Skip to content

King of Gods 156

King Of Gods

บทที่ 156 : จันทร์สีชาด

ไม่กี่ร้อยปีก่อน ขั้วอำนาจที่แข็งแกร่งที่สุดได้ถูกสร้างขึ้นโดยตำนาน และในเวลาเพียงสิบกว่าปี ขั้วอำนาจนั้นก็ได้ครอบคลุมไปทั่วทวีป

ขั้วอำนาจนั้นแทบจะผนวกทั้งทวีปไว้ใต้ตน และสำนักที่แข็งแกร่งที่สุดทั้งสิบสำนักได้ร่วมมือกันเพื่อต่อต้าน ยุคสมัยนั้นได้เป็นของลัทธิมารจันทราชาดและหัวหน้าของมัน ผู้นำลัทธิจันทราชาด

แม้ว่าผู้นำลัทธิจะชั่วร้าย เขาก็ได้สร้างปาฏิหาริย์ขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า เขาได้ทำให้ทุกคนหวาดกลัวและเคารพเขา มีผู้คนจำนวนมากที่ยังคงบูชากษัตริย์แห่งความชั่วร้ายผู้นี้

ในหัวใจของคนเหล่านี้ ผู้นำลัทธิจันทราชาดคือเทพเจ้า แน่นอนว่ามันไม่ได้ประสบความสำเร็จจากพรสวรรค์เพียงอย่างเดียว มันยังต้องการ ‘โชค’ ด้วย

ผู้นำลัทธิจันทราชาดนั้นไม่ได้มีกายจิตวิญญาณฟ้าหรือกายจิตวิญญาณดิน ตามที่ได้ถูกบันทึกไว้อย่างไม่แม่นยำเท่าใดนัก เขามีเพียงกายจิตวิญญาณระดับกลาง

ผลสำเร็จของเขาทั้งหมดนั้นล้วนมีต้นกำเนิดมาจากสิ่งเดียว นั่นคือมรดกจันทร์สีชาด มรดกจันทร์สีชาดนั้นได้ทำให้ผู้นำลัทธิจันทราชาดสามารถเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของเขาได้ ลัทธิที่เขาสร้างขึ้นนั้นได้ใช้มันเป็นพื้นฐาน

มรดกจันทร์สีชาดนั้นเป็นอันดับสามในสี่มหามรดก และคนเพียงผู้เดียวที่ดูเหมือนจะได้รับบางอย่างจากมหามรดกเหล่านี้ก็มีเพียงผู้นำลัทธิจันทราชาด

แน่นอนว่าก่อนที่ลัทธิจะถูกทำลาย ผู้นำลัทธิจันทราชาดก็ได้บันทึกทุกความลับเกี่ยวกับมรดกจันทร์สีชาดไว้ในแผนที่ที่ถูกเรียกขานในภายหลังว่า ‘แผนที่จันทร์สีชาด’

ตราบเท่าที่ครอบครองแผนที่นี้และถอดความมัน พวกเขาจะสามารถค้นพบมรดกจันทร์สีชาดได้ ทว่าแผนที่จันทร์สีชาดนั้นได้ถูกแบ่งออกเป็น 108 ชิ้นและกระจายไปทั่วทั้งทวีป คนหลายคนครอบครองชิ้นส่วนเหล่านี้ ทว่าไม่มีผู้ใดเคยได้ครอบครองทั้ง 108 ชิ้น

นั่นเป็นเพราะมันมีเพียง 70-80 ชิ้นที่ถูกค้นพบในทวีปนี้ และที่เหลืออีก 40-50 ชิ้นยังไม่เคยถูกค้นพบ

แผนที่จันทร์สีชาดนั้นลึกลับนัก แม้ว่าคนผู้หนึ่งจะมี 107 ชิ้น มรดกจันทร์สีชาดก็ไม่อาจเปิดออกได้

หลายร้อยปีต่อมา ผู้คนมิได้ตื่นเต้นเช่นกาลก่อน แน่นอน หากคนผู้หนึ่งมีฉบับจริงของแผนที่จันทร์สีชาด มันก็ยังคงมีราคาสูงส่งอยู่ดี

และแผนที่จันทร์สีชาดเบื้องหน้าพวกเขานั้นดูเหมือนจะเป็นของจริง คุณค่าของแผนที่นี้ได้เหนือกว่าอาวุธชั้นจิตวิญญาณไปแล้ว ทว่าจ้าวเฟิงไม่เสียใจที่ให้มันออกไป

