Skip to content

King of Gods 304

King Of Gods

บทที่ 304 : การประมูล (3)

ของที่อยู่บนถาดนั้นคือดาบยาวสีเลือดเล่มหนึ่ง มีลวดลายละเอียดอ่อนล้ำค่า ทว่าดูธรรมดานัก มันว่องประกายสีแดงจางๆ

หากได้สัมผัสกับดาบเล่มนั้น กระทั่งผู้ยอดฝีมือขั้นมนุษย์แท้บางคนยังได้รับผลกระทบจากความกระหายเลือดของมัน จิตใจสั่นสะท้าน

“จิตมุ่งร้ายน่าพรั่นพรึงนัก”

ประสาทสัมผัสจิตวิญญาณของผู้มีพลังขั้นมนุษย์แท้ไม่กล้าที่จะเข้าใกล้ดาบสีโลหิตเล่มนี้

ดูจากกลิ่นอายของมัน ระดับของดาบสีโลหิตเล่มนี้นับว่าใกล้เคียงกับอาวุธชั้นจิตวิญญาณระดับสูง

“ดาบจันทร์โลหิตกลืนวิญญาณเล่มนี้เป็นดาบมารที่ดื่มด่ำโลหิตของผู้คนมาไม่น้อยของลัทธิมารจันทราชาดในอดีต แม้ว่ามันอาจไม่ได้นับเป็นอาวุธชั้นจิตวิญญาณระดับสูงอย่างสมบูรณ์ ทว่ามันกลับสามารถปลิดชีพและดูดกลืนโลหิตเพื่อมาเสริมพลังปราณของผู้เป็นเจ้าของได้ เมื่อได้เข่นฆ่ากลืนกินโลหิตในระดับหนึ่งแล้ว มันสามารถระเบิดพลังที่เทียบเท่าได้กับอาวุธชั้นจิตวิญญาณระดับสูงออกมาได้”

ชายชราชุดสีขาวเรียบได้แนะนำความเป็นมาของดาบ

สายตาที่เขาใช้จ้องมองไปยัง ‘ดาบจันทร์โลหิตกลืนวิญญาณ’ นั้นส่องประกายหลากหลายเล็กๆ “อาจกล่าวได้ว่ามันเป็นดาบที่ไร้ที่ติ ความสามารถในการกลืนกินโลหิตมาเพิ่มพลังให้กับผู้เป็นเจ้าของ ทั้งเมื่อพลังเพิ่มสูงขึ้นยังสามารถเทียบเคียงได้กับอาวุธชั้นจิตวิญญาณระดับสูง หรือพูดง่ายๆ ก็คือมันเป็นอาวุธชั้นจิตวิญญาณระดับกลางที่สามารถมีพลังเทียบเคียงกับอาวุธชั้นจิตวิญญาณระดับสูงได้”

เมื่อรับรู้ถึงประวัติและความสามารถของของดาบเล่มนี้ ทั่วทั้งโรงประมูลพลันเกิดเสียงเซ็งแซ่ขึ้นอีกครั้ง

กระทั่งยอดฝีมือในขั้นนายเหนือแท้หลายคนยังเผยความตื่นเต้นออกมาอย่างอดไม่ได้

“เกิดอันใดขึ้น ยามที่ข้าได้ครอบครองดาบเล่มนั้น ด้ามของมันแตกหักอยู่ชัดๆ ทั้งระดับยังเป็นเพียงอาวุธชั้นจิตวิญญาณระดับต่ำ เหตุใดยามนี้มันจึงกลับมาสมบูรณ์แบบเช่นนี้?”

