Skip to content

King of Gods 302

King Of Gods

บทที่ 302 : การประมูล (1)

สามวันต่อมา

เมืองหลวงแห่งอาณาจักรนภา ดินแดนที่แม่น้ำทั้งหลายไหลรวมกัน สภาพแวดล้อมเต็มไปด้วยความสันโดษ สงบเงียบ และสง่างาม

บริเวณที่เป็นที่ตั้งของโรงประมูลเชิงหลงไม่ได้เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยผู้คนอย่างที่คาด โดยปกติแล้วจะมีผู้คนมาเยือนน้อยนักเมื่อเทียบกับยามที่มีการประมูลครั้งสำคัญ

ดังนั้นแล้ว หากจะดูแคลนการประมูลของโรงประมูลเชิงหลงก็นับได้ว่าผิดพลาดโดยสิ้นเชิง

เหตุผลที่สถานที่แห่งนี้ดูมีผู้คนบางตาเป็นเพราะ “โรงประมูลเชิงหลง” เป็นโรงประมูลระดับสูง กระทั่งค่าเข้าประตูยังต้องจ่ายด้วยผลึกเริ่มต้นระดับต่ำกว่าสองพันผลึก เทียบเท่าได้กับผลึกเริ่มต้นจำลองสองหมื่นผลึกของแคว้นเมฆา

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าสิ่งของที่นำมาประมูลล้วนมีมูลค่าสูงส่งเพียงใด ส่วนมากจะมีราคาระดับหนึ่งหมื่นผลึกเริ่มต้นขึ้นไป เหล่าผู้ฝึกตนขอบเขตก่อกำเนิดปราณทั่วไป แม้เข้ามาที่นี่ก็ทำได้เพียงมอง

ทว่าการประมูลครั้งนี้ไม่เหมือนกับที่ผ่านมา ระดับของมันใหญ่โตกว่าครั้งก่อนๆ มากนัก ทั้งสิ่งของที่นำมาประมูลยังนับเป็นของชั้นยอดระดับทวีป

ท้องนภาเหนือผืนป่าและแม่น้ำมีสัตว์วิเศษบินไปมาไม่ขาดสาย

“จำนวนผู้ที่มาร่วมงานประมูลโรงประมูลเชิงหลงในครานี้มากกว่าปกติหลายเท่านัก”

“มีเศษอาวุธชั้นพิภพ กระบี่จู้หมัว แผนที่ความลับสวรรค์ ทั้งยังมีเศษตำราเจ็ดดาบ สิ่งของระดับนี้ ไม่ต้องพูดถึงเหล่าผู้พลังอยู่ในขอบเขตจิตวิญญาณที่แท้จริงทั่วไปเลย กระทั่งขั้นนายเหนือแท้ยังต้องติดตามมันไปราวกับลูกเป็ดเดินตามแม่เป็ด”

“สวรรค์! เศษอาวุธชั้นดินหรือ? ในตำนานได้กล่าวไว้ว่าหลายหมื่นปีก่อนได้ปรากฏอาวุธชั้นพิภพขึ้น ทำให้วังหลวงของราชวงศ์ถูกทำลายจนราบเป็นหน้ากลอง ทำให้ราชวงศ์นั้นกลายเป็นเพียงตำนานของทวีปนี้ไป”

ผู้ที่เข้าร่วมการประมูลเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงกดต่ำ

อาวุธวิเศษทั้งหลายนั้น โดยปกติได้ถูกแบ่งออกเป็น ชั้นมนุษย์ ชั้นจิตวิญญาณ ชั้นดิน และชั้นฟ้า

ในทวีปแห่งนี้ กระทั่งอาวุธชั้นจิตวิญญาณยังหาได้ยากนัก ทั้งนี่ยังเป็นระดับอาณาจักร หากเป็นสถานที่ที่ห่างไกลออกไปก็แทบจะไม่หลงเหลืออยู่แล้ว