อย่างแรก มันไร้ค่าที่จะมีเพียงแค่ชิ้นเดียว อย่างที่สอง เด็กหนุ่มไม่อาจใช้มันได้แม้ว่ามันจะสูงค่า ในทางกลับกัน ผู้คนจะฆ่าเขาเพื่อมัน

มันเป็นเหตุผลเดียวกับที่เขามอบอาวุธชั้นจิตวิญญาณออกไป

“จ้าวเฟิง ของสองสิ่งนี้ที่เจ้าได้ส่งมานั้นหายากนัก สำนักจะให้รางวัลเจ้าอย่างมากสำหรับพวกมัน เอ่ยสิ่งที่เจ้าต้องการมาเถอะ” ผู้อาวุโสหนึ่งเอ่ยด้วยรอยยิ้มที่ระบายไปทั้งใบหน้า

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ศิษย์ผู้อื่นต่างเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยา

จ้าวเฟิงนับว่ากระทำมากเกินไปแล้ว!

อาวุธชั้นจิตวิญญาณเป็นสิ่งที่สำนักให้ความสำคัญมากที่สุด และชิ้นส่วนของแผนที่จันทร์สีชาดได้กระทั่งมีค่าเหนือกว่าสิ่งของชั้นจิตวิญญาณ

ผู้อาวุโสเสวี่ยรู้สึกสงสัย

“ตามกฎนั้น ของที่ยึดได้นั้นล้วนแล้วแต่เป็นของส่วนตัว เหตุใดเจ้าจึงไม่เก็บมันไว้และมอบให้แก่สำนักแทน?”

“อาวุธชั้นจิตวิญญาณไม่ใช่สิ่งที่ข้าสามารถควบคุมได้ นอกจากนั้น ข้ายังไม่รู้คุณค่าของแผนที่นี้ก่อนหน้า ศิษย์ผู้นี้คิดว่าบางทีสำนักอาจต้องการพวกมันมากกว่า” จ้าวเฟิงเอ่ยตอบ

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทั้งผู้อาวุโสหนึ่งและผู้อาวุโสเสวี่ยต่างก็ผงกศีรษะ จ้าวเฟิงผู้นี้ไม่โลภโมโทสันทั้งยังฉลาดนัก

หากเป็นศิษย์ผู้อื่น พวกเขาอาจไม่สามารถก้าวข้ามความโลภของตนและเก็บดาบชั้นจิตวิญญาณไว้ ซึ่งสามารถทำให้ผู้อื่นฆ่าพวกเขาได้

“และสิ่งของที่ยึดมาได้เหล่านี้มิใช่ของข้าเพียงผู้เดียว ทุกคนในกลุ่มล้วนมีส่วนร่วม” จ้าวเฟิงเอ่ยต่อ หลินฟ่าน เซี่ยวซุน และซู่เหรินต่างเต็มไปด้วยความซาบซึ้ง

แม้ว่าทุกคนจะรู้ว่าเด็กหนุ่มผมครามนั้นได้มีส่วนร่วมมากที่สุด และรางวัลควรจะไปที่เขา แต่อีกฝ่ายก็ยังคงแบ่งปันมัน

อีกด้านนั้น กวานเฉินรู้สึกโกรธแค้นเสียจนใบหน้าของเขาเขียวคล้ำ ปรากฏเส้นเลือดในดวงตา

จ้าวเฟิงกระทำหลายสิ่ง และรางวัลของเขากระทั่งทำให้ดวงตาของศิษย์หลักต้องแดงก่ำ

ผู้อาวุโสมองไปยังร่างของเด็กหนุ่มอย่างเย็นชา ทว่าไม่นานก็เก็บสายตานั้นกลับไป

พรสวรรค์และท่าทีของจ้าวเฟิงนั้นล้วนสมบูรณ์แบบ ไม่มีช่องว่างใดๆ แม้แต่น้อย หากสำนักไม่ให้รางวัลอย่างมากแก่เขา แล้วศิษย์ผู้อื่นจะมอบของของพวกเขาแก่สำนักได้อย่างไร?

“จ้าวเฟิง เราตัดสินใจที่จะให้ผลึกเริ่มต้นระดับต่ำแก่เจ้า 200 ผลึก และแต้มสนับสนุน 50,000 แต้ม สมาชิกของกลุ่มเจ้าจะได้รับผลึกเริ่มต้นระดับต่ำ 50 ผลึกและแต้มสนับสนุน 8,000 แต้ม นอกจากนั้น สำนักจะให้เจ้าเอ่ยความปรารถนามาได้หนึ่งข้อ” ผู้อาวุโสหนึ่งประกาศ

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้คนก็ได้ส่งเสียงดังขึ้นในความโกลาหล

“ผลึกเริ่มต้นระดับต่ำ 200 ผลึก นั่นนับเป็นผลึกเริ่มต้นจำลอง 20,000 ผลึก ข้าไม่อาจจะได้รับผลึกมากขนาดนั้นแม้จะรวบรวมมาชั่วชีวิตของข้า”

เหล่าศิษย์ต่างรู้สึกอิจฉาริษยา

20,000 ผลึกเริ่มต้นจำลอง!