จ้าวเฟิงชะงักไป สีหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ

ถูกแล้ว ดาบจันทร์โลหิตกลืนวิญญาณเล่มนี้เป็นสิ่งที่เด็กหนุ่มได้ข่มขู่ได้มาจากผู้พิทักษ์ศพโลหิตลายเงินในอดีต

ในยามที่เขาได้ครอบครองมันด้ามของมันแตกหัก หลังจากนั้นเขาจึงมอบให้กับสำนักจันทร์สลาย ได้รับความซาบซึ้งใจจากสำนัก

เกี่ยวกับดาบจันทร์โลหิตกลืนวิญญาณเล่มนี้ ทั้งเหตุใดจึงได้มาอยู่ในโรงประมูลที่ใหญ่ที่สุดในทวีปเหนือแห่งนี้ และเหตุใดมันจึงได้กลับมาสมบูรณ์ จ้าวเฟิงไม่รู้อันใดเลย

การที่อาวุธกลับมาสมบูรณ์ เรื่องนี้ง่ายที่จะคิด บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าพบส่วนที่หายไปของมัน และให้อาจารย์ช่างหลอมมันขึ้นมาใหม่

“ดาบจันทร์โลหิตกลืนวิญญาณเหตุใดจึงได้มาปรากฏอยู่ที่นี่ ที่สิบสามแคว้นเมฆาและสำนักจันทร์สลายเกิดอันใดขึ้นกัน?”

จ้าวเฟิงรู้สึกกังวลขึ้นอย่างช่วยไม่ได้

เกี่ยวกับสำนักจันทร์สลาย รวมทั้งบ้านเกิดของเขา เขารู้สึกเป็นห่วงกังวลอยู่ในระดับหนึ่ง

“ดาบจันทร์โลหิตกลืนวิญญาณราคาเริ่มต้นที่หกล้าน และทุกครั้งที่เพิ่มราคาต้องไม่น้อยกว่าห้าแสน”

ชายชราชุดสีขาวเรียบประกาศ

เริ่มต้นที่หกล้าน มันนับว่าเป็นราคาเริ่มต้นที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เริ่มการประมูลมา

ควรรู้ว่าอาวุธชั้นจิตวิญญาณระดับกลางทั่วไปมีราคาเพียง 3-4 ล้าน

ทว่าดาบจันทร์โลหิตกลืนวิญญาณเป็นอาวุธชั้นจิตวิญญาณระดับกลางที่อาจสำแดงพลังของอาวุธชั้นจิตวิญญาณระดับสูงออกมาได้ ดังนั้นจึงไม่อาจใช้หลักการทั่วไปมาคาดคำนวณ

“ดาบจันทร์โลหิตกลืนวิญญาณนี้อย่างน้อยก็สามารถเทียบเคียงได้กับสามปทุมของเจ้าได้ น่าจะขายได้ถึงยี่สิบล้านผลึกเริ่มต้นระดับต่ำ”

อาจารย์เฮยหยุนหัวเราะ

จ้าวเฟิงผงกศีรษะเล็กๆ รอดูว่า “ดาบจันทร์โลหิตกลืนวิญญาณ” ที่เทียบเคียงกับสามปทุมของเขาได้นั้นจะสามารถขายได้สักเท่าใด

“8 ล้าน”

“8.5 ล้าน”

“10 ล้าน”

อาวุธวิเศษชิ้นนี้ได้รับความสนใจจากยอดฝีมือจำนวนมากในทันใด

ลัทธิโลหะเลือด สำนักวายุเมฆา สี่ตระกูลใหญ่ กระทั่งราชวงศ์ต่างก็แข่งกันประมูลอย่างดุเดือด

เพียงเริ่มต้น ราคาของดาบจันทร์โลหิตกลืนวิญญาณก็สูงขึ้นถึงสิบล้านผลึก เงินจำนวนนี้สามารถใช้ซื้ออาวุธชั้นจิตวิญญาณระดับกลางได้ถึงสองชิ้น

อาวุธชั้นจิตวิญญาณระดับต่ำ ราคาโดยปกติแล้วอยู่ที่หลายแสน ยิ่งเป็นอาวุธชั้นยอดยังสามารถมีราคาสูงได้ถึงหนึ่งล้าน

อาวุธชั้นจิตวิญญาณระดับกลาง ราคาสูงกว่าสิบเท่าตัว

อาวุธชั้นจิตวิญญาณระดับสูง ราคาสูงขึ้นอีกสิบเท่าตัว

อาวุธชั้นจิตวิญญาณระดับสูงนั้น ทั่วทั้งทวีปเหนือแห่งนี้นับว่าหายากยิ่งนัก มีจำนวนเพียงน้อยนิด