สำหรับอาวุธชั้นดิน รวมทั้งชั้นที่สูงกว่าแทบจะเรียกได้ว่าหายสาบสูญ กระทั่งเรียกได้ว่าเป็นเพียงสมบัติที่มีอยู่ในตำนานเท่านั้น

กระทั่งลัทธิมารจันทราชาดในยามนั้นก็ยังไม่เคยได้ครอบครองอาวุธชั้นดินที่สมบูรณ์เลยสักชิ้น

ไม่ต้องเอ่ยถึงอาวุธชั้นดินเลย กระทั่งอาวุธชั้นจิตวิญญาณในอาณาจักรนภาแห่งนี้ก็มีเพียงไม่กี่ชิ้น แม้มีก็อยู่ในมือของเหล่าขั้วอำนาจ นับเป็นสมบัติที่สำคัญของพวกเขา

ช่วงเวลาหนึ่ง

บนท้องนภาปรากฏนางแอ่นมรกตตัวหนึ่งที่บรรทุกร่างของเด็กหนุ่มผมสีฟ้าและชายแก่ร่างเตี้ยคนหนึ่ง

เป็นเพราะว่าถูกประกาศจับ จ้าวเฟิงจึงต้องอำปลอมแปลงตนเองให้ดูเหมือนคุณชาย เมื่อรวมกับท่าทางที่สุขุมเยือกเย็นของเขาจึงยากที่จะมองออกได้

เด็กหนุ่มจงใจไม่ใส่ผ้าปิดตา

การควบคุมดวงตาเทพเจ้าของเขาให้ตัดขาดมิติในดวงตาซ้าย ปิดบังสีของดวงตาสามารถทำได้เป็นเวลาครึ่งวัน

ทว่าในเวลาเดียวกัน การตัดขาจากมิติในดวงตาซ้ายก็ทำให้เขาสูญเสียความสามารถส่วนมากของมันไป

“การประมูลครั้งนี้มีเศษอาวุธชั้นดินปรากฏขึ้นจริงหรือ?”

จ้าวเฟิงไม่อาจทำใจให้เชื่อถือได้

“ไม่ใช่เพียงแค่เศษอาวุธชั้นดินเท่านั้น มันยังมีเศษตำราเจ็ดดาบแสนล้ำค่า มันเป็นหนึ่งในมหามรดก ‘เจ็ดมรดก’ มันถูกประเมินว่ามีค่าใกล้เคียงกับวิชาชั้นดิน ทั้งยังมีคนเอ่ยว่าสิ่งที่โรงประมูลเก็บเป็นความลับอย่างมากในการประมูลครั้งนี้คือสมบัติของหนึ่งในสี่มหามรดก”

อาจารย์เฮยหยุนใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้น กระทั่งใกล้จะเสียสติไป

การประมูลในระดับนี้ แม้เพียงได้เห็นก็นับว่าได้เปิดโลกขึ้นมากแล้ว

จิตใจที่มักจะสงบราบเรียบอยู่เสมอของจ้าวเฟิงปรากฏความสั่นไหวขึ้นอย่างช่วยไม่ได้

แมวขโมยตัวน้อยที่อยู่ในถุงเก็บสัตว์วิเศษกระโดดโลดเต้นไปมาด้วยความดีใจ หากไม่เป็นเพราะจ้าวเฟิงห้ามไว้ มันคงกระโดดออกมาข้างนอกนานแล้ว

“การประมูลครานี้มีคนมากนัก รวมแล้วกว่าหนึ่งพันคน ดังนั้นค่าเข้าจึงเพิ่มขึ้นเป็นห้าพันผลึกเริ่มต้น”

พนักงานต้อนรับที่อยู่ใกล้ทางเข้านั้นล้วนมีพลังอยู่ในขอบเขตจิตวิญญาณที่แท้จริง หนึ่งในนั้นอยู่ในขั้นผู้วิเศษแท้

