุ่มเช่นนี้นับว่าเหมาะสม ทว่าเมื่อคิดให้ลึกลงไป พวกเขาจะพบว่าซู่เหรินได้มีปัญหากับจ้าวเฟิงและหลินฟ่าน ส่วนเซี่ยวซุนนั้นได้ตัดความสัมพันธ์กับทั้งสองแล้วเช่นกัน

หัวหน้าทีมหวงอวิ๋นมีพลังฝึกตนสูงที่สุด ทว่าจ้าวเฟิงไม่รู้อันใดเกี่ยวกับเขาเลย

รางวัลภารกิจ: สำเร็จข้อกำหนดพื้นฐาน – 100 ผลึกเริ่มต้นจำลอง 100 แต้มสนับสนุน ฆ่าฆาตกรได้ – ได้ 200 ผลึกเริ่มต้นเพิ่ม และ 200 แต้มสนับสนุน

“อย่างน้อยรางวัลก็เยอะ” จ้าวเฟิงเค้นเสียงเย็น

“ศิษย์น้องจ้าว”

ในตอนนั้นเองที่หลินฟ่านได้มาหาเด็กหนุ่ม

จดหมายที่เหมือนกับของจ้าวเฟิงอยู่ในมือเขา ชายหนุ่มมุ่งตรงเข้าเรื่องไปในทันที

“เจ้าคิดยังไงเกี่ยวกับภารกิจนี้?”

“ภารกิจคงไม่ราบลื่น หากมีเพียงแค่เราสองคน โอกาสที่จะทำสำเร็จอาจกระทั่งมากกว่า” จ้าวเฟิงเอ่ยพร้อมรอยยิ้มลึกล้ำ

หลินฟ่านนิ่งอึ้งไปเล็กๆ ความหมายของอีกฝ่ายนั้นชัดเจน ความแข็งแกร่งโดยรวมของกลุ่มนั้นมาก ทว่าความเป็นศัตรูกันในกลุ่มนั้นได้ทำให้พวกเขาไม่อาจรวมมือกันได้ดี

เด็กหนุ่มเลือกที่จะรับภารกิจนี้คนเดียวโดยมีหลินฟ่านช่วยมากกว่า

“ผู้ใดคือหวงอวิ๋น?” จ้าวเฟิงเอ่ยถาม

หวงอวิ๋นเป็นหัวหน้าของกลุ่ม

“คนผู้นี้ครองอันดับสามในบรรดาศิษย์ในนภาที่สองแห่งขอบเขตก่อกำเนิดปราณ และเขาดูเหมือนจะรู้จักกับหยวนจื่อ” หลินฟ่านเอ่ยตอบ

หยวนจื่อ? ศิษย์ของไฮ่หยุน!

หัวใจของจ้าวเฟิงกระตุก ดูเหมือนว่าเขาจะคิดถูก

หากเขาไม่ผิดพลาด ไฮ่หยุนหรือผู้อื่นได้เข้ามาข้องเกี่ยวกับการมอบหมายภารกิจ ดังนั้นภารกิจนี้ย่อมคุกคามชีวิตเขามากกว่าเดิม

หัวหน้ากลุ่มหวงอวิ๋นเป็นยอดฝีมือในนภาที่สอง และรองหัวหน้ากลุ่มคือซู่เหรินผู้ที่มีความขุ่นแค้นกับจ้าวเฟิงและหลินฟ่าน

เซี่ยวซุนอาจไปเข้าข้างอีกฝ่ายเช่นกัน ภารกิจนี้ได้มีเป้าหมายที่จ้าวเฟิงและหลินฟ่าน

จ้าวเฟิงรู้สึกผิดเล็กๆ เพราะภารกิจนี้ควรจะมุ่งเป้ามาที่เขามากกว่าหลินฟ่าน ภารกิจจะเริ่มขึ้นในอีกสามวัน เด็กหนุ่มได้เตรียมตัวเล็กๆ น้อยๆ

สำหรับอาวุธนั้น เขาได้นำธนูบันไดสุวรรณซึ่งได้รับมาจากตระกูลจ้าวออกมา เขาได้นำมันไปหาช่างตีเหล็ก และประเมินได้ว่ามันเป็นอาวุธชั้นครึ่งมนุษย์ หมายความว่ามันเพียงต่ำกว่า ‘ดาบจินเยว่’ ของซู่เหริน ทว่าจ้าวเฟิงมั่นใจว่าเมื่อเขาใช้ธนูบันไดสุวรรณ เหล่าผู้ที่อยู่ในนภาที่หนึ่งย่อมไม่ใช่ปัญหา และเขากระทั่งสามารถคุกคามผู้ฝึกตนในนภาที่สองได้

นอกจากนั้นเขายังนำยา ยาแก้พิษและอื่นๆ ไปด้วย สำหรับภารกิจนี้ จ้าวเฟิงได้มีความละเอียดรอบคอบอย่างมากและได้เตรียมตัวเพิ่มเป็นพิเศษ

เขาได้วางแผนสำหรับกรณีที่เลวร้ายที่สุดที่อาจเกิดขึ้นเมื่อภารกิจนี้อาจมุ่งเป้ามาที่เขาและคุกคามชีวิตของเขา…

สิ่งดีเพียงอย่างเดียวคือศิษย์ของไฮ่หยุนนั้นต้องการเพียงแค่หยุดยั้งการเติบโตของเขา

สามวันต่อมา

กลุ่มของทั้งห้าที่จะตรงไปยังตระกูลซิ่งได้รวมตัวกัน หัวหน้ากลุ่มหวงอวิ๋นนั้นมีสีหน้าไร้อารมณ์

“พวกนายสองคนควรทำตัวให้ดี! หากมีบางสิ่งผิดพลาดมันจะเป็นความรับผิดชอบของพวกเจ้า!” รองหัวหน้า ซู่เหรินมองไปยังจ้าวเฟิงและหลินฟ่านอย่างเย็นชา

เซี่ยวซุนมองไปยังทั้งสองอย่างพึงพอใจ ซึ่งพิสูจน์การคาดเดาของเด็กหนุ่ม ในเวลาเดียวกัน คนสองคนได้ยืนอยู่บนเนินเขาที่ห่างออกไปสองสามลี้

“ศิษย์น้องหยวน ภารกิจนี้ยากเกินไปสำหรับพวกเขา มันอาจเป็นเรื่องน่าพอใจสำหรับเขาถ้าเขาตาย…” กวานเฉินนั้นรู้สึกไม่เต็มใจเล็กๆ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version