พัดฉุ่ยเยว่เซียนเถาแห่งสมบัติสายธารจันทรานับว่ามีมูลค่าใกล้เคียงอาวุธชั้นจิตวิญญาณระดับสูง สามปทุมที่เป็นหนึ่งในนั้นก็นับได้ว่าเทียบเท่ากับอาวุธชั้นจิตวิญญาณระดับสูงทั่วไป

ดาบจันทร์โลหิตกลืนวิญญาณไม่อาจจัดอยู่ในอาวุธชั้นจิตวิญญาณระดับสูงได้ ทว่ากลับสามารถประมูลราคาได้ทะลุสูงถึงสิบล้านได้อย่างสบายๆ

“16 ล้าน”

“17 ล้าน”

“20 ล้าน”

หลังจากราคาสูงขึ้นถึงยี่สิบล้าน ผู้คนส่วนมากก็เริ่มที่จะยอมตัดใจ

ที่นั่งแขกผู้มีเกียรติหมายเลขสาม ฝ่ายราชวงศ์

“เอาเถอะ จะอย่างไรก็เป็นเพียงอาวุธชั้นจิตวิญญาณระดับกลาง มีเพียงแต่หลังการเข่นฆ่าอย่างมากมายเท่านั้นจึงจะสามารถมีพลังเพิ่มสูงขึ้นเทียบเท่ากับอาวุธชั้นจิตวิญญาณระดับสูงในระยะเวลาสั้นๆ”

“อาวุธเช่นนี้เหมาะกับผู้ที่เดินในหนทางมาร เราและคนอื่นๆ ควรจะเก็บทรัพยากรของเราไว้ซื้อกระบี่ปราบมาร”

“ถูกแล้ว กระบี่ปราบมารเป็นอาวุธชั้นจิตวิญญาณระดับสูง ความสามารถของมันอยู่ในแนวหน้า สามารถต่อต้านพวกมารได้ เหมาะสมกับสายเลือดแห่งราชวงศ์ของเรา”

คนของราชวงศ์ยอมสละดาบจันทร์โลหิตกลืนวิญญาณ

ในที่สุด

ดาบจันทร์โลหิตกลืนวิญญาณได้ถูกลัทธิโลหะเลือดซื้อไปในราคายี่สิบล้านผลึก

“ไม่คิดว่าดาบที่หักครึ่งในตอนนั้น หลังจากที่ถูกซ่อมแซมแล้วจะสามารถขายได้ในราคาสูงเพียงนี้”

จ้าวเฟิงอดที่จะชื่นชมไม่ได้

ทว่าอาวุธชั้นจิตวิญญาณนั้น เพียงมีระดับเพิ่มขึ้นหนึ่งระดับราคาก็แตกต่างออกไปนับสิบเท่าตัวแล้ว ไม่น่าแปลกใจแต่อย่างใด

เมื่อเป็นเช่นนี้ เด็กหนุ่มจึงอดนึกถึงผลึกอู่หางรุ่ยของเขาขึ้นไม่ได้

ผลึกอู่หางลุ่ยเป็นวัสดุที่พิเศษอย่างมาก มันสามารถทำให้อาวุธชั้นจิตวิญญาณระดับต่ำเพิ่มพลังขึ้นได้อีกครึ่งขั้น หากหลอมรวมเข้ากับวัสดุที่เข้ากันได้ กระทั่งสามารถเพิ่มพลังขึ้นได้เต็มขั้น

“ผลึกอู่หางหยวนสามารถรีดเค้นพลังทั้งหมดของอาวุธชั้นจิตวิญญาณออกมาได้ เมื่อหลอมผลึกอู่หางหยวนเข้ากับอาวุธชั้นจิตวิญญาณระดับต่ำ สามารถเพิ่มระดับขึ้นได้หนึ่งระดับเต็มๆ”