การที่เพิ่มค่าเข้าประตูก็เพื่อจำกัดจำนวนคนเข้าร่วม

งานประมูลโรงประมูลเชิงหลงมีระดับค่อนข้างสูง คนที่มาเป็นประจำนั้นมีไม่มากนัก

ทว่าคนที่มาเข้าร่วมในครานี้มีมากนัก นับเป็นเรื่องแย่เมื่อบางคนมาเพียงเพื่อรับชมเรื่องสนุกเท่านั้น

ห้าพันผลึกเริ่มต้นระดับต่ำไม่นับว่าเป็นจำน้อยที่น้อย มันเทียบเท่าได้กับห้าแสนผลึกเริ่มต้นจำลอง หากอยู่ในสิบสามแคว้นนับได้ว่าเป็นเงินจำนวนมากนัก

“อาจารย์เฮยหยุน เชิญทางนี้ขอรับ…”

หนึ่งในพนักงานต้อนรับเอ่ยด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม นำจ้าวเฟิงและอาจารย์เฮยหยุนเข้าไป

ในมือของอาจารย์เฮยหยุนมีบัตรแขกพิเศษ สามารถนั่งที่นั่งแขกผู้มีเกียรติของโรงประมูลได้โดยตรง

ที่นั่งแขกผู้มีเกียรติอยู่ในตำแหน่งสูง มีความเป็นส่วนตัวอย่างมาก หากต้องการ คนอื่นกระทั่งไม่อาจเห็นรูปลักษณ์หน้าตาของคนได้

“โดยปกติแล้ว ระดับของสิ่งของที่พวกท่านเสนอมานั้น พวกท่านสามารถนั่งที่นั่งแขกผู้มีเกียรติระดับสี่ดาวได้ ทว่าสถานการณ์ครั้งนี้พิเศษมากนัก พวกท่านทั้งสองจึงได้นั่งเพียงระดับสามดาว”

พนักงานต้อนรับผู้นี้เอ่ยขึ้นด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

ไม่นาน

จ้าวเฟิงและอาจารย์เฮยหยุนได้ถูกนำไปยังที่นั่งแขกผู้มีเกียรติ ภายในสามารถบรรจุคนได้สิบกว่าคน

จำนวนของแขกผู้มีเกียรติในโรงประมูลนั้นมีไม่มากนัก ยิ่งระดับสูงก็ยิ่งมีจำนวนน้อย

ระดับสามดาวมีสิบกว่าคน ทว่าระดับสี่ดาวนั้นมีไม่ถึงสิบคน

ส่วนระดับห้าดาวนั้นมีเพียงแค่สี่คน

มันเป็นเช่นการแบ่งชนชั้นในสมัยโบราณ ยิ่งระดับสูงเท่าใดก็ยิ่งมีคนจำนวนน้อย เช่นรูปลักษณ์ของปีรามิด

“ระดับสามดาวก็ไม่เลว ที่นั่งแขกผู้มีเกียรติของพวกเราคือหมายเลข 50”

อาจารย์เฮยหยุนแย้มยิ้มบาง สายตามองไปยังด้านนอก

เพราะจ้าวเฟิงเลือกที่นั่งแบบปกปิด รอบที่นั่งจึงมีกระจกโปร่งใสขึ้น ภายในสามารถเห็นภายนอก ทว่าภายนอกไม่อาจเห็นด้านในได้

ยิ่งเวลาผ่านไป ผู้คนที่มาเข้าร่วมงานประมูลก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ

ที่นั่งแขกผู้มีเกียรติเกินกว่าครึ่งเลือกที่จะปกปิดตัวตน ทำตัวไม่โดดเด่น แน่นอนว่าเมื่อยามที่พวกเขาเอ่ยพูดขึ้นย่อมเต็มไปด้วยความยิ่งใหญ่ เมื่อถึงเวลาย่อมฉกฉวยชัยชนะไว้ในมือ

“สี่ตระกูลใหญ่ ตระกูลหลิว ตระกูลหยุน ตระกูลปี้ และตระกูลเทียนล้วนมากัน รวมทั้งผู้นำตระกูลหลิวและผู้นำตระกูลเทียน”