จำนวนรวมทำให้ดวงตาของศิษย์หลักแดงก่ำและทำให้ผู้คุมกฎและรองผู้คุมกฎต้องอิจฉา

ศิษย์หลักนั้นได้รับเพียงผลึกเริ่มต้นจำลอง 100 ผลึกต่อเดือน ซึ่งนับเป็นผลึกเริ่มต้นระดับต่ำ 1 ผลึก รายรับที่แท้จริงของพวกเขามาจากครอบครัวหรือภารกิจ

นอกจากนั้น แต้มสนับสนุน 50,000 แต้มยังคงเรียกได้ว่าเป็นความร่ำรวยเล็กๆ

ทุกคนควรจะรู้ว่าตำหนักกลวงนั้นใช้เพียง 5,000 แต้มในการเข้าไปครั้งหนึ่ง และแต้ม 3,000 แต้มสามารถซื้ออาวุธชั้นมนุษย์ระดับต่ำได้

ด้วยจำนวนของผลึกเริ่มต้นและแต้มสนับสนุนของจ้าวเฟิงและอีกสามคน พวกเขาสามารถแลกของหลายอย่างเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของพวกเขาได้ หลินฟ่านและอีกสองคนเต็มไปด้วยความยินดีและตื่นเต้น พวกเขานั้นแทบจะไม่ได้ทำสิ่งใด ทว่ากลับได้รับรางวัลใหญ่เพียงนี้

ผู้อาวุโสหนึ่งรับรู้สีหน้าของพวกเขาและแย้มรอยยิ้มออกมาเช่นกัน

ความจริงนั้น รางวัลเหล่านั้นไม่อาจนับเป็นอันใดได้เมื่อเทียบกับแผนที่และอาวุธ และมันไม่ใช่ว่าชายชราไม่คิดจะให้พวกเขาอีก แต่การให้มากกว่านั้นคงมีเพียงแต่ทำให้ผู้อื่นต้องการฆ่าพวกเขา

ดังนั้นแล้ว แต้มสนับสนุนที่เขาให้จึงเหนือกว่าจำนวนผลึกเริ่มต้น

“ผลึกเริ่มต้นระดับต่ำ 200 ผลึก และแต้มสนับสนุน 50,000 แต้ม มันเพียงพอสำหรับศิษย์ธรรมดาผู้หนึ่งให้มีชีวิตอยู่อย่างดีในสำนักไปนับสิบปี”

จ้าวเฟิงพึงพอใจอย่างมาก แน่นอนว่ารางวัลที่ใหญ่ที่สุดของเขาคือ ‘ความปรารถนา’

เขาสามารถ ‘ปรารถนา’ ได้ในสิ่งที่เหมาะสม และตราบเท่าที่มันไม่เกินไป สำนักจะยอมรับ

สิ่งใดกันที่เขาควรจะนำมาเป็นความปรารถนา?

เด็กหนุ่มมีความคิดสองอย่าง

  1. 1. ขอวิชาเก้ากำแพงทองแปรผัน วิชาเสริมกายนี้เป็นวิชาชั้นมนุษย์ระดับสุดยอดที่กระทั่งศิษย์สายในยังไม่มีสิทธิที่จะฝึกฝน
  2. 2. เป็นศิษย์ของผู้อาวุโสหรือจ้าวสำนัก จ้าวเฟิงเชื่อว่าไม่ว่าจะเป็นคำขอใดในสองข้อนี้ต่างอยู่ในสิ่งที่สำนักรับได้

“จ้าวเฟิง เจ้าไม่จำเป็นต้องขอในตอนนี้ เจ้าสามารถกลับไปและคิดเกี่ยวกับมันก่อนจะเอ่ยถามสำนักทีหลัง” ผู้อาวุโสหนึ่งเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม

“ข้ามีอย่างหนึ่ง” จ้าวเฟิงเอ่ยอย่างเด็ดขาดและตัดสินใจในเสี้ยววินาที

“โฮ่? พูดเถอะ”

ผู้อาวุโสทั้งสามต่างมองไปยังเด็กหนุ่ม

“จ้าวเฟิง ความปรารถนาของเจ้ามิอาจมากเกินไปได้”