ชายชราชุดสีขาวเรียบเอ่ยขึ้นพร้อมด้วยรอยยิ้ม

ผลึกอู่หางหยวน

สายตาจ้าวเฟิงส่องประกาย นึกถึงสิ่งใดก็ได้สมดั่งใจ

ผลึกอู่หางรุ่ยสามารถเพิ่มความคมในการตัดผ่า ความทนทาน และอื่นๆ ได้

ทว่าผลึกอู่หางหยวนสามารถความสามารถของการส่งผ่านปราณแท้ได้ลื่นไหลยิ่งขึ้น

“ผลึกอู่หางหยวนได้กระจายอยู่ในโลกใบนี้ หรือว่าจะเป็นผลึกอู่หางรุ่ยก็มีจำนวนน้อยนัก ทั้งยังเป็นระดับต่ำ ทว่าพวกมันสามารถเพิ่มความสามารถของอาวุธชั้นจิตวิญญาณส่วนมากได้อย่างมากมาย กระทั่งบัดนี้ราคาในตลาดก็ยังคงเพิ่มสูงขึ้นไม่หยุดยั่ง”

ชายชราชุดสีขาวเรียบได้กล่าวเพิ่มเติม

จากคำที่ถูกพูดออกมานั้นสามารถมองออกได้ว่า ไม่ว่าจะเป็นผลึกอู่หางหยวนหรือผลึกอู่หางรุ่ยล้วนเป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่งนัก

ของสองสิ่งนี้ หากได้ครอบครองอันใดอันหนึ่งก็นับว่าไม่ง่ายแล้ว

“ผลึกอู่หางหยวน ราคาเริ่มต้นที่แปดแสน ทุกครั้งที่เพิ่มราคาต้องไม่น้อยกว่าห้าหมื่น”

ชายชราชุดสีขาวเรียบประกาศ

การที่สามารถทำให้อาวุธชั้นจิตวิญญาณระดับต่ำเพิ่มระดับขั้นขึ้นมาได้อีกครึ่งระดับ ราคาเริ่มต้นที่แปดแสนไม่นับว่าเอาเปรียบแต่อย่างใด

“900,000”

“1 ล้าน”

ผู้คนที่แย่งชิงผลึกอู่หางหยวนมีจำนวนมากมายนัก ส่วนมากเป็นผู้มีพลังในขั้นมนุษย์แท้และขั้นผู้วิเศษแท้

ในคนทั้งหมดมีหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ ตระกูลปี้ และลัทธิโลหะเลือดที่เข้าร่วมในการประมูลของชิ้นนี้

ตระกูลปี้นี้คือตระกูลปี้หลัก เมื่อเทียบกับตระกูลปี้สาขาที่ป้อมเหิงฉุ่ยแล้วนับว่าเหนือกว่าสองขั้น

เมื่อผลึกอู่หางหยวนราคาสูงเกินกว่าสองล้าน ฝ่ายตระกูลปี้ก็ยอมแพ้

จะอย่างไร อาวุธชั้นจิตวิญญาณระดับกลางทั้งหมดก็มีราคาหลายล้านผลึกเริ่มต้นระดับต่ำ

“2.3 ล้าน”

จ้าวเฟิงตัดสินใจลองประมูลดู

ตอนนี้คู่แข่งหลักๆ คือลัทธิโลหะเลือด

เพ้ย

สายตาผู้คนจำนวนไม่น้อยมองไปยังที่นั่งแขกผู้มีเกียรติหมายเลข 50

ในการประมูลสินค้าต่างๆ นั้น เหล่าผู้ที่นั่งอยู่ที่ที่นั่งแขกผู้มีเกียรติหมายเลขอื่นๆ ต่างก็เข้าร่วม ทว่าที่นั่งแขกผู้มีเกียรติหมายเลข 50 กลับเงียบสงบนักราวกับไม่มีผู้ใดอยู่

“หึ ผู้ใดกัน ประเมินตนเองสูงส่งนัก บังอาจแข่งกับลัทธิโลหะเลือด”

คนที่ในเหตุการณ์จำนวนไม่น้อยเค้นเสียงเย้ยหยัน

ทว่าสิ่งแปลกประหลาดคือ หลังจากที่จ้าวเฟิงเสนอราคาออกไป ลัทธิโลหะเลือดก็ยอมแพ้อย่างรวดเร็ว

ชายชราชุดสีขาวเรียบเองก็รู้สึกแปลกประหลาดเล็กๆ ก่อนประกาศขึ้นว่าจ้าวเฟิงได้ครอบครองผลึกอู่หางหยวนนี้

“ฮี่ฮี่ สหายน้อย เจ้าเองก็มาด้วยหรือ?”