“หืม ได้ยินว่ากระทั่งคนของราชวงศ์ก็ยังมาด้วย อยู่ที่ที่นั่งแขกผู้มีเกียรติหมายเลขสาม ครั้งนี้มีเศษอาวุธขั้นดินปรากฏขึ้น อย่างน้อยฉินหวางเฟยหรือองค์ราชาก็ต้องมา”

“ที่นั่งแขกผู้มีเกียรติหมายเลขสี่คือคนของสำนักโลหะเลือด ทว่าที่นั่งแขกผู้มีเกียรติหมายเลขหนึ่งกับสองคือผู้ใดกัน?”

การประมูลยังไม่เริ่มต้นขึ้น ผู้คนที่อยู่ด้านในต่างพูดคุยกันอย่างตื่นเต้น

แขกผู้มีเกียรติระดับห้าดาวนั้นมีเพียงสี่คน ราชวงศ์และสำนักโลหะเลือดได้ครอบครองหมายเลขสามกับสี่

งานการประมูลครั้งนี้ เหล่าผู้มากอำนาจทั้งหลายต่างมารวมตัวกันที่นี่ นับว่าเป็นฉากที่ยิ่งใหญ่นัก

จ้าวเฟิงกวาดสายตามองเล็กน้อย เฉพาะแค่ที่นั่งแขกผู้มีเกียรติที่ไม่ได้ปกปิดตัวตน จำนวนผู้ฝึกตนในขอบเขตจิตวิญญาณที่แท้จริงก็มีนับร้อยแล้ว มีขั้นนายเหนือแท้จำนวนหนึ่ง

หลังจากรอไปราวๆ ครึ่งชั่วยาม งานประมูลก็ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ

โรงประมูลมีลักษณะเป็นครึ่งวงกลม ทุกคนต่างล้อมรอบครึ่งวงกลมนั้น

บนเวทีประมูลได้ปรากฏร่างของชายชราในชุดสีขาวเรียบขั้นผู้วิเศษแท้ผู้หนึ่ง ด้านข้างมีสาวงามในขั้นมนุษย์แท้สองคนถือถาดอยู่

“อะแฮ่ม! สินค้าประมูลชิ้นที่หนึ่ง เริ่มต้น ณ บัดนี้…”

ชายชราชุดสีขาวเรียบสีหน้าใจดี น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเป็นมิตร

สาวงามในขั้นมนุษย์แท้คนหนึ่งหยิบศิลาเย็นก้อนหนึ่งออกมา อุณหภูมิในอากาศพลันลดลงในทันที

ศิลาเย็นนั้นสามารถปล่อยกลิ่นอายเย็นเยียบออกมาได้ตลอดเวลา โดยปกติแล้วมีราคามากกว่าหนึ่งหมื่นผลึกเริ่มต้นระดับต่ำ

ทว่าสิ่งที่ใช้ประมูลในยามนี้ไม่ใช่ศิลาเย็น ทว่าเป็นของเหลวเย็นเยียบที่อยู่ภายใน

“น้ำปิงสุ่ยซุ่ยหลิง มาจากหนึ่งในสี่มหามรดก ‘มรดกเหมันต์เร้นลับ’ ของเหลวนี้มีคุณสมบัติในการพัฒนาพรสวรรค์แต่กำเนิดของคนผู้หนึ่งจนสามารถบรรลุขอบเขตก่อกำเนิดปราณได้ ที่น่าอัศจรรย์ที่สุดนั้นคือมันสามารถทำให้ผู้ที่ไม่มีกายจิตวิญญาณสามารถพัฒนาไปมีกายจิตวิญญาณได้”

ชายชราชุดสีขาวเรียบแนะนำ

น้ำปิงสุ่ยซุ่ยหลิง! จากมรดกเหมันต์เร้นลับ

ผู้คนที่อยู่ในโรงประมูลต่างร้องออกมาด้วยความประหลาดใจ

เป็นที่รู้กันว่าประชากรในทวีปแห่งนี้นั้นมีมากนับร้อยล้าน ทว่าผู้ที่มีพรสวรรค์ระดับกายจิตวิญญาณกลับหาได้ยากยิ่ง