ผู้อาวุโสไฮ่หยุนจงใจสร้างแรงกดดันแก่อีกฝ่าย เพราะเขานั้นรู้สึกกดดันจากเด็กหนุ่มคนนั้นเล็กๆ

หากเป็นผู้อื่น มันไม่สำคัญ ทว่าคนผู้นี้เป็นศิษย์ของเจ้าเมืองกว่านจวิน และมันไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการจะเห็น

“ข้าหวังให้ท่านผู้อาวุโสหนึ่งมาเป็นอาจารย์ของข้า” จ้าวเฟิงเอ่ยอย่างหนักแน่น

อาจารย์

ผู้อาวุโสทั้งสามชะงักไป ผู้อาวุโสไฮ่หยุนได้เป็นผู้แรกที่ตอบโต้

“จ้าวเฟิง เจ้าคิดหรือว่าท่านผู้อาวุโสหนึ่งจะรับศิษย์อย่างง่ายดาย? กระทั่งผู้ที่มีกายจิตวิญญาณระดับสูงยังไม่มีสิทธิที่จะเป็นศิษย์ของท่านผู้อาวุโสหนึ่ง”

ทันทีที่เขาเอ่ยจบ พลังจิตมหาศาลก็ได้กดทับลงไปยังร่างของจ้าวเฟิง

ความหมายของเขาชัดเจน กระทั่งเหล่าผู้ที่มีกายจิตวิญญาณระดับสูงยังมิอาจมีสิทธิที่จะเป็นศิษย์ของผู้อาวุโสหนึ่ง แล้วเหตุใดคนเช่นเจ้า ที่มีเพียงกายจิตวิญญาณระดับต่ำ จะได้เป็น?

จ้าวเฟิงรู้สึกราวกับว่าโลหิตของเขาแข็งตัว ราวกับยักษ์กำลังยืนอยู่เบื้องหน้าเขา

เมื่อคนผู้หนึ่งเข้าสู่ขอบเขตจิตวิญญาณที่แท้จริงแล้ว พวกเขาจะไม่ใช่มนุษย์ปกติอีกต่อไป เมื่อเทียบกับมนุษย์ทั่วไป พวกเขานั้นคือยักษ์

ในตอนนี้ ผู้อาวุโสหนึ่งและผู้อาวุโสเสวี่ยไม่ได้เอ่ยสิ่งใด เด็กหนุ่มผมครามสงสัยอย่างมากว่ามีสิ่งใดผิดพลาด

สิ่งที่เขากระทำควรจะเพียงพอที่จะเป็นศิษย์ของผู้อาวุโสหนึ่ง เหตุผลที่เขาเลือกเช่นนี้เพราะเขาต้องการคนหนุนหลังที่แข็งแกร่งเช่นที่เจ้าเมืองกว่านจวินได้เอ่ยบอกเขาก่อนหน้า มีเพียงทางนี้ที่เขาจะไม่ได้รับการคุกคามจากผู้อาวุโสไฮ่หยุน

ในตอนนี้ พวกเขาตกอยู่ในความเงียบงัน และผู้อาวุโสหนึ่งไม่ได้เอ่ยอันใด

“พรสวรรค์นั้นไม่ใช่ทุกสิ่ง หรือมิเช่นนั้นสำนักคงไม่ให้รางวัลพิเศษแก่ศิษย์สายนอกอันดับหนึ่ง หากผู้อาวุโสหนึ่งยอมรับข้าเป็นศิษย์ ท่านจะไม่เสียใจ” จ้าวเฟิงเอ่ยอย่างมั่นใจ

เขามีสายเลือดโบราณซึ่งมีเพียงแต่แข็งแกร่งกว่ากายจิตวิญญาณระดับสุดยอด กระทั่งผู้คุ้มครองศพโลหิตยังตื่นตะลึงไปกับสายเลือดของเขา

“ฮ่าฮ่า ผู้อาวุโสหนึ่งย่อมไม่รับเจ้าเป็นศิษย์ แต่หากเจ้าต้องการ ข้ารับเจ้าเป็นศิษย์ได้” ผู้อาวุโสเสวี่ยหัวเราะเสียงแผ่วก่อนทำลายบรรยากาศตึงเครียดลง

“จ้าวเฟิง ข้าเองก็หวังว่าจะได้รับเจ้าเป็นศิษย์เช่นกัน” ผู้อาวุโสไฮ่หยุนพลันเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม

หา!

ภาพนั้นไม่เพียงแค่สร้างความตื่นตะลึงให้แก้จ้าวเฟิง กระทั่งกวานเฉินและหยวนจื่อต่างก็อ้าปากกว้างเช่นกัน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version