เสียงหนึ่งดังขึ้นในศีรษะของจ้าวเฟิงของกะทันหัน

เมื่อจ้าวเฟิงรับรู้ถึงเสียงนั้นพลันรู้สึกผวาขึ้น

“เป็นท่าน… ท่านเถี่ยหมัว”

เมื่อรับรู้ว่าเจ้าของเสียงนั้นคือผู้ใด เด็กหนุ่มก็ถอนหายใจโล่งอกเล็กๆ

ไม่คิดว่าประสาทสัมผัสของเถี่ยหมัวผู้นั้นจะแข็งแกร่งเพียงนี้ กระทั่งสามารถส่งเสียงทะลุผ่านวัสดุและค่ายกลพิเศษที่รักษาความเป็นส่วนตัวของเหล่าแขกผู้มีเกียรติได้

ที่นั่งแขกผู้มีเกียรติหมายเลขสี่

ชายหนุ่มผมสีเลือดนั่งนิ่ง มุมปากยกโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มยินดี

“ท่านรองจ้าวสำนัก ดูเหมือนว่าท่านจะให้ความสำคัญกับจ้าวเฟิงผู้นี้ยิ่งนัก”

ชายชราในอาภรณ์โบราณ ผู้ดูแลลัทธิโลหะเลือด ผู้เป็นคนส่งสารให้กับจ้าวเฟิงนอกเมืองหลวงเอ่ยขึ้น

“สายเลือดดวงตาของเขาพิเศษยิ่งนัก ความสามารถของตัวเขาเองก็มากมาย ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเคยช่วยเหลือข้า”

ชายหนุ่มผมเลือดเผยรอยยิ้มบาง

ที่นั่งแขกผู้มีเกียรติหมายเลข 50 ได้ครอบครองผลึกอู่หางหยวนอย่างง่ายๆ โดยที่รองจ้าวลัทธิโลหะเลือดยอมสละให้ นี่ทำให้ทุกคนต่างตกใจ

ไม่นาน จ้าวเฟิงที่ได้ผลึกอู่หางหยวนไปในใจได้ลอบคิด “เมื่อมีผลึกอู่หางหยวนกับผลึกอู่หางรุ่ย ข้าก็สามารถคิดถึงการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับอาวุธชั้นจิตวิญญาณได้แล้ว”

ทว่างานประมูลยังคงดำเนินต่อไป สินค้าที่ปรากฏขึ้นมามีทั้งดีและไม่ดี ราคาสูงต่ำสลับกันไป

ในระหว่างนี้ การทั่งอาจารย์เฮยหยุนเองยังร่วมประมูลพิมพ์เขียวจากมรดกโบราณ หรือสมบัติล้ำค่าอื่นๆ

สิ่งเดียวที่ทำให้จ้าวเฟิงรู้สึกเสียใจคือ เนตรจิตวิญญาณเทพเจ้าของเขายังไม่พบโอกาสที่ ‘เล็ดรอด’ ออกมา

ผู้ตรวจสอบสมบัติแห่งโรงประมูลเชิงหลงนับว่ามีสายตาที่เฉียบแหลมยิ่งนัก แทบที่จะไม่มีโอกาสที่สมบัติล้ำค่าหายากจะถูกกระทำราวเป็นเพียงก้อนอิฐ นอกจากนั้น สินค้าที่ไม่ได้รับความนิยมจะไม่สามารถนำมาประมูลในโรงประมูลแห่งนี้ได้

“ต่อไป สินค้าที่ล้ำค่าหายาก ถูกเรียกขานว่า เหรียญทำนายโบราณ มาจากมรดกความลับสวรรค์”