ตัวอย่างเช่นจ้าวหลินหลงแห่งตระกูลจ้าวก่อนหน้า ครั้งหนึ่งเขาเคยถูกเรียกขานว่าเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่ง แต่หากเมื่อมาอยู่ในยุทธภพ เขาก็นับเป็นเพียงเศษไม้ไร้ค่าด้วยกายมนุษย์

มีเพียงแค่ผู้ที่มีพรสวรรค์กายจิตวิญญาณเท่านั้นจึงจะมีโอกาสในการทะลวงเข้าสู่ชนชั้นแห่งเซียน ขอบเขตก่อกำเนิดปราณ

ทว่าสิ่งที่ถูกเรียกว่าพรสวรรค์นั้น เมื่อสืบทอดต่อไปแล้วก็เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน

ทายาทแห่งยอดฝีมือย่อมมีพรสวรรค์สูงส่ง ทว่ามันก็ไม่เสมอไป

กระทั่งทายาทของตระกูลใหญ่บางตระกูลยังถือกำเนิดคนไร้พรสวรรค์ขึ้นได้ เพียงแค่การบรรลุสู่ขอบเขตก่อกำเนิดปราณยังยากแล้ว ไม่ต้องเอ่ยถึงขอบเขตจิตวิญญาณที่แท้จริงเลย

“น้ำปิงสุ่ยซุ่ยหลิงนี้นับว่าน่าอัศจรรย์นัก สามารถทำให้คนธรรมดาสามารถบรรลุขอบเขตก่อกำเนิดปราณได้ สี่มหามรดกนับว่าไม่ใช่สิ่งธรรมดาสามัญโดยแท้”

จ้าวเฟิงประหลาดใจ รู้สึกไร้ซึ่งคำพูดไปบ้าง

เมื่อคิดย้อนไปก่อนหน้า เขาต้องใช้ความพยายามมากมายเท่าใดในการบรรลุขอบเขตก่อกำเนิดปราณกัน

ทว่าในโรงประมูลระดับสูงแห่งอาณาจักรนภานี้ ของเหลวชั้นจิตวิญญาณเพียงขวดเดียวกลับสามารถเปลี่ยนแปลงโชคชะตาได้

“น้ำปิงสุ่ยซุ่ยหลิงราคาเริ่มต้นที่หนึ่งแสนผลึกเริ่มต้นระดับต่ำ การเพิ่มราคาแต่ล่ะครั้งต้องไม่น้อยกว่าหนึ่งพัน”

ชายชราชุดสีขาวเผยรอยยิ้มบาง

เมื่อสิ้นเสียง ผู้คนจึงเริ่มเสนอราคาขึ้นอย่างบ้าคลั่ง

“ข้าจ่าย 150,000!”

“160,000!”

“180,000!”

เสียงตะโกนดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ราคาของน้ำปิงสุ่ยซุ่ยหลิงพุ่งสูงขึ้นไปถึง 200,000 อย่างง่ายๆ ทั้งยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ผู้อาวุโสของบางตระกูลมีทายาทที่มีพรสวรรค์ต่ำ ต้องการน้ำปิงสุ่ยซุ่ยหลิงนี้ไปเพื่อเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของบุตรหลานตน

สุดท้าย

น้ำปิงสุ่ยซุ่ยหลิงได้ถูกขายออกไปในราคาสูงถึง 310,000 นับว่าเทียบเท่าได้กับอาวุธชั้นจิตวิญญาณระดับต่ำชิ้นหนึ่ง

อาวุธชั้นจิตวิญญาณนั้นหากอยู่ในสำนักเล็กๆ มันนับได้ว่าเป็นสมบัติล้ำค่าแห่งสำนักเลยทีเดียว