ชายชราชุดสีขาวเรียบยกมือขึ้นเล็กน้อย

ไม่นาน สาวงามผู้มีพลังในขั้นมนุษย์แท้ก็ได้นำเหรียญทองแดงขึ้นสนิมออกมา

เมี้ยว เมี้ยว

แมวขโมยตัวน้อยที่อยู่ในถุงเก็บสัตว์วิเศษพลันวุ่นวายขึ้นและกระโดดออกจากถุงเก็บสัตว์วิเศษ

จ้าวเฟิงดันแมวโลภมากกลับเข้าไปอย่างไร้ความรู้สึก

เมื่อผ่านการตกลงกันเรียบร้อยแล้ว จ้าวเฟิงก็ตกลงที่จะช่วยแมวขโมยตัวน้อยประมูลเหรียญนั้นให้

ทว่าสัญญานั้นอยู่ที่จ้าวเฟิงจะออกเงินให้เพียงแค่หนึ่งล้านผลึกเริ่มต้นระดับต่ำเท่านั้น ไม่เกินไปกว่านี้

แมวขโมยตัวน้อยผงกศีรษะของมันรัวๆ

โดยปกติแล้ว เหรียญทำนายโบราณนั้นเป็นสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับศาสตร์แห่งโชคชะตาที่เป็นศาสตร์ที่ถูกละทิ้ง ไม่ควรจะมีราคาสูงเกินไปกว่านี้

“เหรียญทำนายโบราณเริ่มต้นที่ราคาสี่แสน ทุกครั้งที่เพิ่มราคาต้องไม่น้อยกว่าสามหมื่น”

ชายชราชุดสีขาวเรียบประกาศ

“450,000”

“480,000”

เสียงที่ดังขึ้นในโรงประมูลกระจัดกระจายไป คนที่ให้ความสนใจกับเหรียญนี้มีไม่มากนัก

ในที่สุด

เหลือเพียง “ตระกูลเทียน” “ราชวงศ์” รวมทั้งชายชราผู้หนึ่งที่ร่วมประมูลอยู่

“800,000”

จ้าวเฟิงพลันเสนอราคา 800,000 ขึ้นในทันใด

ทั่วทั้งโรงประมูลเงียบสงบ ตระกูลเทียนเลิกประมูลต่อ

ชายชราผู้นั้นเหลือบมองไปยังที่นั่งแขกผู้มีเกียรติหมายเลขห้าสิบก่อนจะถอนหายใจ

ในตอนนี้เอง

เหลือเพียงจ้าวเฟิงและราชวงศ์ที่ยังประมูลแย่งเหรียญโบราณนี้

“ฉินหวางเฟย ได้ยินมาว่าท่านมีความเข้าใจในศาสตร์นี้อยู่พอสมควร ตอนนี้ดูเหมือนว่าไม่ใช่ข่าวที่ผิดพลาด”

ผู้มีพลังขั้นผู้วิเศษแท้ผู้หนึ่งแย้มยิ้มบาง

“เหรียญทำนายโบราณนี้มาจากมรดกความลับสวรรค์ ปรากฏขึ้นในโลกใบนี้น้อยนัก มีมูลค่าในการสะสมยิ่ง เกี่ยวกับศาสตร์แห่งโชคชะตานั้นข้าเองก็พอรู้อยู่บ้าง”

น้ำเสียงชวนหลงใหลราวกับล่อลวงผู้คน ทำให้จิตใจของคนอดที่จะคิดจินตนาการไม่ได้

“1 ล้าน”

น้ำเสียงนี้ราวกับเสียงของสายน้ำในฤดูใบไม้ผลิ ทำให้ผู้คนรู้สึกโอนอ่อนตาม

ในวินาทีนั้น ทั่วโรงประมูลพลันเงียบงันลง

คนจำนวนมากตกอยู่ในภวังค์ของน้ำเสียงนั้น ไม่อาจที่จะตื่นขึ้นจากวังวนได้ ในสมองได้ยินเสียงดนตรีไพเราะดังขึ้นจากอากาศ ทำให้ความรู้สึกนั้นยาวนานยิ่งขึ้น

“ฉิน… ฉินหวางเฟย…”

ในยามนี้ ยอดฝีมือในขอบเขตจิตวิญญาณที่แท้จริงหลายคนได้สูดลมหายใจลึกเข้าไปอย่างช่วยไม่ได้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version