หากพูดถึงการประมูลของโรงประมูลเชิงหลง ของชิ้นแรกที่ออกประมูลนับเป็นเพียงการเรียกน้ำย่อยเท่านั้น ต้องไม่ทำให้ด้อยเกินไปหรือว่าเด่นจนเกินไป ทั้งยังต้องสร้างความน่าตื่นเต้นเล็กๆ ด้วย

ของประมูลชิ้นที่สองและสามต่อจากนั้นเป็นวัสดุหายาก แม้จะไม่ได้ให้ความรู้สึกน่าตื่นเต้นประหลาดใจเทียบเท่ากับน้ำปิงสุ่ยซุ่ยหลิง ทว่ามันก็เทียบกับอาวุธชั้นมนุษย์ระดับสุดยอดได้เป็นอย่างน้อย

“ฮึ่ม ของประมูลชิ้นต่อไปคือสิ่งที่อดีตบุคคลเลื่องชื่อ จอมโจรฉุ่ยเยว่ เคยได้ครอบครอง…”

ชายชราชุดสีขาวเรียบตั้งใจเอ่ยจุดสำคัญขึ้น

จอมโจรฉุ่ยเยว่!

ในโรงประมูลพลันปรากฏเสียงประหลาดใจขึ้น

“พิณไผ่สวรรค์เก้าสำเนียง เป็นเครื่องดนตรีชั้นยอด สามารถดีดท่วงทำนองแห่งธรรมชาติ รักษาบาดแผลในจิตใจได้ ยอดกวีสามารถใช้เสียงของพิณสร้างการโจมตี ปลิดชีพคนโดยไร้ร่องรอย ยอดกวีในอดีตได้ใช้พิณนี้ป้องกันรักษาสำนัก เพิ่มขวัญกำลังใจ คร่าชีวิตศัตรูโดยไร้ร่องรอย ช่วยเหลือมิใช่สำนักถูกทำลายลงได้”

ชายชราชุดสีขาวเรียบเอ่ยถึงที่มาและตำนานของของสิ่งนี้

จ้าวเฟิงได้ยินเช่นนั้นก็เกือบจะสมองว่างโล่งไป พิณเล่มนี้เป็นสิ่งของที่เขาฝากให้โรงประมูลเชิงหลงประมูลให้

ในยามนั้น อาจารย์เฮยหยุนประเมินว่าราคาน่าจะใกล้เคียงกับอาวุธชั้นจิตวิญญาณ

ทว่ามิคาด ผู้ดำเนินการประมูลร้ายกาจยิ่งนัก ใช้ต้นกำเนิดของมันมาเอ่ยเล่า

ในเวลาเดียวกัน ในที่นั่งแขกผู้มีเกียรติหมายเลขหกพลันเกิดความเคลื่อนไหวขึ้น

“พิณไผ่สวรรค์เก้าสำเนียง? มิใช่ว่ามันคือพิณล้ำค่าในอดีตของสำนักเจี่ยนจงของเราหรือ?”

“จากนั้นพิณนี้ก็ได้ถูกไอ้ตัวไร้ยางอาย จอมโจรฉุ่ยเยว่ ขโมยไป!”

“มิคาดว่าวันนี้พิณไผ่สวรรค์เก้าสำเนียงจะปรากฏขึ้นที่โรงประมูลแห่งนี้ พวกเราต้องเอามันมาให้ได้”

สำนักเจี่ยนจงคือหนึ่งในสามยอดสำนักแห่งอาณาจักรยอดนภา

“พิณไผ่สวรรค์เก้าสำเนียงเริ่มต้นด้วยราคา 140,000 การเพิ่มราคาแต่ล่ะครั้งไม่อาจต่ำกว่า 2,000”

ชายชราชุดสีขาวเรียบประกาศ

ในใจจ้าวเฟิงลอบคาดหวัง เขามั่นใจว่าของชิ้นนี้ต้องประมูลออกได้ในราคาดี ทว่าไม่รู้ว่าจะขายได้ในราคาเท่าใด

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version